จิ่นเอ๋อร์มองถังชิงหรูอย่างตกตะลึง สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความเลื่อมใส
"แม่นางเฉลียวฉลาดยิ่งนัก" หวนเอ๋อร์ยกโจ๊กเข้ามา "ธิดาเศรษฐีเ่าั้จะต้องชมชอบแน่ อีกอย่าง คงไม่มีสตรีคนไหนในใต้หล้าที่ไม่รักสวยรักงาม ขอแค่ไม่ขาดแคลนเงินทอง หากมีของดีที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปโฉมของตนเองให้ดีขึ้น หรือสามารถคงความสาวความสวยดุจวสันต์แรกแย้มได้ พวกนางคงยิ่งกระตือรือร้นขนเงินทองมามอบให้แม่นาง"
"น่าเสียดายตอนนี้ข้ายังศึกษาไม่สำเร็จ ถ้าทำออกมาได้เมื่อไร พวกเราก็จะมีเงินเก็บกันเสียที" ความจริงเมื่อครู่นี้ถังชิงหรูเพียงแค่หาเหตุผลมาอ้างไปอย่างนั้นเอง แต่หากความคิดนี้สามารถแปรเปลี่ยนเป็โอกาสทำเงินได้จริง ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าสนใจ โอสถที่ช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่องใช่ว่าตนเองไม่เคยทำมาก่อน หากคิดจะทำเสียอย่างทุกสิ่งล้วนไม่มีปัญหา
"แม่นาง การที่ท่านต้องลำบากแบบนี้ทุกวันไม่ใช่ทางออก แม้เมืองชิ่งจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีประชาชนหลายแสนคน ท่านไม่เก็บค่ารักษา แต่ละวันมีคนไข้มาต่อแถวเพื่อพบท่านตั้งไม่รู้เท่าไร ต่อให้ไม่เจ็บป่วย แต่เพื่อความสบายใจ ก็อาจจะมาเข้าแถวเพื่อให้ท่านตรวจชีพจรให้" จิ่นเอ๋อร์ตักโจ๊กเต็มชามให้ถังชิงหรู และส่งเซาปิ่งให้นางอีกหนึ่งชิ้น "แล้วแบบนี้เมื่อไรจะจบสิ้นเสียทีเล่า"
ถังชิงหรูมองจิ่นเอ๋อร์ด้วยแววตาชื่นชม นางวางเซาปิ่งในมือลงแล้วกล่าวกับนาง "แล้วเ้ามีข้อเสนออะไรบ้างล่ะ"
"บ่าวคิดว่าแม่นางควรพักผ่อนให้พอเพียง มิเช่นนั้นหากร่างกายรับไม่ไหวจะทำอย่างไร" จิ่นเอ๋อร์กล่าว "ต่อไปท่านตรวจคนไข้หนึ่งวันก็พักผ่อนหนึ่งวัน ให้ตนเองได้พักหายใจบ้างเถิด หากคนไข้อาการหนักจริงๆ ก็สามารถมาเคาะประตูเรียกได้ แต่หากไม่หนักหนามากนัก ก็ไว้วันอื่นค่อยมาใหม่ ท่านจะหักโหมทุกวันจนไม่มีเวลาแม้แต่จะพักหายใจมิได้นะเ้าคะ"
ถังชิงหรูคิดในใจ หากไม่ใช่ว่าต้องทำเพื่อเพิ่มคะแนนจิตพิสัยแพทย์ นางก็ไม่อยากเหนื่อยแบบนี้เหมือนกัน หลายปีมานี้ ถึงจะยุ่งอย่างไรก็ไม่เคยถึงขั้นแม้แต่เวลาแต่งตัวยังไม่มีเช่นนี้เลย
"เ้าพูดถูก" ถังชิงหรูยิ้มกล่าว "แต่ตรวจหนึ่งวันหยุดหนึ่งวันไม่ค่อยดีเท่าไร เอาอย่างนี้แล้วกัน ต่อไปข้าจะกำหนดตรวจคนไข้วันละแปดสิบคน ทุกคนต้องมาต่อแถวก่อน และจะได้รับบัตรกำกับหมายเลข วันแรกหมายเลขหนึ่งถึงแปดสิบ วันที่สองแปดสิบเอ็ดถึงหนึ่งร้อยหกสิบ วันที่สามร้อยหกสิบถึงสองร้อยสี่สิบ หากวันไหนมีกรณีพิเศษ ก็ปฏิบัติตามเงื่อนไขเฉพาะของวันนั้น"
