ฟางจื้อิใช้ความพยายามอย่างมากเพื่องานเลี้ยงรุ่นนี้เขาหยิบกล่องอัญมณีสีแดงออกมา เขาค่อยๆ เปิดมันอย่างช้าๆเพื่อเผยสร้อยคอไข่มุกงดงามตระการตาสู่สายตาของไป๋ชิง
สร้อยคอเส้นนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้แพงหรืออยู่ในระดับเดียวกันกับสร้อยเพชรบนคอของเธอแต่หัวใจของไป๋ชิงเต้นระรัวทันที เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเธอไม่รู้ว่าจะยอมรับฟางจื้อิดีหรือไม่เธอไม่รู้ว่าควรจะปล่อยวางความเกลียดชังที่มีต่อฉินเฟิงและเริ่มต้นชีวิตใหม่ดีไหม
“ไป๋ชิง ให้ผมช่วยคุณใส่สร้อยเส้นนี้นะ ผมเชื่อว่าถ้ามันอยู่บนคอของคุณมันจะต้องเจิดจรัสมากกว่าแน่นอน” ฟางจื้อิยืนขึ้นและเดินมาด้านข้างของไป๋ชิงเมื่อเขาเห็นสร้อยเพชรบนคอของเธอ รอยยิ้มเหยียดหยามก็แวบผ่านั์ตาของเขา“ฉินเฟิงต้องให้สร้อยที่อยู่บนคอนั่นกับคุณแน่ๆมองแวบเดียวก็รู้แล้วว่านี่มันสร้อยปลอม อย่าไปโดนมันหลอกเชียวล่ะ”
“ผมเห็นสร้อยเพชรเส้นนี้ของจริงมาแล้ว ราคามันตั้ง 900,000 หยวน ฉินเฟิงจะมีปัญญาซื้อให้คุณได้อย่างไร? มันอาจจะซื้อจากข้างถนนมาหลอกคุณก็ได้ใส่ของปลอมอย่างนี้เสียราศีหมด ผมไม่มีวันทำอะไรอย่างนั้นหรอก”
ฟางจื้อิเยาะเย้ยฉินเฟิงขณะค่อยๆถอดสร้อยบนคอของไป๋ชิงเมื่อเห็นคอเรียบเนียนเหมือนหยกของไป๋ชิงจากระยะใกล้และกลิ่นหอมหวนบนร่างกายของเธอก็ทำให้เขาตื่นเต้นเสียจนอยากจะกระโจนเข้าใส่เธอตรงๆ
ไป๋ชิงยังไม่รู้สึกตัวเธอติดอยู่ในความงุนงงและไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่แม้ว่าเธอจะสับสนเล็กน้อยที่ฟางจื้อิััเธอจากใกล้ๆร่างของเธอทั้งร่างก็รู้สึกอ่อนแรงและไม่มีแรงจะขัดขืน
“ห้าปีผ่านไปคุณก็ยังสวยเหมือนเดิม สวยมากจนน่าดึงดูด”ฟางจื้อิตั้งใจเป่าลมร้อนบนคอของไป๋ชิงแล้วเขาก็พูดเบาๆ “ไป๋ชิง ขอผมจูบคุณนะให้ผมจูบคอที่เรียบเนียนของคุณ ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของคุณริมฝีปากที่ชุ่มฉ่ำของคุณ...”
ฟางจื้อิเอนตัวลงไปช้าๆและยื่นริมฝีปากเข้าหาคอของไป๋ชิง...
