ล้อเล่น?
ในใจฉู่ชิงมิได้ล้อเล่นแม้แต่น้อย ส่วนเื่ตายไปด้วยกันนั้น...
ฉู่ชิงจ้องมองเหนียนยวี่ ั์ตาที่นิ่งสงบคู่นั้นมองไม่ออกถึงอารมณ์ใดๆคนสองคนเงียบงันไร้ซึ่งคำเอ่ยเอื้อน ครู่ต่อมา เมื่อเหนียนยวี่จัดแจงยาสมุนไพรเรียบร้อยแล้วนางจึงะโเรียกให้เซียวหรานหมอหลวงและหมอทหารในค่ายเข้ามาและถ่ายทอดวิธีต้มยาให้พวกเขาจากนั้นจึงจัดเตรียมทุกอย่างและนำสมุนไพรสองสามชนิดออกไปนอกกระโจม
ครู่หนึ่งผ่านไป ทหารองครักษ์คนหนึ่งยกถังน้ำเข้ามา ถังอาบน้ำที่อยู่หลังฉากกั้นถูกเติมน้ำจนเต็ม
"นี่จะทำอะไร?"
ทหารองครักษ์คนนั้นรีบตอบออกไปทันทีว่า "เมื่อครู่ท่านหมอทหารเหนียนสั่งว่าให้ทุกคนในค่ายแช่ตัวในน้ำขอรับ น้ำในถังนี้ หมอทหารเหนียนยวี่ได้ผสมยาสมุนไพรเข้าไปกล่าวได้ว่าสามารถช่วยล้างสารพิษได้ขอรับ"
เหนียนยวี่สั่งมางั้นหรือ?
ฉู่ชิงสั่งให้ทหารองครักษ์ออกไป จากนั้นเขาจึงถอดเสื้อผ้าออกและแช่ร่างกายลงในน้ำ เพียงชั่วพริบตา ความรู้สึกอุ่นร้อนที่แผ่กระจายทั่วร่างกายเขาพลันดึงความเหนื่อยล้าตลอดสองวันสองคืนติดต่อกันให้เอ่อล้นออกมา ฉู่ชิงหลับตาลง ร่างกายของเขาอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ทว่าในหัวของเขากลับยิ่งทวีความแจ่มชัดเขามัวแต่ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ จนไม่รู้สึกแม้แต่ฝีเท้าที่ย่ำก้าวของเหนียนยวี่ไม่รู้ว่านางเดินเข้ามาั้แ่เมื่อใด
เหนียนยวี่มองฉู่ชิงผ่านฉากกั้นเห็นเพียงเงาร่างคลุมเครือของเขานั่งอยู่ด้านใน นางที่เพิ่งเดินเข้ามาพลันหยุดชะงักฝีเท้าเล็กน้อย
ยามนี้เขากำลังเปลือยกายอยู่ หากนางเผยตัวออกไป คงไม่ใช่เวลาที่ดีนักแต่...เหนียนยวี่ชำเลืองมองน้ำที่สกัดจากสมุนไพรในมือตนเองแล้วขมวดคิ้ว นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดนางยังคงเลือกก้าวเดินเข้าไปยังหลังฉากกั้น...
ครั้นก้าวเข้ามาหลังฉากกั้นเหนียนยวี่จงใจหลบเลี่ยงไม่มองร่างกายบางส่วนที่อยู่ใต้น้ำ พลางค่อยๆก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ดวงตาจับจ้องบนหน้ากากสีเงินยวง…
"ท่านแม่ทัพ ท่านหลับแล้วหรือ?" เหนียนยวี่ถามออกไปอย่างไม่มั่นใจ ทว่าชายหนุ่มยังคงหลับใหล มิขยับเขยื้อน
ดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปแล้ว
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นััหน้ากากสีเงิน นิ้วมือค่อยๆ เคลื่อนไปหลังใบหู มือของนางัักลไกบางอย่าง ร่างกายของชายหนุ่มสั่นไหวเล็กน้อย เหนียนยวี่เลิกคิ้ว เขายังตื่นอยู่!
