บุรุษผู้นี้สวมอาภรณ์ยาวสีขาวสลับดำ รูปร่างสูงโปร่ง แผ่นหลังตั้งตรงเหยียดสง่า ผมดำสยายยาวราวสายน้ำตก เขาใช้เพียงปิ่นหยกชิ้นเดียวกลัดไว้กลางศีรษะ ดวงหน้าประณีตงดงาม กลิ่นอายสูงส่งไม่ธรรมดา
ยามนี้ริมฝีปากบางสีแดงอ่อนของเขาขบเม้มน้อยๆ หว่างคิ้วขมวดแน่น ท่าทีดูรำคาญใจเป็อย่างยิ่ง
ที่แท้เขาก็คือจั้นอ๋องม่อหลิงหานที่เ้าของร่างเดิมปักใจอยากตบแต่งด้วย หน้าตาช่างชวนสร้างความโกลาหลให้ทั้ง์ชั้นฟ้าและผืนพิภพจริงๆ มิแปลกใจเลยที่เ้าของร่างเดิมจะลุ่มหลงเขาถึงเพียงนั้น
น่าเสียดายที่นางไม่ใช่เ้าของร่างเดิม
นางไม่สนใจบุรุษที่เืเย็นไร้น้ำใจเช่นนี้
“ถูกต้อง ข้าเป็คนเขวี้ยงหินนั่นเอง” เยว่เฟิงเกอพูดไปก็ยักคิ้วไปด้วย ท่าทางของนางยามนี้ราวกับกำลังกล่าวว่า แล้วจะอย่างไร เ้าจะทำอะไรข้าได้?
ม่อหลิงหานคิดไม่ถึงว่าเยว่เฟิงเกอจะยอมรับแต่โดยดี อีกทั้งยังรวดเร็วถึงเพียงนี้ เขาชี้นิ้วไปที่สาวใช้นามเฉี่ยวอวี้ “ก้อนหินเมื่อครู่ขว้างถูกดวงตานาง หากว่าตาของนางไม่เป็กระไรก็ช่างมันเถอะ ทว่าหากตาของนางบอดขึ้นมาจริงๆ เ้าจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด”
เยว่เฟิงเกอคิดไม่ถึงว่าในจวนของจั้นอ๋อง สถานะของเ้าของร่างเดิมยังเทียบสาวใช้คนหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ
ถึงแม้เ้าของร่างเดิมจะสูงส่งเป็ถึงพระชายาเอก แต่เพราะลุ่มหลงในตัวจั้นอ๋องมากเกินไปจนมักจะแสดงนิสัยและท่าทางอ่อนแอต่อหน้าเขาเสมอ นานวันเข้าจึงทำให้ตนต้องตกอยู่ในสถานะที่มีแค่ฐานะ แต่ไร้ซึ่งอำนาจ
ด้วยเหตุนี้ เ้าของร่างเดิมจึงถูกชายารองฉินหว่านรังแกอยู่เสมอ อีกฝ่ายมักจะสรรหาสารพัดวิธีมาหลอกล่อ ทว่า เพียงเพื่อจะได้พบจั้นอ๋อง เ้าของร่างเดิมถึงได้ยังคงยอมเชื่อคำของฉินหว่านเรื่อยมา
ครั้งนี้ก็เป็ฉินหว่านที่หลอกเ้าของร่างเดิมให้มาที่นี่ นางบอกว่าจั้นอ๋องชวนนางมาชมดอกบัว สุดท้ายเ้าของร่างเดิมที่ยังไม่ทันได้พบจั้นอ๋อง กลับได้แรงถีบของฉินหว่านมาแทน
เวลาเดียวกับที่ภายในใจของเยว่เฟิงเกอกำลังนึกสงสารเ้าของร่างเดิมอยู่นั้น บนใบหน้าของนางกลับค่อยๆ ปรากฏรอยยิ้มเ็าออกมา นางชี้ไปที่สาวใช้นามเฉี่ยวอวี้ ก่อนกล่าวว่า “หากว่าดวงตาข้างนี้ของนางบอดสิ้น เช่นนั้นหม่อมฉันก็จะทำให้ดวงตาอีกข้างของนางบอดตามไปด้วย”
