“พระเ้าคุ้มครอง!”
“องค์าาทรงพระเจริญ!”
“เมืองแซมบอร์ดจงเจริญ!”
“พระเ้าคุ้มครองพวกเรา พระเ้าคุ้มครองพวกเรา!”
เวลานี้ ดูเหมือนกำลังย้อนเวลากลับไปยังเหตุการณ์ตอนที่รู้ผลการรบยามอาทิตย์อัสดงคราวก่อน ที่ด้านหน้าพระราชวัง แต่ละคนต่างโห่ร้องอย่างดีใจ
ทุกคนต่างเข้าใจดีว่าฉากที่ตัวเองเพิ่งเห็นไปมันหมายถึงอะไร
มันเป็ฉากที่น่าเหลือเชื่อ ฉากนี้มันได้สร้างความตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับทุกคน องค์าาทรงเป็เหมือนข่าวลือจริงๆ ด้วย พระองค์เป็ตัวแทนของพระเ้า พระองค์สามารถสื่อสารกับพระเ้าได้จริงๆ นี่ไม่เท่ากับว่า พระเ้ากำลังปกป้องเมืองแซมบอร์ดหรอกหรือ...หากเป็แบบนี้ ข้าศึกพวกนั้นจะสามารถโจมตีเมืองแซมบอร์ดได้อย่างไร?
ชั่วพริบตา เมฆหนาๆ ที่ปกคลุมจิตใจของทุกคนก็เริ่มจางหายไป
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของทุกคน แองเจล่า หญิงสาวที่บริสุทธิ์งดงามดุจบัวหิมะแรกแย้ม นางลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ
สาวงามมองแผ่นหลังของซุนเฟยที่ได้รับความเคารพศรัทธาและอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของท่ามกลางกลุ่มคน ในใจก็พลันรู้สึกโล่งใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้ว่าเธอเองจะยังไม่ค่อยเข้าใจนัก ว่ามันเป็เพราะ ‘พระเ้า’ คุ้มครองเมืองแซมบอร์ด หรือว่า เพราะอเล็กซานเดอร์เปลี่ยนไป!
ด้วยบรรยากาศที่มีความสุข แม้แต่สาวน้อยผมทองเจ็มม่าที่ชอบตั้งตัวเป็อริกับซุนเฟย ยามนี้ก็ถูกบรรยากาศนี้พลอยทำให้ยินดีไปด้วย ท่ามกลางฝูงชนที่หัวเราะะโโลดเต้นอย่างยินดี
หม้อสองใบที่ผสม 'น้ำยารักษาชีวิตขวดเล็ก' ก็ถูกบรู๊คจัดการนำไปแจกจ่ายให้กับเหล่าทหารที่ได้รับาเ็ทุกคนอย่างรวดเร็ว บริเวณด้านหน้าพระราชวังทุกที่มีแต่เสียงหัวเราะยินดี เพียงครึ่งชั่วโมง เหล่าทหารที่ได้รับาเ็จนต้องร้องครวญครางก่อนหน้านั้นตอนนี้ก็ไม่รู้สึกถึงอาการเ็ปใดๆ และทหารที่ได้รับาเ็เล็กน้อยต่างก็พากันหยิบอาวุธขึ้นมาพร้อมเข้าสู่าครั้งใหม่
ั้แ่เริ่มาเมื่อสี่วันก่อน แสงสว่างและความหวัง ไม่เคยเข้าใกล้เหล่าประชาชนในเมืองแซมบอร์ดเหมือนตอนนี้ ทั้งหมดทั้งมวลเป็เพราะองค์าาอเล็กซานเดอร์ได้รับคำอวยพรของพระเ้า
สายตายามที่ทุกคนมองซุนเฟยราวกับมองเห็นพระเ้าลงมาจุติยังโลกมนุษย์
……
……
ข้าศึกด้านนอกไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความมืดทำการบุกโจมตีเมือง
นี่ทำให้ประชาชนและทหารของเมืองแซมบอร์ดได้มีเวลาพักที่หาได้ยาก นับั้แ่สี่วันที่ผ่านมา
หลังจากที่ทหารทุกคนถูกหลอกให้ดื่ม 'น้ำยารักษาชีวิตขวดเล็ก' เื่ราวหลังจากนี้ซุนเฟยมอบให้ทหารที่ดูฉลาดจัดการต่อ ส่วนตนเองก็เดินไปพลางสนทนาไปพลางกับบรู๊คผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ไม่ช้าพวกเขาก็เดินมาถึงบนกำแพงเมือง
ในยามค่ำคืน กำแพงเมืองแซมบอร์ดดูใหญ่โตอย่างมาก
ซุนเฟยยืนอยู่ด้านล่างหอประตูเมือง ทอดสายตามองไกลออกไป พลางคิดอย่างรอบคอบ
ด้านซ้าย ขวา และด้านหลังของเมืองแซมบอร์ดถูกล้อมรอบด้วยูเาที่สูงตระหง่าน ราวกับพระเ้าผู้สร้างโลกให้ความสำคัญกับเมืองนี้ ูเาใหญ่รอบๆ เหมือนเป็กำแพงธรรมชาติที่โอบล้อมเมืองแซมบอร์ดทั้งสามด้านราวกับจะป้องกันภัย
