พรรคเทพหมาป่า์ ปากทางเข้าออกตำหนักหมาป่าบูรพา
เดิมทีควรจะเป็่เวลาของบ่าวสาวกราบไหว้ฟ้าดินร่วมกัน แต่ฝ่ายเ้าสาวกลับโผเข้าสู่อ้อมกอดของชายอื่นแล้วเริ่มร้องไห้ออกมาซะงั้น? ฉากนี้...! ไม่ว่าจะดูยังไงก็เผ็ดร้อนซาบซ่าน ไม่สิ มีบางสิ่งไม่ถูกต้องว่าไหม?
ทุกคนหันสายตามามองมู่หรงลวี่กวง รู้สึกว่าผมเผ้าของมันก็ดูสอดคล้องกับชื่อของมันขึ้นมากะทันหัน ล้วนโดดเด่นสะดุดตายิ่งนัก
มู่หรงลวี่กวงหน้าแดงก่ำในพริบตา วันนี้คืองานแต่งงานของข้าไม่ใช่รึไง! จางหลี่เอ๋อร์กลับพาชายชู้มาร่วมพิธีหน้าตาเฉย? นี่พวกเ้าตั้งใจมาหักหน้าข้ากันใช่หรือไม่?
“หยุดมือ!” มู่หรงลวี่กวงะโอย่างฉุนจัด
ขณะเดียวกันมันก็ชักกระบี่ออกจากฝัก ตั้งท่าเหมือนว่าจะฆ่าชายชู้นามหวังเค่อผู้นี้ให้ตายคาพิธี
“มะ มือข้าไม่ได้ขยับเลยนะ! ข้าเป็ผู้บริสุทธิ์! เื่นี้ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย!” หวังเค่อเอ่ยอย่างสลดหดหู่
องค์หญิงโยวเยว่ ท่านรู้ถึงธาตุแท้ของมู่หรงลวี่กวงแล้วก็แล้วไป แต่อย่าได้ทำตัวไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนแบบนี้จะได้ไหม! มีคนจับจ้องเสียขนาดนี้ ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ต่างก็ชักกระบี่ออกมารอกันหมด พวกมันกำลังจะฆ่าข้าอยู่แล้วเนี่ย! นี่ท่านกำลังขุดหลุมฝังข้าอีกแล้วใช่ไหม?
“พวกเราเป็ผู้บริสุทธิ์!” หวังเค่อะโออกมาอีกครั้ง
กอดกันกลมเสียขนาดนั้นยังจะมาบอกว่าเป็ผู้บริสุทธิ์?
“ไอ้ทารก เ้ายังจะกอดนางอยู่อีก?” รังสีสังหารในดวงตาของมู่หรงลวี่กวงสาดแสงไปทั่วทิศ
“ข้ากอดนางตรงไหนกัน เห็นๆ อยู่ว่ามือของข้าไม่ได้จับอะไรอยู่เลย เป็นางต่างหากที่มากอดข้าเอง มู่หรงลวี่กวง เ้าต้องสงบจิตสงบใจก่อนนะ!” หวังเค่อเอ่ยอย่างระทดใจ
หวังเค่อััได้ว่ามู่หรงลวี่กวงแทบจะเงื้อกระบี่ขึ้นมาฟันมันอยู่รอมร่อ
สงบจิตสงบใจ? จะให้มู่หรงลวี่กวงสงบจิตสงบใจยังไงไหว? แม้จะบอกว่ามันกับจางหลี่เอ๋อร์แค่กำลังเล่นละครตบตาผู้คน แต่มู่หรงลวี่กวงตัดสินใจไปแล้วว่าจะให้เป็เื่จริงถึงขั้นมองนางเป็ผู้หญิงของตัวเองไปแล้ว แต่ยังไม่ทันจะได้จับมืออิสตรีนางนี้ สาวเ้าเล่นโผเข้าสู่อ้อมอกของชายอื่นไปเสียแล้ว แถมยังทำต่อหน้าธารกำนัลจากทั่วสารทิศ แล้วนี่จะให้มันสงบจิตใจได้ยังไง? ไอ้ชายชู้นี่ ข้าจะฆ่ามันซะ!
