บทที่ 4 อาคมที่ฉันเกลียดชัง!!
มีนาแข็งทื่อ! สมองของเธออัจฉริยะแห่งยุค 2025มันไม่ได้หยุดทำงานเพราะความกลัวโจร แต่มัน 'ล่ม' มันคือการ 'Blue Screen of Death' (จอฟ้าแห่งความตาย) ทางจิติญญา!นี่มันบ้าอะไร! ภาพหลอนเหรอ? สมองขาดออกซิเจนจนสร้างเสียงขึ้นมาเองงั้นหรือ? ต้องเป็อย่างนั้นแน่ๆ มันต้องเป็ภาพหลอนเพราะความกลัวของร่างนี้เธอตัดสินใจให้ตัวเองเชื่อเช่นนั้นเพราะไม่้าที่จะยอมรับสิ่งที่กำลังเผชิญ แต่เสียงเล็กๆ ใสๆ นั้นก็แทรกเข้ามาอีก
"พี่…กูบอกว่า พ่อบอกให้กูตามมาดูแลพี่มึงไม่ได้ยินเหรอหรือว่ากลัวตายจนหูตึงหูหนวกไปแล้วบอกมาสิจะให้กูจัดการพวกมันเลยไหม?"
น้ำเสียงเ้าตัวอ้วนกลมสีทองกลิ่นหมอเริ่มแสดงความรำคาญ ที่พี่มีนาของมันไม่มีปฎิกิริยาตอบสนอง
กู? พ่อ?
คำสองคำนี้กระแทกเข้าใส่ตรรกะของเธอแรงยิ่งกว่ารถบรรทุกสิบแปดล้อคันนั้นเสียอีก! ‘กู’ ... คำสรรพนามหยาบคายที่เธอไม่ได้ยินมานาน ‘พ่อ’ มันหมายถึงใคร? พ่อของหลิวซือซือที่ตายไปแล้ว? หรือพ่อของ เธอ? อาจารย์จักร?
[ข้อผิดพลาดร้ายแรง! ข้อมูลอ้างอิงข้ามมิติ! นี่มันเป็ไปไม่ได้!]
สมองของเธอยังคงปฏิเสธความจริงที่อยู่ตรงหน้าอย่างสุดกำลัง
'ไม่! แกไม่มีอยู่จริง!' เธอกรีดร้องในหัว
'แกคือปฏิกิริยาเคมีสุดท้ายของไซแนปส์ที่กำลังจะตาย!'
'แกคือความงมงายที่ฉันเกลียดชัง! แกคือสิ่งที่ทำลายครอบครัวฉัน!'
เธอคือวิศวกร! เธอเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้! มวลต้องมีน้ำหนัก! พลังงานต้องวัดค่าได้! และผีเด็กกลิ่นหอมตัวอ้วนๆ ที่พูดจาหยาบคาย ไม่อยู่ในสมการใดๆ ทั้งสิ้น! และเพื่อตอกย้ำความวิปลาสนี้ มัน ก็ปรากฏตัว ท่ามกลางกลิ่นกำยานจันทน์ที่ลอยคละคลุ้ง...ร่างเล็กๆ อ้วนๆ ผิวผ่องเรืองรอง ก็ลอยมากตรงหน้าเธอทันที! มันลอย ทะลุ แผ่นไม้ของเกวียนเข้ามา! มันไม่สนใจกฎแห่งมวลสาร! มันไม่สนใจแรงโน้มถ่วง!เด็กชายอ้วนกลมผมจุกสวมโจงกระเบนสีแดงชาดกำลังลอยอยู่ห่างจากจมูกเธอไม่ถึงคืบ มันเอียงคอ ดวงตาสีทองของมันหรี่ลงจ้องมองเธอราวกับเธอน่าสมเพชเต็มประดา
"พี่สาวโง่เง่า" เสียงนั้นดังในหัวเธออีกครั้ง
"มึงจะมัวแต่เถียงเื่ฟิสิกส์ เื่ตรรกะอยู่ได้ จะตายห่าอยู่แล้ว!"
ภาพหลอนของเธอมันกำลังดูถูกสติปัญญาของเธอ! อ๊ากก!! เธอทนไม่ได้มันเป็เพียงภาพหลอนแถมยังด่าว่าเธอโง่อีก เธอไม่ได้โง่ นักศึกษานับพันนับหมื่นในรุ่นของเป็มีเพียงเธอที่เก่งกาจที่สุดและเป็อัจฉริยะนะ ไม่มีใครบอกว่าเธอโง่มาก่อน ไม่เคยมี!!! ความโกรธที่ถูกเรียกว่า 'โง่' มันเกือบจะทรงพลังกว่าความกลัวตาย วินาทีที่ตรรกะและไสยศาสตร์กำลังฉีกทึ้งสมองของเธอเป็เสี่ยงๆ ...
โครม!!!
