หลินเยว่ก็เกือบจะตกอยู่ในความลุ่มหลงของหญิงสาวนั้นด้วยเช่นกันแต่ทว่าถึงเขาจะตกอยู่ในความลุ่มหลงนั้นจริงๆ เขาก็คงไม่สามารถถอนตัวขึ้นมาได้ตลอดไปแล้วเขาก็จะใช้สองมือของตนเองขจัดทุกอุปสรรคให้กับฉินเหยาเหยา
ตอนนี้หลินเยว่ไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวคนเดียวอีกแล้วเพราะเขามีครอบครัวเป็ของตนเอง บนบ่าของเขามีภาระหนักที่ต้องรับผิดชอบ และเขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงของตนเองต้องลำบากเลยแม้แต่นิดเดียว
ขั้นแรก ต้องซื้อบ้านสักหลัง
ขั้นที่สอง มีลูก......
หลินเยว่เดินไปทางถนนใหญ่พร้อมหวนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นั้แ่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่ามันไม่ใช่ความจริง ชีวิตของชายบริสุทธิ์อายุ 24 ปีมันได้สิ้นสุดลงแล้ว
และมันก็ช่างน่าจดจำจริงๆ เลยล่ะ!
หากไม่ได้กลัวว่าคนอื่นจะคิดว่าเขาเป็คนบ้าเขาก็คงแหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วะโออกมาเสียงดังว่าตนเองไม่ใช่ชายบริสุทธิ์แล้ว!
เขาไม่ได้เป็ชายบริสุทธิ์อีกต่อไปหลินเยว่ไม่ได้รู้สึกเสียใจ แต่เขากลับรู้สึกภาคภูมิใจอยู่ลึกๆ ณ เวลานี้เขาได้ัักับการเป็ผู้ชายเต็มตัว และกลายเป็ผู้ใหญ่แล้วจริงๆ
ภาระและความรับผิดชอบ ทั้งสองคำนี้เป็การแสดงถึงความเป็ผู้ใหญ่
หลินเยว่ยกมือขึ้นเรียกรถแท็กซี่แล้วบอกคนขับรถให้ขับไปยังโรงงานของหรงเล่อเซวียน
เมื่อมาถึงโรงงานท่านเฮ่อฉางเหอได้รอเขาอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว ใบหน้าของท่านไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ เลยซึ่งสิ่งนี้เป็สิ่งที่หลินเยว่กังวลมากที่สุด เพราะหากอาจารย์ของเขาโมโหจัดนั่นก็แสดงว่าอีกสักพักความโมโหก็จะผ่านไป หากท่านหัวเราะเสียงดังนั่นก็แสดงว่ากำลังดีใจ แต่หากมีแต่ความนิ่งเงียบ นั่นก็แสดงว่าเหตุการณ์กำลังไม่ปกติอาจจะยิ้มก็ได้ แต่อาจจะะเิอารมณ์ก็ได้เช่นกัน และก็มีโอกาสะเิอารมณ์ได้มากกว่า
หินหยกก้อนนั้นของเขาก็ได้วางไว้ใต้เครื่องตัดหินหยกเรียบร้อยแล้วดูจากสถานการณ์แล้วนั่นก็แสดงว่าท่านกำลังรอการมาถึงของเขา
“อาจารย์ครับ ผมมาแล้ว”
หลินเยว่แอบกังวลอยู่ในใจเขาเดินไปหยุดตรงหน้าของท่านเฮ่อฉางเหอ
ท่านเฮ่อฉางเหอกำลังนั่งจิบชาอย่างละเมียดละไมอยู่ที่โต๊ะหินตัวหนึ่งท่านวางถ้วยชาในมือลง แล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสดใสมีความสุขของหลินเยว่ด้วยสีหน้าราบเรียบท่านตอบ “อืม” เบาๆ สายตาแสดงความประหลาดใจออกมาเล็กน้อย
เมื่อหลินเยว่เห็นเช่นนี้ เขาจึงรีบเข้าไปหาท่านเฮ่อแล้วรินน้ำชาให้กับอาจารย์ของตนเองอย่างเอาใจ
“ลองบอกสิ หินหยกก้อนนั้นคุณได้ข้อสรุปว่าอย่างไรบ้าง”ท่านเฮ่อฉางเหอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“มันเป็ความรู้สึกครับผมคิดว่าถึงแม้ว่ารอยแตกนั้นจะส่งผลถึงตัวหยกด้านในแล้วแต่มันไม่ได้ทำลายหยกด้านในทั้งหมด” หลินเยว่พูดจาเล่นคำเพื่อเป็การบอกสภาพที่แท้จริงของหยกด้านในแต่ก็ไม่ได้บอกข้อสรุปที่เกิดจากความคิดเห็นของตนเอง
“อ้อถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าคุณไม่มีเหตุผลประกอบน่ะสิ?”