ภูมิประเทศด้านนอกของูเาทั้งสามด้านนี้อันตรายอย่างมาก ลักษณะของูเาเป็แนวตั้งและมีความชัน ขนาดที่ว่านักรบสามดาวที่มีพลังมหาศาลก็ยากที่จะปีนขึ้นมาถึงยอดเขา และที่น่าแปลกใจคือ ลักษณะูเาด้านในตรงกันข้ามกับูเาข้างนอก ภูมิประเทศด้านในกลับราบเรียบ ขนาดที่ว่าคนแก่อายุเจ็ดสิบแปดสิบปีหรือกระทั่งเด็กเจ็ดขวบก็สามารถปีนขึ้นไปยอดเขาได้อย่างสบายๆ จากด้านในเมืองแซมบอร์ด
ภูมิประเทศที่น่าประหลาดแบบนี้ ง่ายแก่การป้องกันยากแก่การโจมตี เรียกได้พระเ้าทรงสร้างขึ้นมาอย่างประณีตจริงๆ
ภายใตู้เาที่ล้อมรอบ กำแพงเมืองแซมบอร์ดทั้งหมดที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์มีเพียงประตูเมืองที่หันหน้าไปทางด้านแม่น้ำจูลี่และเป็เพียงด้านเดียวของเมืองแซมบอร์ดที่ไม่มีูเามาโอบล้อมปิดกั้นให้ กำแพงเมืองด้านนี้ยาวหกร้อยกว่าเมตร ด้านล่างมีความกว้างประมาณสิบห้าเมตร ้ามีความกว้างสิบสองเมตรและมีความหนาอย่างมาก ้ากำแพงกว้างมากจนสามารถให้รถม้าสี่คันวิ่งได้สบายๆ
เป็ที่น่าสังเกตว่า กำแพงเมืองด้านนี้ไม่ใช่เส้นตรงแต่ได้รับการออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ให้เป็ส่วนโค้งและทุกๆ ภายในส่วนโค้งจะมีเว้าลึกลงไปอีก ด้วยการออกแบบเช่นนี้ สามารถลดจุดบอดด้านวิสัยทัศน์ของกำแพงได้ ไม่ว่าใครที่ยืนอยู่บนกำแพงนี้ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านล่างได้อย่างชัดเจน
และห่างออกไปจากด้านล่างกำแพงสามร้อยสี่ร้อยเมตร แม่น้ำจูลี่ที่มีกระแสน้ำเชี่ยวกรากได้กลายเป็คูน้ำป้องกันเมืองไปโดยปริยาย เสียงสายน้ำดังกึกก้องอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็จะมีหมอกปกคลุมแม่น้ำยาวถึงหนึ่งร้อยเมตร ความลึกของแม่น้ำไม่สามารถคาดเดาได้ หากจะข้ามแม่น้ำโดยที่ไม่ใช้เรือรบ นอกจากเหล่าผู้มีพลังแข็งแกร่งที่สามารถบินได้แล้ว คนอื่นๆ ที่ไร้ซึ่งพลังคิดจะข้ามแม่น้ำไปจะถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากกลืนกินอย่างไร้ร่องรอยอย่างแน่นอน
ที่ริมแม่น้ำ มีสะพานหินแห่งหนึ่งที่ธรรมชาติและมนุษย์ร่วมกันสร้างขึ้นมาเชื่อมโยงทั้งสองด้านเข้าด้วยกัน
ตามคำบอกเล่าของบรู๊ค ประวัติความเป็มาของสะพานหินนี้ไม่แน่ชัดนัก แม้แต่ผู้าุโที่สุดของเมืองแซมบอร์ดก็ไม่รู้เช่นกันว่ามันถูกสร้างมาั้แ่เมื่อไร มันมีประวัติอันยาวนานและลึกลับมาก
ซุนเฟยกวาดสายตามองอย่างละเอียด
สะพานหินมีเสาหินธรรมชาติรองรับจำนวนเก้าแห่ง
มองไกลๆ เสาหินธรรมชาติทั้งเก้าแห่งนี้ราวกับูเาแทรกลงไปในแม่น้ำยืนสูงตระหง่าน ไม่มีทางที่มนุษย์สามารถทำมันได้ ราวกับเทพเ้าบางองค์ได้ใช้พลังอันยิ่งใหญ่ตัดยอดหินบนเทือกเขาในระยะไกลอย่างกะทันหัน จากนั้นก็โยนมันลงแม่น้ำ
การมีอยู่ของสะพานหินนี้มีประโยชน์ต่อเมืองแซมบอร์ด
ยามปกติ ประชาชนในเมืองแซมบอร์ดสามารถใช้มันในการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย และเมื่อเกิดศึกา สะพานแคบๆ อันนี้กลับทำให้ศัตรูยากที่จะทุ่มกองกำลังทหารล้อมโจมตีเมืองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำได้ อีกทั้งอุปกรณ์ตีเมืองขนาดใหญ่บางชนิดก็ไม่สามารถส่งเข้าไปโจมตีเมืองได้ด้วย
“ภูมิประเทศยอดเยี่ยมขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมประชาชนและทหารที่มีจำนวนไม่ถึงแปดร้อยคนของเมืองแซมบอร์ดจะสามารถต่อสู้ยืนหยัดกับเหล่าทหารเกราะดำที่ผ่านการฝึกมาเป็อย่างดีจำนวนสองพันกว่าคนได้ตั้งสี่วัน....เมืองนี้เป็ป้อมปราการธรรมชาติอย่างแท้จริง!”
