หยางเฉินรับจานไข่ปลาคาเวียร์มาจากบริกรสภาพไข่สีเทาจางๆ โปร่งใส อบอวลไปด้วยเงาสีทองเล็กน้อย
คาเวียร์ชนิดนี้แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ไข่ของปลาเบลูกา อันเป็สุดยอดของคาเวียร์ที่มีลักษณะเป็สี ''ทองดำ''
ซูจื้อหงสังเกตเห็นคาเวียร์นี้แต่เขาก็คิดว่าหยางเฉินคงไม่มีความรู้เื่พวกนี้จึงไม่ได้บอกออกไป
เขาเพียงปั้นหน้ายิ้มด้วยหัวใจตุ้มๆต่อมๆ ก่อนเอ่ยกับหยางเฉินว่า
“ไข่ปลาคาเวียร์จานนี้ดูดีทีเดียวนะครับ"
หยางเฉินในตอนนี้กำลังใช้ช้อนตักไข่ปลาเข้าปากคำใหญ่ก่อนจะตามด้วยไวน์แดงรสชาติเพลิดเพลินขึ้นลิ้น ก่อนจะหันมากล่าวว่า
"อ่า ใช่คาเวียร์ปลาสเตอร์เจียนขาวของทะเลแคสเปียนรสชาติค่อนข้างต่างไปบ้างต้องขอบคุณคุณซูด้วยนะครับสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นนี้..."
ปลาสเตอร์เจียนขาวของทะเลแคสเปียน!?
ใบหน้าของซูจื้อหงมืดมนลงทันที...
เป็ที่รู้กันมานานนมแล้วว่าไข่ของปลาสเตอร์เจียนอันเป็ผลผลิตที่หายากจากทะเลดำนั้นเป็สินค้ามีราคาคู่ปากชนชั้นสูงในยุโรปเพื่อทั้งแสดงฐานะและรสนิยมจนกลายเป็ของดีของวิเศษที่ต้องมีไว้รับรองเพื่อนฝูงในโอกาสพิเศษและสามารถสร้างความประทับใจให้ผู้ที่ลิ้มรสได้นานเท่านาน
ว่ากันว่าผู้บริโภคคาเวียร์หมายเลขหนึ่งนั้นเป็ชาวฝรั่งเศสผู้ได้รับการยกย่องในเื่ของปากะศิลป์
โดยชาวปารีเซียงนั้นนำคาเวียร์มากินคู่กับไวน์ และปัจจุบันในท้องตลาดก็มีการแบ่งเกรดและราคาของคาเวียร์เป็3 ชนิด
ได้แก่เบลูกา โอเซตราและเซอเวรูกา โดยเบลูกาเป็คาเวียร์ชั้นสุดยอดที่มีจำนวนน้อยที่สุดและต้องใช้ปลาสเตอร์เจียนขาวที่มีอายุเกินหกสิบปีขึ้นไปเท่านั้น
คาเวียร์ปลาสเตอร์เจียนขาวของทะเลแคสเปียนที่ผลิตในรัสเซียกับอิหร่านใน่กลางนั้นมีค่ามากที่สุด
ราคาของมันนั้นตกกิโลกรัมละ 2000 ดอลลาร์เลยทีเดียว!
ซึ่งหมายความว่าในประเทศจีนนั้นหากรวมค่าภาษีเข้าไปด้วยคนที่กินอาหารหรูหราเช่นนี้หาได้แตกต่างจากการกินทองคำเข้าไปไม่
"คุณหยางนี่สนุกกับชีวิตจริงๆ เชียวนะครับ..." ซูจื้อหงฝืนยิ้มกล่าวออกมาถ้าหากหลินรั่วซีไม่อยู่ที่นี่ด้วย เขาคงจะให้เหมาฉิว ตัดประตูหลังของหยางเฉินอย่างแน่นอน!
ไอ้สารเลว! ขี้โกง! บ้าเอ๊ย บัดซบจริงๆเลย! ซูจื้อหงกรีดร้องในใจนับหมื่นคำด่าเขาแทบจะทนทานไม่ไหว ยิ่งคนผู้นี้เป็ศัตรูด้วยแล้ว
หยางเฉินโบกมือกล่าวว่า
"มาเถอะครับ... มากินด้วยกันในจานของผมยังเหลืออยู่นิดหน่อย!"
