ไม่... ไม่ใช่แล้ว พี่รองจะไปฟ้องที่ศาลาว่าการ! หลังจากที่เจียงต้าไห่ได้สติ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าสิ่งที่อวิ๋นโส่วจงพูดหมายความว่าอย่างไร ใบหน้าของเขาพลันซีดเผือด
รู้กันดีว่าชาวบ้านต่างหวาดกลัวศาลาว่าการยิ่งนัก ไม่ว่าจะมีเหตุผลหรือไม่ หากขึ้นศาลาว่าการไปแล้วย่อมต้องสูญเสียอะไรไปบ้างไม่มากก็น้อย กระบองในมือของเ้าหน้าที่ทางการมีไว้ทำอะไรเล่า?
มันไม่ใช่เอาไว้ประดับเสียหน่อย อวิ๋นโส่วจงพูดถูก ลูกชายของเขาเป็บ้าก็จริง แต่หากเื่นี้ไปถึงศาลาว่าการ เขาต้องถูกตัดสินว่าเลี้ยงดูลูกไม่ดี ปล่อยปละละเลยให้บุตรชายก่อเื่ร้ายแรง ถึงเวลานั้นคงไม่ใช่แค่ถูกโบยเท่านั้น
“พี่รอง พี่รอง ท่านฟังข้าก่อน เื่นี้ไม่ใช่ความผิดของต้าเป่า!” เจียงต้าไห่ที่คิดจนกระจ่างแล้ว รีบวิ่งไล่ตามหลังอวิ๋นโส่วจงไป ขณะนี้หลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นๆ
ส่วนอวิ๋นเจวียนเอ๋อร์ยังไม่เข้าใจ สิ่งที่ดังก้องอยู่ในหัวของนางคือคำพูดที่ว่าอวิ๋นโส่วจงจะไปฟ้องที่ศาลาว่าการ นางรีบวิ่งกลับไปที่บ้านตระกูลอวิ๋นเก่าแล้วร้องห่มร้องไห้ฟ้องเถาซื่อ
“พี่รอง... ปกติแล้วต้าเป่าไม่คลุ้มคลั่งหรอก มิเช่นนั้นข้าจะพาเขามาที่นี่ทำไมเล่า จริงๆ แล้วเื่นี้มันมีสาเหตุ ทั้งหมดเป็เพราะอวิ๋นเหมยเอ๋อร์! อวิ๋นเหมยเอ๋อร์แย่งจี้ทองคำของเขาไป เขาถึงได้โมโหจนคลุ้มคลั่ง ต้าเป่าเพียงแค่้าไล่ตามอวิ๋นเหมยเอ๋อร์เท่านั้น บุตรชายของท่านถูกอวิ๋นเหมยเอ๋อร์ผลักจนไปชนกับมีดของต้าเป่า!”
เจียงต้าไห่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น รีบะโไล่ตามหลังของอวิ๋นโส่วจงไป บรรดาชาวบ้านในท้องไร่ที่ได้ยินเื่นี้ต่างก็ซุบซิบนินทากันเสียงดังยิ่งขึ้น
วันนั้นที่ตระกูลอวิ๋นเลี้ยงฉลองเื่ที่อวิ๋นโส่วหลี่บุตรชายของเขาสอบผ่านถงเซิง ข่าวนี้ดังไปทั่วหมู่บ้าน ผู้เฒ่าอวิ๋นป่าวประกาศไปทั่วราวกับว่าบุตรชายของเขากำลังจะได้เป็จอหงวนอย่างนั้นแหละ
ดังนั้นในงานเลี้ยงวันนั้น แม้ว่าจะไม่มีเงินมากพอที่จะเลี้ยงอาหารทุกคนในหมู่บ้าน แต่ก็มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่นำอาหารของตนเองมารวมกันที่หน้าบ้านของเขาเพื่อร่วมรับประทานอาหารและดูความสนุกสนาน
แต่ทุกคนรู้แค่ว่าอวิ๋นฉี่ซานาเ็เพราะถูกอวิ๋นเหมยเอ๋อร์ผลัก ไม่นึกเลยว่าเื่นี้จะมีเื้ัเช่นนี้อีก อวิ๋นเหมยเอ๋อร์ช่างเหมือนกับเถาซื่อเสียจริง ร้ายกาจั้แ่หัวจรดเท้า