ท่านเฮ่อฉางเหอมองหลินเยว่ด้วยสายตาแฝงความนัยบางอย่าง
“ไม่มีครับ” หลินเยว่พูดตอบอย่างหนักแน่น แต่ทว่าสิ่งที่เขาพูดไม่ใช่ความจริง
“ไม่มีแล้วคุณยังกล้าจ่ายเงิน 1.2 ล้านหยวนเพื่อซื้อหินหยกก้อนนี้อย่างนั้นหรือ?”ท่านเฮ่อฉางเหอเอามือตบโต๊ะหินอย่างรุนแรง แรงกระแทกทำให้ถ้วยชาสั่นะเืไปชั่วครู่
หลินเยว่ยังไม่เคยเจออาจารย์ของตนโกรธจัดขนาดนี้มาก่อนเขาจึงหุบปากเงียบกริบทันทีเพราะเขาใจนพูดไม่ออกนั่นเอง
เขาไม่สามารถพูดถึงพลังพิเศษตาทิพย์ของเขาออกมาไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะนี่มันเป็ความลับสุดยอดของเขา
ท่านเฮ่อฉางเหอจ้องหลินเยว่อยู่เงียบๆ หลายวินาทีเมื่อท่านมั่นใจว่าหลินเยว่ไม่สามารถบอกเหตุผลออกมาเป็ข้อๆ ได้แล้วเขาจึงถอนหายใจออกมาหนักๆ
“การพนันหินหยกไม่ได้เป็เื่ง่ายขนาดนั้นและก็ไม่ใช่แค่เกิดอาการฮึกเหิมขึ้นมาก็จะสามารถพนันได้ตอนที่อาจารย์อายุประมาณคุณก็มักจะใจร้อนใช้ความฮึกเหิมในการตัดสินใจ ตอนนั้นก็เลยพนันเจ๊งจนสิ้นเนื้อประดาตัวหากไม่ได้เป็เพราะมีความรู้ด้านการพิสูจน์เครื่องเคลือบที่เป็สิ่งตกทอดมาจากบรรพบุรุษจนสามารถเก็บตกของดีในราคาถูกได้หลายครั้ง ไม่อย่างนั้นอาจารย์คงต้องตกระกำลำบากไปนอนข้างถนนแล้วล่ะเมื่อมีบทเรียนหลายครั้ง อาจารย์ถึงได้เปลี่ยนนิสัย แก้ไขความผิดพลาดเก่าๆอย่างสิ้นเชิง แล้วจึงค่อยๆ สังเกตฝึกฝนทีละนิดๆ จนได้สมญานามว่าปรมาจารย์แห่งหยกในปัจจุบัน”
“ตอนนี้คุณยังเด็กนักเพิ่งศึกษาการพนันหินหยกได้ไม่นาน ของแบบนี้คุณจะใจร้อนไม่ได้เลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่คุณพนันได้หลายครั้งมันก็จะทำให้คุณเริ่มเกิดความคิดมัวเมาในชื่อเสียงได้ง่าย เกิดการไม่ยอมแพ้ อีกทั้งยังคิดที่จะเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอย่างลำพองใจหากพัฒนาแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ต่อไปคุณอาจจะมองไม่เห็นแม้กระทั่งหัวอาจารย์อย่างผมเลยก็ได้บนโลกใบนี้มีคนเก่งมากมายนัก ถึงแม้จะเป็ปรมาจารย์แห่งหยกก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าฝีมือการพนันหินหยกของตนเองเป็อันดับหนึ่งในใต้หล้าหาก์้าจะทำลายใครทิ้งสักคน ย่อมต้องทำให้คนนั้นบ้าคลั่งจนถึงที่สุดก่อนคุณต้องระวังตัวด้วยล่ะอาจารย์ไม่อยากให้คุณต้องเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมของอาจารย์ในตอนนั้น หรือบางทีอาจจะร้ายแรงยิ่งกว่าของอาจารย์ในตอนนั้นเสียอีก”