ไป๋ชิงกลัวจนทำอะไรไม่ถูกเธอยอมรับว่าเธอมีความรู้สึกในแง่ดีกับฟางจื้อิแต่นั่นแค่เพราะพวกเขาเป็เพื่อนสมัยเรียน และฟางจื้อิก็นับได้ว่าหล่อมีพร์ และเป็ผู้ชายเอาใจใส่ผู้หญิงทุกคนก็คงจะมีความรู้สึกในแง่ดีกับผู้ชายแบบนี้
อย่างไรก็ตามความรู้สึกดีๆนี้ก็ยังไม่พอที่จะให้ไป๋ชิงยอมรับการเข้ามาใกล้ชิดของฟางจื้อิไป๋ชิงต่อต้านอย่างหนักที่เขากำลังจะจูบเธอ
แต่ร่างของไป๋ชิงอ่อนแรงเธอไม่มีแรงจะขัดขืนเธอแม้แต่เริ่มสับสนมากขึ้นเพราะเธอคิดว่าฟางจื้อิแค่อยากดื่มชากับเธอและรำลึกถึงอดีตเธอไม่คิดว่าเขาจะสารภาพรักตรงๆ
ตอนนี้ไป๋ชิงกำลังต่อสู้กับตัวเองจริงๆแล้วเธออยากจะหนี เงาที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในสายตาของเธอรางๆ เป็เงาที่สูง หล่อและยืนตัวตรง มันวิ่งมาหาเธออย่างรวดเร็ว ในขณะที่มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆรูปร่างของเขาก็เริ่มชัดเจนขึ้น...เป็เงาของฉินเฟิงนั่นเอง
ตอนนี้ฉินเฟิงมีสีหน้าน่าสะพรึงกลัวสายตาของเขาสีแดงฉานเหมือนสัตว์ประหลาดสยองขวัญ จู่ๆเขาก็โผล่ขึ้นมาด้วยความรวดเร็วก่อนที่ไป๋ชิงจะรู้ตัวเธอก็รู้สึกว่าฟางจื้อิลอยไปไกลเพราะโดนฉินเฟิงต่อยอย่างรุนแรง
หมัดที่ทรงพลังและมีอำนาจไป๋ชิงได้ยินเสียงลมหวีดผ่านหูไปและเห็นหมัดปะทะเข้ากับใบหน้าของฟางจื้อิฟางจื้อิร้องด้วยความเ็ปและกระอักเืออกมา สังเวยฟันหน้าของเขาสองซี่
“ฉินเฟิง แกทำบ้าอะไรวะ?” ฟางจื้อิล้มลงไปบนพื้นหินอ่อนห่างไปหลายเมตรและะโใส่ฉินเฟิงขณะที่หน้าตาบูดเบี้ยวด้วยความเ็ป
ฉินเฟิงมาถึงข้างไป๋ชิงเขาพาเธอเข้าอ้อมกอดอย่างเอาแต่ใจและกล่าวขณะที่มองไปที่ฟางจื้อิอย่างเ็า“ดูซะ ไป๋ชิงคือผู้หญิงของฉัน ถ้าแกกล้าเข้าใกล้เธออีกละก็ฉันฆ่าแกแน่!”
ฉินเฟิงโกรธเขาไม่ได้โกรธจริงๆ จังๆ มานานมากแล้วเมื่อเขาพบว่าไป๋ชิงเป็สาวบริสุทธิ์ที่ทำให้เขารู้สึกถึงรักแรกเมื่อห้าปีก่อนเขาอดไม่ได้ที่จะพุ่งทะยานไปหาไป๋ชิงในวินาทีต่อมาเมื่อเขาวิ่งมาอย่างบ้าคลั่งและเจอไป๋ชิงเขาเห็นฟางจื้อิกำลังยืนอยู่ด้านข้างเธอและกำลังช่วยเธอถอดสร้อยคอฉินเฟิงเกือบจะฆ่าฟางจื้อิในทันที
“ฉินเฟิง มันเจ็บนะ ปล่อย”ฉินเฟิงกอดไป๋ชิงแน่นมากจนเธอรู้สึกเหมือนว่าเขาจะหักกระดูกของเธอ
ความโกรธของฉินเฟิงค่อยๆคลายลง แขนของเขาผ่อนคลายมากขึ้นแต่ยังคงกอดไป๋ชิงไว้ในอ้อมอกเขามองเธอและพูดอย่างเด็ดขาด “ไป๋ชิง เธอคือผู้หญิงของฉันถ้าฉันเห็นเธอกับชายอื่นอีกครั้งฉันไม่ปรานีเธอบนเตียงแน่”
ไป๋ชิงมองฉินเฟิงอย่างโง่งมเธอรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป
ก่อนหน้าที่ฉินเฟิงสนใจเธอที่ไหนกัน? เขามีผู้หญิงมากมายอยู่ข้างกายราวกับเมฆบนท้องฟ้าและพวกเธอก็วนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเขาทุกวันเขาไม่เคยโกรธเพื่อผู้หญิงและเขาก็ไม่เคยต่อยคนเพื่อผู้หญิงแต่เมื่อครู่สิ่งที่เป็ไปไม่ได้ได้เกิดขึ้นแล้วหัวใจของไป๋ชิงเต้นรัวมากขึ้นและรุนแรงมากขึ้นทันที