พวกเขาต้องบอกเื่นี้ให้ญาติมิตรของตนเองฟังไว้ หากจะหาคู่ครองให้บุตรหลาน ต้องไม่ใช่คนของบ้านนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวิ๋นเหมยเอ๋อร์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ในที่สุดเจียงต้าไห่ก็ไล่ตามอวิ๋นโส่วจงจนทัน จริงๆ แล้วอวิ๋นโส่วจงก็เหมือนกับชาวบ้านคนอื่นๆ เขารู้แค่ว่าอวิ๋นฉี่ซานถูกอวิ๋นเหมยเอ๋อร์ผลัก (คนของบ้านพี่ใหญ่และบ้านน้องสามเป็คนบอก) ไม่รู้เลยว่าเื่นี้จะมีสาเหตุเช่นนี้อีก
“เ้าพูดว่าอะไรนะ? พูดใหม่อีกครั้งซิ?” อวิ๋นโส่วจงหรี่ตาลง บรรยากาศรอบๆ ตัวเขาดูเย็นเยียบลงในทันที ราวกับมีไอสังหารแผ่ออกมาอย่างเลือนราง
เจียงต้าไห่ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวรีบพูดว่า “คือ... คืออวิ๋นเหมยเอ๋อร์แย่งจี้ทองคำคล้องิญญาของต้าเป่าไป ต้าเป่าถึงได้คลุ้มคลั่งแล้วไล่ฟันนาง”
ไม่ใช่แค่ในยุคโบราณเท่านั้น แม้แต่ในยุคปัจจุบัน ในชนบทยังคงมีความเชื่อเื่คล้องิญญาอยู่ ทุกคนเชื่อว่าคนที่ปัญญาอ่อนและคนบ้าเป็เพราะิญญาไม่มั่นคง หรือิญญาไม่สมบูรณ์ คนร่ำรวยมักจะใช้ทองคำ เงิน และหยกมาทำเป็แม่กุญแจคล้องิญญา
ส่วนคนจนส่วนใหญ่มักจะไปขอเครื่องรางที่วัดแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าผ้าสีแดง เย็บติดไว้กับเสื้อผ้าของคนปัญญาอ่อนในบ้านเพื่อคล้องิญญา
อวิ๋นเหมยเอ๋อร์ตัวดี! มือทั้งสองข้างของอวิ๋นโส่วจงกำแน่นจนได้ยินเสียงดังกรอบแกรบ แสดงให้เห็นว่าเขาโกรธมากเพียงใด เขาไม่สนใจเจียงต้าไห่อีกต่อไป หันหลังกลับแล้วเดินตรงไปที่บ้านของอาจารย์ตั่งอย่างรวดเร็ว
หัวใจของเจียงต้าไห่สั่นระรัวด้วยความกลัว แต่ก็ไม่กล้าไล่ตามไปอีก จึงได้แต่เดินคอตกกลับไปบ้านตระกูลอวิ๋นเก่า เขาไม่รู้ว่าอวิ๋นโส่วจงจะทำอย่างไรกับเขา แต่ที่แน่ๆ ก็คือเขาโยนความผิดส่วนใหญ่ไปที่อวิ๋นเหมยเอ๋อร์สำเร็จแล้ว
เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลอวิ๋นเก่าเขายังไม่ทันจะก้าวเท้าเข้าไปในบ้านก็ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญด่าทอของอวิ๋นเจวียนเอ๋อร์และเถาซื่อ
“เ้ามันตาแก่ไร้ประโยชน์ ลูกชายของเ้าจะไปฟ้องลูกเขยที่ศาลาว่าการแล้ว! พวกข้าจะอยู่กันยังไง เ้ารองมันใจดำอำมหิตนัก เพิ่งจะส่งเ้าสี่เนรเทศไปเป็ทหาร หลิ่วซื่อก็หนีไปอีก ทำให้ครอบครัวของเ้าสี่แตกแยก ตอนนี้ยังไม่ยอมปล่อยครอบครัวของเจวียนเอ๋อร์ไปอีก! เขา้าฆ่าลูกๆ ของข้าไปทีละคนๆ จนหมดสิ้น เขาจึงจะพอใจสินะ!”
