เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    “เอ๋ น้าก็อยู่ด้วยหรือคะ?”

        เธอแค่ไปปักกิ่งไม่กี่วันเท่านั้น ทำไมหลิวฟางมาหาถึงซางตูได้เล่า เซี่ยเสี่ยวหลานเดาว่าระหว่างนี้ต้องมีเ๹ื่๪๫อะไรเกิดขึ้นแน่ ทว่าเธอไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมา ณ ตรงนั้น ด้านหลังเซี่ยเสี่ยวหลานติดตามมาด้วยคนรับจ้างแบกหามที่หาจากสถานีรถไฟ ไปถึงปักกิ่งทั้งที เป็๞ไปไม่ได้ที่เธอจะมือเปล่ากลับมา ข้าวของเยอะเหลือเกิน ตัวเธอเองขนไม่ไหว จึงจ้างคนมาช่วยขนย้ายเข้าร้าน

        “คุณคะ คุณวางของไว้ตรงนั้นเลยนะคะ อ่า ใช่ค่ะ ตรงนั้นเลย”

        “คุณพักสักหน่อยสิคะ ดื่มน้ำก่อน นี่คือค่าแรงของคุณค่ะ”

        เซี่ยเสี่ยวหลานจัดการอย่างกระฉับกระเฉงว่องไว ให้เงินแก่คนรับจ้างทันที คนงานรับจ้างเอกก็ไม่กล้าอยู่ในสถานที่แบบนี้นานมากนัก กระเบื้องเงาวาววับสะอาดเอี่ยม มิใช่ที่ที่คนใช้แรงงานอย่างเขาควรจะมาได้

        “เด็กคนนี้นี่ ทำไมกลับมาเอง ไม่บอกให้พวกเราไปรับเล่า?”

        หลี่เฟิ่งเหมยตำหนิ เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่ยิ้ม

        เธออายุตั้งเท่าไรแล้วยังให้คนไปรับที่สถานีอีก สถานีรถไฟซางตูจำเป็๞ต้องให้คนไปรับด้วยหรือ อีกอย่างที่บ้านมีเพียงผู้หญิงสองคนอยู่ งานในร้านยุ่งหัจนวหมุน ดังนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานจึงตัดสินใจจ้างคนขนของกลับมาเอง

        “ฉันไม่เป็๲ไรค่ะ ยังดีอยู่น่ะ”

        หลิวเฟินไม่ใช่คนช่างเจรจามาแต่ไหนแต่ไร เซี่ยเสี่ยวหลานตั้งใจหมุนตัวสองรอบ เพื่อทำให้มารดาเธอเห็นอย่างชัดเจนว่าการไปปักกิ่งหนนี้เธอไม่ได้บุบสลายตรงไหน

        หลิวฟางพอเข้าใจสถานการณ์แล้ว “นี่เสี่ยวหลานเดินทางไกลมาหรือ?”

        คลายสงสัยที่เมื่อวานไม่ได้เจอเซี่ยเสี่ยวหลาน ที่แท้วันนี้เพิ่งถึงบ้าน หลิวฟางเกิดความสนใจไม่น้อย “นี่ไปเที่ยวที่ไหนมา ทำไมไม่อยู่ช่วยงานในร้านเล่า ดูสิว่าแม่เธอกับป้าสะใภ้ยุ่งกันขนาดไหน”

        เธอยกตนข่มท่านจนเคยชิน จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวสั่งสอนเสียหน่อย

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ลดตัวลงเทียบเท่ากับคนประเภทนี้ และเธอไม่มีความจำเป็๞ต้องอธิบายเหตุผลในการออกไปข้างนอกของตนเองต่อหลิวฟางด้วย แต่เพราะเห็นแก่ความเป็๞เครือญาติของทุกคน เลยตอบกลับพอเป็๞พิธี

        “ไปปักกิ่งมาค่ะ น้าอยู่พอดีเลย เอาขนมกลับไปกินสักสองกล่องเถอะ ฉันเอากลับมาจากปักกิ่งด้วยน่ะ”

        ปักกิ่งมีอะไรโด่งดั่ง ก็ขนมของเต้าเซียงชุน [1] มิใช่หรือ

        แม้จะผ่านไปอีก 30 ปี เมื่อนักท่องเที่ยวต่างถิ่นไปเยือนปักกิ่ง ในหมู่ของฝากที่นำกลับไปให้ญาติสนิทมิตรสหาย ย่อมไม่ขาดขนมของเต้าเซียงชุนและเป็ดย่างของเฉวียนจวี้เต๋อ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่สามารถทิ้งธรรมเนียมดั้งเดิมเช่นกัน โจวเฉิงได้โอกาสมอบไว่ฮุ่ยเชวี่ยนจำนวนหนึ่งให้เธออีกแล้ว แต่เซี่ยเสี่ยวหลานยุ่งเสียจนไม่มีเวลาไปเดินร้านค้ามิตรภาพ หากเธออยากซื้อของอะไรที่พิเศษ ถ้าไม่ซื้อกลับมาตอนตนเองไปหยางเฉิงเพื่อนำเข้าสินค้า ก็จะวานไป๋เจินจูช่วยหาให้ ดังนั้นร้านค้ามิตรภาพไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเธอมากมายนัก

        เป็ดย่างเย็นแล้วจะไม่ค่อยอร่อย ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานก็เลือกไม่ได้ แน่นอนว่าเธอต้องให้ของฝากเล็กๆ น้อยๆ แก่คนรู้จักอย่างครอบครัวหูหย่งไฉ ไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่าขนมเต้าเซียงชุนและเป็ดย่างเฉวียนจวี้เต๋อ เพียงแต่ไม่คิดว่าหลิวฟางจะอยู่ด้วย อย่างไรเสียเธอก็ซื้อของมาเสียเยอะแยะ แบ่งบางส่วนให้หลิวฟางถือว่าเป็๞การเคารพเกียรติระหว่างญาติแล้วกัน

        เธอสุ่มล้วงขนมสองกล่องออกมาจากด้านในกระเป๋าสัมภาระ กลับทำเอาหลิวฟางอึ้งจนพูดไม่ออก

        เมื่อวานสิ่งที่หลิวฟางหิ้วมาให้หลิวเฟินคือขนมของ ‘เต้าเซียงชุน’ เช่นกัน แต่ของหลิวฟางเป็๞ห่อกระดาษ ในขณะที่ของเซี่ยเสี่ยวหลานบรรจุอยู่ภายในกล่องเหล็ก กล่องเหล็กดูดีมีระดับกว่าหีบห่อกระดาษยิ่งนัก หลิวฟางนึกถึงคำพูดเมื่อวานของตนเองเข้า ก็รู้สึกว่าหนังหน้าแสบร้อนขึ้นมาทันใด

        นี่ยังไม่จบสิ้น

        เซี่ยเสี่ยวหลานเอาขนมสองกล่องและเป็ดย่างสองตัวให้หลิวฟาง หลิวฟางตาไวมองเห็นของชิ้นใหญ่ข้างในที่รู้สึกว่าคุ้นเคยมากทีเดียว

        “นี่เธอใส่...”

        “อ๋อ ฉันเอานมแพะผงกลับมาด้วยสองกระป๋อง แม่ฉันบอกว่าดื่มนมวัวจนเกินพอแล้ว ฉันเลยจะเปลี่ยนรสชาติให้เขาเสียหน่อยน่ะค่ะ”

        นมแพะผงสองกระป๋องนี้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้บอกว่าจะแบ่ง เธออุตส่าห์แบกสองกระป๋องกลับจากปักกิ่งมาตั้งไกลโข หนึ่งกระป๋องสำหรับหลิวเฟิน อีกหนึ่งกระป๋องสำหรับหลิวจื่อเทาผู้เป็๲น้องชาย ทว่าพอเธอพูดเช่นนี้ หลิวเฟินก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้เธอ มันหมายความว่าอะไรกันนะ?

        หลิวฟางไม่เข้าใจนมแพะผง เธอได้ยินเพี้ยนเป็๞ ‘นมผงนอก [2]’ บนกระป๋องนมพิมพ์ตัวอักษรภาษาต่างประเทศเป็๞แถวแนวที่เธอก็อ่านไม่เข้าใจ

        นมแพะผงเป็๲สินค้านำเข้าที่เซี่ยเสี่ยวหลานเอากลับมาด้วยจริงๆ

        หลิวฟางพูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง

        เธออยากถามดูเซี่ยเสี่ยวหลานว่าไปทำอะไรที่ปักกิ่ง ทว่าจู่ๆ ประตูร้านก็มีคนเปิดเข้ามาเสียก่อน

        เป็๞หูหย่งไฉนั่นเอง ไม่ทันไรเขาก็เห็นเซี่ยเสี่ยวหลานกำลังแบ่งของจากสัมภาระน้อยใหญ่

        “เสี่ยวหลานกลับมาแล้วหรือ?”

        “อ้าว พี่หูวันนี้ไม่ไปทำงานหรือ? ฉันเพิ่งกลับมาน่ะค่ะ”

        ประจวบเหมาะพอดี ไม่ต้องถ่อไปบ้านหูหย่งไฉด้วยตัวเอง เซี่ยเสี่ยวหลานส่งขนมและเป็ดย่างให้หูหย่งไฉ เขาปฏิเสธอยู่สักครู่แล้วจึงรับไว้

        เซี่ยเสี่ยวหลานให้ของฝากอย่างเอื้อเฟื้อ กลับทำให้หลิวฟางโกรธเคืองยิ่งนัก—ของที่เซี่ยเสี่ยวหลานให้ชายคนนั้น จำนวนมากเท่าของที่ให้เธอผู้เป็๞น้าคนนี้! ถ้ามิใช่เพราะยังไม่แน่ใจในหัวนอนปลายเท้าของหูหย่งไฉ หลิวฟางจะชักสีหน้าใส่ตรงนี้แน่นอน

        สำหรับเซี่ยเสี่ยวหลาน หลิวฟางเป็๲น้าแท้ๆ ทว่าสนิทสู้หูหย่งไฉไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอให้ของฝากมากเท่ากันได้ก็เพราะเห็นแก่ความเป็๲ญาติ มิเช่นนั้นเธอย่อมให้บ้านหูมากกว่าสักหน่อยอยู่แล้ว

        ที่แท้หูหย่งไฉมาเพื่อแจ้งแก่พวกเธอว่าวานคนซื้อโทรทัศน์และเครื่องซักผ้าให้เรียบร้อยแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าพวกเธอ๻้๪๫๷า๹เมื่อไร สามารถขนย้ายไปยังบ้านได้ทุกเวลา

        “โทรทัศน์สีซงเซี่ย [3] 19 นิ้ว เครื่องซักผ้าระบบอัตโนมัติเต็มตัว ความจุไม่น้อย ปลอกผ้านวมที่ถอดออกมาก็สามารถใส่ซักในถังได้”

        ราคาแพงไปหน่อย ไม่อย่างนั้นหูหย่งไฉก็อยากซื้อบ้าง

        ต่อหน้าคนนอก เขาไม่ได้บอกว่าราคาเท่าไร

        แต่ของสองอย่างนี้เป็๞สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวหลานและหลี่เฟิ่งเหมย๻้๪๫๷า๹แน่นอน เมื่อหลี่เฟิ่งเหมยได้ยินว่าซื้อโทรทัศน์สีได้แล้ว เธอดีอกดีใจเป็๞อย่างมาก “ส่งไปบ้านฉันเมื่อไรก็ได้ทั้งนั้น!”

        คนในหมู่บ้านที่มีโทรทัศน์ล้วนเป็๲รุ่นขาวดำ ไม่ต้องพูดถึงขนาดเกิน 17 นิ้ว บ้านหลี่เฟิ่งเหมยจะไม่ซื้อก็ได้ แต่เมื่อซื้อได้ทั้งทีย่อมต้องเป็๲โทรทัศน์สีซงเซี่ยขนาด 19 นิ้ว

        ถ้าอยู่ในหมู่บ้าน หลิวฟางคงนึกว่าพวกเธอกำลังรวมตัวกันแสดงละคร ทว่าพอยืนบนกระเบื้องไมโครคริสตัลของ ‘หลานเฟิ่งหวง’ เมื่อหลี่เฟิ่งเหมยพูดว่าโทรทัศน์นั่นคือซงเซี่ยรุ่นสีขนาด 19 นิ้ว มันก็ไม่มีทางกลายเป็๞โทรทัศน์ขาวดำที่ผลิตในประเทศได้อย่างแน่นอน

        ครอบครัวฝ่ายมารดามั่งคั่งร่ำรวยอย่างรวดเร็วเหลือเกิน หลิวฟางรู้สึกว่าตนเองจำเป็๲ต้องสงบใจสักพัก

        ความขุ่นเคืองในอกเธอนั้นมันไม่คลายลงเลย การที่หลิวหย่งอู้ฟู่ หรือหลี่เฟิ่งเหมยสามารถซื้อโทรทัศน์สีนำเข้าขนาด 19 นิ้วได้ ต่างเป็๞เ๹ื่๪๫ที่เธอพอจะเข้าใจ แต่แล้วทำไมพี่สาวม่ายถึงได้ใช้เครื่องซักผ้าได้เล่า? เครื่องซักผ้าอัตโนมัติ กระทั่งหลิวฟางยังไม่มีโอกาสได้ใช้ เครื่องซักผ้าที่บ้านเธอยังเป็๞รุ่นสองถังกึ่งอัตโนมัติอยู่เลยด้วยซ้ำ

        โทรทัศน์บ้านหลิวฟางก็เป็๲เพียงรุ่นขาวดำขนาด 14 นิ้ว

        เธอคิดว่าหลิวหย่งเป็๞คนซื้อเครื่องซักผ้าให้เซี่ยเสี่ยวหลาน ต่อให้บ้านเหลียงไม่ได้อัตคัดขัดสนเงินสำหรับซื้อเครื่องซักผ้า แต่พี่ชายเธอลำเอียงเกินไปหรือเปล่า?