หลังจากซุนเฟยสำรวจรอบๆ แล้ว ก็พอจะเข้าใจลักษณะภูมิประเทศของเมืองแซมบอร์ดทั้งหมด
ถึงแม้ว่าซุนเฟยจะไม่ใช่อัจฉริยะทางการทหารก็ตาม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้ซุนเฟยรู้สึกอัศจรรย์ใจเป็อย่างมาก
แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ซุนเฟยก็แปลกใจเล็กน้อย
งานก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าด้วยทุนทรัพย์ กำลังคนและแหล่งวัตถุดิบขององค์าา เมืองแซมบอร์ดยามนี้ไม่น่าจะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายได้ หรือว่าเมืองแซมบอร์ดเคยรุ่งเรืองมาก่อน? หรือไม่เมืองนี้มีประวัติศาสตร์เบื้องลึกเื้ัอะไรบางอย่าง?
ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะไม่ง่ายดายอย่างที่คิด
แต่ซุนเฟยไม่รู้ประวัติศาสตร์ของที่นี่
เพราะในความทรงจำของอเล็กซานเดอร์ไม่ได้ทิ้งเื่ราวที่เป็ประโยชน์ให้กับเขามากนัก
“บรู๊ค เมื่อก่อนทุกคนเรียกข้าว่าคนปัญญาอ่อน ใช่หรือไม่?”
จู่ๆ ซุนเฟยก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมา ก่อนจะหันไปถามด้วยท่าทางสงบนิ่ง
ได้ยินองค์าาถามตรงๆ แบบนี้ ชายผู้ซื่อตรงสุดๆ อย่างบรู๊คก็พลันเหงื่อตก
เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี
ไม่ผิด เมื่อก่อนอเล็กซานเดอร์เป็คนปัญญาอ่อนคนหนึ่งที่แม้แต่ความสามารถในการดูแลตัวเองก็ไม่มี ภายใต้การเสี้ยมสอนของสหายชั่วๆ ไม่กี่คนก็สร้างความหายนะให้กับเมืองแซมบอร์ดไม่น้อย แม้ว่าฐานะของเขาจะเป็าา แต่ผู้คนในเมืองแซมบอร์ดแทบจะไม่มีใครชอบเขา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าอเล็กซานเดอร์ได้รับสืบทอดตำแหน่งาาจากองค์าาพระองค์ก่อน คาดว่าไม่นานเขาคงถูกประชาชนเมืองแซมบอร์ดทอดทิ้ง
แม้กระทั่งบรู๊คที่เป็ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ เมื่อก่อนก็ไม่ได้มีความรู้สึกเคารพยำเกรงองค์าาคนนี้แม้แต่น้อย อย่าว่าแต่คนอื่นเลย แม้กระทั่งตัวเขาเองยังแอบดูถูกเล็กน้อย
แต่ตอนนี้ เขาได้ประจักษ์กับสายตาตัวเองในการต่อสู้บนกำแพงเมื่อตอนกลางวัน และพลังรักษาอาการาเ็ระดับเทพเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ยังจะมีใครกล้าปฏิบัติต่อผู้แข็งแกร่งที่ได้รับการอวยพรจากพระเ้าอย่างเขาเหมือนเป็คนปัญญาอ่อนอีก?