นิด...นิดหน่อย!? เห็นไข่ปลานี่เป็ถั่วหรือยังไงกัน!?
ซูจื้อหงแทบจะกระอักเืออกมาด้วยความโกรธแต่ยังคงควบคุมอารมณ์ไว้ได้ และฝืนยิ้มออกมาด้วยความยากลำบาก
"ไม่เป็ไรครับคุณหยาง เรายังมีอาหารอีกเพียบ"โดยไม่รอให้หยางเฉินกล่าวตอบ ซูจื้อหงหันไปพูดกับบริกรทันทีว่า
"เสิร์ฟอาหาร!!"
ซูจื้อหงพยายามให้หยางเฉินรีบทานอาหารให้เสร็จแล้วรีบกลับไปไม่อย่างนั้นเขาอาจไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองจนหยิบปืนออกมายิงหยางเฉินได้
ทางด้านหลินรั่วซีเมื่อเห็นซูจื้อหงพ่ายแพ้อย่างยับเยินในครั้งนี้เธอก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหรืออาการใดๆ ออกมา แต่ในใจของเธอกลับผ่อนคลายลงกว่าเดิมและสามารถพูดคุยเื่ธุรกิจได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น
หลินรั่วซีมองหยางเฉินที่กำลังทานคาเวียร์อย่างสบายอารมณ์ ก็หยุดคิดไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากซูจื้อหงพูดความในใจออกมาตรงๆ
อาหารมื้อกลางวันจบลงอย่างรวดเร็ว ซูจื้อหงส่งทั้งสองกลับออกไปด้วยสีหน้าน่าเกลียดเขาฝืนยิ้มออกมาคล้ายกับร้องไห้มากกว่า
ลึกล้ำจริงๆ! ไม่เบาเลยทีเดียวอ่า! ข้าประมาทจนเกินไปเงินหมื่นดอลลาร์หายไปในพริบตาเดียว!!
หลังจากออกจากโรงแรมมาแล้วหลินรั่วซีก็แสดงสีหน้าโล่งใจออกมา
"นายทำเช่นนี้เสี่ยงมากรู้ตัวหรือเปล่าถ้าซูจื้อหงควบคุมตัวเองไว้ไม่ไหว เื่มันอาจไม่จบลงง่ายๆ เช่นนี้"
"คุณเป็ห่วงผมด้วยงั้นเหรอ" หยางเฉินถาม
"ฉันแค่ไม่อยากให้นายใช้วิธีการแบบนี้ทำไมไม่หยุดและเรียนรู้วิธีการจัดการกับมัน" หลินรั่วซีเปลี่ยนท่าทีไปในทันที
หยางเฉินยักไหล่ "ผมยังไม่ได้ไปอยู่ในจุดนั้นสิ่งที่ผมเพิ่งทำลงไปก็แค่ในส่วนของบริษัทมู่หยุนในฮ่องกงเท่านั้น"
เมื่อพูดถึงเื่นี้หลินรั่วซีก็กล่าวเตือนหยางเฉินว่า
"วันจันทร์หน้าหลี่มู่หัวจะมาเซ็นสัญญาข้อตกลงในขั้นสุดท้ายเมื่อเวลานั้นมาถึงนายจะต้องเป็ผู้รับผิดชอบหลัก เตรียมตัวไว้ให้ดีล่ะ"
"ไม่ต้องห่วงผมสัญญากับคุณไว้แล้วยังไงผมก็ต้องทำ แล้วเราจะไปไหนกันต่อ?"