“ฮือๆ... ท่านแม่ อย่าด่าท่านพ่อเลย ไม่ใช่ความผิดของท่านพ่อที่ปล่อยให้เขาทำแบบนี้! ท่านพ่อเองก็คงไม่รู้ว่าเขาเป็คนใจร้ายใจดำเช่นนี้หรอกเ้าค่ะ!”
“ฮือ... ท่านพ่อ ข้าขอร้องท่านไปหาพี่รอง บอกให้เขาเลิกคิดเื่ฟ้องศาลาว่าการเถิด หากเื่นี้ไปถึงศาลาว่าการ เหมยเอ๋อร์ต้องเดือดร้อนไปด้วย นี่มันทำลายชีวิตของเหมยเอ๋อร์ชัดๆ เลยนะเ้าคะ!”
เจียงต้าไห่เดินเข้าไปในห้องโดยไม่ปริปาก อวิ๋นเหมยเอ๋อร์ถูกเขาหักหลังไปแล้ว แต่เขาไม่สามารถพูดออกไปได้ ในใจคิดแต่จะโยนความผิดนี้ให้บ้านพี่สามหรือบ้านพี่ใหญ่
อย่างไรเสียพวกเขาก็ยังไม่ได้แยกบ้านออกไป ทุกคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครแอบฟังอยู่ข้างนอก?
ผู้เฒ่าอวิ๋นขมวดคิ้วด้วยความกังวลใจ เื่ดีๆ ทำไมถึงกลายเป็แบบนี้ไปได้? โส่วหลี่สอบได้เป็ถงเซิง เื่น่ายินดีเช่นนี้ สุดท้ายกลับ... เฮ้อ ทุกคนในครอบครัวของเ้ารอง ช่างสร้างเื่ไม่เว้นแต่ละวัน
ผู้เฒ่าอวิ๋นรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจเรียกอวิ๋นฉี่ซานมากินข้าวในวันนั้นจริงๆ แต่เขาลืมไปว่าตนเองเรียกอวิ๋นฉี่ซานมาเพื่ออะไร และลืมไปว่าอวิ๋นฉี่ซานมอบอั่งเปาหนึ่งตำลึงเงินแทนพ่อแม่ของเขาด้วย
“เอาล่ะ หยุดร้องไห้คร่ำครวญได้แล้ว ข้าจะไปคุยกับเ้ารองเอง” เขากล่าวพลางเคาะกล้องยาสูบด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินออกจากห้องไป
เมื่อผู้เฒ่าอวิ๋นออกจากห้องไป เจียงต้าไห่ก็รีบบอกให้ลูกสาวทั้งสองคนกับลูกชายคนโตออกไปเฝ้าข้างนอก ป้องกันไม่ให้คนอื่นแอบฟัง จากนั้นจึงปิดประตูลงกลอน ปรึกษากับเถาซื่อ
“ท่านแม่ เื่ที่ให้อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์แต่งงานกับเทียนเป่าต้องรีบดำเนินการแล้วขอรับ”
เถาซื่อกำลังอารมณ์ไม่ดีใบหน้าของนางบูดบึ้ง น้ำเสียงก็เ็าเช่นกัน “รีบหรือ จะรีบได้ยังไง? เื่นี้ต้องดูโอกาส”
อวิ๋นเจวียนเอ๋อร์ก็พูดเสริมขึ้นมาว่า “ใช่แล้ว ท่านพี่ เื่นี้ต้องวางแผนให้ดี ไม่ต้องรีบร้อนในสองสามวันนี้หรอก”
เจียงต้าไห่ได้ยินดังนั้นก็แทบจะพุ่งเข้าไปตีนาง สตรีโง่เง่า ทั้งวันเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ ไม่รู้จักดูสถานการณ์บ้าง แต่เพราะเกรงใจเถาซื่อ เขาจึงไม่กล้าดุอวิ๋นเจวียนเอ๋อร์ออกมา
ได้แต่เอ่ยขึ้นว่า “ท่านแม่ ไม่รู้ว่าพี่รองไปได้ยินเื่ที่เหมยเอ๋อร์ทำมาจากใคร... ท่านก็รู้ว่าพี่รองเป็คนยังไง เขาไม่มีทางปล่อยต้าเป่ากับข้าไปแน่ และก็คงไม่ปล่อยเหมยเอ๋อร์เช่นกัน ท่านก็รู้ว่าเื่นี้มันเป็เพราะเหมยเอ๋อร์ก่อเื่ขึ้นมา!”