แผ่นไม้ที่ใช้กำบังตัวถูกกระชากออกอย่างแรง! แสงจันทร์และใบหน้าเหี้ยมเกรียมของโจรป่า สาดเข้ามาแทนที่ภาพของเด็กอ้วนเรืองแสงตนนั้น! ความมืดที่คุ้นเคยถูกทำลายทันที อากาศยามค่ำคืนที่หนาวเย็นทะลวงเข้ามาพร้อมกับกลิ่นคาวเืที่เข้มข้นจนแทบสำลัก แสงจันทร์สีซีดสาดส่อง ผสมกับแสงคบเพลิงที่ริบหรี่ เผยให้เห็นใบหน้า
มันคือใบหน้าของชายฉกรรจ์ในชุดผ้าขาดวิ่น สกปรกจนมองไม่ออกว่าเดิมเป็สีอะไร ดวงตาของมันแดงก่ำลุกโพลงด้วยความกระหายเืและสุรา รอยแผลเป็น่าเกลียดพาดผ่านจมูกที่บิดเบี้ยว ลมหายใจของมันเหม็นกลิ่นเหล้าและซากศพ เงาร่างนั้นบดบังแสงจันทร์จนมิด มันแสยะยิ้ม...รอยยิ้มที่เผยให้เห็นฟันเหลืองเขรอะและช่องโหว่
"เจออีกตัว!"
เสียงของมันหยาบกร้านราวกับหินขูดกัน มันคือเสียงพิพากษา
"ฮึก..." เสียงสะอื้นที่น่าสมเพชหลุดออกจากลำคอที่เธอควบคุมไม่ได้
"หึ... ยังเด็กอยู่เลย แต่เอะๆ นังเด็กนี้หน้าตางดงามมากทีเดียว แต่เสียดายจริงๆ เฮ้อ!! "
โจรนั่นหัวเราะ มันยกดาบขึ้นสูง แสงจันทร์อาบคมดาบที่บิ่นและเปื้อนเืจนเป็สีคล้ำมันกำลังจะเหวี่ยงลงมา!
‘ [อัตราการรอดชีวิต: 0.001%] ’
สมองของมีนาสิ้นหวัง! เธอจะตาย! เธอทะลุมิติมาเพียงเพื่อจะตายอีกครั้งภายในสิบนาที! ตายในร่างของเด็กขี้ขลาด ตายในโลกที่ป่าเถื่อนตายด้วยสิ่งที่เธอเกลียดชังที่สุดความไร้เหตุผล!
‘ไม่... ไม่เอาแบบนี้...’
"พี่จ๋า..."
เสียงเล็กๆ ที่ใสกังวาน แต่เยือกเย็นจนถึงไขกระดูก ดังขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง
"มึงมัวทำอะไรอยู่? จะให้มันสับเป็หมูบะช่อก่อนเหรอ? เฮ้อ!! ไหนบอกว่าตัวเองฉลาดนัก นี่มันโง่บัดสบสุดเท่าที่กูเคยเจอมาแล้ว!! "
เ้าก้อนอ้วนกลมผมจุก ไอ้หนูกุมารทอง ยังคงลอยอยู่ตรงหน้าเธอ มันลอยอยู่นอกเกวียน แต่คนที่ถือดาบกลับมองไม่เห็น!ยังคงด่าเธออย่างคล่องปากราวกับว่ามันรับงานจากพ่อของมันมาเพื่อด่าเปิดสมองของมีนาอย่างไรอย่างนั้น
‘แก...แกเป็ภาพหลอน!’ มีนาะโเถียงมันในใจอย่างบ้าคลั่ง
‘ฉันกำลังจะตาย สมองฉันเลยสร้างแกขึ้นมา!’
"ภาพหลอนที่ไหนจะน่ารักขนาดนี้" ไอ้หนูทำแก้มป่อง
"พ่อจ๋าสั่งให้กูมาดูแลมึงนะพี่!! มึงนี่มันภาระจริงๆ"
โจรป่าไม่ได้รู้ถึงาปากระหว่างทั้งสองมันไม่รอช้า มันง้างดาบสุดแขน กล้ามเนื้อแขนของมันปูดโปน
"ลาก่อนนะ..แม่หนู!เ้าผิดเองที่อยู่ผิดที่ผิดทาง"
เหมือนคำพูดจะมีความเมตตาแต่ทว่าดาบนั้น กลับแหวกอากาศลงมา! เสียงหวีดหวิวดังล่วงหน้ามาก่อนความตาย!ในเสี้ยววินาทีสุดท้ายที่ตรรกะทั้งหมดพังทลาย ไม่มีสมการไม่มีค่าพารามิเตอร์ไม่มี [อัตราการรอดชีวิต] ไม่มีตรรกะใดๆ ที่จะหยุดยั้งเหล็กกล้าที่กำลังพุ่งเข้าหาลำคอ...