"แม่นางมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดกว่าบ่าว ดังนั้นท่านจัดการเองย่อมดีกว่า" จิ่นเอ๋อร์เอ่ยวาจาด้วยความประหม่า
"พวกเ้ามีอะไรก็บอกข้าได้เสมอ บางทีสิ่งที่พวกเ้าคิด ก็ไม่แน่ว่าข้าจะคิดได้" ถังชิงหรูเอ่ยปาก "่นี้คงเหนื่อยกันมากล่ะสิ วันนี้หลังเสร็จงาน พวกเ้ากลับไปเยี่ยมครอบครัวได้ แต่พวกเ้าควรรู้อุปนิสัยของข้า เพียงแค่พวกเ้าปฏิบัติต่อข้าด้วยความจริงใจ ข้าก็จะใช้ความจริงใจตอบแทน แต่หากกินบนเรือนขี้บนหลังคา ก็อย่าโทษว่าข้าไม่เกรงใจ"
"แม่นางโปรดวางใจ บ่าวเป็คนของท่าน จะไม่มีวันทรยศนายเป็อันขาด" หวนเอ๋อร์และจิ่นเอ๋อร์ต่างรีบแสดงความจงรักภักดี
หลังกินข้าวเสร็จ ทั้งสามคนก็รีบออกไปต้อนรับคนไข้เ่าั้ ถังชิงหรูแจ้งกฎระเบียบใหม่ให้ทุกคนรับรู้ ชาวบ้านฟังแล้วต่างไม่มีความเห็น ถึงอย่างไรคนป่วยก็มีมากมายทุกวัน ไม่ช้าก็เร็วท่านหมอเทวดาคงเหนื่อยตายแน่ สำหรับแผนการในระยะยาว พวกเขาย่อมปรารถนาให้ถังชิงหรูมีสุขภาพแข็งแรง แบบนี้ถึงจะเป็ประโยชน์ต่อพวกเขา
...
จวนชิ่งอ๋อง
ถังชิงหรูเดินเข้าไปด้านใน สาวใช้ในจวนเห็นนางก็ทำสีหน้าแปลกๆ เหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง นางก้มลงมองตนเอง ซึ่งวันนี้แต่งกายเป็สตรี มีปัญหาตรงไหนกันหรือ คนในจวนอ๋องล้วนทราบว่านางเป็ผู้หญิง ดังนั้นจึงเปลี่ยนมาแต่งกายแบบสตรี คนเราย่อมรักสวยรักงามกันทั้งนั้น ทุกวันนางล้วนต้องแต่งกายแบบบุรุษ นานเข้าย่อมมีเบื่อกันบ้าง
"พ่อบ้านหลินเล่า?" ปรกติพอนางเข้าจวนมา พ่อบ้านหลินจะออกมาต้อนรับทันที แต่วันนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงา น่าประหลาดใจยิ่ง
"วันนี้พ่อบ้านหลินยุ่งนิดหน่อย" บ่าวชายคนหนึ่งบอกกล่าว "ท่านพ่อบ้านกำชับไว้ว่า หากแม่นางมาถึง ให้เข้าไปได้เลยขอรับ"
ถังชิงหรูยกปอยผมไปทัดหลังหู เด็กรับใช้คนนั้นเอ่ยวาจามีเหตุผล ไม่มีสิ่งใดน่าสงสัย ว่าแต่... เหตุใดถึงตัวสั่นเล่า
ชอบกลนัก! หากไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เขาจะตัวสั่นได้อย่างไร เื่อันใดทำให้เขาหวาดกลัวขนาดนี้ ช่างน่าสนใจยิ่ง ชะรอยต้องมีเื่สนุกเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ถังชิงหรูเดินผ่านมาถึงูเาจำลอง ผ่านสวนดอกไม้ ข้ามสระน้ำเล็กๆ ในที่สุดก็มาถึงหมู่เรือนที่พักอาศัยของชิ่งอ๋อง
