อย่างไรก็ตามฉินเฟิงไม่ปล่อย เขาอยากจะช่วยสวี่รั่วโหรวขจัดนิสัยอ่อนแอทิ้งไปให้ไวที่สุด
เพื่อที่เขาจะได้รับแต้มสำราญ3,000แต้มและนำไปซื้อวิชาดาบวายุฉินเฟิงอยากจะได้วิชานี้อย่างมากเพื่อที่จะสามารถฆ่าคนจากระยะไกลได้ง่ายๆ
“แต่ฉันชอบ” ตอนนี้ มือของฉินเฟิงได้ไต่พล่านไปทั่วขาอ่อนของสวี่รั่วโหรว
สวี่รั่วโหรวกลัวมากจนร่างเล็กๆของเธอเริ่มสั่นเทา หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอกัดฟันและพูดว่า“งะ...งั้นอย่าบีบได้ไหม? มันเจ็บนิดหน่อย”
ฉินเฟิงหน้ามืดจนเกือบจะชนต้นไม้ตอนนี้เขารู้แล้วว่าภารกิจนี้ยากเย็นแค่ไหน หญิงสาวคนนี้อ่อนโยนและขี้อายเกินไป
ในฐานะที่เกิดและโตที่นี่นายน้อยเ้าสำราญอันดับหนึ่งแห่งเมืองเว่ยเฉิงฉินเฟิงรู้เกือบจะทุกถนนเหมือนกับหลังมือห้างสรรพสินค้าว่อเจียอยู่ห่างจากตึกหวงเจียประมาณ 10 กิโลเมตรแต่เพราะเขาใช้ทางลัดหลายทาง ทำให้เขามาถึงไม่เกิน 10 นาที
หลังจากลงจากจักรยานสวี่รั่วโหรวแตะหน้าอกของเธอพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอกแต่เมื่อคิดถึงความจริงที่ว่าขากลับเธอต้องขึ้นจักรยานของฉินเฟิงอีกครั้งเธอก็เริ่มกังวลจนอยากจะร้องไห้
“ไปกันเถอะ!” ฉินเฟิงโอบไหล่ของเธอขณะที่เดินเข้าห้างสรรพสินค้าด้วยกัน
ห้างสรรพสินค้าว่อเจียมีสองชั้นชั้นแรกเป็ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาด 500 ตารางเมตรที่ขายของจิปาถะเช่นขนม อาหาร ฯลฯ ฉินเฟิงและสวี่รั่วโหรวตรงไปที่ชั้นสอง ชั้นสองเล็กกว่ามากมีขนาดแค่ 100 ตารางเมตรและแยกเป็ 2 ห้องคือห้องสำนักงานการเงินและห้องของประธาน
ฉินเฟิงเดินตรงไปที่ห้องของประธานทันทีโดยไม่คิด
ฉินเฟิงไม่มีนิสัยชอบเคาะประตูเขาเปิดประตูเข้าไปโต้งๆและสิ่งที่ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขาเป็ภาพที่ค่อนข้างสดใสคือชายหัวล้านวัยกลางคนกำลังจับกดผู้หญิงและฉีกเสื้อผ้าของเธออย่างดุเดือด
“กรี๊ด...” สวี่รั่วโหรวร้องออกมาด้วยความใและปิดตาหันหน้าหนีทันที
แต่ฉินเฟิงกลับมองดูด้วยความสนใจชายหัวล้านนั่นน่าจะเป็ประธานสวีของห้างสรรพสินค้าว่อเจีย
“แกเป็ใคร ไอ้เด็กเปรต? ไม่รู้จักวิธีเคาะประตูหรือไง?”ประธานสวีเริ่มมีน้ำโหเมื่อฉินเฟิงมาทำลายบรรยากาศเขาจ้องฉินเฟิงพร้อมกับะโใส่
“อย่าให้ฉันเสียเวลา ฉันมาที่นี่เพื่อทวงหนี้” หลังจากเห็นใบหน้าของผู้หญิงฉินเฟิงก็เกือบจะอ้วกและรู้สึกเหมือนสายตาเสีย เขาเลยเข้าเื่ทันที
“ทวงหนี้? หนี้อะไร?” ใบหน้าอ้วนท้วนของประธานสวีหมองคล้ำลง
“ฉันคือพนักงานขายของหวงเจียกรุ๊ป ฉันเป็ตัวแทนของหวงเจียกรุ๊ปเพื่อมาทวงหนี้”
หวงเจียกรุ๊ป?
