ก่อนเหลือบไปเห็นม้านั่งที่เคยนั่งเล่นในตอนเด็ก ยังคงตั้งอยู่ที่เดิมไม่ย้ายไปไหน สองเท้าเดินเข้าไปใกล้ แล้วใช้มือลูบวนด้วยความคิดถึง พลางทรุดลงนั่งเหม่อมองขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน ซึ่งตรงกับหน้าต่างห้องนอนของทิวา ที่ในเวลานี้ปิดไฟมืดสนิท
“พี่วา รับตุ๊กตาหน่อย” ธาวินวัยเด็กะโลงมาจากห้องของพี่ชาย เขากำลังฉุดยื้อบางอย่าง ก่อนจะโยนตุ๊กตาหมีลงมา ทิวาะโรับโดยปริยาย ก่อนเพ่งมองดูน้องชายให้แน่ใจ
“นั่นตุ๊กตาของพิชญ์ พี่วินเขวี้ยงลงไปทำไมคะ”
“ทำไมๆๆ ยัยตัวประหลาด แน่จริงก็ลงไปเอาสิ” ธาวินหันไปเยาะเย้ย พลางแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกอย่างสนุกสนาน ก่อนที่พิชญาจะวิ่งมามองที่หน้าต่าง ทันใดนั้นดวงหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา ได้เปลี่ยนเป็รอยยิ้มในฉับพลัน ในแววตาระริกด้วยความดีใจ
“พี่วา” เสียงเรียกหวานพร้อมรอยยิ้ม ที่พิชญาส่งไปให้พี่ชาย ทำให้ธาวินชะงัก หยุดส่งเสียงยั่วเย้าในทันที เหมือนมีไม้ใหญ่ๆ มาตีกลางหน้า รู้สึกว่าทุกอย่างหยุดหมุนชาไปหมดทั้งตัว ทำได้แต่มองดูเด็กสาววิ่งผ่านหน้าเขาออกจากห้องไป โดยไม่หันมามอง
ธาวินแอบไปยืนมองจากหน้าต่างบานนั้น ลงมายังด้านล่าง เห็นร่างเล็กของพิชญาวิ่งมาเอาตุ๊กตาหมีจากมือของทิวา ก่อนที่พี่ชายจะยกมือขึ้นลูบศีรษะด้วยความเอ็นดู รอยยิ้มที่เธอมีให้ทิวา แตกต่างกับที่มีให้เขา เปรียบกันไม่ได้เลยสักนิด เด็กชายตัวเล็กกำมือแน่น ก่อนจะทำหน้างอนแล้วออกจากห้องนั้นไป
ชายหนุ่มร่างสูงนั่งเหม่ออยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้ ก่อนรู้สึกถึงน้ำค้างที่มากระทบกาย จึงเดินเลี่ยงเข้ามานั่งพักที่โซฟาสีเหลืองอร่ามกลางบ้าน แล้วเหลือบมองดูภาพที่ติดผนัง เสี้ยวนาทีรู้สึกเ็ปจนต้องเบือนหน้าหนี แล้วลุกไปหยิบน้ำมาดื่มด้วยสีหน้าตึงเครียดแสดงเด่นชัด
ก่อนที่เสียงเร่งเครื่องของมอเตอร์ไซค์ปริศนา ทำให้ดวงตาคมจับตามแสงไฟที่สาดเข้ามา มือหนารีบปิดขวดน้ำพลางขมวดคิ้ว เมื่อเห็นร่างของพิชญากำลังล่ำลาชายแปลกหน้า ก่อนที่เธอจะถอดหมวกกันน็อก แล้วส่งคืนให้กับชายคนดังกล่าวด้วยความสนิทสนม พร้อมรอยยิ้มหวานเช่นเคย
“ขอบใจมากนะพิชญ์ ที่ช่วยเราไปเลือกซื้อของเพื่อง้อแฟน”
“ไม่เป็ไรเื่เล็กน้อย เราเต็มใจ”
“ผมเธอยุ่งหมดแล้ว เข้ามาใกล้ๆ” ภีมพลดึงร่างของหญิงสาวเข้าไป แล้วจัดแต่งผมที่ยุ่งเหยิงให้เป็ระเบียบ
“เรียบร้อยสวยเหมือนเดิมแล้ว” ชายหนุ่มส่งยิ้มหวานให้ ก่อนจะเร่งเครื่องจากไป พร้อมกับพิชญาหันเดินกลับเข้ามา สองเท้าเล็กถึงกับต้องหยุดชะงัก จับจ้องไปยังห้องครัวที่มีร่างของธาวินยืนหราอยู่ หญิงสาวกลืนน้ำลายเพื่อตั้งสติ แล้วยอมเป็ฝ่ายเอ่ยทัก
“ทำงานวันนี้เป็อย่างไรบ้างคะ” ดวงตาหวานมองเขา เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากแต่เสียงปรบมือสองสามครั้งของธาวิน ทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วสงสัย
“ที่ร้องไห้จะเป็จะตายในวันนั้น ตอนนี้หายดีแล้วหรือ” ร่างสูงในชุดสูทราคาแพงเลื่อนเท้าเข้ามาหญิงสาวช้าๆ เวลาแบบนี้จะทำอะไรย่อมได้ ในเมื่อบ้านหลังใหญ่เหลือเพียงเขาและเธอเท่านั้น เกราะกำบังที่เธอหลอกใช้มาหลายปี พึ่งเสียชีวิตไปหมาดๆ เธอไม่เหลืออะไรใช้คุ้มกันได้อีกแล้ว
“พี่วินหมายความว่าไงคะ” พิชญาตัดสินใจถอยหลังไปหนึ่งก้าว เมื่อร่างสูงเดินมาประชิดตัว ดวงตาเข้มสำรวจมองร่างบางั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า พลางแสยะยิ้มออกมาเหมือนเธอเป็ตัวตลก
“คุณนี่มันเ้ามารยาเสียจริง มิน่าพี่ชายผมถึงได้หลงหัวปักหัวปำ”
“ถ้าพี่วินจะพูดเื่นี้ พิชญ์ขอตัวนะคะ” หญิงสาวเบี่ยงตัวเดินออก เพื่อลดเหตุการณ์ปะทะ
“คุณหาแฟนใหม่ได้เท่านี้เองหรือ” ธาวินคว้าแขนไว้ได้ทัน ก่อนที่ยัยตัวประหลาดของเขาจะเดินหนี หญิงสาวเลื่อนสายตามองดูมือหนาที่รั้งเธอไว้ เม้มปากแน่นแล้วเหลือบขึ้นสบตาชายหนุ่มอย่างจริงจัง
