กูเฟยเยี่ยนล้มลงด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ ทว่าเทียนอู่ฮ่องเต้กลับส่งสายตาพิจารณาไปหาจวินฮั่นหยิ่นทันที
ในตอนแรกเทียนอู่ฮ่องเต้มีเพียงแค่ความสงสัย แต่บัดนี้เขามั่นใจแล้วว่าบุตรชายที่หลีกหนีราชสำนักและไม่ชื่นชอบยุทธภพได้แสดงละครมาโดยตลอด บุตรชายคนนี้ทำตัวหน้าไหว้หลังหลอกและมีเล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราวยิ่งนัก!
เขาพึมพำในใจ “การที่เ้าแปดไปตีสนิทกับกูเฟยเยี่ยนเป็เพราะ้าสอบถามอาการประชวรของเจิ้นแน่นอน เ้าแปดคนนี้กำลังวางแผนอะไรกัน? ”
จวินฮั่นหยิ่นก้มหน้าด้วยความหวาดหวั่นมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว เขาเคยสอบถามกูเฟยเยี่ยนถึงอาการประชวรของฟู่หวงจริงๆ เพียงแต่เขาไม่ทราบความลับระหว่างฟู่หวงกับกูเฟยเยี่ยนเลยแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งไม่ทราบด้วยว่าเื่นี้ทำให้ฟู่หวงถึงขั้นมีอาการวิตกกังวลไปแล้ว
เขาเพียงแค่คิดว่าฟู่หวงโกรธเพราะเขาเอาใบผีผาของกูเฟยเยี่ยนมาพูดโกหกและแย่งเอาความดีความชอบไป
เขาลอบคิดว่ารอให้โทสะของฟู่หวงลดลงแล้วค่อยหาโอกาสไปอธิบายและยอมรับผิดกับฟู่หวง ฟู่หวงคงจะไม่ถึงกับทำอะไรเขาเพราะเื่เล็กน้อยนี้ ในส่วนของคนชั้นต่ำอย่างกูเฟยเยี่ยนนั้น เขาจะต้องรีบง้างปากของนางให้เร็วที่สุด จากนั้นก็ปิดปากนางซะ!
ทันทีที่เทียนอู่ฮ่องเต้เสด็จกลับ ผู้คนภายในตำหนักก็หลบหนีออกไปด้วยความลนลาน
เฉิงอี้เฟยกำลังจะอุ้มกูเฟยเยี่ยนขึ้น แต่เซี่ยเสี่ยวหม่านก็ได้ให้นางข้าหลวงสองคนพุ่งเข้ามาจากกลุ่มคนด้านนอกแล้วะโเรียกเขา “ท่านแม่ทัพเฉิง ไม่จำเป็ต้องรบกวนท่าน นู๋ไฉจะจัดการเอง! ”
ทันทีที่เขาทราบว่าเตี้ยนเซี่ยปลอมตัวเข้ามาในพระราชวัง เขาก็รีบดึงหมางจ้งพุ่งตรงมาทันทีเพราะกลัวว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะทำเื่หุนหันพลันแล่นจนทำให้ฝ่าาเกิดความสงสัยอีกครั้ง
เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่ทราบว่าในขณะนี้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอยู่ที่ใด แต่เขาทราบว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจ้องมองกูเฟยเยี่ยนอยู่แน่นอน กูเฟยเยี่ยนได้รับคำเชิญให้เข้าไปในพระราชวัง เขาจึงได้ให้โอกาสเฉิงอี้เฟยในการรับส่งกูเฟยเยี่ยน ดังนั้นจึงไม่ได้เตรียมการไปรับไปส่ง ตอนนี้หากยังไม่รีบมารับนางกลับไป ์ทราบดีว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะลงโทษเขาอย่างไร
เฉิงอี้เฟยห้ามนางข้าหลวงอย่างอารมณ์ดี “เปิ่นเจียงจวินจะส่งนางกลับไปเอง ทางผ่านพอดี! ”
ท่าทีของเซี่ยเสี่ยวหม่านแข็งกร้าวมากขึ้น พลางเอ่ยว่า “ไม่จำเป็” ก่อนจะดึงกูเฟยเยี่ยนมาด้วยตนเอง
เฉิงอี้เฟยเกิดความประหลาดใจเพราะหลังจากที่ตระกูลฉียกเลิกสัญญาหมั้นหมายแล้ว เซี่ยเสี่ยวหม่านก็มีความกระตือรือร้นต่อเขา! ทว่าในตอนนี้เป็อะไรไปกัน?
