อดใจไม่ไหว
เสิ่นอันอันเปิดสมุดรายชื่อและกดหมายเลขโทรศัพท์ของเจียงอี้เฉิน
ปิดเครื่อง...
เธอวางสายและโทรหาเบอร์ติดต่อห้องทำงานของเขา
ครั้งนี้ติดต่อได้แล้ว แต่คนที่รับสายคือเลขาฯ ของเขา “สวัสดีค่ะ บริษัทป๋อถงมีเดีย ดิฉันเรียนสายอยู่กับ...”
“ฉันเสิ่นอันอันค่ะ” เธอพูดขัดจังหวะ “ให้ประธานเจียงของพวกคุณมารับสายฉันหน่อย”
“...”
อีกฝ่ายเงียบไปประมาณครึ่งนาที แล้วตอบกลับด้วยความลำบากใจเล็กน้อย “ขอโทษด้วยค่ะคุณนาย ประธานเจียงกำลังเดินทางไปทำธุระที่ญี่ปุ่น ตอนนี้น่าจะอยู่บนเครื่องบินแล้วค่ะ”
เสิ่นอันอันนั่งอยู่ในรถ ใช้นิ้วเคาะพวงมาลัย “เขาไปคนเดียวเหรอ?”
เลขาฯ หยุดพูด
เธอเดาคำตอบได้จากความเงียบของอีกฝ่าย “ไปกับใครเหรอคะ?”
“ประธานเจียง แล้วก็...แล้วก็ผู้จัดการสวี่ค่ะ”
“สวี่หรูอิน” ผู้จัดการทั่วไปของป๋อถงมีเดียและคู่นอนคนสนิทของเจียงอี้เฉิน
เสิ่นอันอันหลับตาและพูดเสียงเบาๆ ว่า “โอเคค่ะ ฉันทราบแล้ว”
เมื่อวางสายเรียบร้อย เธอก็รู้สึกสับสนอยู่พักหนึ่ง ความคิดของเธอปั่นป่วนและยุ่งเหยิง
หลังแต่งงาน หัวข้อสนทนาเกี่ยวกับเจียงอี้เฉินนั้นมีมาไม่เคยหยุด ทุกคนในเมืองอวิ๋นเฉิงต่างก็มองเธอเป็เื่น่าขัน
การแต่งงานที่ผิดพลาดนี้เป็เื่สนุกที่คนนอกมักพูดถึงหลังอาหารค่ำ พวกเขาหัวเราะเยาะว่าเธอไร้ประโยชน์ แค่สามีคนเดียวยังดูแลไม่ได้
เสิ่นอันอันเหยียดมุมปาก เผยรอยยิ้มเสียดสี
จะให้เธอดูแลอย่างไรกันเล่า?
...
สามวันผ่านไปในพริบตา
เสิ่นอันอันมาถึงบริษัทก่อนแปดโมงตรง วันนี้เธอมีประชุมตอนเก้าโมง จึงต้องเตรียมตัวล่วงหน้า
หลังเตรียมเอกสารเสร็จ ตอนแปดโมงสี่สิบนาทีเธอก็เห็นหลี่ม่าน เลขาฯ ของตัวเองรีบพุ่งเข้ามา
หลี่ม่านแสดงท่าทีกังวล “ประธานเสิ่น...”
เมื่อเห็นเช่นนี้ เสิ่นอันอันก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น?”
“ประ...ประธานเจียง...”
“เสิ่นอันอัน!” ก่อนที่หลี่ม่านจะพูดจบก็มีเสียงคำรามดังขัดจังหวะ
เสิ่นอันอันเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังหลี่ม่าน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธราวกับมีคนสวมหมวกเขียว[1]ให้เขา
ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็เ็า “เจียงอี้เฉิน ที่นี่คือที่ทำงานของฉัน ไม่ใช่ที่ให้คุณมาวุ่นวาย”
เจียงอี้เฉินยกแขนชี้นิ้วไปที่เธอ เขาระงับความโกรธก่อนจะพูดว่า “เธอไม่คิดจะอธิบายเื่นี้หน่อยหรือไง?”
“อธิบายอะไร?”
น่าตลกนัก นี่เธอควรอธิบายอะไรให้เขาฟังงั้นเหรอ?