ตรรกะ...สิ้นสุดลงแล้ว
ในเสี้ยววินาทีที่สั้นกว่าการกะพริบตา แต่ยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์เวลาได้ยืดออก ภาพที่ปรากฏขึ้นในจิตสำนึกสุดท้ายของเธอ ไม่ใช่แบบแปลนสะพานที่เธอกำลังจะไปสร้างไม่ใช่เพนต์เฮาส์หรูที่เธอยึดมั่นแต่มันคือใบหน้าใบหน้าอันเคร่งขรึมและสิ้นหวังของพ่อ
“นี่คือของที่ดีที่สุด ปลุกเสกไว้คุ้มครองชีวิต...”
เสียงของพ่อก้องอยู่ในหัวไม่ใช่เสียงตวาดแต่คือเสียงที่อ้อนวอน เธอเพิ่งเข้าใจแววตาที่สิ้นหวังของเขาในวันนั้นไม่ใช่ความสิ้นหวังเพราะเธอไม่เชื่อ แต่สิ้นหวังเพราะเขามองเห็นภาพนี้! เขามองเห็นดาบเล่มนี้! เขามองเห็นความตายครั้งนี้!ความเย็นเยียบแล่นไปทั่วสันหลังมันไม่ใช่ความกลัวโจรมันคือความเย็นเยียบจากความสำนึกผิดที่เพิ่งทะลักท่วมท้นถาโถมเข้า!
เธอทำอะไรลงไป เธอวิศวกรผู้หยิ่งทะนง ได้ปฏิเสธคำเตือนสุดท้าย เธอ ลูกสาวผู้โง่เขลา ได้ปัดมือที่พยายามยื้อเธอจากความตายทิ้งไปกับมือ
“วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ แต่อาคมของพ่อ... แค่หลอกคน”
คำพูดของตัวเองในวันนั้นย้อนกลับมาตบหน้าเธออย่างแรง! คำพูดที่เย่อหยิ่ง คำพูดที่ทำร้ายจิตใจ คำพูดที่ทำให้พ่อของเธอต้องกระอักเืเพราะพลังย้อนกลับ...ของขลังที่เธอด่าทอและปัดมันทิ้งอย่างไร้ค่าบัดนี้มันคือสิ่งเดียวในจักรวาลที่เธอโหยหา น้ำตา น้ำตาที่ไม่ได้มาจากความกลัวของหลิวซือซือ แต่มันคือน้ำตาของมีนาไหลทะลักออกมาเป็ครั้งแรกเธอจะตาย เธอจะตายโดยที่พ่อไม่รู้ว่าเธอเข้าใจแล้ว เธอจะตายโดยที่ไม่มีโอกาสได้กลับไป ขอโทษ เธอจะตาย และกลายเป็ความผิดหวังชิ้นสุดท้ายของเขา
"พ่อคะ..."
"หนูขอโทษ...หนูผิดไปแล้ว พ่อยกโทษให้ลูกโง่คนนี้ด้วย!!"
เสียงกระซิบสุดท้ายในใจขาดสะบั้น พร้อมกับคมดาบที่ฟาดลงมาถึงลำคอ!วินาทีที่ดาบกำลังจะจมลงในเนื้อหนัง...
เคร้งงงงงงง!!!
มันไม่ใช่เสียงเนื้อที่ถูกฉีกขาด มันคือเสียงของโลหะที่ปะทะกับบางสิ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า! เสียงแหลมสูงจนแสบแก้วหู ดังสะท้อนก้องไปทั่วลานสังหาร! เกิดอะไรขึ้น!? โจรป่าเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง! ดาบในมือของมัน ดาบเหล็กกล้าที่เพิ่งสับคอทหารขนส่งเสบียงขาดกระเด็นบัดนี้ หักสะบั้นเป็สองท่อน!
แรงสะท้อนมหาศาลอัดกระแทกกลับมา! อ๊ากกกก! มันกรีดร้อง! ข้อมือของมันบิดเบี้ยวผิดรูปอย่างน่าสยดสยอง กระดูกแตกละเอียดเพราะแรงปะทะที่มันเป็ฝ่ายสร้างขึ้นเอง! ดาบส่วนที่หักลอยคว้างไปปักกับต้นไม้
"อะไร... อะไรวะ?!" มันคำรามด้วยความเ็ปและสับสน
มันจ้องมองไปที่เหยื่อเด็กสาวคนนั้นยังคงนั่งขดตัว ใช้มือปิดศีรษะ ตัวสั่นเทาเหมือนเดิมแต่ที่ลำคอระหงบริเวณที่คมดาบควรจะฟาดลงไป บัดนี้มีบางสิ่งปรากฏขึ้น!
มันไม่ใช่เืแต่มันคือ แสง!
อักขระขอมโบราณอันซับซ้อนกำลังเปล่งแสงสีทองจางๆ มันก่อตัวเป็ลวดลายที่น่าสะพรึงกลัวรูปพยัคฆ์คาบดาบ! มันคือ…ยันต์คงกระพันที่พ่อของเธอสักให้ั้แ่เด็ก!นั้นเอง…
***** อย่าลืมกดหัวใจสีแดง เพิ่มเข้าชั้น หรือคอมเมนต์เป็กำลังให้ไรท์สู้ด้วยนะเ้าคะ *****