ท่านเฮ่อฉางเหอพูดอย่างจริงใจ คำพูดมีน้ำหนัก น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงใจนี้ยังแฝงไปด้วยความคาดหวังจากดวงใจลึกๆของท่าน
หลินเยว่พยักหน้าตอบรับอย่างหนักแน่นเขาได้ตระหนักถึงปัญหานี้ั้แ่ตอนที่อยู่ที่บ้านของฉินจงฮั่นแล้ว นับั้แ่เขามีพลังพิเศษตาทิพย์เขาก็เริ่มกลายเป็คนหยิ่งผยองลำพองตนไม่ได้เป็คนถ่อมตนเหมือนแต่ก่อนอีกเนื่องจากพลังพิเศษตาทิพย์ทำให้เขากลายเป็คนที่ไม่มีทางพ่ายแพ้แต่ทว่าหากมีสักวันเขาไม่เหลือพลังพิเศษนี้แล้ว แล้วเขาจะทำอย่างไรล่ะเขาอาจจะกลายเป็เพียงคนอ่อนหัดที่เพิ่งเข้ามาสู่วงการการพนันหินหยกเท่านั้นเองและไม่มีสิทธิ์ที่จะพนันชนะได้อีกเลย
เส้นทางที่เขาต้องเดินยังอีกยาวไกลนัก
บางทีอาจจะมีสักวันที่เขาไม่จำเป็ต้องพึ่งพาพลังพิเศษตาทิพย์อย่างสิ้นเชิงเมื่อถึงเวลานั้นถึงจะเรียกได้ว่าเป็การประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของหลินเยว่ได้แสดงความรู้สึกผิดแล้วท่านเฮ่อฉางเหอจึงได้แต่ถอนหายใจ ท่านพูดอย่างเนิบๆ “คุณตามอาจารย์มาสิเดี๋ยวอาจารย์จะอธิบายให้คุณฟัง ดูแล้วต่อไปนี้ อาจารย์คงต้องพูดเกี่ยวกับเทคนิคการพนันหินหยกให้กับคุณมากขึ้นเพราะการพนันหินหยกนี้หากศึกษาด้วยตนเองเพียงอย่างเดียวก็อาจจะไม่ค่อยถูกต้องนัก”
ขณะที่พูดท่านเฮ่อฉางเหอก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินนำไปทางหินหยกก้อนนั้นก่อน ส่วนหลินเยว่ก็รีบเดินตามไปทันที
เมื่อมาหยุดตรงหน้าหินหยกท่านเฮ่อฉางเหอก็ทำท่าทางบอกให้หลินเยว่นั่งยองๆ ลงมาหลังจากนั้นจึงชี้ไปยังรอยแตกตรงนั้นพร้อมพูดขึ้น“หากมองแค่รอยแตกตรงนี้รวมทั้งรอยแตกร้าวที่ขยายไปรอบๆ ทุกด้านแล้วก็อาจจะเข้าใจผิดคิดว่าหยกด้านในต้องถูกทำให้เสียหายไปด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านในตรงรอยแตกก็มีสีเขียวปรากฏขึ้นซึ่งตรงนี้เป็ส่วนที่บอกอย่างชัดเจนว่ามันเป็ปัญหาใหญ่ หากเป็คนทั่วๆไปเมื่อสังเกตจนถึงจุดนี้ก็คงส่ายศีรษะ หรืออาจจะเบือนหน้าแล้วเดินหนีไปเลย แต่หากเป็คนที่มีประสบการณ์สูงก็จะสำรวจต่อดูว่ารอยแตกนี้มันได้ทำให้หยกด้านในเสียหายเหมือนที่สภาพภายนอกที่บ่งชี้เช่นนี้จริงหรือเปล่า”