สองปีที่เขานอกใจ เธอไม่เคยขอฟังคำแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น แต่เขากลับเดินเข้ามาพูดแบบนี้กับเธอ
เจียงอี้เฉินฟาดหนังสือพิมพ์ลงต่อหน้าเธอ
เสิ่นอันอันมองตามก็พบว่าเป็หนังสือพิมพ์ข่าวบันเทิง
ตัวอักษรสีดำขนาดใหญ่และหนาพาดบนหัวข่าวอย่างโดดเด่นและชัดเจน ประธานสาวของจิ่งเซิ่งกรุ๊ป นัดพบหนุ่มลึกลับกลางดึก แถมยังเข้าโรงแรมหรูห้าดาวอีกด้วย
ในรูปเห็นหน้าของเธออย่างชัดเจน ส่วนชายคนดังกล่าวเห็นเพียงด้านหลังของเขาเท่านั้น
เจียงอี้เฉินถามด้วยใบหน้าตึงเครียด “ฉันไปที่อื่นไม่นาน เธอก็ทนไม่ไหวจนไปเปิดห้องกับผู้ชายแล้วเหรอ?”
เสิ่นอันอันขยับริมฝีปากและพยักหน้าช้าๆ ท่ามกลางสีหน้าโกรธจัด “ใช่”
เจียงอี้เฉิน “...”
หน้าอกของเจียงอี้เฉินกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังโกรธจนแทบหายใจไม่ออก
ใช่?
ใช่งั้นเหรอ?
เขาคิดว่าอย่างน้อยเธอจะอธิบายว่ามันเป็เื่เข้าใจผิด แต่เธอกลับพยักหน้าแล้วตอบว่าใช่?
“เจียงอี้เฉิน ก็อย่างที่คุณเห็น” เสิ่นอันอันพับหนังสือพิมพ์แล้วเก็บในลิ้นชักโต๊ะทำงาน “รูปนี้ถ่ายเมื่อสามคืนก่อน ฉันดื่มมากไปหน่อย เลยเปิดโรงแรมกับผู้ชายในรูป มีอะไรที่คุณอยากรู้อีกไหม?”
........................................................................................................................................
จงใจเข้าใกล้
เจียงอี้เฉินรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็บ้าเพราะถูกยั่วโมโห
“ได้! ได้!” เขาพูดพร้อมชี้นิ้ว เส้นเืบนหน้าผากปูดนูน “เสิ่นอันอัน ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
หลังพูดจบเขาก็หันหลัง เดินก้าวยาวๆ กระแทกประตูเสียงดังออกจากห้องทำงานไป
หลี่ม่านใกับเื่นี้มาก เธอจึงถามอย่างค่อยๆ ว่า “ประธานเสิ่นคะ งั้นเราเลื่อนการประชุม…”
“ไม่ต้องเลื่อนค่ะ” เสิ่นอันอันยืนขึ้น “แจ้งพวกเขาให้ไปพร้อมกันที่ห้องประชุมได้เลยค่ะ”
“ค่ะ”
...
หลังการประชุมเสร็จสิ้น เสิ่นอันอันก็พบว่ามีสายที่ไม่ได้รับอยู่สองสาย
ทั้งหมดเป็สายจากเสิ่นหวยชวน
เมื่อเธอโทรกลับ อีกฝ่ายก็รับสายอย่างรวดเร็ว เสียงเอื่อยเฉื่อยลอยเข้ามาในหูของเธอทันที “โทรไปก็ไม่รับสาย ทำอะไรอยู่?”
“เพิ่งประชุมเสร็จค่ะ” เสียงของเสิ่นอันอันไม่สามารถซ่อนความเหนื่อยล้าได้ “พี่ชายมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ไม่มีอะไร พี่เพิ่งเห็นข่าว เลยอยากโทรมาถามว่าน้องเป็อะไรหรือเปล่า?”
เธอกัดริมฝีปากล่าง “หนูจัดการเองค่ะ ไม่ต้องห่วง”
เธอไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ไม่อาจหวังให้คนอื่นคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดได้
เสิ่นหวยชวนได้ยินดังนั้นก็ไม่คิดจะเซ้าซี้ “ถ้าอย่างนั้นน้องก็จัดการเถอะ มีปัญหาอะไรก็มาหาพี่”
“ได้ค่ะ”
หลังจากวางสาย เธอก็เงยหน้าขึ้น บังคับให้ประกายในดวงตากลับมา
..