บรรดาแเื่ตั้งท่าจะห้ามปราม แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรดี ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์เองก็จนปัญญา นี่กลายเป็อะไรไปแล้ว? เหตุการณ์ตอนนี้วุ่นวายยุ่งเหยิงไปหมด จากที่กำลังจะแต่งงานกันอยู่ดีๆ กลับกลายเป็ฉากรถคว่ำแบบวงกว้างไปเสียอย่างนั้น[1]
ในขณะที่มู่หรงลวี่กวงกำลังจะลงมือ รวมทั้งหวังเค่อที่กำลังจะกระอักเืออกมาด้วยความขมขื่นระทมใจอยู่นั้นเอง
“ตูม!”
จู่ๆ ก็มีเสียงกึกก้องดังมาจากนอกประตูพรรคเทพหมาป่า์ ดังเสียจนทุกคนต้องนิ่งอึ้งกันไปเป็ทิวแถว เกิดอะไรขึ้น หรือว่าด้านนอกจะมีเื่เกิดขึ้นแล้ว?
มู่หรงลวี่กวงเองก็ตะลึงไปเหมือนกัน จิตใจเริ่มสงบลงเล็กน้อย อย่างไรซะวันนี้ยังมีเื่สำคัญอย่างการปราบมารอยู่อีก อีกนิดก็จะเสียการใหญ่ แล้วอยู่ๆ เกิดเื่อะไรขึ้นด้านนอกอีก?
ทุกคนเงี่ยหูฟัง จากนั้นก็ได้ยินเสียงตีกลองร้องป่าวอย่างคึกคักรื่นเริงดังมาแต่ไกล แม้จะมองอยู่ไกลๆ ก็ยังคงเห็นแสงสีที่สาดขึ้นไปบนฟ้าได้ไม่ยาก ดูปานประหนึ่งขบวนแห่เ้าสาวอย่างไรอย่างนั้น
“พรรคเทพหมาป่า์คนใดเป็ผู้รับผิดชอบ? พรรคอีกาทองคำนำขบวนแห่เ้าสาวมาถึงแล้ว แต่ทำไมยังไม่มีใครมาต้อนรับอีก!” เสียงะโดังเข้ามาจากนอกประตูพรรค
ข้างนอกนั่นคือขบวนแห่เ้าสาวของพรรคอีกาทองคำ?
มู่หรงลวี่กวง “…!”
ซุนซง “…!”
แขกทั้งหมด “…!”
นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน? ทำไมถึงได้มีขบวนแห่เ้าสาวของพรรคอีกาทองคำโผล่มาอีกหนึ่ง? สรุปแล้ววันนี้พรรคเทพหมาป่า์มีบ่าวสาวทั้งหมดกี่คู่กันแน่?
ตอนนั้นเองก็มีศิษย์พรรคเทพหมาป่า์เร่งรุดเข้ามาหน้าตาตื่น “ศิษย์พี่ใหญ่ ด้านนอกมีขบวนแห่เ้าสาวพรรคอีกาทองคำโผล่มาอีกแล้ว ข้ารู้จักพวกมันบางคนในขบวน นั่นคือศิษย์พรรคอีกาทองคำจริงๆ!”
“อะไรนะ?” มู่หรงลวี่กวงเลิกคิ้วสูง
“มู่หรงลวี่กวง! น้องชายข้าอยู่ที่ไหน?” เสียงะโดังมาจากนอกพรรค
แต่ที่เห็นกลับเป็สตรีนางหนึ่งนั่งอยู่บนเกี้ยว นางเองก็สวมผ้าปิดหน้าสีแดงสด หยั่งเท้าลงจากเกี้ยวขึ้นไปบนหลังนกกระเรียนมงกุฎแดงตัวหนึ่งก่อนจะบินตรงเข้ามาที่พรรค
ในตอนนั้นพรรคเทพหมาป่า์จำขบวนของพรรคอีกาทองคำได้แล้วจึงไม่มีใครเข้าไปขวาง เพียงแต่ศิษย์ที่เฝ้าอยู่หน้าปากทางเข้าออกต่างก็มีสีหน้าเหม่อลอย ไฉนจึงมีเ้าสาวโผล่มาอีกแล้ว? พรรคอีกาทองคำเล่นอะไรอยู่กันแน่?
