ทิวทัศน์ของวิลล่าชิงเฟิงงดงามมาก อีกทั้งอากาศบริสุทธิ์และเต็มไปด้วยดอกไม้ตามทางเดิน สถานที่แบบนี้มีไม่กี่เเห่งในเมืองเยี่ยนจิง ถึงอย่างนั้น ทางเข้าบ้านใหญ่โตหลังหนึ่ง คนสามคนเผชิญหน้ากันอยู่ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด เย่เฟิงและซูเมิ่งหานกำลังเผชิญหน้ากับแม่เลี้ยงของเธอ
“เมิ่งหาน เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” เย่เฟิงถาม
“เื่นี้ไม่เกี่ยวกับนาย นายกลับบ้านไปก่อนเถอะ” แม้ซูเมิ่งหานจะโกรธ แต่ก็ไม่้าให้เย่เฟิงข้องเกี่ยวกับเื่นี้
“ไม่ ฉันมีเื่จะคุยกับเธอ” เย่เฟิงไม่จากไปซ้ำยังพูดต่อ “แต่ก่อนหน้านั้น ฉันจะช่วยเธอแก้ปัญหาก่อน”
“นายจะแก้ปัญหาของฉันได้เหรอ?” ซูเมิ่งหานส่งเสียงในลำคอแ่เบา เธอไม่ชอบการใช้กำลังแก้ปัญหาของเย่เฟิง “ยังมีปัญหาอีกมากที่ไม่สามารถแก้ได้โดยการใช้กำลัง”
“ไม่ต้องกังวล ฉันก็ไม่ได้เป็แค่ใช้กำลัง” เย่เฟิงยิ้มบาง
ขณะเดียวกันผู้หญิงทันสมัยที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาก็เริ่มอธิบายกับซูซิ่นชางผ่านโทรศัพท์ น้ำเสียงของเธอหยาบคายไร้เหตุผล
จากการคุยโทรศัพท์ เย่เฟิงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยิ่ ตระกูลเซี่ยของเธอเป็ตระกูลที่มีอำนาจมาก ทั้งยังจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของเมืองเยี่ยนจิง ผู้หญิงคนนี้ทำให้ซูเซิ่งกรุ๊ปของซูซิ่นชางประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้
หลังจากซูซิ่นชางรู้เื่ก็กังวลเล็กน้อยและบอกให้เธอรอเขากลับไปจัดการ อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม หลังวางสาย เซี่ยิ่ก็เก็บไอโฟนรุ่นล่าสุดลงกระเป๋าหลุยส์ วิตตองของเธอ ก่อนมองหน้าเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูก
“นังจิ้งจอกน้อย อ่อยผู้ชายมาได้เลยให้เขาออกตัวช่วยงั้นเหรอ แต่ว่านะ เด็กน้อยแบบนาย มาทางไหนก็ไสหัวไปทางนั้น ในโลกนี้ยังมีเื่ที่แกแก้ปัญหาไม่ได้อยู่นะ” แม้เซี่ยิ่จะได้ยินทั้งสองคนพูดคุยกันแต่เธอไม่สนใจ
เธอรู้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเธอพาซูเมิ่งหานไปเมืองหลางฝาง จากข้อมูลที่ได้มา เย่เฟิงก็เป็แค่เด็กมัธยมปลายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น มีความสัมพันธ์กับคนมีอำนาจบางคนเลยทำให้เขาได้รับการปล่อยตัวจากข้อหาค้าประเวณี ถ้าเป็ลูกหลานตระกูลเซี่ยล่ะก็ แค่ซื้อขายผู้หญิงบริการ ต่อให้เป็พวกนครบาลก็ยังไม่กล้าจับกุม เธอไม่คิดว่าเย่เฟิงจะมีอิทธิพลอะไร
“ให้ฉันไสหัวไปเหรอ?” เย่เฟิงพูดเนิบนาบ “งั้นต้องดูว่าคุณมีความสามารถนั้นไหม”
“เด็กเดี๋ยวนี้อวดดีเหลือเกิน” เซี่ยิ่เหยียดยิ้มพลางปรายตามองซูเมิ่งหานพร้อมพูดว่า“ถ้าฉันเป็เธอ ฉันจะไม่เลือกผู้ชายเหม็นสาบแบบนี้หรอก ลุงคนที่สองของฉันสนใจสาวน้อยสวยๆ นะ เขาทั้งใจดีและภูมิฐาน มีความสามารถเยอะกว่าเด็กแบบนี้ อยากให้ฉันแนะนำไหม?”