เนื้อหาข่าวในหนังสือพิมพ์ค่อนข้างรบกวนจิตใจ และทำให้เสิ่นอันอันเหม่อลอยทั้งวัน
เมื่อประสิทธิภาพในการทำงานของเธอลดลง เธอจึงทำงานล่วงเวลาอยู่นาน จนสองทุ่มกว่าถึงจะยอมออกจากบริษัท
ทันทีที่เธอขับรถออกจากประตูบริษัทก็เห็นรถเบนท์ลีย์คันงามจอดอยู่
ทะเบียนรถคือเลขหกเรียงกัน เสิ่นอันอันคุ้นมากว่าเคยเห็นรถคันนี้ที่ไหนสักแห่ง
รถเบนท์ลีย์จอดขวางทางรถเธออยู่ เธอขับออกไปไม่ได้จึงบีบแตรเรียก
วินาทีถัดมา อีกฝ่ายก็ลดกระจกรถลง
ฮั่วเฉิงโจวจับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว สายตาเขามองไปยังด้านข้างของเธอด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“ศาสตราจารย์ฮั่ว?” เสิ่นอันอันประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็เผยรอยยิ้ม “ไม่คิดเลยว่าจะเป็คุณ”
“ผมก็ไม่คิดว่าจะเป็คุณหนูเสิ่นครับ” เขาเลิกคิ้วขึ้นพร้อมรอยยิ้มจางๆ
เธอจ้องมองใบหน้าของเขา ก่อนจะเกิดความรู้สึกยินดีบางอย่าง
เธอไม่สามารถหาคำมาอธิบายชายตรงหน้าได้ เขาสง่างามดุจดอกไม้บนูเาสูงที่มองเห็นได้แค่ไกลๆ
เจียงอี้เฉินก็หน้าตาดี แต่หน้าตาดีของเขานั้นคือความเย้ายั่ว น่าหลงใหล เป็เื่ง่ายที่ความปรารถนาจะจุดติดเมื่อได้มองเขา แต่คนตรงหน้านี้กลับต่างออกไป ไม่มีความคิดไหนเลยที่คิดชั่วร้ายกับเขา มีเพียงความรู้สึกว่าเอื้อมไม่ถึงก็เท่านั้น
เสิ่นอันอันถามอย่างงุนงง “ทำไมศาสตราจารย์ฮั่วถึงอยู่ที่นี่ล่ะคะ?”
ที่ทำงานของเธออยู่ไกลจากอวิ๋นต้า เมื่อเห็นเขาอยู่แถวนี้จึงรู้สึกประหลาดใจ
ฮั่วเฉิงโจวดันแว่นตาขอบทองของตน พลางส่งยิ้มที่สง่างามและสงบนิ่งไปให้ “ทางผ่านน่ะครับ”
เสิ่นอันอันไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไรนัก
สำนักงานใหญ่ของจิ่งเซิ่งกรุ๊ปอยู่ห่างจากอวิ๋นต้าอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง เขาจะผ่านมาทางนี้จริงเหรอ?
แต่ศาสตราจารย์ฮั่วดูไม่เป็อันตรายและไม่เหมือนคนพูดโกหก เธอจึงเก็บความสงสัยลงไป
ฮั่วเฉิงโจวจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านจิตวิทยา เขาเป็คนฉลาดชั้นยอด แน่นอนว่าย่อมมองสายตาเคลือบแคลงใจเพียงครู่เดียวของเธอออก
เขาเลยพูดเสริมว่า “ผมได้ยินจากเพื่อนว่าแถวนี้มีร้านอาหารรสชาติดี วันนี้เพิ่งจะมีเวลาว่างก็เลยอยากมาลองทานดูน่ะครับ”
เสิ่นอันอันไม่สงสัยอะไรอีกต่อไป เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งมีร้านอาหารญี่ปุ่นมาเปิดใหม่บนถนนกัวอวี่ ซึ่งอยู่ใกล้บริษัทเธอมาก
แม้จะไม่ใช่เส้นทางเดียวกันกับอวิ๋นต้า แต่ก็สามารถเดินทางผ่านได้
[1] ภรรยาคบชู้หรือนอกใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้