ดูเหมือนว่าเขาจงใจอยากจะเห็นท่าทีตอบสนองของนางเหนียนยวี่กดปุ่มกลไกหน้ากากอย่างรวดเร็ว เสียง ‘ติ๊ง’ ดังก้องทั่วกระโจมฟังดูชัดเจนเป็อย่างยิ่ง
ภายใต้หน้ากากใบนี้มีความลับที่ปกปิดไม่ให้ผู้ใดรู้นางคิดทึกทักไปเองว่า หากตนวางแผนพยายามเปิดเผยหน้ากากของเขาบุรุษผู้นี้ต้องโมโหเกรี้ยวกราดใส่นางอย่างแน่นอน ทว่าเมื่อชั่ววินาทีที่กลไกเปิดออกชายหนุ่มกลับทำเพียงลืมตา ไม่มีทีท่าอันใดออกมาอีก
เหนียนยวี่รู้สึกประหลาดใจ "ท่านแม่ทัพหลวงมิกลัวว่าผู้อื่นจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงหรือไร"
สายตาของบุรุษผู้นั้นสบประสานกับดวงตาของเหนียนยวี่เขายกมือขึ้นมาถอดหน้ากากที่ปิดใบหน้าของเขาด้วยตนเอง
"มิใช่ว่าเ้าเคยเห็นมาั้แ่แรกแล้วหรือ?" เสียงของฉู่ชิงสงบนิ่งไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์ใดแอบแฝงและน้ำเสียงที่เอ่ยออกมายังสงบนิ่งราวบึงน้ำ
เหนียนยวี่คิดไม่ถึงว่าฉู่ชิงจะมีท่าทีตอบสนองที่แสนราบเรียบเช่นนี้
นางเคยเห็นมาั้แ่แรกนั่นนับว่าไม่ผิดนัก ทว่า...เื่นี้ยังมีบางอย่างที่ทำให้นางรู้สึกว่ามีเื่แปลกประหลาดจากความคิดของนางแม้นนางจะรับรู้ว่าใบหน้าภายใต้หน้ากากของเขาไม่มีที่ใดที่เสียโฉมก็ตาม ทว่าแม่ทัพหลวงผู้นี้ไม่มีทางยอมให้โอกาสผู้อื่นเปิดหน้ากากของเขาเป็ครั้งที่สองแน่
แต่ใบหน้าที่เผยอยู่ตรงหน้านางนี้...
เหนียนยวี่จ้องมองใบหน้าของฉู่ชิง หน้าตาของฉู่ชิงราวกับถูกแกะสลักด้วยใบมีดใบหน้าคมเหลี่ยมชัดเจน คิ้วราวกับดาบรับกับดวงตาสุกสกาวทรงพลังนี่เป็ใบหน้างดงามที่สุดเท่าที่นางเคยพบเจอมา แม้แต่สตรียังต้องทอดถอนใจกับตัวเองราวกับมิใช่คนบนโลกใบนี้
เหนียนยวี่จ้องมอง นางอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปลูบไล้ "ผิวท่านดีเยี่ยงนี้เป็เพราะสวมหน้ากากทุกวันหรือ?"
ไม่มีลมแดดหรือสิ่งสกปรกอื่นใด แม้แต่ผื่นแดงเล็กน้อยจากพิษล้วนมิอาจทำลายใบหน้าอันหล่อเหลานี้ได้
เหนียนยวี่รู้สึกว่า ใบหน้าเช่นนี้ควรเป็ของสาวงามในห้องหอที่ดูแลเป็อย่างดีทว่าฉู่ชิงผู้นี้...ที่เป็ผู้บัญชาการกองทัพทหารรักษาพระองค์ ทั้งยังกุมอำนาจยิ่งใหญ่ไว้ในมือนางแทบจะนึกไม่ออกว่าถ้าใบหน้างดงามนั้นไม่ถูกหน้ากากปกปิดไว้ เป็ไปได้หรือไม่ที่จะทำให้คนอื่นๆ เชื่อฟังคำสั่งของเขา
ทว่าใบหน้านี้กลับเข้ากับนิสัยของเขาได้อย่างแปลกประหลาด ทั้งยังกลมกลืนอย่างบอกไม่ถูก
ท่าทีตอบสนองของเหนียนยวี่ทำให้ฉู่ชิงตกตะลึงเล็กน้อยทว่าเพียงครู่เดียว รอยยิ้มบนใบหน้าเขาพลันขยายกว้าง เหนียนยวี่ผู้นี้...นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีด้านที่คลั่งไคล้บุรุษเช่นนี้ด้วย?