เฉิงอี้เฟยไม่ได้ยืนกรานบังคับ แม้ว่าเขาจะทานยาที่กูเฟยเยี่ยนให้มาแล้วแต่กระเพาะอาหารก็ยังไม่สบายและเ็ปจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไปกล่าวลาจวินฮั่นหยิ่นแล้วรีบจากไป
ไม่ช้าตำหนักไท่จี๋ก็ฟื้นกลับสู่ความสงบเฉกเช่นก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าจวินจิ่วเฉินกับหมางจ้งออกไปนานแล้ว
เทียนอู่ฮ่องเต้เสด็จกลับมาที่ตำหนักบรรทมด้วยความโกรธที่ยังไม่สลายหายไป
เขาเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเ็า “หวายหนิงล่ะ? ”
“หนีออกนอกพระราชวังแล้วพ่ะย่ะค่ะ นู๋ไฉกลัวว่าองค์หญิงจะคิดสั้นจึงให้คนติดตามไป” เหมยกงกงลังเลครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถาม “ฝ่าา จะให้นู๋ไฉไปที่ตระกูลฉีเพื่ออธิบายหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ”
เทียนอู่ฮ่องเต้จ้องมองเขาแวบหนึ่ง เขาจึงไม่กล้าพูดต่อ
สิ่งที่เทียนอู่ฮ่องเต้ทรงกังวลมากยิ่งกว่าคือจวินฮั่นหยิ่น “จับตาดูเ้าแปดไว้ ตรวจสอบด้วยว่าหลายปีมานี้เขาทำอะไรอยู่ด้านนอกและคบค้าสมาคมกับคนแบบใด! ”
เหมยกงกงพยักหน้าพลางเกลี้ยกล่อม “ฝ่าาทรงทำใจให้สบายเถอะพ่ะย่ะค่ะ สุขภาพของพระองค์เป็เื่สำคัญ ตอนนี้ดึกมากแล้ว นู๋ไฉจะคอยรับใช้พระองค์จนบรรทมลง”
เทียนอู่ฮ่องเต้ที่ใกล้จะบรรทมแล้วทว่าก็เอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง “กูเฟยเยี่ยนมาแล้ว คืนนี้จิ้งหวางไม่ได้มาจริงหรือ? ”
งานเลี้ยงภายในพระราชวังที่มีความสำคัญล้วนต้องส่งบัตรเชิญไปให้จิ้งหวาง ทว่าหากฝ่าาไม่ได้มาเป็ประธานของงานเลี้ยงด้วยตนเองโดยปกติแล้วจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะไม่ปรากฏตัวขึ้น ทุกคนทราบว่าเขาไม่ชอบความคึกคัก
ที่เทียนอู่ฮ่องเต้เอ่ยถามเช่นนี้เป็เพราะเขายังคงไม่วางใจต่อความสัมพันธ์ระหว่างจิ้งหวางกับกูเฟยเยี่ยน
เหมยกงกงตอบไปตามความจริง “ไม่ได้เสด็จมาพ่ะย่ะค่ะ มีเพียงเซี่ยเสี่ยวหม่านที่มา”
ในที่สุดเทียนอู่ฮ่องเต้ก็มีความพอใจเล็กน้อยแล้ว ดังนั้นเขาจึงทานยาแล้วล้มตัวนอนลง
ภายในพระราชวังสงบลงแล้ว แต่ทางด้านของตระกูลฉีที่ได้รับข่าวเมื่อสักครู่นี้กำลังประสบพายุโหมกระหน่ำอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย
แม่ทัพใหญ่ฉีโกรธเป็ฟืนเป็ไฟและไม่อนุญาตให้ใครก็ตามออกไปหาองค์หญิงหวายหนิงเพราะเขาจะไปหาด้วยตนเอง เขาจะไปฆ่าองค์หญิงหวายหนิง
สวีฟูเหรินกับเหล่าอนุภรรยาพยายามจะห้ามอย่างสุดชีวิตแต่ก็ห้ามไม่อยู่ สุดท้ายสวีฟูเหรินบีบบังคับว่าจะฆ่าตัวตาย แม่ทัพใหญ่ฉีจึงสงบสติอารมณ์ลง
“รังแกเกินไปแล้ว! รังแกเกินไปแล้ว! ”
“คิดว่าตระกูลฉีของข้าเป็อะไร? จะให้พวกเราตระกูลฉีวางศักดิ์ศรีไว้ที่ไหน? วันข้างหน้าจะให้อวี้เอ๋อร์ปฏิบัติตัวอย่างไร? ”
…..