“ไร้ยางอายที่สุด!!!” ซูเมิ่งหานตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะชั่วร้ายไร้ยางอายถึงขนาดนี้ นี่มันเป็สิ่งที่แม่เลี้ยงควรพูดออกมางั้นเหรอ?
“ใช่หรือ?” เย่เฟิงแตะไหล่ของซูเมิ่งหานเพื่อปลอบโยน หันมองเซี่ยิ่พร้อมพูดว่า “หากฉันเป็ซูซิ่นชาง ฉันคงไม่เลือกผู้หญิงน่าเกลียดอย่างคุณมาเป็ภรรยาหรอก เลขาฯ สาวสวยที่อยู่ข้างเขายังดีกว่า จริงไหม?”
หูเหมยเหม่ยที่เป็ทั้งเลขาฯ และคนขับรถของซูซิ่นชาง ทั้งเธอและเย่เฟิงรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เทียบกับเซี่ยิ่ที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เลขาฯ ของซูซิ่นชางมีเสน่ห์กว่าเยอะ
“ฮึ่ม! คอยดูเถอะ เด็กยังไงก็คือเด็ก แกคิดว่าซูซิ่นชางจะนอกใจฉันเหรอ? เขากล้าเหรอ!” เซี่ยิ่ยิ้มเยาะและไม่สนใจที่เย่เฟิงพูด
ในใจของเธอ ที่ซูซิ่นชางมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะตระกูลเซี่ย หากเขากล้ามีผู้หญิงคนอื่น เขาไม่กลัวที่จะท้าทายตระกูลเซี่ยงั้นหรือ? เซี่ยิ่ตัดสินใจตรงนั้นว่าจะบีบให้เขาเลือกให้ได้ เธอแต่งงานกับซูซิ่นชางมาสิบปีแล้ว แต่กลับไม่มีลูกเลย เธอจึงเกลียดซูเมิ่งหานที่เป็ลูกสาวภรรยาเก่าของเขา
เมื่อเย่เฟิงเห็นฝ่ายตรงข้ามไม่เชื่อเขาก็แค่ยิ้มและคร้านจะพูดต่อ รอให้ซูซิ่นชางมาถึงแล้วค่อยว่ากัน
ซูเมิ่งหานจับแขนเย่เฟิงแ่เบา เพราะทำให้เธออุ่นใจ เมื่อเย่เฟิงโอบไหล่เธอตอบทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นมาก ไม่ว่าจะเผชิญกับเซี่ยิ่หรือซูซิ่นชางก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
ตลอดมาซูซิ่นชางเป็สามีที่กลัวภรรยามาก ทำให้เขาเลี้ยงดูซูเมิ่งหานอย่างเข้มงวด ในสายตาคนอื่น ซูเมิ่งหานดูเหมือนดาวโรงเรียนหรือสาวสวยจากตระกูลอันมั่งคั่ง แต่ความจริงเธอไม่มีอิสระในชีวิตของเธอเลย ถ้าผู้ชายคนนั้นจะละทิ้งเธอจริงๆ ก็ดูเหมือนเป็การปลดปล่อยซูเมิ่งหานจากกรง ไม่มีอะไรต้องเสียใจเลย
ซูซิ่นชางมาถึงอย่างรวดเร็ว เขาไม่เคยคิดเลยว่าเซี่ยิ่จะแอบส่งคนไปสอดแนมซูเมิ่งหาน ทั้งยังรู้เื่ที่เธอไปเมืองหลางฝางได้เร็วขนาดนี้ หลังจอดรถหน้าบ้านหลังใหญ่ ชายวัยกลางคนในชุดสูทสไตล์ตะวันตกก็ลงจากรถ เขาคือซูซิ่นชาง เย่เฟิงสังเกตเห็นคนขับรถคือเลขาฯ สุดสวยหูเหมยเหม่ย แต่เธอไม่ได้ตามลงมาด้วย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สมควรปรากฏตัวตอนนี้ ตามปกติ ซูซิ่นชางเป็คนภูมิฐาน แต่เวลานี้คิ้วของเขาขมวดแน่น เห็นได้ชัดว่ามีเื่บางอย่างรบกวนจิตใจ
“เมิ่งหาน เสียวิ่ พวกเธอสองคนทำอะไรกันอยู่?” ชายวัยกลางคนถอนหายใจและถามออกไปขณะเดินไปหาพวกเธอ
“ถามลูกสาวสุดที่รักของคุณสิว่าสองวันที่ผ่านมาเธอหายไปไหน” เซี่ยิ่พูดเสียงดัง
“ก็แค่ไปเมืองหลางฝางมาไม่ใช่หรือ?” ซูซิ่นชางเดินไปกุมมือของเซี่ยิ่ และพูดด้วยความจริงใจ “ใจเย็นๆ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว จะไม่มีครั้งต่อไปเเล้ว?”