ปรกติที่นี่จะมีสาวใช้และบ่าวชายเดินไปเดินมาอยู่ประปราย แต่วันนี้กลับเงียบเชียบ นางยืนหน้าประตู เห็นมีตัวอักษรโย้เย้คำว่า 'ถี'[1] ติดอยู่ที่ต้นไม้ ก็กล่าวว่า "ลายมืออย่างกับเด็กสามขวบ น่าเกลียดชะมัด"
แค่คำพูดนี้หลุดออกมาจากปาก บรรยากาศโดยรอบก็ยิ่งประหลาดชอบกล
ถังชิงหรูยืนอยู่ตรงประตู มองไปยังต้นไม้ใหญ่ในลานสวน พลางรำพึงเบาๆ "ในสวนของบุรุษคนหนึ่ง ปลูกแต่ต้นหอมหมื่นลี้ ต้องสาวแตกระดับไหนกันเนี่ย"
ทันใดก็มีเกาทัณฑ์ดอกหนึ่งพุ่งตรงเข้าหานาง
"น้องิ" มีคนผู้หนึ่งเดินออกมาจากในห้อง กล่าวตำหนิบุรุษซึ่งอยู่บนต้นไม้ "ก่อเื่อีกแล้ว"
บุรุษคนนั้นท่าทางหงุดหงิดมองหญิงสาวที่หน้าประตู ความรู้สึกผิดวาบผ่านดวงตา ขณะที่คิดจะเรียกองครักษ์เงาออกมาช่วยคน ก็เห็นนางพลิ้วกายหลบอย่างว่องไว ก่อนมาปรากฏกายในลานสวน มือถือเกาทัณฑ์ดอกนั้น พลางส่ายหน้าเอ่ยว่า "อักษรก็ไม่ได้เื่ วรยุทธ์ก็ไม่ได้ความ คนแบบนี้มาเป็ท่านอ๋องได้อย่างไร"
บุรุษผู้นั้นก็คือเฉินิที่สลบไสลไม่ได้สติอยู่หลายวันนั่นเอง เขาขบกรามกรอดมองถังชิงหรู ะโลงมาจากต้นไม้ แล้วตวาดถามนางด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด "เ้าเป็ใครกันแน่"
ถังชิงหรูโยนเกาทัณฑ์ดอกนั้นทิ้ง ก่อนมองอีกฝ่ายั้แ่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเหยียดหยัน "ในที่สุดข้าก็ได้รู้เสียทีว่าเพราะเหตุใด์ถึงประทานใบหน้างดงามไร้ที่ติให้แก่ท่าน คนไร้หัวสมอง อักษรไม่แตกฉาน การยุทธ์มิชำนาญ หากไม่มีหน้าตาดูดีหน่อย แล้วจะเอาตัวรอดได้อย่างไร ท่านควรขอบคุณ์ที่ปฏิบัติต่อท่านไม่เลว แค่มีใบหน้าเช่นนี้ ถึงอย่างอื่นไม่ผ่านก็ยังพออภัยกันได้"
"เ้า!" เฉินิยกคันธนูขึ้นอีกครา "เชื่อหรือไม่ว่าเปิ่นหวาง[2] สามารถสังหารเ้าได้"
"เชื่อ" ถังชิงหรูกลอกตาอย่างไม่สบอารมณ์ "ท่านเป็คนประเภทหมาป่าเลี้ยงไม่เชื่อง ต่อให้ข้าช่วยชีวิตท่านเป็ร้อยครั้ง ท่านก็ไม่สำนึกบุญคุณ อีกอย่าง ข้ารู้ความลับของท่าน เลยคิดจะฆ่าคนปิดปากล่ะสิ เฮ่อ... อันที่จริงก็พอเข้าใจได้อยู่หรอกนะ บุรุษที่เป็โรคอย่างว่า ย่อมกลัวผู้อื่นจะรู้ความลับ ข้าเข้าใจความรู้สึกของท่านดี"
"น้องิ โรคอย่างว่าคือโรคอันใด" ชายที่ออกมาจากด้านหลังเอ่ยถาม
"ท่านพี่ ท่านอย่าไปฟังนางพูดจาส่งเดช" เฉินิกล่าวอย่างหงุดหงิด "ข้าถูกหญิงน่ารังเกียจเ่าั้วางยา ยังจะป่วยอันใดได้เล่า"
"จริงรึ? ไม่มีโรคอย่างอื่นอีกแล้ว?" ถังชิงหรูมองเขาด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม "ท่านเป็โรค..."