เ้าสาวขี่กระเรียนบุกเข้าพรรคเทพหมาป่า์ ศิษย์พรรคอีกาทองคำที่อยู่ด้านหลังเองก็ไม่ได้เป่าปี่ตีกลองกันอีกต่อไป พวกมันปรี่เข้ามาในพรรคเทพหมาป่า์ด้วยกัน ไม่นานก็พบว่านอกตำหนักหมาป่าบูรพามีคนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันอยู่ก่อนแล้ว จึงมุ่งตรงมาทางนี้พร้อมกัน
“ฮึบ!”
นกกระเรียนมงกุฎแดงพาเ้าสาวลงมาที่ลานกว้างของตำหนักหมาป่าบูรพา
หวังเค่อมองปราดเดียวก็จำได้ เมื่อสามชั่วยามก่อน เป็นกกระเรียนมงกุฎแดงตัวนี้ที่พาจางเสินซวีมาหาตน จากนั้นจางเสินซวีก็ถูกกลอสนี์ปะามารผ่าใส่จนไหม้เป็ตอตะโก กระนั้นเ้านกกระเรียนตัวนี้กลับตัดช่องน้อยแต่พอตัวหลบหนีไป!
แต่กลับกลายเป็ว่าเ้ากระเรียนตัวนี้รู้ว่าจางเสินซวีาเ็ ดังนั้นจึงบินเข้าไปหลบอยู่หลังกลีบเมฆ จวบกระทั่งขบวนแห่เ้าสาวของพรรคอีกาทองคำมาถึงมันถึงค่อยบินออกมารายงานถึงเื่ราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับเ้าสาวตัวจริง เ้าสาวเมื่อได้ยินว่าน้องของตนถูกเล่นงานจนพิกลพิการก็บันดาลโทสะจากความอัปยศจนต้องตรงดิ่งเข้ามานี่เอง
“เ้า เ้าเป็ใคร?” มู่หรงลวี่กวงมองดูเ้าสาวที่เพิ่งมาถึงคนนี้อย่างงุนงง
“ข้าเป็ใคร? มู่หรงลวี่กวง เ้านี่เยี่ยมจริงๆ นี่เ้ากำลังเล่นละครตบตาข้าอยู่หรือยังไงไม่ทราบ? เพื่องานในวันนี้พรรคอีกาทองคำข้าตระเตรียมการมาตั้งเท่าไหร่ แต่พอถึงเวลาเ้ากลับแสร้งทำเป็ว่าไม่รู้จักข้า? มู่หรงลวี่กวง เ้าอยากตายมากใช่ไหม?” เ้าสาวร่ายยาวเป็ชุดๆ อย่างมีน้ำโห
ภายใต้โทสะ เ้าสาวก็เลิกผ้าปิดหน้าออก ทันใดนั้นดวงหน้าประณีตงดงามอย่างถึงที่สุดก็เผยสู่สายตาคนทั้งหมด ดวงหน้านี้เจือแววทะนงถือตัว ส่อแววเ้าอารมณ์ ทุกคนที่มองดูนางล้วนต้องตาโตไปตามๆ กัน
“จางหลี่เอ๋อร์? นางคือจางหลี่เอ๋อร์!” แเื่ที่อยู่รอบด้านพากันส่งเสียงอุทานอย่างตื่นใ
“เ้า? หลี่เอ๋อร์?” มู่หรงลวี่กวงอุทาน
“ฮึ่ม ยังจะแสร้งทำเป็ไม่รู้จักข้าอยู่อีกหรือไม่?” จางหลี่เอ๋อร์เป็คนเ้าอารมณ์ มาถึงก็ถลึงตาคาดโทษทันที
แต่มู่หรงลวี่กวงกลับมองไปทางเ้าสาวที่อยู่ในอ้อมอกของหวังเค่อ “งั้นเ้าเป็ใครกันแน่?”
สายตาของทุกคนพลันมาจดจ่ออยู่ที่อ้อมอกของหวังเค่อ สายตาทุกคู่ล้วนฉายแววประหลาดใจออกมา งานแต่งในวันนี้ดูจะไม่ใช่แค่เผ็ดร้อนซาบซ่านอีกต่อไป ถึงกับมีสตรีอีกนางหนึ่งโผล่มาชิงตัวเ้าบ่าว? ไม่ถูกต้อง หนึ่งในสองคนนั้นกระทั่งพาชายชู้มาร่วมแย่งตัวเ้าบ่าวด้วย?
นี่มันสถานการณ์แบบไหนกันแน่? อีนุงตุงนังไปหมดแล้ว!
องค์หญิงโยวเยว่ในอ้อมอกของหวังเค่อตัวเกร็งขึ้นมา หวังเค่อเองก็หน้าแข็งค้างไปแล้ว ไอ้ลูกตัวบัดซบจางเจิ้งเต้า จนถึงตอนนี้เ้าก็ยังจะไม่ตีระฆังอีกงั้นหรือ บิดาดำน้ำเล่นละครต่อไปไม่ไหวแล้วโว้ย!
สายตาทุกคู่หันมาจดจ่ออยู่ที่หวังเค่อกับเ้าสาวในอ้อมอกของมัน เหงื่อเม็ดโป้งผุดขึ้นบนหน้าผากของหวังเค่อ แต่จากประสบการณ์ฉ้อฉลอันโชกโชนของมัน ถุยๆๆ ประสบการณ์ชีวิตอันโลดโผนของมัน ทำให้มันสะกดความตื่นตระหนกที่ก่อตัวขึ้นในใจลงไปได้ในที่สุด
อย่าตื่นตระหนก อย่าตื่นตระหนก ต่อให้เล่นต่อไม่ได้ก็ต้องเล่นให้มันได้ เมื่อไหร่กันที่ชีวิตของคนเราไม่ใช่การแสดงละคร? แสดงต่อไปนั่นแหละ!
“มู่หรงลวี่กวง เ้ายังมีหน้ามาถามว่าพวกเราเป็ใครอีกหรือ? พวกเราเป็ใครตัวเ้าเองก็รู้อยู่แก่ใจดีมิใช่รึ?” หวังเค่อรีบะโออกมา
มู่หรงลวี่กวงเลิกคิ้วสูง ไม่เข้าใจว่าทำไมหวังเค่อถึงแหกปากอย่างมั่นอกมั่นใจได้ขนาดนั้น
“องค์หญิง มาเถอะ ข้าจะช่วยท่านถอดผ้าปิดหน้าเอง ท่านก็จงดูใบหน้าของคนทรยศนี่ให้ชัดๆ!” ว่าแล้วหวังเค่อก็เลิกผ้าปิดหน้าขององค์หญิงโยวเยว่ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ในเมื่อซ่อนไปก็เปล่าประโยชน์ งั้นก็ไม่จำเป็ต้องซ่อนอีกแล้ว
ทันทีที่ผ้าถูกเลิกขึ้น แขกทุกคนก็ต้องสูดลมหายใจหนาวเหน็บไปตามๆ กัน
“นี่คือผู้ใดกัน? ทำไมถึงงามได้ขนาดนี้!”
“มันเรียกนางว่าองค์หญิง แถมเมื่อกี้มันก็เพิ่งจะคาดคั้นมู่หรงลวี่กวงถึงมุมมองที่มันมีต่อนาง หรือว่า หรือว่า หรือว่านางจะเป็...!”
“องค์หญิงโยวเยว่?”
“องค์หญิงโยวเยว่ช่างงามจริงๆ เมื่อกี้ใครว่านางอัปลักษณ์นะ?”
“มู่หรงลวี่กวงตาบอดไปแล้วรึไร? แบบนี้ก็เรียกว่าอัปลักษณ์ได้หรือ?”
.........
......
...
แขกรอบด้านต่างก็พากันตะลึงไปหมด
นี่เองก็เป็ครั้งแรกที่มู่หรงลวี่กวงได้เห็นองค์หญิงโยวเยว่ในสภาพที่ผ่านการประทินโฉมมาอย่างงดงามขนาดนี้เหมือนกัน ดูเหมือนว่ามันจะดึงสติกลับมาไม่ได้ไปพักใหญ่เลยด้วยซ้ำ
“องค์หญิงโยวเยว่?” จางหลี่เอ๋อร์อุทานอย่างประหลาดใจ
จางหลี่เอ๋อร์เองก็เป็สตรีที่งดงามอย่างถึงที่สุด แต่ครั้งนี้องค์หญิงโยวเยว่สวมชุดกี่เพ้ามาร่วมพิธี แถมยังได้การประทินโฉมจากพี่หญิงรองของหวังเค่อช่วยเติมแต่ง จางหลี่เอ๋อร์จึงถูกนางข่มรัศมีไปโดยปริยาย
“องค์หญิง? ท่านเห็นแล้วใช่ไหม? ท่านได้ยินแล้วใช่ไหม? พวกข้าก็บอกท่านแล้วแต่ท่านไม่ยอมเชื่อเอง! มู่หรงลวี่กวงปันใจไปให้หญิงอื่นแล้ว! ท่านอุตส่าห์เสี่ยงตายข้ามสิบหมื่นมหาบรรพตมาเพื่อเจอมัน ท่านว่าพวกเราต่างก็หลอกลวงท่าน ท่านว่ามู่หรงลวี่กวงไม่มีทางเปลี่ยนใจ กระทั่งว่างานแต่งในวันนี้ก็ยังไม่ใช่เจตนาของมัน ท่านไม่ลังเลที่จะลดตัวปลอมเป็จางหลี่เอ๋อร์ เพราะท่าน้าที่จะเห็นมู่หรงลวี่กวงแม้เพียงสักแวบหนึ่งก็ยังดี ้าที่จะทำให้มันประหลาดใจที่ได้เห็นท่าน! แต่แล้วเป็อย่างไร ท่านเองก็คงจะตาสว่างแล้วกระมัง? คนลวงโลก มู่หรงลวี่กวงก็คือคนลวงโลก หลอกลวงความรู้สึกคนอื่น!” หวังเค่อชี้หน้าด่ามู่หรงลวี่กวงเสียงดังสนั่นไหว
หวังเค่อใช้ความได้เปรียบทางด้านศีลธรรมจู่โจมอีกฝ่ายด้วยสถานภาพของฝ่ายที่ถูกทิ้งโดนหมางเมินจนเรียกความเห็นใจจากบรรดาแเื่ได้ชะงัด ผู้ที่รักผู้อื่นอย่างหัวปักหัวปำมักถูกทำร้ายอย่างเืเย็น องค์หญิงโยวเยว่ช่างน่าสงสารเหลือเกิน
สีหน้าของมู่หรงลวี่กวงหม่นลง นี่ข้าเพิ่งจะถูกด่าหรือนี่? แต่เหตุใดจึงไม่อาจตอบโต้กลับไปได้เลยล่ะ?
ที่แท้การที่องค์หญิงโยวเยว่ปลอมเป็จางหลี่เอ๋อร์ก็เพราะว่านางหลงใหลข้าและอยากทำให้ข้าประหลาดใจหรือ? แต่ว่าเ้าจะมารับบทเป็เหยื่อเอาตอนนี้ไม่ได้! ไม่งั้นจะให้ข้ารับมือกับสถานการณ์นี้ยังไงเล่า?
หากเ้าย่องมาหาข้าเงียบๆ เพื่อเห็นแก่รูปโฉมอันงดงามของเ้า ข้ายังจะรับเ้าเข้ามาเป็ภรรยาอีกคนหนึ่งของข้าได้! แต่ว่าตอนนี้เ้าจะให้ข้าลงจากเวทียังไง?