เมื่อเถาซื่อได้ยินดังนั้นนางก็โกรธจนตาแดงก่ำ ยกมือที่เหี่ยวย่นขึ้นทุบโต๊ะอย่างแรงจนเสียงดังสนั่น “อะไรนะ? เขารู้แล้วหรือ?”
เจียงต้าไห่แสร้งทำเป็ถอนหายใจ “ใช่แล้ว เขารู้แล้ว ตอนนี้เื่นี้ดังไปทั่วหมู่บ้านแล้วขอรับ ทุกคนต่างก็ซุบซิบนินทาเหมยเอ๋อร์! เฮ้อ... ไม่รู้ว่าเป็ยังไง ตอนที่พวกเรากำลังคุยเื่นี้กันในห้องก็ไม่มีคนนอกอยู่ด้วยนี่นา!”
อวิ๋นเจวียนเอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงแดกดันว่า “ในห้องของพวกเราไม่มีคนนอกก็จริง แต่ข้างนอกนั้นก็ไม่แน่นักหรอก บ้านเ้าสามก็ห่างเหินจากท่านแม่ไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น บ้านพี่ใหญ่กับพวกเราก็ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า เรียกได้ว่าเป็ศัตรูด้วยซ้ำ! ดูลักษณะท่าทางของพวกเขาในวันนั้นสิ แทบอยากจะฉีกพวกเราออกเป็ชิ้นๆ!”
ความโกรธแค้นของเถาซื่อถูกทั้งสองคนยุยงจนเดือดพล่าน นางเปิดปากด่าทออย่างรุนแรง
หลังจากด่าทอเสร็จ เจียงต้าไห่จึงถือโอกาสพูดเกลี้ยกล่อม “ท่านแม่ พวกเราต้องรีบหาวิธีโดยเร็วที่สุด หากอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์แต่งงานกับเทียนเป่าได้ ครอบครัวพี่สามก็ถือว่าอยู่บนเรือลำเดียวกับพวกเราแล้ว”
“อย่าว่าแต่อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์จะต้องบอกเื่การค้าขายทำเงินให้พวกเรารู้ แค่คิดว่าพี่รองต้องเกรงใจครอบครัวพี่สาม ต้องเกรงใจหลานสาวของตัวเอง เขาก็คงไม่ไปฟ้องที่ศาลาว่าการแล้ว ตราบใดที่เหมยเอ๋อร์ไม่ต้องขึ้นศาลาว่าการ เื่แต่งงานของนางก็ไม่ใช่เื่ยาก”
“พวกเราก็ไม่ได้คิดจะให้เหมยเอ๋อร์แต่งงานอยู่ในหมู่บ้านนี้เสียหน่อย แค่เสียชื่อเสียงในหมู่บ้านนี้ก็ไม่เป็ไร ท่านแม่ ข้ารับรองกับท่านเลยว่าข้าจะต้องหาทางส่งเหมยเอ๋อร์ไปแต่งงานกับตระกูลร่ำรวยในตัวเมืองให้ได้...”