หลินรั่วซีคิดสักพักก่อนเอ่ยขึ้นว่า
"ไปที่รถฉันก่อนเราจะไปกันอีกสถานที่หนึ่ง"
หยางเฉินไม่ได้ถามว่าที่ไหนหลังจากขับรถไม่นาน พวกเราก็มาถึงชั้นล่างของอาคารอิมพีเรียลซีซึ่งขึ้นชื่อในเื่การเป็ศูนย์การประชุมระดับไฮเอนด์
เมื่อเดินเข้าไปในอาคารหยางเฉินเห็นหนักงานสาวที่สวมใส่ชุดกี่เพ้าของจีน และชุดสไตล์ตะวันตกพนักงานชายในชุดสูท ทุกคนล้วนหน้าตาดีทั้งหมด
"ที่นี่จะเป็ที่ประชุมความร่วมมือที่จะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าฉันเลยพานายมาดูสถานที่ก่อน ตอนนี้เชี่ยนนีพาแขกของเธอล่วงมาก่อนแล้วต่อไปในอนาคตฉันจะใช้ที่นี่เป็สถานที่พบปะสังสรรค์กับบุคคลสำคัญต่อไป" หลินรั่วซีเดินไปพลางอธิบายไปพลาง
"แล้วผมมาที่นี่กับคุณแบบนี้จะดีงั้นเหรอ?"หยางเฉินถามยิ้มๆ
หลินรั่วซีหยุดกึกกัดริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า
"ในฐานะที่บุคคลที่เป็เ้าของโครงการที่สำคัญของบริษัท คุณไม่ควรที่จะพูดจาคลุมเครือเช่นนี้..."
หยางเฉินรู้คำตอบอยู่แล้วมันคงจะเกิดเื่ยุ่งยากมากมายหากหลินรั่วซีประกาศให้ทั้งโลกนี้ว่าเขาคือสามีของเธอ
ถึงแม้ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะดีขึ้นแต่ก็ยังคงมีเื่อีกมากที่ต้องขบคิดอย่างถี่ถ้วน
แต่เมื่อมาถึงหน้าประตูของห้องสโมสรหยางเฉินกลับเพิ่งมาสังเกตเห็นชื่อของสถานที่นี้มันกลับเป็ชื่อ
"เมเปิ้ล"!
ที่นี่คงไม่ได้เป็ธุรกิจของถังหว่านหรอกนะ... หยางเฉินเดินพลางพูดคุยกับหลินรั่วซีไปตลอดทางเดินและเข้าไปในห้องโถงของสโมสรแห่งนี้
ตอนนี้ภายในห้องโถงมีผู้คนหลายสิบคนกำลังถือแก้วค็อกเทลพูดคุยกันอย่างออกรสและเมื่อเห็นหลินรั่วซีเดินเข้ามา พวกเขาก็รีบมาห้อมล้อม ทักทายกันตามมารยาททันที
หยางเฉินไม่เป็จุดสนใจของผู้คนนักมีเพียงไม่กี่คนที่เข้ามาทักทายส่วนมากหันไปสนใจการปรากฏตัวของหลินรั่วซีต่อหน้าสาธารณชนซึ่งพบเห็นได้ยาก
จากนั้นโม่เชี่ยนนีก็สังเกตเห็นพวกหยางเฉินเช่นกันเธอค่อนข้างแปลกใจที่เห็นหยางเฉินมาที่นี่พร้อมกับหลินรั่วซี
หยางเฉินยังคงสามารถสนุกได้กับทุกสถานที่เขาเสาะหาสถานที่เงียบสงบและนั่งลงกินผลไม้ สายตาเฝ้ามองบริกรสาวในชุดเซ็กซี่อยู่เงียบๆ
แต่ทันใดนั้นเองถังหว่านก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างภูตผีเธอเดินมาหาหยางเฉินด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"คุณหยาง พบกันอีกแล้วนะคะ"
ทุกคนต่างรู้ว่าถังหว่านเป็ใครและเมื่อเห็นบุคคลระดับเธอเข้าไปคุยกับคนแปลกหน้าก่อน ทุกคนก็เริ่มจะคาดเดาความเป็มาของหยางเฉินไปต่างๆนานา
เมื่อเห็นหยางเฉินได้รับความสนใจจากผู้คนดวงตาของหลินรั่วซีก็ส่องประกายเล็กน้อย
หยางเฉินเข้าใจทุกอย่างเขาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทำได้เพียงเอ่ยถามขึ้นว่า
"คุณถังธุรกิจของคุณมีมากขนาดไหนกันแน่?"
ถังหว่านรู้สึกประหลาดใจชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะพลางกล่าวว่า
"บอกตามตรงเลยนะคะฉันเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน ฉันจะมาเยี่ยมชมธุรกิจต่างๆ ของฉันแค่ปีละครั้งเท่านั้นหากคุณหยางเบื่อจะเจอหน้าฉันแล้ว ถังหว่านคงต้องขอตัวออกจากที่นี่ไปทันทีเสียแล้ว"
"จะเป็อย่างนั้นไปได้ยังไงล่ะครับแค่คุณถังไม่เบื่อหน้าผม ผมก็พอใจมากแล้ว" หยางเฉินยังคงคิดว่าในสายตาของถังหว่านภาพลักษณ์ของเขานั้นไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
ถังหว่านหัวเราะกล่าวว่า
"คุณหยางยังจำสิ่งที่คุณสัญญากับฉันครั้งสุดท้ายได้มั้ยคะ?"
"อาหารค่ำน่ะเหรอครับ?"
"ใช่ค่ะแต่สุดท้ายคุณหยางกลับไม่ได้ให้ช่องทางติดต่อกับฉันไว้ แต่กลับเดินหายไปเงียบๆ เสียอย่างนั้น" ถังหว่านเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเศร้า
หยางเฉินยิ้มเล็กน้อยและหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมาแลกเปลี่ยนเบอร์ของเขากับถังหว่าน
ภาพที่เห็นตรงหน้านี้ทำให้แขกที่อยู่ภายในงานทุกคนอยู่ในอาการตกตะลึง
ขนาดโม่เชี่ยนนีเองยังคิดไปว่าหยางเฉินทำตัวเ้าชู้ต่อหน้าภรรยาตัวเองได้อย่างไรนอกจากนี้เขากลับไปสนิทสนมกับถังหว่านั้แ่เมื่อไหร่กัน?
ใบหน้าของหลินรั่วซีในตอนนี้ยิ่งดูไม่ดีนักเธอเริ่มแสดงสีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
หลักจากนั้นไม่นานนักถังหว่านก็ขอตัวกลับ แต่เธอยังไม่ลืมที่จะหันมาส่งสายตาให้หยางเฉินคล้ายเป็การเตือนว่า อย่าลืมเื่การนัดหมาย
เมื่อถึงตอนเย็นก็เป็ตอนสิ้นสุดงานเลี้ยงหยางเฉินกลับเข้ามาในรถพร้อมหลินรั่วซี หลังจากที่จับพวงมาลัยนิ่งเงียบมาเป็เวลานานหลินรั่วซีก็กล่าวถามขึ้นว่า
"หยางเฉินนายกับถังหว่านมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันใช่หรือเปล่า?"
"ความสัมพันธ์แบบไหนล่ะครับ?" หยางเฉินถามอยากรู้อยากเห็น
หลินรั่วซีสูดหายใจลึกเหม่อมองไปที่พวงมาลัยอย่างผิดธรรมชาติพร้อมกล่าวว่า
"ฉันยอมรับว่า ฉันไม่สามารถทนเห็นนายไปคุยกับพบผู้หญิงอื่นได้ในทันที ถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกอึดอัดแต่ฉันจะไม่บังคับนาย เพราะฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะทำแบบนั้นได้
"แต่... ถังหว่านไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดานายอาจจะยังไม่ทราบประวัติความเป็มาของเธอนายคงคิดว่าเธอเป็ผู้หญิงสวยคนหนึ่งใช่มั้ยล่ะ?”
หยางเฉินยิ้มกล่าวว่า
"รั่วซีที่รักความสัมพันธ์ของผมกับถังหว่านไม่มีอะไรเกินเลย แค่คนรู้จักธรรมดาเท่านั้นดูจากคำพูดของคุณแล้ว ผมดูเหมือนเป็หมาหื่นที่คิดแต่จะผสมพันธ์ุตลอดทั้งวันอย่างนั้นแหละ"
"หยางเฉิน" หลินรั่วซีจ้องมองไปที่หยางเฉินดวงตาอันสง่างามจ้องมองมาที่เขาพร้อมเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
"ฉันขอให้นายเลิกติดต่อกับถังหว่านเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้น..."
"อะไรนะครับ?" หยางเฉินถามอย่างงุนงง
หลินรั่วซีกระซิบ "มิฉะนั้นถ้ามีเื่อะไรเกิดขึ้นฉันคงไม่อาจปกป้องนายไว้ได้..."
ปกป้อง!? หยางเฉินไม่เข้าใจในคำตอบดังกล่าวของหลินรั่วซี
"คุณหมายถึงอะไร?"
"ถังหว่านไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแม้ฉันจะทุ่มสุดตัว และใช้บริษัทอวี้เหล่ยเป็เดิมพัน ฉันก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอเลย... ดังนั้นเื่นี้ฉันขอล่ะหากนายจะไปกับมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นในบริษัท หรือข้างนอกนั่นฉันจะทำเป็หลับตาข้างหนึ่ง แต่กับถังหว่านนั้นไม่ได้เด็ดขาด นายเข้าใจหรือเปล่า?"
หลินรั่วซีกล่าวด้วยน้ำเสียงขอร้องสีหน้าของเธอดูกังวลอย่างยิ่ง
ในฐานะภรรยาการให้สามีของเธอไปกับผู้หญิงคนอื่นนั้นดูเป็ความคิดที่แปลกประหลาดยิ่งนัก และนั่นก็ทำให้หยางเฉินปวดหัว
แต่ทั้งหมดนี้ก็เพราะว่าหลินรั่วซี้าปกป้องเขา
ั้แ่เล็กจนโตหยางเฉินเคยแต่ปกป้องผู้อื่น
ในความเป็จริงคนที่้าจะปกป้องนั้นแทบจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว
ดังนั้นเมื่อหลินรั่วซีกลายเป็ภรรยาของเขาจิตสำนึกของหยางเฉินจึงบอกว่าเขาจะต้องปกป้องผู้หญิงคนนี้แม้ว่าเธอจะไม่เห็นเขาเป็สามีเลยก็ตาม
และทั้งสองต่างไม่เคยพูดว่า "ฉันอยากจะปกป้องคุณ" ออกมา!
แต่หยางเฉินก็ไม่เคยคิดว่าหลินรั่วซีกลับ้าปกป้องเขา!
ในมุมมองของหลินรั่วซีหยางเฉินไม่มีอะไรเลย ไม่มีเงิน ไม่มีฐานะ และเพิ่งจะกลับมาจีนได้ไม่นาน ถึงแม้ว่าเขาจะต่อสู้เก่ง แต่สองเท้าหรือจะสู้สี่ฝ่ามือั้แ่แรกหยางเฉินนั้นถูกหลินรั่วซีช่วยมาโดยตลอด ทั้งจากสถานีตำรวจไม่ว่าจะเื่เล็กน้อยขนาดไหน ซ้ำยังผลักดันให้เขาตั้งใจทำงานคอยกระตุ้นเขาให้เรียนรู้เื่ธุรกิจ เพื่อให้สามารถยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้
หลินรั่วซีไม่ได้แข็งแรงอย่างเช่นหยางเฉินในขณะที่หยางเฉินเองก็ไม่ได้เ้าแผนการอย่างหลินรั่วซีแต่ทั้งสองก็ตั้งใจจะปกป้องกันและกันอย่างสุดความสามารถ
ความรักถูกแบ่งออกเป็สามประเภท ได้แก่ความรัก มิตรภาพ และความรับผิดชอบบ่อยครั้งที่ระหว่างสามีและภรรยา สามารถอยู่ด้วยกันและดูแลกันไปจนแก่เฒ่า ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดจากคำว่า
"รับผิดชอบ"
หยางเฉินและหลินรั่วซีไม่เหมือนสามีภรรยาคู่อื่นๆ ที่คอยเติมความหวานให้กันและกัน แต่กลับมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่สามีภรรยา!
ดวงตาของหลินรั่วซีในเวลานี้มีน้ำเอ่อคลอขึ้นมาเล็กน้อยนั่นทำให้หยางเฉินรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ในฐานะหัวหน้าครอบครัวแล้วเขาไม่ควรจะต้องให้ภรรยาต้องมาเป็ห่วง
หยางเฉินหยิบบุหรี่ขึ้นมาไม่สนใจรถที่ผ่านไปผ่านมา เขาดูดควันเข้าไปเต็มปอด และกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
"รั่วซีผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อไปคุณอย่าพูดว่าจะปกป้องผมอีก ผมต่างหากล่ะที่จะต้องปกป้องคุณ"
"นาย... นายจะไม่ฟังฉันใช่ไหม" หลินรั่วซีเอ่ยขึ้นอย่างผิดหวัง
หยางเฉินยิ้มพลางััใบหน้าเรียบลื่นสีอมชมพูของหลินรั่วซี
"เย็นนี้เรามีนัดกันนะครับ"