“องค์หญิง ท่านเลิกร้องไห้ได้แล้ว มันไปรักคนอื่นแล้ว ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เราควรรั้งอยู่อีกต่อไป เราไปกันดีกว่า ไปจากที่แห่งนี้ และไม่ต้องกลับมาอีก ไป ไปกัน!” หวังเค่อทำหน้าโกรธขึ้ง ตั้งท่าจะพาตัวองค์หญิงโยวเยว่จากไป
แม้คนที่พูดจะเป็หวังเค่อ แต่ทุกคนกลับรู้สึกว่านี่ก็คือเจตนารมณ์ของตัวองค์หญิงโยวเยว่เอง
“ช้าก่อน เ้าเป็ใคร? ทำไมเ้าถึงได้จูงมือองค์หญิงโยวเยว่ ทั้งยังกอดนางอีกต่างหาก? เ้าเป็ใครกันแน่?” มู่หรงลวี่กวงหน้าหม่นลง
ทุกคนเองก็เพิ่งจะระลึกได้ จริงด้วย! เ้าเป็ชายอกสามศอกแต่ทำไมถึงได้มากอดองค์หญิงอย่างนี้? งั้นคำพูดเ้าก็เชื่อถือไม่ได้แล้วสิ? เ้าคือชายชู้ขององค์หญิงใช่ไหม? ในเมื่อองค์หญิงมีชู้อยู่ทั้งคน แล้วจะมาหลงรักมู่หรงลวี่กวงจนหัวปักหัวปำได้อย่างไร? เ้ากำลังปั่นหัวพวกเราเล่นกันอยู่ใช่ไหม?
“ข้าเหรอ? ข้าคือน้องสาวคนสนิทขององค์หญิง! องค์หญิงถูกพวกเ้าสร้างความอับอายจนขาดสติยั้งคิดไป เ้าละทิ้งองค์หญิงไปตบแต่งกับจางหลี่เอ๋อร์ แต่ทำไมถึงยังสองจิตสองใจอยู่อีก? บุรุษเหม็นโฉ่อย่างพวกเ้านี่แหละที่น่ารังเกียจที่สุด กินอยู่ในจาน แต่ตามองในหม้อ กากเดนสังคม พวกลวงโลก!” หวังเค่อจีบไม้จีบมือ จู่ๆ น้ำเสียงก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็หลังเท้า
น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของหวังเค่อทำให้ทุกคนต้องตัวสั่นในบัดดล ดวงตากลมกว้าง น้องสาวคนสนิท? บุรุษเหม็นโฉ่อย่างพวกเรา? ไหนจะท่าจีบไม้จีบมือตุ้งติ้งนั่น? อย่าบอกนะว่าเ้า เ้าก็คือ...พวกรักร่วมเพศน่ะ?
บรรดาแเื่ “…!”
มู่หรงลวี่กวง “…!”
องค์หญิงโยวเยว่ในอ้อมอกของหวังเค่อพอได้ฟังเสียงแต๋วในประโยคสุดท้ายของมันก็ต้องหัวเราะพรืดออกมาอย่างหัวร่องอหาย ยังดีที่ใบหน้าของนางหลบอยู่ในอ้อมอกของหวังเค่อ คนอื่นจึงไม่ได้สังเกตว่านางกำลังหัวเราะอยู่ แต่ไม่รู้ทำไมพอเห็นหวังเค่อแสร้งทำตัวตุ้งติ้งเป็พวกรักร่วมเพศเพื่อนางแล้วจู่ๆ นางก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าถึงเพียงนั้นอีก
การที่ถูกมู่หรงลวี่กวงหักหลังทำให้องค์หญิงโยวเยว่ตาสว่างเต็มตื่น ในขณะเดียวกันนางเองก็ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจถึงได้อุ่นวาบตอนที่หวังเค่อคุ้มครองนางไว้ในอ้อมอกอย่างนี้
น้องสาวคนสนิทขององค์หญิง? แม้ว่ามู่หรงลวี่กวงจะสะสางความคิดอ่านดีแล้ว แต่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ยังคงรู้สึกตงิดๆ ชอบกลอยู่ดี
“ไป พวกเราไปกัน! อย่าได้อยู่ในที่ที่ทำให้เราต้องเจ็บช้ำน้ำใจกันอีกต่อไปเลย!” หวังเค่อกระชับตัวองค์หญิงโยวเยว่ในอ้อมอกก่อนผละจากไป
มู่หรงลวี่กวง ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์และบรรดาแเื่ดูจะยังปะติดปะต่อเื่ราวกันไม่ได้ถึงกับไม่ได้ส่งคนเข้าไปขวาง แต่กลับมองดูหวังเค่อนำพาตัวองค์หญิงโยวเยว่เดินอาดๆ จากไปกันด้วยสายตาแปลกพิกลเช่นนั้นเอง
หวังเค่อลอบยินดีอยู่ภายในใจ แม่งเอ๊ย เกือบไปแล้วไหมล่ะ! นี่ล้วนต้องโทษไอ้ลูกตัวบัดซบจางเจิ้งเต้านั่นแท้ๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคาะระฆังอีก รีบไป รีบไป ก่อนที่พวกมันจะไหวตัวทันนี่แหละ รีบโกยกันก่อน
หวังเค่อและคณะส่งตัวเ้าสาวต่างก็ถอนตัวจากไปอย่างผึ่งผายด้วยประการฉะนี้…
“ช้าก่อน! ใครก็ห้ามไปไหนทั้งนั้น น้องชายข้าอยู่ที่ไหน?” จางหลี่เอ๋อร์ถลึงตาถาม
“น้องชายเ้า? จางเสินซวีน่ะรึ?” มู่หรงลวี่กวงเลิกคิ้ว
บรรดาแเื่เองก็ต้องเปลี่ยนสีหน้ากันทันที จริงด้วย! หากองค์หญิงโยวเยว่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่จางหลี่เอ๋อร์ งั้นจางเสินซวีที่นอนแบะอยู่บนพื้นก่อนหน้านี้ก็จะต้องไม่ใช่ตัวจริงด้วยเหมือนกัน!