ประธานสวีพยายามนึกว่าเขาไปเป็หนี้หวงเจียกรุ๊ปั้แ่เมื่อไรอย่างไรก็ตาม เขานึกถึงคนบางคนออกทันทีขณะที่แสยะยิ้มและพูด “ไอ้เด็กขี้เหม็นไอ้โง่หวังเชาบอกให้แกมาใช่ไหม?”
“เออ ไอ้โง่นั่นแหละ” แม้ฉินเฟิงจะไม่ชอบหน้าของประธานสวี แต่เขาก็เห็นด้วยว่าหวังเชามันเป็ไอ้โง่
“ฮ่าๆๆ ไอ้โง่หวังเชานั่นมันกลัวพ่อจนไม่กล้ามาอีกแล้วแต่มันดันส่งคนที่โง่ยิ่งกว่ามา พ่ออยากจะหัวเราะให้ฟันหลุดเลย”หลังจากยืนยันว่าฉินเฟิงมาทำไม ประธานสวีก็หัวเราะอย่างอดไม่ได้
จากมุมมองของเขาฉินเฟิงทั้งสูง ผอม ผิวขาวเนียน และดูโคตรอ่อนแอเขาสามารถส่งมันปลิวได้ด้วยตบเดียว
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้มองฉินเฟิงด้วยความเคารพใดๆ
ขณะที่หัวเราะฉินเฟิงจู่ๆ เขาก็รู้ถึงสวี่รั่วโหรวที่ยืนอยู่ข้างหลังของฉินเฟิงสวี่รั่วโหรวกำลังหันหน้าไปอีกทางแต่รูปลักษณ์ที่สวยงามก็พอจะบอกได้ว่าเธอเหนือกว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขา
ั์ตาของประธานสวีแดงทันทีและยิ้มอย่างหื่นกามเขาผลักผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ไปให้พ้นทางและเดินไปปิดประตูดัง ‘ปัง’ และล็อกมัน
นี่ก็พอแล้วที่จะให้สวี่รั่วโหรวใและยืนใกล้ฉินเฟิงมากขึ้น
“ฮ่าๆๆ ไอ้เด็กน้อย แกจะมาเก็บหนี้จากพ่อใช่ไหม? แกจะเก็บยังไงเอ่ย?”หลังจากปิดประตูประธานสวีก็ไม่ได้ทำตัวงี่เง่าและเริ่มหัวเราะอย่างจองหอง
เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่งดงามของสวี่รั่วโหรวดวงตาของเขาก็เกือบจะถลนออกมามันเป็ครั้งแรกที่เขาเห็นผู้หญิงที่งดงามและไร้เดียงสาขนาดนี้เขารู้สึกอยากจะกระโจนใส่เธอทันที
“ฉินเฟิง ปะ...ไปกันเถอะ” สวี่รั่วโหรวรู้สึกว่าสถานการณ์กำลังแย่ลงโดยเฉพาะหลังจากที่เห็นสายตาชั่วร้ายของประธานสวีเธอรู้สึกกระวนกระวายมากและดึงเสื้อของเขา
แต่ฉินเฟิงไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะออกเขายิ้มขณะมองประธานสวีและกล่าว “ประธานสวี ไม่มีอะไรจะพูดหรอกนะนายเป็หนี้หวงเจียกรุ๊ป 500,000 หยวนนายสามารถจ่ายเป็เงินสด โอน หรือเซ็นเช็คให้ฉันก็ได้”
“ฮ่าๆๆ ไอ้เด็กน้อย น้ำไหลเข้าหัวแกหมดแล้วเหรอ? แกไม่รู้เหรอว่าแกโดนไอ้โง่หวังเชามันต้มแล้วและแกยังจะถามหาเงินอีกเหรอ? แกรู้เื่เงิน 500,000หรือเปล่า?” ฉินเฟิงยังถามหาเงินอย่างจริงจังซึ่งทำให้ประธานสวีเริ่มหัวเราะดังขึ้น