"เฮ้..." เฉินิร้องปรามถังชิงหรู พลางใช้สายตากล่าวเตือน "หากเ้ายังพูดเหลวไหลอีกล่ะก็ เปิ่นหวางจะไม่ละเว้นเ้าแน่"
"ถึงอย่างไรท่านก็ไม่คิดไว้ชีวิตข้าอยู่แล้ว ดังนั้นก่อนตาย ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องให้ผู้อื่นได้ทราบสาเหตุที่แท้จริง" ถังชิงหรูคลี่ริมฝีปากเป็รอยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม
"แม่นางผู้นี้... แลดูคุ้นตานัก มิทราบว่าพวกเราเคยพบกันมาก่อนหรือไม่" บุรุษผู้นั้นเคยเห็นถังชิงหรูมาก่อน จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"ท่านจะเคยพบนางได้อย่างไร" เฉินิแค่นเสียงหึ "ด้วยสถานะของท่าน จะเคยพบผู้หญิงพรรค์นี้ได้อย่างไร"
ถังชิงหรูมองอีกฝ่าด้วยสายตาเยียบเย็น "ผู้หญิงพรรค์นี้คือผู้หญิงแบบไหน อย่าลืมสิว่าท่านฟื้นขึ้นมาได้ ก็เพราะ 'ผู้หญิงพรรค์นี้' ช่วยไว้" นางชี้มาที่ตนเอง พลางแสดงสีหน้าเหยียดหยัน
"รับเงินจากผู้อื่น ก็ต้องช่วยผู้อื่นบรรเทาทุกข์ เ้ารับเงินของเปิ่นหวางไปแล้ว หรือว่าไม่ควรช่วยเปิ่นหวางเป็การตอบแทน?" เฉินิพูดเสียดสี
"ในที่สุดก็ยอมรับว่าข้าช่วยชีวิตท่านแล้วสินะ เช่นนั้นข้าแต่ชิ่งอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ มิทราบว่าเมื่อครู่นี้ท่านมีปัญหาตรงไหน ผู้อื่นอุตส่าห์ใจดีมาช่วยตรวจชีพจรให้ แต่ท่านกลับปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณเช่นนี้หรือ อย่าลืมว่าหากไม่มีข้า ป่านนี้ท่านคงพบพญายมไปแล้ว ต่อให้มิเห็นว่าข้ามีบุญคุณ อย่างน้อยก็ควรให้เกียรติในฐานะหมอที่มาดูแลรักษา" ถังชิงหรูกล่าวอย่างหนักแน่น
"ท่านหมอ... ที่แท้ท่านก็คือหมอที่รักษาโรคให้ชาวบ้านโดยไม่เก็บค่ารักษานี่เอง ท่านเป็สตรีหรอกหรือ" ชายผู้นั้น หรือก็คือพี่ชายคนโตของเฉินิเอ่ยถาม
"ข้าก็เพิ่งนึกขึ้นได้ ที่แท้ท่านคือคุณชายในรถม้าคันนั้น เมื่อท่านเป็พี่ชายของชิ่งอ๋อง เช่นนั้นก็คงเป็ท่านอ๋องคนหนึ่งกระมัง?" ถังชิงหรูตระหนักได้ทันที
"สถานะของเขา เ้าถามได้ด้วยหรือ" เฉินิมองถังชิงหรูด้วยสายตาคมปลาบ "เ้าคิดแผนสกปรกอันใดอีกเล่า หรือพอเอาอกเอาใจเปิ่นหวางไม่สำเร็จ ก็เลยคิดจะชนะใจพี่ชายข้าแทน"
"เชอะ!" ถังชิงหรูยิ้มหยัน "หากข้าคิดจะครองหัวใจพี่ชายของท่านแล้วมันแปลกตรงไหน ไม่ดูสารรูปตัวเองเสียเลย ว่ามีส่วนไหนที่เทียบพี่ชายตนเองได้บ้าง ขอแค่เป็สตรีที่วิสัยทัศน์ยาวไกลหน่อย ก็ย่อมรู้ว่าควรเลือกอย่างไร"
"เ้า..." เฉินิโมโหจนไม่ไหวแล้ว
บุรุษอีกคน หรือก็คือเฉินรุ่ยกล่าวพลางอมยิ้ม "เ้าหนอเ้า นึกไม่ถึงว่าจะมีวันที่เ้าเสียท่าให้ผู้อื่นได้ขนาดนี้ ข้าไม่เคยเห็นเ้าจนตรอกเช่นนี้มาก่อนเลย วันนี้ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว"
"ท่านพี่ ตกลงท่านจะช่วยใครกันแน่ นางร้ายกาจขนาดนี้ ท่านยังมาซ้ำเติมข้าอีก" เฉินิตัดพ้ออย่างหัวเสีย