        ก่อนหน้านี้พี่รองของเธออยู่บ้านเซี่ยมิใช่ว่าต้องทำงานเหนื่อยงานหนักงานสกปรกอะไรทั้งหมดหรือ พอมาตอนนี้ มือล้ำค่าเสียจนต้องใช้เครื่องซักผ้าอัตโนมัติเลยหรือ... หลิวฟางชำเลืองมองมือของพี่สาวเธอแวบหนึ่ง หากตอนนี้จะบอกว่าหลิวเฟินคือคนเมืองก็ไม่มีใครสงสัย

        หลิวฟางข่มความรู้สึกขุ่นข้องหมองใจเอาไว้

        เธอยัง๻้๵๹๠า๱สอบถามเ๱ื่๵๹คนรักของเซี่ยเสี่ยวหลานเพิ่ม

        เซี่ยเสี่ยวหลานเพิ่งกลับมาจากปักกิ่งในวันนี้ เมื่อวานหลิวฟางไม่ได้รับประทานอาหารในเมือง จะเลี้ยงอาหารเธอสักมื้อในวันนี้ก็กระอักกระอ่วนเกินกว่าที่จะเชิญ หลิวฟางไม่ได้บอกว่าจะกลับเขตเสียด้วย เห็นท่าทีแล้วคงอยากพักในเมืองมณฑล

        เซี่ยเสี่ยวหลานขอโทษขอโพย “น้า บ้านหลังนั้นที่พวกเราเช่าอยู่ กฎระเบียบเข้มงวดมาก ไม่อนุญาตให้คนนอกค้างคืนที่นั่น ถ้าน้าจะพักในเมือง ฉันไปเปิดห้องที่บ้านพักรับรองให้น้าดีกว่า ใช่แล้ว น้าเอาจดหมายแนะนำมาหรือไม่?”

        ย่าอวี๋มีกฎเกณฑ์นี้จริง ทว่าปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างย่าอวี๋และสองแม่ลูกผ่อนคลายขึ้นมาก หากจะให้คนค้างคืน ย่าอวี๋ก็ไม่ว่าอะไร

        แต่หลิวฟางไม่รู้นี่นา เธอนึกถึงหญิงชราหัวแข็งมืดมนนั่น แม้จะรู้ว่าเป็๲เพียงคนทำความสะอาดถนน ทว่าในใจยังคงเกรงกลัวอยู่ดี

        พอมองไปยังหลี่เฟิ่งเหมยอีกที หลี่เฟิ่งเหมยตีสีหน้ายิ้มแย้ม

        “บ้านฉันมีเตียงแค่หลังเดียว เสี่ยวฟางนอนชินเสียที่ไหนกัน”

        เซี่ยเสี่ยวหลานยืนกรานจะไปเปิดห้องที่บ้านพักให้ หลิวฟางพกจดหมายแนะนำติดตัวมาเสียเมื่อไร เธอทำได้เพียงเลือกกลับเขตอย่างไม่เต็มใจ “ใช่แล้ว ทำไมฉันมาสองวันยังไม่เห็นพี่ใหญ่เลยล่ะ?”

 






เชิงอรรถ

[1]稻香村 เต้าเซียงชุน คือ ชื่อยี่ห้อขนมอันโด่งดัง ก่อตั้งขึ้น๻ั้๫แ๻่ปี 1773 ที่เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู

[2]นมแพะผงคือ 羊奶粉 ส่วนนมผงนอก (นมผงจากต่างประเทศ) คือ 洋奶粉 คำว่าแพะ (羊) และต่างชาติ (洋) ออกเสียงเหมือนกัน หลิวฟางจึงได้ยินผิดเพี้ยนไป

[3]松下 ซงเซี่ย คือ ชื่อทางการค้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น เป็๞ชื่อที่อ่านแบบภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่นคือ มัตสึชิตะ มาจาก มัตสึชิตะ โคโนสุเกะ ซึ่งเป็๞ผู้ก่อตั้ง หรือในปัจจุบันคือยี่ห้อ Panasonic 


 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้