“ไอ้เด็กน้อย จะบอกอะไรให้นะ พ่อไม่ได้ค้างเงินหวงเจียกรุ๊ปพ่อบังคับให้ไอ้โง่หวังเชานั่นมันออกเงิน 500,000 เองแต่ก่อนมันมาทวงเงินตั้ง 3 ครั้งแต่แกรู้ไหมว่าทำไมมันถึงไม่กล้ามาอีก? ฮ่าๆๆเพราะมันโดนคนของพ่อกระทืบไง และตอนนี้มันก็บอกไอ้โง่อย่างแกให้มาทวงเงินพ่อหัวเราะแทบตายเพราะพวกแกเลย”
ประธานสวีหัวเราะหนักมากจนตัวงอทำให้สีหน้าของฉินเฟิงมืดมนขึ้นไปอีก เขาไม่เคยคิดว่าหวังเชาจะวางแผนกับเขาอย่างนี้แต่เอาเถอะ เขาจะเอาเงิน 500,000 หยวนเพื่อเป็การลงโทษเอง
“ไอ้ล้าน หัวเราะพอหรือยัง? ถ้าพอก็เอาเงินมาได้แล้ว”ฉินเฟิงไม่อยากเสียเวลาที่นี่และท่าทีของเขาก็แข็งกระด้างขึ้น
ประธานสวีหยุดหัวเราะทันทีและจ้องฉินเฟิงอย่างดุร้าย“ไอ้เวร แกกล้าเรียกพ่อว่าไอ้ล้านเรอะ? ก็ได้แกทำดีมาก ไม่ใช่แค่พ่อจะหักขาแก แต่พ่อจะขืนใจยายเด็กสาวนี่ต่อหน้าแกด้วยแกจะได้รู้ผลลัพธ์ที่มาหาเื่พ่อ!”
เมื่อฉินเฟิงกำลังจะลงมือเขาฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้และถามด้วยความจริงใจ “ไอ้ล้าน นายบอกว่านายอยากจะขืนใจสาวน้อยข้างหลังฉันงั้นเหรอ?”
ประธานสวีมองฉินเฟิงเหมือนมันเป็คนบ้า“เออ พ่อจะขืนใจเธอจนตาย แกจะทำไม?”
ฉินเฟิงเมินเขาและดึงสวี่รั่วโหรวจากข้างหลังขณะที่พูดกับเธอ“รั่วโหรว เธอได้ยินคำหยาบคายพวกนั้นหรือเปล่า?”
สวี่รั่วโหรวพยักหน้าเธอกลัวมากจนทำให้เธอดูน่าสงสาร
“แล้วเธอโกรธหรือเปล่า?” ฉินเฟิงถาม
สวี่รั่วโหรวพยักหน้าอีกครั้ง
“งั้นก็ไปอัดมันเลย! กระทืบมันให้ตาย!” คำพูดของฉินเฟิงรุนแรงขึ้นเพื่อที่พยายามจะเปลี่ยนนิสัยขี้อายของเธอ
ทว่าสวี่รั่วโหรวติดอยู่กับฉินเฟิงไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า มือของเธอกำเสื้อของฉินเฟิงเหมือนกับเด็กหลงกลัวว่าฉินเฟิงจะทิ้งเธอไว้
“ฉะ...ฉันกลัว”
ฉินเฟิงคิดสักพักหนึ่งอย่างไรประธานสวีก็เป็คนตัวใหญ่ และมันก็ธรรมดาที่สวี่รั่วโหรวจะไม่กล้าลงมือด้วยเหตุนี้เขาจึงเปลี่ยนวิธี “งั้นด่ามัน ด่ามันและด่าทั้งโคตรมัน”
สวี่รั่วโหรวส่ายหัวอีกครั้ง“ฉะ...ฉันไม่รู้วิธีด่าคน”
ฉินเฟิงตอบดังๆด้วยน้ำเสียงบังคับ “ด่ามัน ถ้าฉันบอกให้เธอด่ามัน เธอต้องด่า!”