เฉินิรูปโฉมงดงามสลักเสลา ใบหน้าหวานคล้ายสตรี แต่แน่นอนว่าเขามิได้กระตุ้งกระติ้งเหมือนผู้หญิง ถังชิงหรูริษยาใบหน้าของเขายิ่งนัก จึงจงใจเอ่ยวาจาทิ่มแทง ส่วนเฉินรุ่ย คนผู้นี้มีความละม้ายคล้ายคลึงกับเฉินิอยู่หลายส่วน เพียงแต่ดวงหน้าไม่อ่อนหวานเท่าน้องชาย เครื่องเคราทั้งห้าคมสัน ดวงเนตรลุ่มลึก รูปร่างสูงใหญ่ คล้ายกับนายแบบลูกครึ่งต่างชาติที่นางเคยเห็นสมัยก่อน
"ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางช่วยชีวิตเ้า ก็คือผู้มีพระคุณ อีกอย่าง หมอท่านนี้มีจิตใจดีงาม ต้องไม่ใช่คนชั่วร้ายเป็แน่ เพียงแต่... ข้าไม่นึกว่านางจะเป็สตรี" เฉินรุ่ยมองถังชิงหรูด้วยความเลื่อมใส "เหตุใดแม่นางถึงมาเป็หมอ กวาดสายตามองทั่วหล้า หามีสตรีใดกล้าหาญชาญชัยเช่นแม่นางสักคน ท่านเป็คนที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง"
"คนน่าอัศจรรย์อันใด เห็นชัดอยู่ว่าเป็สตรีไร้ศักดิ์ศรี ไม่รักษาจรรยาสตรี โง่งมจนมิรู้ว่ายางอายคือสิ่งใด" เฉินิพึมพำเสียงเบา ดวงตาฉายแววเหยียดหยัน
ถังชิงหรูย่างเท้าเข้าหาเฉินิ
"เ้าจะทำอันใด" เฉินิมองนางอย่างหวาดระแวง
"อาการป่วยของชิ่งอ๋องร้ายแรงนัก หมอเยี่ยงข้าจึงต้องมาฝังเข็มให้ท่านทุกวัน ยามนี้ถึงเวลาฝังเข็มแล้ว" ถังชิงหรูหัวเราะเบาๆ "ไหนๆ ก็ออกมาข้างนอกแล้ว มิสู้ฝังเข็มตรงนี้เลยแล้วกัน"
"เปิ่นหวางหายดีแล้ว ไม่ต้องให้เ้ามารักษา" เฉินิเอ่ยวาจาอย่างตระหนก ท่าทางลุกลี้ลุกลน "เ้าอย่าเข้ามานะ"
"เกรงว่าคงไม่ได้ อาการของท่านหนักหนาถึงเพียงนั้น คราก่อนหากไม่เพราะข้ามาทันเวลา ชีวิตน้อยๆ ของท่านคงรักษาไว้ไม่ได้ แล้วจะไม่ยอมให้หมอรักษาได้อย่างไร" ถังชิงหรูคว้าแขนของเขาไว้
เฉินิรู้ทักษะการต่อสู้ เขาสวนหมัดพุ่งเข้าใส่ หมายให้ถังชิงหรูปล่อยมือ แต่นางกลับหลบจากการโจมตีของเขาได้ โดยที่มือข้างนั้นยังจับแขนเขาไว้ไม่ปล่อย ไม่ว่าเฉินิจะโจมตีนางอย่างไร นางก็มีวิธีหลบหลีกได้ทุกกระบวน โดยที่แขนของเขาไม่หลุดไปจากมือ นางหยิบกระเป๋าใส่เข็มออกมาจากแขนเสื้อ แล้วดึงเข็มในนั้นออกมา
"ท่านพี่..." เฉินิร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว
เฉินรุ่ยนิ่วหน้าอย่างลำบากใจ สุดท้ายก็เอ่ยขึ้นว่า "น้องิ เ้าทนเอาหน่อยเถิด วิชาแพทย์ของแม่นางผู้นี้คนทั่วเมืองต่างยอมรับ ข้าก็เชื่อว่านางเป็ผู้มีพร์อย่างแท้จริง เมื่อเ้ารับการรักษาจากนางมาโดยตลอด มาได้ครึ่งทางแล้วย่อมมิอาจยอมแพ้ ฝังเข็มน่ะไม่เจ็บหรอก พี่เองก็เคยฝังอยู่บ่อยไป หลับหูหลับตาไปเสีย ไม่ต้องคิดอันใด เดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว"
"ที่แท้ท่านอ๋องก็กลัวเข็มนี่เอง จิ๊ๆ ช่างเหมือนเด็กน้อยเสียจริง" ถังชิงหรูฉวยโอกาสหัวเราะเยาะ
--------------------------------------------------------------------------------
[1] อักษร ถี 提 มีความหมายแปลว่า ยก หิ้ว ถือ เบิก เสนอ
[2] เป็คำเรียกแทนตัว หมายถึงตัวข้าผู้เป็อ๋อง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้