จากภาพในความทรงจำของเขา นางมักจะเฉยเมยและสร้างระยะห่างอยู่เสมอ คอยยึดมั่นกฎเกณฑ์มาตลอดไม่ว่าเมื่อใดนางที่ดูกิริยาน่าทะนุถนอมในยามนี้ เขาเพิ่งเคยเห็นเป็ครั้งแรก น่ารักมากเสียจน...ไม่คิดปัดป้องมือของนางที่ยื่นมาััใบหน้าตนทั้งยังรู้สึกคิดถึงััเบาบางที่ปลายนิ้ว
ใบหน้าของเขา...ครั้นเขาครุ่นคิดอะไรบางอย่างได้ ดวงตาของฉู่ชิงพลันทอวาบฉายประกายระยิบระยับ
สิบกว่าปีก่อน หลังจากที่เขาสวมหน้ากากใบนี้ มีเพียงเหตุการณ์เพลิงไหม้ครานั้นที่เขาถูกเหนียนยวี่เห็นใบหน้าภายใต้หน้ากากโดยไม่ได้ตั้งใจทว่าวันนี้เขานึกไม่ถึงเลยว่า เมื่อเขาอยู่ต่อหน้านาง เขาจะเป็คนที่ถอดหน้ากากออกด้วยตัวเอง...
อย่างไรก็ตามแต่ เขานั้นรู้สึกประหลาดใจกับตัวเองเป็อย่างยิ่ง
“ได้ยินว่าในแผ่นดินชื่ออวี่แห่งนี้โฉมหน้าของราชวงศ์ซีเหลียงนั้นนับว่าเป็ที่สุด ลูกหลานตระกูลเยี่ยนทุกคนล้วนมีใบหน้างดงามล้ำเลิศ ใบหน้าของท่านแม่ทัพหลวงมิรู้ว่าจะเทียบเท่าบุรุษตระกูลเยี่ยนแห่งซีเหลียงได้หรือไม่” เหนียนยวี่พึมพำ เื่หน้าตาของราชวงศ์ซีเหลียงมิได้อยู่แค่ในซีเหลียงเท่านั้น แม้แต่ในแผ่นดินชื่ออวี่ยังมีอีกหนึ่งตำนาน
ใต้หล้ายามนี้ ซีเหลียงแข็งแกร่งโดดเด่นอย่างมาก ทว่ายังคงรักษาพันธสัญญาที่ทำไว้เมื่อร้อยปีก่อนอยู่และเดินทางไปมาหาสู่กับแคว้นอื่นน้อยยิ่งนัก
แม้แต่ในชาติก่อน นางที่มีฉายาว่าเป็เทพาชื่ออวี่ ยังมิเคยเห็นฮ่องเต้ซีเหลียงมาก่อนเลยสักครา ว่ากันว่าองค์รัชทายาทเยี่ยนสี่เป็บุคคลที่งดงามหล่อเหลามากที่สุดในประวัติศาสตร์ซีเหลียง ความเข้าใจของนางเป็เพียงแค่ข่าวลือ ผู้คนในใต้หล้าเยินยอใบหน้างดงามของเขาทว่ามีน้อยคนนักที่จะได้เห็น
ทว่าฮ่องเต้ซีเหลียงและฮ่องเต้หยวนเต๋อเคยพบกัน
ว่ากันว่าเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ฮ่องเต้ซีเหลียงทรงจัดงานวันพระราชสมภพฮ่องเต้จากหลายแคว้นทยอยเข้ามาอวยพรให้ หลังจากนั้นใบหน้าของราชวงศ์ซีเหลียงก็ได้กลายเป็ตำนาน ว่ากันว่าราชวงศ์ซีเหลียงทุกคนนั้นล้วนงดงาม...