“ไม่ได้ ครั้งนี้คุณต้องต้องเคลียร์ให้รู้เื่” เซี่ยิ่พูดอย่างเ้าคิดเ้าแค้นและชี้ซูเมิ่งหาน“จะมีเธอหรือฉัน คุณเลือกเอา!”
หลังจากพูดจบ ท่าทีของเธอเหมือนไม่ฟังอะไรแล้ว ไม่ว่ากล่อมอย่างไรก็ไม่ยอมเลิกรา
ซูเมิ่งหานที่ยืนอยู่อีกฝั่งมองพวกเขาเงียบๆ เย่เฟิงยืนอยู่ข้างๆ อย่างใจเย็น เขา้าดูว่าซูซิ่นชางจะเลือกอย่างไร หากเขาตัดสินใจเลือกซูเมิ่งหานและหย่าร้างกับเซี่ยิ่ก็ถือเป็พ่อที่ดี แต่หากเขาเลือกภรรยาและทอดทิ้งลูกสาว ก็จะเป็พ่อที่แย่ที่สุดในโลก นี่เป็ตัวเลือกที่ยากมากสำหรับซูซิ่นชาง
ชายวัยกลางคนพยายามโน้มน้าวภรรยา แต่ต่อให้พยายามอย่างไร เธอก็ไม่ฟังและไม่คิดเปลี่ยนใจ ทุกครั้งที่เซี่ยิ่เห็นซูเมิ่งหาน มันเหมือนกับมีหนามคอยทิ่มแทงใจ เธอพยายามอดทนกับความเ็ปนี้มาตลอดสิบปี หากยังเป็อย่างนี้ต่อไป สักวันเธอต้องบ้าตายแน่ เซี่ยิ่มองเย่เฟิงและซูเมิ่งหานอย่างเ็า ไม่ว่าซูซิ่นชางจะพูดอย่างไร เธอจะไม่มีวันเปลี่ยนความคิดของตัวเองเด็ดขาด!
หลังผ่านไปไม่นาน ซูซิ่นชางเห็นว่าเซี่ยิ่ไม่มีทางเปลี่ยนใจ จึงทำอะไรไม่ได้อีกนอกจากถอนหายใจ เขามองซูเมิ่งหานและเย่เฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง พลางรู้สึกเสียดายที่ในที่สุดลูกสาวของเขาและเย่เฟิงก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เขากลับต้องเผชิญกับทางเลือกแบบนี้
“เมิ่งหาน มากับพ่อครู่หนึ่งสิ” ซูซิ่นชางเหมือนตัดสินใจได้แล้ว จึงเรียกลูกสาวของเขาไปคุยกันสองคน
“พ่อมีอะไรจะพูดก็พูดมาเลย ยังต้องอายอะไรอีก?” ซูเมิ่งหานพูดเสียงเ็า เธอเหมือนจะเดาการตัดสินใจของพ่อได้แล้ว สำหรับพ่อของเธอ ธุรกิจของเขาสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้