“คุณดูรอยร้าวเล็กๆที่ปรากฏบนเปลือกนอกของหินหยกพวกนี้สิ”ท่านเฮ่อฉางเหอเปิดไฟฉายกำลังสูงขึ้นแล้วส่องไปยัง้า หลังจากนั้นจึงพูดต่อ“ด้านในยังเห็นเนื้อหยกสีขาวอยู่รางๆ ซึ่งแสดงว่ามันได้แตกเข้าไปถึงเนื้อหยกแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเยว่จึงพยักหน้าเห็นด้วยเพราะว่ามันก็แตกไปถึงเนื้อหยกจริงๆ เขาจำได้ว่าตอนแรกที่ใช้พลังพิเศษตาทิพย์มองเข้าไปด้านในเขาก็เห็นว่ามีเนื้อหยกชั้นบางๆ ชั้นหนึ่งที่มีรอยแตกร้าว แต่ทว่ามันไม่ลึกเท่านั้นเองจึงไม่ได้ส่งผลเสียมากมายนัก
“หากรอยแตกร้าวเล็กๆเหล่านี้กับรอยแตกรอยใหญ่ตรงนั้นมันกันจนถึงด้านในพอดีหยกด้านในตรงนั้นย่อมเสียหายทั้งหมดอย่างแน่นอน เมื่อสำรวจจนถึงตรงนี้คนที่มีประสบการณ์ในการพนันหินหยกก็ย่อมไม่กล้าซื้อแล้วล่ะเมื่อวานตอนที่อาจารย์สำรวจจนถึงจุดนี้ก็ไม่คิดจะสนใจแล้วหากหินหยกก้อนนี้ซื้อด้วยราคา 1 แสนหยวนหรือ2 แสนหยวนก็อาจจะยังมีโอกาสพนันได้แต่ว่าหากเป็ราคา 1ล้านหยวนมันจะมีความเสี่ยงสูงมาก โอกาสที่จะพนันได้แทบไม่มีเลยเมื่อวานอาจารย์คิดจะดึงตัวคุณมาซัดสักรอบ แต่ไอ้หนุ่มอย่างคุณกลับหนีไปเสียได้”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ ท่านเฮ่อฉางเหอจึงขึงตาแรงๆใส่หลินเยว่
หลินเยว่จึงได้แต่หัวเราะ “แหะๆ” อยู่ด้านข้าง
“แต่ว่าเมื่อคุณหนีไปแล้วอาจารย์ก็ลองสำรวจหินหยกก้อนนี้ต่อ จึงพบว่ามันมีบางจุดที่มีความผิดปกติหินหยกก้อนนี้มันไม่ได้ดูเรียบง่ายเหมือนเปลือกนอกเลยสักนิด”ท่านเฮ่อฉางเหอยกมือขึ้นทุบแรงๆ ตรงรอยแตกตรงนั้นแล้วพูดต่อ
“เห็นหรือยังล่ะ ถึงจะถูกกระแทกอย่างแรงแต่กลับไม่มีเศษผงหยกตกลงมาเลยนี่ก็แสดงว่าหยกด้านในอาจจะไม่มีรอยแตกละเอียดตอนแรกอาจารย์คิดว่าหรืออาจจะเป็เพราะเดินทางมาไกล แล้วเส้นทางมีความขรุขระทำให้เศษผงหยกที่ตกลงมาได้ง่ายจึงตกลงมาจนหมดแล้ว ดังนั้น อาจารย์จึงลองเคาะแรงๆดู แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่มีเศษผงหยกตกลงมาอีกเลย นั่นก็แสดงให้เห็นว่าไอ้หนุ่มอย่างคุณก็จะโชคดีครั้งใหญ่อีกแล้ว เมื่อดูจากรอยแตกเล็กๆจากด้านนอกจนเห็นเนื้อหยก อีกทั้งเมื่อเห็นสีเขียวจากรอยแตกขนาดใหญ่แล้ว ก็สามารถประเมินได้ว่าก้อนหยกด้านในต้องมีขนาดไม่เล็กอย่างแน่นอนหากโชคดีแล้วล่ะก็ อาจจะมีราคาเป็สิบล้านขึ้นไปก็เป็ไปได้อยู่เหมือนกันไอ้หนุ่มอย่างคุณก็จะพนันได้อีกแล้วนะสิ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้