สวีฟูเหรินโกรธจนร้องไห้ออกมาแต่ก็ยังจำเป็ต้องพูดเกลี้ยกล่อม “ฟูจวิน ฝ่าาเพียงแค่ลงโทษองค์ชายใหญ่กับอวิ้นกุ้ยเฟย พระองค์ไม่ได้ตัดสินโทษ! ฝ่าายังพูดอีกว่าไม่อนุญาตให้ปล่อยข่าวลือ เื่นี้จริงเท็จเพียงใดก็เป็แค่ความเข้าใจผิด! ฟูจวิน ท่านคิดให้ดี หากพวกเราสืบหาสาเหตุต่อไปจะไม่ทำให้เื่นี้กลายเป็ความจริงหรือ? เมื่อถึงเวลานั้นคนทั้งโลกก็จะหัวเราะเยาะพวกเรามากขึ้นไปอีก! ”
แน่นอนว่าแม่ทัพใหญ่ฉีเข้าใจหลักการข้อนี้ เพียงแต่เขาอัดอั้นตันใจ เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าหากบุตรชายสุดที่รักของตนเองได้ยินเื่นี้เข้าแล้วจะมีปฏิกิริยาตอบสนองเยี่ยงไร
สวีฟูเหรินสะอึกสะอื้นแล้วเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง “ท่านแม่ทัพ ต่อให้หวายหนิงเป็คนอย่างไรก็ยังเป็เืเนื้อเชื้อไขของฝ่าา ความโกรธนี้พวกเราไม่ทนก็ต้องทน! แทนที่จะหาเื่ฝ่าา พวกเราควรถือโอกาสนี้หาอนุภรรยาให้กับอวี้เอ๋อร์ อวี้เอ๋อร์ไม่มีทางแตะต้องหวางหนิงแล้ว พวกเรามีอวี้เอ๋อร์เป็ทายาทเพียงคนเดียว ดังนั้นพวกเราต้องคิดถึงวันข้างหน้า! ”
ทันทีที่สวีฟูเหรินเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาก็ทำให้แม่ทัพใหญ่ฉีสงบสติทันที เขามองสวีฟูเหรินเป็เวลานานก่อนจะพึมพำออกมา “อนุภรรยา? ด้านนอกเมืองจิ้นหยางมีผู้คนมากมายที่อยากจะเป็ลูกสะใภ้ตระกูลฉี! เหอะ ราชวงศ์ตระกูลจวินรังแกข้าขนาดนี้ อย่าโทษว่าข้าไร้มนุษยธรรมก็แล้วกัน! ”
แน่นอนว่าสวีฟูเหรินทราบว่าฟูจวินของตนเองมีใจที่จะก่อฏอย่างลับๆ ตั้งนานแล้ว นางจึงเกลี้ยกล่อมด้วยความเครียด “ระวังกำแพงมีหูประตูมีช่อง! หากไม่อดทนต่อเื่เล็กน้อยมันก็จะส่งผลเสียต่อการใหญ่ได้! ”
แม่ทัพใหญ่ฉีไม่ได้ไปตามหาองค์หญิงหวายหนิงแล้ว และไม่อนุญาตให้ใครออกไปตามหาทั้งนั้น เขาเขียนจดหมายถึงฉีอวี้เป็การส่วนตัวแล้วให้คนรีบนำส่งออกไป
แน่นอนว่าพละกำลังของเขาต่อต้านราชวงศ์จวินไม่ได้ ดังนั้นเขาจะต้องร่วมมือจากแรงภายนอก ฉีอวี้ไปที่ชายแดนตะวันออก ระหว่างทางนี้สามารถตามหาคนที่เหมาะสมได้
แสงไฟในตระกูลฉีค่อยๆ ดับลง ทุกอย่างกลับสู่ความปกติ
