เขาควรจะดูฝั่งไหนก่อนดีล่ะ?
หลินเยว่เริ่มรู้สึกลำบากใจ
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา สภาพหินที่มีความบิดเบี้ยวซับซ้อนก็ยิ่งต้องใช้พลังในการมองมากยิ่งขึ้นแต่หากเป็สภาพหินที่เกาะกันไม่แน่นและมีความสม่ำเสมอ เขาก็ไม่ต้องใช้พลังมากมายสักเท่าไร
เมื่อลองคิดกลับไปกลับมาหลินเยว่จึงตัดสินใจเริ่มมองจากฝั่งที่หินมีความสม่ำเสมอก่อน
หลังจากตัดสินใจแล้วหลินเยว่จึงส่งสายตามุ่งไปยังฝั่งที่มีความสม่ำเสมอเขาพยายามรวบรวมสมาธิแล้วเพ่งมองต่อไป
ครั้งนี้เขาสามารถมองเห็นสภาพภายในทั้งหมดอย่างง่ายดาย และภายในส่วนนี้ก็ไม่มีอะไรเลย จึงทำให้หลินเยว่รู้สึกผิดหวังเป็อย่างมาก
แสดงว่าตัวเขาคงคาดหวังมากจนเกินไป ฝั่งที่ดูดีกว่าฝั่งนี้ไม่มีหยก!
หลินเยว่รู้สึกจนใจเขาจึงได้แต่เบี่ยงสายตาไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
เมื่อเห็นสภาพหินบิดเบี้ยวโค้งงอเมื่อสักครู่เป็เพราะหลินเยว่ผิดหวังมาก ตอนนี้เขาจึงไม่ได้คาดหวังอีกแล้ว
อันที่จริงการไม่คาดหวังน่าจะเป็สิ่งที่ดีกว่าเพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องรู้สึกถึงความผิดหวัง
หลินเยว่ยึดหลักยอมฆ่าคนผิด 3,000 คน แต่ก็ไม่มีทางปล่อยผ่านไปสักคน ดังนั้นเขาจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมจิตใจให้นิ่งขึ้น แล้วก็เพ่งมองต่อไป
เนื่องจากสภาพหินมีความซับซ้อนทำให้หลินเยว่เพ่งมองไปเพียงนิดเดียวก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยอ่อน นอกจากนี้ลายเส้นที่มีความบิดเบี้ยวโค้งงอก็ทำให้หลินเยว่รู้สึกวิงเวียนศีรษะ สายตาของเขาก็เริ่มเกิดอาการล่องลอยขึ้นหลินเยว่จึงรีบกัดริมฝีปากของตนเองทันที ความเ็ปตรงริมฝีปากทำให้สมองของเขาตื่นขึ้นมาในขณะเดียวกันสายตาของเขาก็เริ่มมีพลังหนักแน่นมากยิ่งขึ้น
สภาพหินที่มีความซับซ้อนก็ค่อยๆ กลายเป็โปร่งใส ลายเส้นที่โค้งงอก็ค่อยๆจางลง หลินเยว่จึงไม่ได้รู้สึกวิงเวียนเหมือนเมื่อสักครู่แล้ว
ณ เวลานี้ หลินเยว่เริ่มรู้สึกมึนชาไร้ความรู้สึกเขาเหลือความคิดอยู่เพียงอย่างเดียวก็คือ รีบสำรวจสภาพภายในให้เสร็จทีเดียวหลังจากนั้นจะได้ถอนสายตาออกเพื่อผ่อนคลายลง ่นี้เขาไม่ได้รู้สึกอ่อนเพลียมานานแล้วแต่เป็เพราะวันนี้เขาใช้พลังมากจนเกินไปทำให้เขาเริ่มรู้สึกอ่อนแรง
ขณะที่หลินเยว่เริ่มรู้สึกว่าเขาจะทนไม่ไหวอีกแล้วนั้นเขาพลันเกิดความรู้สึกราวกับได้อยู่ในโลกที่มีแต่ความสดชื่นผ่อนคลายเขามองอย่างละเอียดอีกครั้ง มันเป็สีเขียวเต็มทั้งสองดวงตาของเขา
หลินเยว่เกร็งค้างไปทั้งตัว
มีสีเขียวแล้ว!
สมองของหลินเยว่สั่นคลอนในขณะเดียวกันเขาก็มองเห็นสภาพหยกในหินหยกก้อนนี้
หยกก้อนนี้มีขนาดเท่ากับกำปั้นของผู้ใหญ่ สีสดราวกับต้นฮอลลี่จีนหลังฝนตกให้ความรู้สึกสดชื่นราวกับกลิ่นอายใน่ฤดูใบไม้ผลิ สภาพหินรอบๆที่โค้งงอเป็การปกป้องหยกก้อนนี้ไว้เป็อย่างดีทำให้หินหยกก้อนนี้มีรูปทรงสมบูรณ์ ไม่ถูกทำลายใดๆ ทั้งสิ้นจึงเป็การเพิ่มความสวยงามที่ดูลึกลับขึ้นอีกด้วย เส้นคดโค้งก็ทำให้หยกสีสดใสก้อนนี้มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นราวกับเวิ้งน้ำในทะเลสาบยามต้นวสันตฤดู มีคลื่นน้ำกระเพื่อมไปรอบๆ อย่างต่อเนื่องดูสดใสและมีชีวิตชีวา สีเขียวเต็มทั้งสองดวงตาโดยไม่มีตำหนิเลยสักนิด หยกก้อนนี้มีความโปร่งใสสูงมากราวกับน้ำแข็งในส่วนที่ลึกที่สุดของูเาน้ำแข็งพันปีและแผ่กระจายความหนาวเย็นออกมา ทำให้ผู้พบเห็นมีแต่ความสดชื่นสดใส
เป็หยกคุณภาพสูงมาก!