อย่างไรก็ตาม บรู๊คได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่ออเล็กซานเดอร์ก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว เขาไม่มีข้อสงสัยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าตอนนี้มันคุ้มค่าที่เขาจะถวายการรับใช้อย่างสุดความสามารถกับองค์าาที่ยืนอยู่ตรงหน้าองค์นี้
“เช้าวันนี้ หลังจากที่ข้าถูกธนูของศัตรูยิงบนกำแพง หัวของข้าได้ชนเข้ากับก้อนหินก้อนหนึ่ง บางทีนะ มันอาจจะเป็การอวยพรของพระเ้าก็ได้ ตอนนั้น ในหัวของข้าก็มีเื่ราวที่ข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อนผุดขึ้นมาจำนวนมาก ราวกับว่าพลังของข้าได้ตื่นขึ้นแล้ว...”
ซุนเฟยค่อยๆ ยกมือลูบตะไคร้น้ำกระดำกระด่างที่อยู่บนกำแพงเบาๆ แล้วก็พูดกับตนเองอย่างช้าๆ ว่า
“เ้ารู้ไหม? ความรู้สึกในตอนที่ธนูปะทะกับหัวของข้า มันเหมือนกับว่าจู่ๆ ตัวข้าเองได้เติบโตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เื่ราวมากมายก่อนหน้านี้ที่ข้าไม่เข้าใจ แต่มาตอนนี้ข้ากลับเข้าใจมันได้ชัดเจน...ฮึๆ ถึงตอนนี้ข้าก็เพิ่งรู้ว่าเมื่อก่อนข้าเป็คนโง่ไร้ความสามารถที่ถูกผู้คนรังเกียจ....บรู๊ค เ้าบอกข้าได้ไหม เมื่อก่อนข้าได้ทำเื่อะไรโง่ๆ ลงไปบ้าง”
ได้ยินซุนเฟยรำพึงรำพันกับตัวเอง ข้อสงสัยที่รบกวนจิตใจบรู๊คมาตลอดในที่สุดก็หายไป “ที่แท้เป็เพราะธนูเมื่อเช้านี่เองที่ทำให้สติปัญญาของอเล็กซานเดอร์จับพลัดจับพลูกลายเป็ปกติ...จำได้ว่าเมื่อนานมาแล้วในรัชสมัยขององค์าาพระองค์ก่อน มีคำทำนายบอกไว้ว่าอเล็กซานเดอร์ได้รับคำสาปแช่งจากพระเ้าทำให้กลายเป็คนปัญญาอ่อน...ตอนนี้ ในที่สุดก็เหมือนพระเ้าจะถอนคำสาปแช่งของอเล็กซานเดอร์ออกแล้ว”
ซุนเฟยแอบชำเหลืองมองท่าทีของบรู๊คที่อยู่ด้านหลังแล้วแสยะยิ้มออกมา
เขาแสร้งรำพึงรำพันต่อไปว่า “ในตอนที่ข้าถูกแบกให้ไปนอนที่ห้องโถงราชวัง ยามที่ข้าสะลึมสะลือก็รู้สึกถึงพลังมหาศาลสายหนึ่งไหลเวียนอยู่ในกายข้าไม่หยุด หลังจากที่ข้าฟื้นขึ้นมา ข้าก็ได้มีพลังที่น่าเหลือเชื่อที่ไม่เคยััมาก่อน เวลาเพียงชั่วพริบตา สำหรับข้ามันเหมือนได้ร่ำเรียนมานาน ข้าสามารถควบคุม...พลังได้อย่างสบายๆ และยังเข้าใจศิลปะการต่อสู้ราวกับว่าเป็ส่วนหนึ่งกับข้ามาั้แ่เกิด”
ฟังถึงตรงนี้ ข้อสงสัยข้อสุดท้ายในใจบรู๊คก็หายไป
ที่ว่าทำไมองค์าาอเล็กซานเดอร์จู่ๆ ก็มีพลังที่น่าเกรงขามและทักษะขวานที่น่ามหัศจรรย์ ที่จริงแล้ว นี่คือจุดที่ทำให้เขาและทหารจำนวนมากยากจะเข้าใจ ดูเหมือนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็ประสงค์ของพระเ้า
เื่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้...การต่อสู้ที่น่าประทับใจบนกำแพง เืในร่างกายที่สามารถรักษาทหาราเ็ได้อย่างไม่น่าเชื่อ...นอกจากพระเ้าแล้ว บรู๊คก็ไม่รู้ว่าจะมีอย่างอื่นที่จะสามารถอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้
ซุนเฟยแอบสังเกตท่าทีของบรู๊คอย่างละเอียด
เมื่อเขาเห็นว่าในที่สุดใบหน้าของบรู๊คแสดงอาการเข้าอกเข้าใจ ซุนเฟยจึงรู้แล้วว่า ไอ้คำพูดสีข้างถลอกของตัวเองได้ผลตามที่เขาคาดไว้
--------------------------
Teddy Bear : รู้สึกพระเอกเราจะฉลาดเกมโกงว่ามั้ย ท่านผู้แปล ฮะๆ
PLEO : ฉลาดไม่พอยังแหลได้ไหลลื่นมาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้