ที่ทวีปจันทราขาว อันเป็ทวีประดับสูงที่มีสำนักงานใหญ่ของหอการค้าจันทราตั้งเอาไว้ บรรยากาศที่บริเวณหน้าทางเข้าเต็มไปด้วยความตึงเครียด ยามที่ประจำการเฝ้าดูแลหอการค้าจันทราหลายคนมองไปยังชายสองคนที่เดินเข้ามาด้วยท่าทางเหนื่อยล้า บนหลังของพวกเขาคือร่างของนายน้อยหลี่จวิ้น และศิษย์ของผู้นำสูงสุดแห่งหอการค้าจันทราอีก 2 คนที่หมดสติอยู่ ทุกคนต่างใและพวกเขาไม่แน่ใจว่าชายตรงหน้าสองคนนี้เป็ใครกัน
ทันทีที่เหล่ายามััได้ถึงพลังอันแปลกประหลาดจากสองชายตรงหน้า พวกเขาก็ปลดปล่อยพลังอันทรงพลังระดับนักบุญออกมาเพื่อกดดันและข่มเหงทั้งสองคน แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ คอของยามเ่าั้แต่ละคนกลับมีบางสิ่งแทงทะลุออกมาเืสาดกระจายเต็มพื้นไปหมด และสิ่งที่พุ่งทะลุคอของยามเ่าั้คือกระดูกของพวกเขาเอง และกะโหลกของยามเ่าั้แหลกละเอียดและบิดเบี้ยวอย่างน่าสยดสยอง
ไป๋กู่หวังมองไปที่ยามเ่าั้ที่ล้มลงและเอ่ยด้วยเสียงที่เรียบเฉย “เป็แค่สุนัขรับใช้ กล้าเห่าใส่ข้าอย่างงั้นรึ?” แต่ยังไม่ทันที่ไป๋กู่หวังจะได้พูดต่อ แรงกดดันมหาศาลระดับจักรพรรดินักบุญก็พุ่งใส่พวกเขาทันที
“พวกเ้าปล่อยให้ลูกชายของข้าเป็เช่นนี้ได้อย่างไรกัน!” เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของหญิงสาวผู้หนึ่งดังขึ้น ขณะร่างของนางปรากฏบนอากาศในชุดคลุมสีขาว นางคือซิ่วหนิง มารดาของหลี่จวิ้น ใบหน้านางเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและความโกรธเท่านั้น
หลิงเสอสูดลมหายใจและเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใส่ใจ “เราถูกว่าจ้างให้ไปปกป้องลูกชายของเ้า แต่เมื่อพวกเราไปถึงพวกเราก็พบว่าเขาอยู่ในสภาพนี้แล้ว…”
ยังไม่ทันที่หลิงเสอจะพูดจบ พลังิญญาอันมหาศาลพุ่งเข้าใส่หลิงเสออย่างรวดเร็ว ส่งร่างของหลิงเสอบินกระแทกทะลุอาคารหลายหลังจนร่างของหลิงเสอกระเด็นไปจนสุดปลายเมือง ซิ่วหนิงจ้องไปยังร่างของไป๋กู่หวังอย่างเ็าและพูดขึ้น
“ข้าว่าจ้างพวกเ้าในราคามหาศาลเพื่อให้ปกป้องลูกชายของข้า และนี่หรือผลลัพธ์ที่ข้า…”