สวี่รั่วโหรวสะดุ้งจนถอยหลังกลับไปหลายก้าวเธอก้มหัวและลังเลสักพักหนึ่งก่อนจะกัดฟันและถามด้วยเสียงเบา “ฉันต้องทำจริงๆ เหรอ?”
“ใช่แล้ว รีบด่ามันเร็ว!” ฉินเฟิงตะคอก
“คะ...คุณมันคนไม่ดี” หลังจากนึกสักพักดีที่สุดที่สวี่รั่วโหรวทำได้ก็ออกมาแบบนี้ ฉินเฟิงเกือบจะเอาหัวโหม่งกำแพง
ประธานสวีมองดูการพูดคุยระหว่างฉินเฟิงกับสวี่รั่วโหรวในที่สุดเขาก็เข้าใจ ไม่ใช่แค่ฉินเฟิงที่สมองผิดปกติแต่สาวสวยคนนี้ก็มีอะไรผิดปกติด้วยเหมือนกัน
การประพฤติตัวที่อ่อนโยนของสวี่รั่วโหรวดึงดูดความสนใจของเขาอย่างมากและใบหน้าของเขาก็ดูหื่นมากยิ่งขึ้นเขาจ้องสวี่รั่วโหรวและกำลังคิดว่าจะรู้สึกดีแค่ไหนที่ได้ลิ้มรสสาวที่ไม่รู้วิธีขัดขืน
“ไอ้หนู ยังทำเป็เล่นอยู่เหรอ? พ่อจะฆ่าแก!”ประธานสวีจินตนาการจนรอไม่ไหวอีกต่อไปเขาจึงปรี่เข้าหาฉินเฟิงทันทีเพื่อจะเล่นงานมัน
เขาตั้งใจจะไล่มันด้วยตบฉาดเดียว
เมื่อเห็นฝ่ามือกำลังจะโดนใบหน้าของฉินเฟิงประธานสวีก็รู้สึกยินดีอย่างเหลือเชื่อและยิ้มกริ่ม อย่างไรก็ตามฉินเฟิงได้เอนหลังหลบการตบอย่างง่ายดายและถีบออกไป ทำให้ประธานสวีกระเด็น
ร่างอ้วนท้วมของประธานสวีปะทะลงกับพื้นอย่างรุนแรงทำให้โต๊ะสนั่นหวั่นไหว
สวี่รั่วโหรวสะดุ้งและมองฉินเฟิงด้วยความใกลัวเธอไม่คิดว่าเขาจะแข็งแรงขนาดนี้
แค่ถีบง่ายๆฉินเฟิงก็เอาชนะประธานสวีแล้ว ประธานสวีขดตัวเป็ลูกบอลด้วยความเจ็บ แม้แต่ยืนก็ไม่ไหว
ฉินเฟิงดึงสวี่รั่วโหรวมาตรงประธานสวีอีกครั้งและชี้ไปที่เขาขณะที่ออกคำสั่ง“รั่วโหรว ด่ามัน ใช้คำพูดที่หยาบที่สุดเท่าที่จะคิดได้ด่ามัน”
สวี่รั่วโหรวไม่คาดว่าฉินเฟิงจะบังคับให้เธอด่าประธานสวีดังนั้นเธอจึงค่อนข้างรู้สึกผิด สายตาของเธอกวาดไปรอบๆ ก่อนที่จะถามอย่างลังเล“คะ...คุณเป็หมูเหรอคะ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้