เหนียนยวี่ครุ่นคิด จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นบุรุษในถังอาบน้ำขมวดคิ้ว มีบางอย่างปรากฏในดวงตาคู่นั้น ทว่าเพียงชั่วพริบตาอารมณ์นั้นพลันเลือนหายไป
"ใบหน้ามีประโยชน์กับบุรุษอย่างไร?" เสียงของฉู่ชิงดังขึ้นอย่างเ็าในทันใดหยิบหน้ากากขึ้นมาปิดบังใบหน้างดงามอีกครั้ง
ทันใดนั้น เหนียนยวี่จึงรู้สึกตัว ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่างนางจึงยื่นมือไปถอดหน้ากากของฉู่ชิงออกมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว “เหนียนยวี่ยิ่งรู้สึกว่ายิ่งระยะทางไกลเท่าไรสิ่งที่สนใจไม่ใช่รูปลักษณ์ของเขา”
บุรุษผู้มีอำนาจสูงส่งเฉกเช่นฉู่ชิง ไม่ควรปฏิเสธใบหน้าหล่อเหลาเช่นนี้!
นางหวนนึกถึงคำพูดของจ้าวอี้บนูเาจำลองที่อยู่ด้านนอกสวนร้อยสัตว์ในวันนั้นว่าองค์ชายใหญ่เอ่ยแกมข่มขู่ว่าจะให้ฉู่ชิงแต่งเข้ามาเป็ชายาของเขา สำหรับเขาแล้วเื่นี้คงเป็เื่ที่น่าอับอายไม่น้อย ดังนั้น...
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว ลอบก่นด่าตัวเองในใจว่าเหตุใดนางถึงแสดงอาการว่าตื่นตาตื่นใจกับผิวพรรณงดงามนั่นนางสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เหนียนยวี่หยิบผ้าสีขาวที่เตรียมไว้จุ่มลงในน้ำสมุนไพร จากนั้นเช็ดลงบนใบหน้าของฉู่ชิงเบาๆ ั้แ่หน้าผาก คิ้ว ไล่ลงมาตามกรอบหน้าทั่วทุกมุมโค้งเหลี่ยมบนใบหน้าอย่างประณีตละเอียด ทั้งยังใส่ใจเป็พิเศษ
ฉู่ชิงสบตานาง นางในยามนี้ราวกับกลายเป็หมอมืออาชีพผู้นั้นอีกแล้ว อุณหภูมิตรงปลายนิ้วของนางแผ่ออกมาบนใบหน้าของเขาทะลุผ่านผืนผ้าสีขาว ััจากทุกปลายนิ้วที่พาดผ่านบนใบหน้า ทำให้เขารู้สึกไร้กำลัง มือเท้าชาและยังปั่นป่วนการเต้นของหัวใจเขาเล็กน้อย
“นี่คือยาที่มีส่วนผสมของกล้วยไม้โลหิต แม้อาการของท่านแม่ทัพหลวงจะไม่รุนแรงทว่าการที่อยู่ที่นี่มาเป็ระยะเวลานาน ก็ต้องระวังไว้ก่อนจะดีกว่า” เสียงที่แ่เบาของเหนียนยวี่ดังขึ้นนางพยายามฝืนตัวเองอย่างเต็มที่ที่จะไม่สนใจร่างกายอันงดงามของเขาทว่าหัวใจของนางยังคงสั่นไหวเพราะััที่รู้สึกบนฝ่ามือ
เหนียนยวี่ไม่รู้ว่า เหตุใดใบหน้าเช่นนี้ยังคงรบกวนจิตใจของนางได้ทั้งที่ตัวนางเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของบุรุษสตรีอย่างชัดเจน