ไป๋กู่หวังไม่รอให้นางพูดจบ เขาสร้างกระดูกสีเขียวออกจากมือและ กระดูกสีเขียวอันนั้นมันได้พุ่งออกจากมือของไป๋กู่หวังตรงไปยังซิ่วหนิงทันที ซิ่วหนิงยกมือขึ้นมาป้องกันอย่างรวดเร็ว กำแพงพลังิญญาถูกสร้างขึ้น แต่กระดูกสีเขียวนั้นกลับทะลุผ่านเกราะิญญาของนางอย่างง่ายดาย ทะลุมือของนางจนเืกระเซ็น
แต่ทว่าเมื่อการโจมตีใกล้จุดตายของซิ่วหนิง นางก็สามารถหลบได้อย่างง่ายดาย ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเคียดแค้นที่ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป เมื่อเห็นสภาพร่างกายของลูกชายของนาง นางเรียกดาบออกมาจากแหวนมิติและตั้งท่าเตรียมพุ่งไปโจมตีไป๋กู่หวังที่ยืนอยู่ตรงหน้านางทันที
ทันใดนั้น งูสีขาวนับหมื่นตัวได้พุ่งตรงเข้าใส่นางอย่างรวดเร็ว แต่ว่าคลื่นพลังจากผู้คนมากมายกลับยิงใส่พวกมันจนงูเ่าั้สลายหายไปทันที มันคือผู้นำอีกห้าคนของหอการค้าจันทราปรากฏตัวขึ้นรอบซิ่วหนิงด้วยท่าทางที่หยิ่งยโสและพร้อมที่จะต่อสู้แล้ว ผู้นำเหล่านี้ล้วนเป็ผู้ทรงอำนาจของหอการค้าจันทรา โดยที่แต่ละคนมีการบ่มเพาะระดับกษัตริย์นักบุญระดับปลายทั้งหมด
ทันใดนั้น อดีตผู้นำคนก่อนของตำแหน่งที่ 2 และ 5 ซึ่งเคยเกษียณไปแล้วกลับมาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และตำแหน่งผู้นำของหอการค้าจันทราแห่งนี้จะสืบทอดผ่านทายาทเพียงเท่านั้น ผู้นำคนที่ 2 และ 5 พวกเขาทำความเคารพซิ่วหนิงพร้อมกับพูดว่า “ข้าจะช่วยท่านอีกแรง ท่านผู้นำสูงสุด” แต่ในวินาทีนั้นเอง หัวของพวกเขากลับหลุดจากร่างทันทีและตกลงสู่พื้นทันที ท่ามกลางเสียงกรีดร้องใของผู้คนรอบข้าง!
ไป๋กู่หวังที่พึงตัดหัวผู้นำคนที่ 2 และ 5 ได้พูดขึ้น “ข้าเองก็แข็งแกร่งเหมือนกันนี้น่า แค่ว่าข้ารอบก่อนไปเจอตัวอะไรไม่รู้ก็เท่านั้นเอง”
ซิ่วหนิงใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธก่อนจะะเิพลังออกมา คลื่นพลังดาบฟาดฟันใส่ไป๋กู่หวังอย่างเต็มแรง ร่างของไป๋กู่หวังถูกแรงฟันนั้นทำให้ขาดเป็สองท่อน แต่ทันใดนั้นเอง เสียงของหลิงเสอก็ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย
“พวกเราไม่เห็นจำเป็ต้องสู้กันให้วุ่นวายแบบนี้เลย ว่าไหม?”