“บังอาจ” ม่อหลิงหานคิดไม่ถึงว่าเยว่เฟิงเกอจะกล้ากล่าววาจาเลวร้ายเช่นนี้ออกมา ในใจเขายามนี้จึงยิ่งดูถูกดูแคลนสตรีตรงหน้ามากขึ้นไปอีก
หากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้ทรงร้องขอให้อภิเษกองค์หญิงแห่งเสวี่ยอวี้องค์นี้เป็ภรรยา เขาไม่มีทางเห็นสตรีเช่นนี้อยู่ในสายตาแน่
สำหรับจั้นอ๋องที่ไม่ชมชอบการใกล้ชิดกับสตรีใด ไม่ว่าจะแต่งกับใครก็ล้วนเป็แค่การแต่งงานทางการเมืองทั้งสิ้น
เขาไม่จำเป็ต้องมีความรู้สึกใดกับสตรีทั้งสองนาง เพียงแค่เลี้ยงดูพวกนางไว้ในจวนอ๋องเป็พอ
ดังนั้น การแย่งชิงทะเลาะเบาะแว้งเล็กๆ ระหว่างพวกนาง เขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทั้งยังไม่อนุญาตให้บ่าวรับใช้คนใดนำเื่เช่นนี้มาแจ้งต่อเขาด้วย
ทว่า หากไม่ใช่เพราะครั้งนี้เป็เื่ใหญ่ ม่อหลิงหานคงไม่มัวมาสนใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นอยู่ที่นี่แน่
“ท่านอ๋องดูสิเพคะ นางกล่าวอันใดออกมา ทั้งๆ ที่อยู่ต่อหน้าพระองค์แท้ๆ แต่นางก็ยังกล้าบอกว่าจะทำให้ดวงตาอีกข้างของสาวใช้หม่อมฉันบอด ท่านอ๋องจะปล่อยนางไปไม่ได้นะเพคะ มิฉะนั้นคงจะเป็การเลี้ยงลูกเสือไว้ให้เป็ภัยในภายหลัง” ฉินหว่านจับชายชุดของม่อหลิงหาน ดวงตาทั้งคู่รีบบีบหยาดน้ำให้ไหลริน
เพียงแต่สายตายามที่นางมองเยว่เฟิงเกอกลับดุร้ายเป็อย่างยิ่ง
ฉินหว่านไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะได้ล้มชายาเอกในครั้งนี้ให้หลุดมือไปแน่
ในเมื่อเยว่เฟิงเกอกล้ากล่าววาจาชั่วร้ายออกมาต่อหน้าม่อหลิงหาน เช่นนั้นนางก็มีความมั่นใจมากว่าจะสามารถทำให้ม่อหลิงหานสังหารเยว่เฟิงเกอเสียเดี๋ยวนี้ได้
เมื่อก่อนไม่ว่าฉินหว่านจะรังแกอีกฝ่ายอย่างไร ม่อหลิงหานก็ล้วนลืมตาข้างหนึ่งปิดตาข้างหนึ่งเสมอ ทำเอานางนึกเข้าใจมาตลอดว่าม่อหลิงหานรักใคร่ตน แต่เพราะนิสัยของเขาที่ติดจะเ็าและไว้ตัว ถึงได้ไม่ยินดียินร้ายต่อนาง
แต่ที่จริงแล้วใจเขาอยู่ข้างนางเสมอ
ทางด้านม่อหลิงหาน ชายชุดของเขาถูกฉินหว่านจับไว้เช่นนั้น ความไม่พอใจในใจก็ปะทุขึ้นมาทันที
เขาเป็โรครักความสะอาดขั้นสุด จึงรังเกียจการถูกผู้อื่นัั คงยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถูกฉินหว่านฉุดกระชากอาภรณ์สะอาดสะอ้านของเขาเช่นนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้