ค่ำคืนมืดมิด พระจันทร์และดวงดาวเงียบสงบ
รถม้าหยุดอยู่หน้าประตูจิ้งหวางฝู่ เซี่ยเสี่ยวหม่านกำลังจะให้คนยกกูเฟยเยี่ยนลงมา แต่กูเฟยเยี่ยนกลับเด้งขึ้นมานั่งอย่างกะทันหันเฉกเช่นครั้งที่แล้ว
“อ้าก…”
เซี่ยเสี่ยวหม่านใจนล้มลงจากรถม้า
กูเฟยเยี่ยนไม่สนใจอะไรมากนัก นางะโลงจากรถม้าแล้วรีบวิ่งเข้าไปในจวน สาเหตุที่นางเป็เช่นนี้เพราะปวดปัสสาวะไม่ไหวแล้ว!
หลังจากที่นางจัดการเรียบร้อยแล้วก็ถอนหายใจออกมา
เซี่ยเสี่ยวหม่านตกตะลึงกับความสามารถในการดื่มสุราของนางมาก เขาไล่ตามไปแล้วเอ่ยถาม “กูเฟยเยี่ยน เ้า เ้า เ้า ทำไมความสามารถในการดื่มสุราของเ้าถึงดีขนาดนี้? เ้ากินยาอะไรลงไปใช่หรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนยิ้มเยาะแล้วตอบไป “เซี่ยเสี่ยวหม่าน พวกเราทำการค้าขายดีหรือไม่? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่เข้าใจ
กูเฟยเยี่ยนกระซิบแ่เบา “ให้ข้ายืมบ่อแช่ยาสมุนไพรของเตี้ยนเซี่ยแล้วข้าจะบอกเ้าว่าเกิดอะไรขึ้น เตี้ยนเซี่ยไม่อยู่ หากเ้าไม่พูดก็ไม่มีใครรู้”
เซี่ยเสี่ยวหม่านทำหน้าบูดบึ้ง “ไม่มีทาง! ”
กูเฟยเยี่ยนไม่พูดจาไร้สาระแล้วหันเดินไปทางิเย่วจวี ในตอนนี้นางเปียกโชกไปทั้งตัว ไหนจะดื่มสุราเย็นๆ ไปมากมายขนาดนั้นอีก ดังนั้นนางจึงต้องแช่ยาสมุนไพรเพื่อขับไล่ความเย็นและขับไล่พิษสุรา เพราะไม่อย่างนั้นจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามวันถึงจะฟื้นฟูกลับมาได้
กูเฟยเยี่ยนคิดจะต้มน้ำด้วยตนเอง ทว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านยังนับได้ว่ามีจิตใจรู้ผิดชอบชั่วดี เขาต้มน้ำร้อนถังใหญ่มาให้นางแล้วทำหน้าบูดบึ้งเดินออกไป
กูเฟยเยี่ยนเพิ่มเติมสมุนไพรที่ขับไล่ความเย็นกับสมุนไพรที่ช่วยแก้เมาลงไปเล็กน้อย จากนั้นจึงแช่ตัวอยู่ในนั้นด้วยความสบายกายสบายใจ นางแช่ไปแช่มาก็ผล็อยหลับไป ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด ทันทีที่นางลืมตาขึ้นมาก็พบกับหน้ากากสีเงินที่อยู่ตรงหน้า นางมองแล้วคิดว่าตนเองกำลังฝันเลยหลับตาลงอีกครั้งด้วยสติที่พร่าเลือน
ทว่าผ่านไปไม่นานนางก็เบิกตากว้างทันที…