ซิ่วหนิงหันไปมองยังที่มาของเสียงทันทีและใบหน้าของนางตกตะลึงเมื่อเห็นว่าหลิงเสอกำลังขย้ำคอของผู้นำคนที่ 3 และคนที่ 7 อยู่พวกเขาทั้ง 2 ไร้ทางต่อต้านใดๆ พร้อมดวงตาของพวกเขาเริ่มปิดลงอย่างช้า ๆ ร่างไร้ิญญาของทั้งคู่ถูกหลิงเสอโยนทิ้งลงพื้นอย่างไร้เยื่อใย
ซิ่วหนิงกัดฟันจนฟันนางแทบแตก นางรู้สึกโกรธจนแทบจะะเิมันออกมา ความโกรธที่พลุ่งพล่านในใจนั้นรุนแรงยิ่งขึ้น เพราะสิ่งที่นาง้าคือให้ลูกชายของนางกลับมาปลอดภัยแต่มันกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง หลี่จวิ้นเต็มไปด้วยาแและอาการาเ็สาหัส และเงินที่นางใช้ว่าจ้างคนในสภาเทพกลับถูกใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์
“ใครเป็คนทำร้ายลูกชายข้ากัน!” ซิ่วหนิงะโถามออกมา น้ำเสียงของนางสั่นเครือไปด้วยความโกรธเคืองและความเ็ป
หลิงเสอกล่าวด้วยท่าทางที่ไม่แยแสว่า “ราชวงศ์เพลิง์เป็คนทำนะ...แต่จะอย่างไงก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้ส่งค่าจ้างอีกครึ่งที่เหลือมาซะ แล้วเราจะจากไปทันที”
“ค่าจ้างงั้นหรือ?” ซิ่วหนิงกล่าวด้วยเสียงที่เ็า “งานที่เ้าได้รับก็ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ กลับจะมาเอาค่าจ้างอีกงั้นเหรอ เ้านี่มันช่างไร้ยางอาย! แล้วเ้าคิดว่าข้าจะเชื่อจริงๆ อย่างงั้นเหรอว่ากองกำลังชั้นต่ำอย่างราชวงศ์เพลิง์จะสามารถทำอะไรลูกชายข้าได้นะ เ้าช่วยสร้างเื่โกหกให้มันดูน่าเชื่อถือกว่านี้ไม่ได้รึไงกัน”
หลิงเสอยิ้มมุมปาก “ข้าเองก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน ช่างมันเถอะเราออกนอกเื่อีกแล้ว สรุปว่าเ้าจะจ่ายหรือไม่จ่ายกัน?” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความท้าทาย
“ได้สิ...ข้าจะ...!” ซิ่วหนิงตอบก่อนที่ร่างของนางจะพุ่งไปหาหลี่จวิ้นในพริบตาเดียว หวังจะช่วยชีวิตลูกชายที่ได้รับาเ็อย่างหนัก แต่หลิงเสอก็ไม่ยอมปล่อยให้เป็เช่นนั้น เขาเร่งพุ่งตามนางไปพร้อมเปลี่ยนร่างเป็งูขาวเพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ ซิ่วหนิงมีความได้เปรียบด้านความเร็วเพราะการบ่มเพาะของนางอยู่ในระดับจักรพรรดินักบุญระดับที่ 1 แต่หลิงเสอเป็เพียงกษัตริย์นักบุญระดับ 9 เท่านั้น หลิงเสอจึงพยายามโจมตีนางเป็่ๆ เพื่อชะลอความเร็วของนาง
ขณะเดียวกัน ไป๋กู่หวังที่มาจากไหนก็ไม่รู้ก็ได้ยกดาบกระดูกขึ้นโจมตีใส่ผู้นำหอการค้าจันทราที่พยายามจะโจมตีหลิงเสอทันที ดาบกระดูกของไป๋กู่หวังแทงทะลุร่างของพวกเขาอย่างเยือกเย็น แต่พวกผู้นำหอการค้าจันทราไม่ยอมแพ้ พวกเขาตอบโต้กลับด้วยพลังทั้งหมดที่มี ไป๋กู่หวังกระเด็นออกไปทันที
“เ้ามันยังไม่ตายอีกหรือ เ้าควรจะถูกท่านซิ่วหนิงสังหารไปแล้วสิ!” ผู้นำลำดับที่ 1 คำรามออกมาอย่างสิ้นหวัง
“พวกเ้าประเมินข้าต่ำเกินไป” ไป๋กู่หวังตอบเสียงเ็า ดวงตาเต็มไปด้วยความโเี้ และพุ่งไปโจมตีคนที่เหลืออีกครั้ง
ในขณะที่ซิ่วหนิงและหลิงเสอใกล้จะถึงตัวหลี่จวิ้นเต็มที มือทั้งสองของพวกเขาเอื้อมไปหาหลี่จวิ้น พร้อมจะคว้าตัวเขาได้แล้ว ทันใดนั้นเอง ร่างของหลี่จวิ้นก็เกิดแสงวาบสว่างขึ้นอย่างรุนแรง!
ตูม!