“ได้ยินหรือเปล่า?” เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงไม่ได้พูดอะไรฉินเฟิงจึงะโอีกครั้ง
ไป๋ชิงรู้สึกตัวทันทีสีหน้าตะลึงอยู่บนใบหน้าเธอมองฟางจื้อิที่นอนหอบอยู่บนพื้นแล้วก็มองฉินเฟิงที่มีท่าทีทรงอำนาจและเอาแต่ใจ สุดท้ายแล้วเธอก็พยักหน้าเบาๆ“ฉินเฟิง เข้าใจแล้ว ไปกันเถอะ”
ไป๋ชิงกอดแขนของฉินเฟิงและออกไปเธอไม่ได้เหลือบมองฟางจื้อิเลย
สีหน้าของฟางจื้อิค่อยๆน่ารังเกียจขึ้น เขากำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะได้ไป๋ชิงมาแล้ว เขาจะสามารถสนุกกับไป๋ชิงในคืนนี้อย่างดุเดือดสุดท้ายแล้วฉินเฟิงก็มาขวางทางเขากลางคัน
ฟางจื้อิโกรธจนกัดฟันเขาเกลียดฉินเฟิงเข้าไส้และอยากจะฆ่ามันด้วยตัวเอง เขารีบหยิบโทรศัพท์และกดเบอร์
“เฮ้ พี่เพลิง ผมน้องจื้อิไง ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านพักตากอากาศพี่อยู่ไหนเหรอ? ผมจะไปหาพี่เดี๋ยวนี้เลย”
…
สิบนาทีต่อมาฟางจื้อิมาถึงห้องหนึ่งในโรงแรมในห้องมีสองเตียงแต่ล้อมรอบไปด้วยคนสิบกว่าคนทุกคนถกแขนเสื้อขึ้นพวกเขาส่วนใหญ่าเ็และช่วยคนอื่นทำแผล
เมื่อเห็นว่าฟางจื้อิเข้ามาหนึ่งในชายพวกนั้นก็ยืนขึ้นเขามีผมยาวย้อมสีแดงเพลิง “น้องจื้อิมาแล้ว”
ฟางจื้อิชายตามองข้างหน้าเขาเขาจ้องด้วยความตะลึงงันเล็กน้อยและถาม “พี่เพลิงเกิดอะไรขึ้นกับพี่และคนของพี่เหรอ?”
พี่เพลิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และส่ายหัวเขาไม่กล่าวว่าเพิ่งถูกฉินเฟิงอัดอย่างไร้ความปรานีเมื่อไม่นานมานี้เพราะจะทำให้อับอายขายขี้หน้า คนกว่าสิบคนเอาชนะเด็กหนุ่มคนเดียวไม่ได้รู้ถึงไหนอายถึงนั่น
“ไม่มีอะไร พวกพี่น้องแค่เบื่อเลยเล่นด้วยกันแต่เกิดอุบัติเหตุเลยทำให้าเ็” พี่เพลิงมีสีหน้าผ่อนคลายและเริ่มหัวข้อใหม่“จื้อิ นายพาสาวมาเพื่อเล่นสนุกนอกสถานที่อีกแล้วเหรอ?”
พี่เพลิงมองฟางจื้อิด้วยรอยยิ้มทั้งสองเจอกันในบ้านพักตากอากาศ คนหนึ่งมีลูกน้องและมีอิทธิพลเล็กน้อยส่วนอีกคนมักจะพาสาวสวยมาเล่นบ่อยๆ และไม่ได้ขาดแคลนเงินดังนั้นพวกเขาจึงตั้งกลุ่มสนุกด้วยกันอย่างง่ายดาย
ทุกครั้งที่ฟางจื้อิมาที่นี่เขาจะดูแลพี่เพลิงและเลี้ยงข้าวลูกน้องของเขาและเมื่อเขาเจอปัญหาอะไรในบ้านพักตากอากาศ พี่เพลิงและคนของเขาก็จะยินดีช่วยเหลือ
“ฮ่าๆๆ พี่เพลิงก็รู้จักผมดี” ฟางจื้อิยิ้มแล้วสีหน้าของเขาก็หม่นหมองอีกครั้ง “แต่ครั้งนี้ผมเจอกับตัวยุ่งน่ะผมต้องให้พี่เพลิงช่วยจัดการมันหน่อย”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่เพลิงช่วยฟางจื้อิเก็บกวาดคนดังนั้นเขาจึงพูดตามธรรมดา “เื่เล็กน่า เื่เล็กนายไม่รู้เหรอว่าบ้านพักตากอากาศนี้ใครคุม?”