หลินเยว่ถูกหยกตรงหน้าสะกดสายตาเอาไว้อย่างแน่นิ่งถึงแม้จะเป็ตอนที่เห็นมรกต เขาก็ยังไม่รู้สึกหลงใหลกับภาพตรงหน้าเหมือนกับตอนนี้
ค่ำคืนที่เย็นสดชื่นราวกับสายน้ำประกอบกับหยกงามน่าหลงใหลราวกับน้ำแข็ง ภาพเช่นนี้ไม่สามารถบรรยายด้วยภาษาใดๆได้เลย
หลินเยว่รู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังล่องลอยอยู่น้ำใสราวกับมรกตท่ามกลางสระหยกแห่งวิมานของเหล่าทวยเทพเขาดื่มด่ำกับบรรยากาศนี้ เกิดเป็ความสุขสดชื่นยิ่งกว่าเวลาไหนๆ
ขณะที่เขากำลังลุ่มหลงอยู่ในภวังค์ความคิดนี้ความรู้สึกเจ็บจี๊ดก็แผ่ออกมาจากดวงตา เขารู้สึกปวดหัวราวกับสมองจะะเิ ดังนั้นเขาจึงรีบถอนสายตาออกมา หลังจากนั้นจึงหลับตาลงทันทีและการกระทำนี้ก็ทำให้ความเ็ปต่างๆ ไม่ได้เพิ่มขึ้นอีก
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหลินเยว่ คนข้างๆเขาจึงเกิดความรู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น เขาแอบคิดอยู่ในใจ“เบิ่งตากว้างเสียขนาดนั้น แล้วยังจ้องอยู่ตั้งนานอีก ปวดตาแล้วล่ะสิ! ขอมอบให้ 1 คำ สมน้ำหน้า! แค่มองก็รู้ว่าเป็พวกอ่อนหัด! ดูท่าแล้ววันนี้เ้าของแผงร้านนี้น่าจะโชคดีแล้วล่ะ”
หลังจากความเ็ปต่างๆ ค่อยๆ บรรเทาลงหลินเยว่จึงลืมตาทั้งสองข้างขึ้นและเวลานี้เขาจึงพบว่าเฮ่อโย่วจ้างกำลังมองเขาด้วยความสงสัย ตรงขาของเขามีหินหยก 2ก้อนวางอยู่ดูเหมือนว่าเขาจะเลือกเสร็จแล้ว
“ไม่เป็ไรใช่ไหม?” เฮ่อโย่วจ้างขมวดคิ้วถามขึ้นท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ ใบหน้าของหลินเยว่ดูเหลืองซีด ท่าทางดูไม่ค่อยดีนักเหมือนกับว่าเขาเพิ่งป่วยหนักไปไม่นาน
“ไม่เป็ไร แค่เพ่งตานานจนเกินไปน่ะ”หลินเยว่พูดเื่จริงผสมเื่หลอกออกไป
เฮ่อโย่วจ้างพยักหน้าด้วยสีหน้าราบเรียบเขาไม่ได้พูดอะไรต่อ
“เลือกเสร็จแล้วหรือ? ผมก็บอกแล้วไงว่าที่นี่มีหยกไม่เลวเลยล่ะแต่ตอนแรกคุณก็ไม่ยอมเชื่อ ตอนนี้คงเชื่อแล้วใช่ไหมล่ะ?”ฉินจงฮั่นเดินเข้ามาพร้อมถามด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
“อืม ไม่เลวจริงๆ” หลินเยว่พยักหน้ารับหลังจากนั้นจึงชี้มายังหินหยกที่เขาเลือกไว้แล้ว และถามขึ้น“หินหยกก้อนนี้ราคาเท่าไรล่ะ?”
ฉินจงฮั่นมองหินหยกที่วางอยู่ข้างๆเท้าของหลินเยว่ หินหยกก้อนนั้นมีน้ำหนักประมาณ 8-9 กิโลกรัม เมื่อเห็นหินหยก สีหน้าของเขาก็มีแต่ความไม่อยากเชื่อเขาจึงถามขึ้น “คุณคิดจะซื้อหินหยกก้อนนี้จริงๆ หรือ?”
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของฉินจงฮั่นทำให้หลินเยว่รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจแต่เขาก็ยังพยักหน้าตอบกลับ “อืม จริงสิ”
“เฮ่อ! ผมขอเตือนคุณเลยนะคุณอย่าซื้อก้อนนี้เลย ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่เลวก็เถอะ แต่มีเซียนตั้งหลายคนเคยมาดูแล้วพวกเขาต่างรู้สึกไม่มั่นใจ ทำให้มันถูกทิ้งไว้มาตั้งนานไม่มีใครซื้อไปสักที ผมว่าหินหยกก้อนนี้มันก็ไม่ได้ดีสักเท่าไรโอกาสพนันได้ไม่ค่อยสูง คุณเปลี่ยนก้อนเถอะ”
คำพูดเหล่านี้ของฉินจงฮั่นทำให้สีหน้าและแววตาของเฮ่อโย่วจ้างเปลี่ยนไปทันทีเขาพยักหน้าอย่างเงียบๆ หลังจากนั้นก็ก้มหน้าลง ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“คุณวางใจเถอะ ผมมั่นใจ เอาก้อนนี้แหละ”หลินเยว่รู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ เพราะตลาดหินหยกเป็ตลาดที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กแต่เถ้าแก่ที่ขายหินหยกคนหนึ่งกลับเตือนเขาว่าหินมันไม่ค่อยดีนี่น่าจะเป็เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เถ้าแก่ร้านอื่นๆจะเอาแต่บอกว่าหินหยกของตนเองดีอย่างไรแต่ฉินจงฮั่นกลับบอกเื่ราวที่แท้จริงของหินหยกก้อนนี้ให้เขาฟัง
คนผู้นี้น่าคบหาจริงๆ!
“คุณมั่นใจ?” ฉินจงฮั่นรู้สึกประหลาดใจกับความมั่นใจของหลินเยว่
หลินเยว่พยักหน้าตอบอย่างหนักแน่น
ฉินจงฮั่นจึงถอนหายใจอย่างจนปัญญาเขาพูดรำพึงรำพันกับตัวเอง “หวังว่าคุณไม่ได้คิดจะอุดหนุนร้านผมถึงได้ซื้อหินหยกก้อนนี้หรอกนะ”
หลินเยว่ยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร
เดิมทีหินหยกที่หลินเยว่เลือกควรมีราคาที่ 1แสนหยวนแต่ฉินจงฮั่นกลับ้าเพียง 7 หมื่นเท่านั้นหลินเยว่มองออกว่าฉินจงฮั่นยังรู้สึกผิดกับเื่ของ “เขา”คนนั้นที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า เนื่องจากหลินเยว่จ่ายเงินไป 3 แสนหยวน แต่ตัวเขากลับออกเงินเพียงไม่กี่พันหยวนทำให้หินหยกก้อนนี้มีราคาถูกลงเพื่อเป็การชดเชยกับความรู้สึกผิดนั้น ในขณะเดียวกันเขาก็ยังมองถึงมิตรภาพระหว่างพวกเขาอีกด้วยดังนั้น เขาจึงคิดเพียงราคาต้นทุน
หินหยกทั้ง 2 ก้อนของเฮ่อโย่วจ้างก็เป็เพราะความสัมพันธ์ของหลินเยว่เช่นกัน ทำให้เขาใช้เงินเพียง 3 แสนหยวนก็ซื้อเก็บเอาไว้ได้
ในเมื่อเลือกหินหยกเสร็จแล้ว หลินเยว่และเฮ่อโย่วจ้างจึงบอกลากับฉินจงฮั่นแล้วจึงเดินออกมาจากร้านของเขา
ระหว่างทางก็ต้องผ่านแผงหินหยกที่พวกเขาหยุดดูในครั้งแรกเ้าของแผงผู้นั้นเห็นว่าหลินเยว่และเฮ่อโย่วจ้างซื้อหินหยกจำนวน 3 ก้อน สายตาของเขาจึงเต็มไปด้วยความโกรธแค้นในใจของเขาแอบด่านักธุรกิจที่ก่อเื่ขึ้นกลุ่มนั้นอย่างสาดเสียเทเสีย หากไม่ใช่เป็เพราะนักธุรกิจกลุ่มนั้นวันนี้เขาก็อาจจะทำกำไรได้หลายแสนหยวน!
เมื่อได้เห็นถึงความคึกคักและความอึมครึมของตลาดผีอีกทั้งยังซื้อหินหยกกลับมาด้วยหลินเยว่และเฮ่อโย่วจ้างจึงตัดสินใจออกมาจากที่นั่นเลย โชคดีที่ไม่ไกลนักมีรถแท็กซี่ที่ตั้งใจจอดรอโดยเฉพาะอยู่มิฉะนั้นแล้วพวกเขาอาจจะต้องอุ้มหินหยกรวมเป็หลายสิบกิโลเดินกลับโรงแรม
เมื่อกลับถึงโรงแรมแล้วหลินเยว่จึงเก็บหินหยกไว้ในตู้เซฟนิรภัยของโรงแรมและล็อกไว้อย่างดีหลังจากนั้นจึงหยิบธูปที่เขาเพิ่งซื้อมาเมื่อบ่ายวันนี้กับมีดแกะสลักจันทราหนาวเหน็บออกมาและก็เริ่มฝึกผ่าธูปทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้