ถ้างั้นแล้วจางเจิ้งเต้าตัวจริงเล่า? หรือว่า...?
ภาพของบุรุษอกสามศอกที่ถูกกลอสนี์ปะามารผ่าใส่จนไหม้เกรียมพลันผุดขึ้นมาในสมองของทุกคนทันที ชายคนนั้นอ้างว่าตนเองก็คือจางเสินซวี แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครยอมเชื่อมัน มันก็เลยถูกพรรคเทพหมาป่า์ใช้สายฟ้าผ่าเปรี้ยงจนต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ อย่าบอกนะว่ามันจะเป็ตัวจริง...?
“ไม่ต้องมาถามข้า เ้าไปถามศิษย์พรรคเทพหมาป่า์โน่น เป็พวกมันอุตริส่งสายฟ้าเข้าหาน้องชายของเ้ากันเอาเอง คนยังอยู่ในมือพวกมันอยู่เลย เื่นี้ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยทั้งนั้น!” หวังเค่อปัดความรับผิดชอบอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ รีบร้อนจะพาตัวองค์หญิงโยวเยว่ไปจากที่นี่
ซุนซงที่อยู่ด้านข้างหน้าดำทะมึนทันตาเห็น ดูเหมือน ดูเหมือนว่าคณะของหวังเค่อจะไม่ได้สร้างความาเ็ต่อจางเสินซวีจริงๆ นั่นแหละ ทั้งหมดล้วนเป็ฝีมือของพวกตนทั้งสิ้น พวกเ้าเป็ฝ่ายใส่ความให้ร้ายคนอื่น แต่ให้พวกเรามารับหม้อก้นดำแทน?
มู่หรงลวี่กวงยิ่งหดหู่อึมครึม แม่งเอ๊ย น้องเขยเกือบจะถูกคนของตัวเองฆ่าตายไปเสียแล้ว การแต่งงานในครั้งนี้ยังจะดำเนินต่อไปได้อีกหรือ?
“พวกเ้าจะไปไหนไม่ได้! ก่อนที่จะได้เห็นน้องชายข้า ใครก็ห้ามไปไหนทั้งนั้น พวกเ้าเองก็ด้วย!” จางหลี่เอ๋อร์เอ่ยอย่างโมโหโทโส
จางหลี่เอ๋อร์รั้งพวกหวังเค่อไว้อย่างวางอำนาจ หวังเค่อยิ่งหดหู่กว่าใคร แม่งเอ๊ย ข้ากำลังจะหนีรอดอยู่แล้วแท้ๆ แต่จางหลี่เอ๋อร์ผู้นี้กลับเรียกสายตาทุกคู่มาที่ข้าอีกซะงั้น แถมยังไม่ยอมปล่อยให้ข้าไป หรือที่เขาบอกกันว่าสตรียิ่งงามยิ่งขุดหลุมทำร้ายคนได้เหี้ยมโหดขึ้นเท่านั้นจะเป็ความจริง?
[1] รถคว่ำในภาษาจีนหมายถึง ล้มเหลว, พัง, บ้ง