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น กับพี่เพลิงที่คอยเป็แบ็คให้ผมในบ้านพักตากอากาศแล้วผมไม่เคยกลัวใครเลย” ฟางจื้อิเอาใจคำพูดของพี่เพลิงและประจบเขา
พี่เพลิงเพิ่งถูกไล่อัดมาเขาจึงรู้สึกไม่มีความสุขตอนนี้คำชมของฟางจื้อิทำให้เขามีความสุข เขาเชิดอกทันทีและพูดอย่างวางมาด“มันเป็ใครล่ะ?”
“มันเทียบไม่ได้แม้แต่ตดหมาเลย มันก็แค่พนักงานฝ่ายขายเล็กๆ ในบริษัท”เมื่อเขาพูดถึงฉินเฟิงสีหน้าของฟางจื้อิก็เปลี่ยนไป เขาพูดด้วยความโกรธ“มันเป็แค่ขยะแต่ดันกล้ามาขโมยผู้หญิงจากผม พี่เพลิง ครั้งนี้พาคนไปเยอะๆ เลยพี่ต้องช่วยผมหักแขนขามัน ถ้าพี่ทำได้ดี ผมจะไม่เอาเปรียบพี่และพี่น้องของพี่อย่างแน่นอน”
เมื่อเขาได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็แค่คนที่ไม่มีพลังอำนาจพี่เพลิงจึงทุบอกตัวเองรับปาก “ได้เลยพี่จะจัดการเองพี่รับประกันได้ว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด”
ด้วยพี่เพลิงและแก๊งของเขาฟางจื้อิก็รู้สึกหัวโล่งโดยไม่ต้องให้พวกเขารับประกัน เขาบอกพี่เพลิงเกี่ยวกับรายละเอียดของแผน“พี่เพลิง ครั้งนี้ผมพาพวกเพื่อนสมัยเรียนมาเพื่อจัดงานเลี้ยงรุ่นด้วยอีกสักพักงานก็จะเริ่มแล้ว ผมจะทำให้ทุกคนสนุกกันก่อนแล้วผมจะส่งข้อความให้พี่ตอนที่เรากินกันไปได้ครึ่งทางแล้วและพี่กับคนของพี่ก็เข้ามาในห้องส่วนตัวของเราได้เลย”
“หลังเข้ามาแล้ว พี่ก็แกล้งทำเป็เมาและเข้าห้องผิด แล้วก็ก่อความวุ่นวายถึงตอนนั้น ผมจะส่งสายตาให้พี่กับไอ้เด็กที่ผมอยากจัดการและพวกพี่ก็กระทืบมันได้เลย
“หลังเก็บกวาดไอ้เด็กนั่นแล้ว ก็อย่าเพิ่งรีบออกแกล้งทำเป็ชอบสาวสวยที่ชื่อไป๋ชิง และพี่ก็อยากจะข่มขืนเธอ แล้วผมก็จะลงมือและให้พวกพี่ทุกคนวิ่งหนีไปก็เป็สำเร็จ”ฟางจื้อิคิดแผนของคืนนี้ก่อนที่จะมาหาพี่เพลิง
“น้องจื้อิ นายนี่เป็คนมีการศึกษาจริงๆ หลักแหลมนักๆ!”หลังจากได้ยินแผนแล้ว พี่เพลิงก็ยกนิ้วโป้งให้ เขายิ้มและกล่าว“นี่เป็การยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่ใช่แค่ได้กำจัดตัวเกะกะไปเท่านั้นแต่ยังได้เป็ฮีโร่ช่วยสาวงามอีกด้วยต่อไปสาวงามจะต้องส่งตัวเองถึงอ้อมกอดของนายและเข้าห้องไปทำาแน่นอน”
“ฮ่าๆๆ ไม่มีอะไรเลย ผมเทียบพี่เพลิงไม่ได้หรอก” ฟางจื้อิพูดถ่อมตัว
“งั้นก็ตัดสินใจแล้ว ถึงเวลาที่ฉันควรจะโผล่ไปเมื่อไร บอกฉันด้วยแล้วกัน”พี่เพลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม