ซูิเยว่ไม่รีบร้อน นางวางแผนว่าจะขึ้นไปมอบของขวัญให้ทีหลัง จี๋โม่หานเองก็สั่งให้หลิงชวนขึ้นไปมอบของขวัญ สิ่งที่เขานำมาคือหยกฉางโช่วหรูอี้คู่หนึ่ง ซึ่งเป็หยกที่คุณภาพบริสุทธิ์มาก
ของขวัญที่จ้าวอวี้ถิงมอบให้ก็เป็ภาพนกกระเรียนคู่ร่ายรำ ปีกของนกกระเรียนสองตัวนั้นราวกับมีชีวิต เหมือนมันจะบินออกมาจากภาพวาดในวินาทีต่อมา
ภาพวาดนี้ดึงดูดความสนใจของไทเฮาอย่างหาได้ยาก นางมองอยู่นานก่อนจะเอ่ยชม “ไม่เลว ไม่เลว”
เมื่อจ้าวอวี้ถิงได้ยินก็รู้สึกภูมิใจมาก นางยิ้มแล้วกล่าว “หม่อมฉันขออวยพรให้ไทเฮาเหนียงเหนียงมีความสุขเหมือนกับทะเลตงไฮ่ อายุยืนราวกับูเาหนานเพคะ”
ตอนที่จ้าวอวี้ถิงลงมาและเดินผ่านหน้าซูิเยว่ นางก็หยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองอีกฝ่ายจากที่สูงด้วยสายตาเย่อหยิ่ง “ิเยว่ไม่ใช่ว่าเ้าไม่ได้เตรียมของขวัญมาใช่หรือไม่?”
“เื่นี้ไม่ต้องให้ท่านพี่มากังวลใจเลยเ้าค่ะ”
มุมปากของซูิเยว่ยกขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ นางไม่อยากมีเื่กับจ้าวอวี้ถิงเพราะเื่แค่นี้
จ้าวอวี้ถิงถูกท่าทีของซูิเยว่ทำเอาโกรธจนหายใจไม่ทัน นางจึงไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วกลับไปนั่งที่
ซูโม่มอบของขวัญเป็ของประดับรูปปะการังหยก ซึ่งมีมูลค่าสูง อีกทั้งปะการังหยกชนิดนี้ปกติแล้วหาได้ยากมาก ดังนั้นถึงแม้จะมีเงินก็หาซื้อตามท้องตลาดได้ยากแสนยาก
ซูิเยว่ได้ยินเหล่าขุนนางพวกนั้นร้องออกมาด้วยความใ ไทเฮาเองก็ชอบของขวัญของซูโม่มาก นางมองอยู่นาน
หลังจากรอให้เหล่าขุนนางมอบของขวัญไปได้พอสมควรแล้ว ซูิเยว่ถึงได้ลุกขึ้นแล้วส่งสายตาไปให้เสี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านหลัง
เสี่ยวอวี่ถือกล่องในมือ นางมองคุณหนูด้วยสีหน้ากังวลใจก่อนจะถามเสียงเบา “ของขวัญที่พวกเราให้มันราคาถูกไปหรือไม่เ้าคะ?”
นางเห็นของขวัญของคนอื่นล้วนเป็ของที่มีมูลค่ามาก เมื่อเทียบกันแล้ว ของขวัญของซูิเยว่นั้นราคาถูกเกินไปอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้เนื้อผ้าที่ทำเสื้อผ้าจะดีมาก แต่อย่างไรเมื่อเทียบกับของขวัญของคนอื่นๆ ก็เทียบไม่ติด
ซูิเยว่หัวเราะแล้วส่งสายตาปลอบใจให้เสี่ยวอวี่ จากนั้นก็ถือของขวัญเดินออกไป
ทุกคนต่างจ้องกล่องในมือของซูิเยว่ตาไม่กะพริบ พวกเขาอยากรู้ว่าของขวัญที่นางให้คืออะไร
ซูิเยว่เดินไปหยุดตรงหน้าตำแหน่งสูงก่อนจะเปิดกล่องในมือ เป็เพราะเสื้อผ้าพับอยู่ด้านใน ตอนนั้นทุกคนจึงมองไม่ออกว่ามันคืออะไร จากนั้นถึงได้รู้ว่ามันคือผ้าไหมผืนหนึ่ง
ไทเฮาเองก็มองกล่องที่ซูิเยว่ถืออย่างอยากรู้ว่าด้านในใส่ของอะไรไว้ ตัวนางเอนไปด้านหน้าเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย
ซูิเยว่ยิ้มแล้วพูด “ของขวัญที่หม่อมฉันมอบให้ไทเฮาเป็เสื้อตัวหนึ่งเพคะ”
เมื่อพูดคำนี้ออกมา ทั่วทั้งสถานที่ก็เงียบกันไปหมด ต่อมาก็เกิดเสียงดังขึ้นมาทันที
ทุกคนต่างหัวเราะออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
มอบเสื้อผ้าให้เป็ของขวัญวันเกิด เป็ครั้งแรกที่ได้ยิน
เหล่าขุนนางต่างหัวเราะออกมาอย่างไม่ปิดบัง จากนั้นก็เริ่มพูดคุยกัน ซูิเยว่ได้เห็นไทเฮาอยู่ในสายตาหรือไม่ หรือว่าสกุลซูดูแลซูิเยว่ไม่ดี แม้แต่ของขวัญวันเกิดก็ยังไม่มีเงินซื้อ
จ้าวอวี้ถิงยังแอบคิดว่าซูิเยว่นั้นจะมอบของขวัญอะไร พอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างไม่ปิดบัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
แทบจะทุกคนต่างรอดูเื่ตลกของซูิเยว่ มีแค่จี๋โม่หานเท่านั้นที่ใบหน้าเรียบเฉย มุมปากมีรอยยิ้มจืด
ใบหน้าของซูโม่เองก็ปรากฏความไม่พอใจเล็กน้อย เขาร้องเหอะออกมาไม่ดังและไม่เบา ไทเฮานั่งตัวตรง ถึงแม้จะไม่ได้แสดงออกมา แต่สายตามีความไม่พอใจเล็กน้อย มองออกเลยว่านางไม่ค่อยพอใจซูิเยว่เท่าไร
ฮ่องเต้ที่อยู่ด้านข้างก็มองซูิเยว่ด้วยสายตาไม่เป็มิตร สีหน้าทะมึนขึ้น
ถึงแม้ทุกคนจะรอเื่สนุกของซูิเยว่ สีหน้าของนางก็ยังคงปกติดี มุมปากยกยิ้มขึ้น
ซูิเยว่มองตรงไปที่ไทเฮาที่อยู่ตำแหน่งรองประธานก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัด “เสื้อตัวนี้หม่อมฉันออกแบบเอง รวมถึงลายปัก้าหม่อมฉันก็ปักเองเพคะ”
นางพูดจบก็หยิบเสื้อออกมาจากกล่องแล้วส่งสัญญาณให้เสี่ยวอวี่มาช่วยนางคลี่เสื้อออก
ทั้งสองคนดึงแขนเสื้อจากด้านซ้ายและด้านขวาเผยให้ทุกคนเห็น
งานเลี้ยงที่เมื่อครู่ยังเสียงดังก็พลันเงียบลง ทุกคนเหมือนถูกสกัดจุด ต่างมองไปยังเสื้อในมือของซูิเยว่ตาค้าง
ชุดกระโปรงยาวสีเขียวหมอก ผ้าไหมคุณภาพดีปักลายอย่างละเอียด ั้แ่กระโปรงไล่ขึ้นไปใช้ด้ายสีเงินในการปักเป็ดอกมู่จิ่นบานขนาดใหญ่ กลีบดอกราวกับมีชีวิต ส่วนท่อนบนก็ใช้ด้ายสีทองปักเฟิ่งกางปีกสยายหนึ่งตัว
เฟิ่งตัวนั้นเหมือนจะบินออกมาจากเสื้อในวินาทีต่อมา ที่เอวของชุดก็ฝังเพชรสีน้ำเงินอ่อนล้อมรอบ ทำให้ทั้งชุดดูมีความสง่าแบบชนชั้นสูง ดูไปแล้วก็หรูหรามาก
ทั้งชุดดูสูงส่ง หรูหราสง่างาม ถึงจะใช้ห้องตัดเสื้อภายในวังก็เกรงว่าจะตัดเย็บเสื้อผ้าแบบนี้ออกมาไม่ได้
ท่าทางเบื่อหน่ายเมื่อครู่ของไทเฮาเปลี่ยนไป นางเอนตัวไปด้านหน้า เบิกตากว้างเล็กน้อย ั์ตาเปล่งประกายประหลาดใจจ้องเสื้อตรงหน้านิ่ง
ทุกคนหลังจากตกตะลึงไปได้ชั่วครู่ก็หัวเราะไม่ออกอีก
ซูิเยว่ยกยิ้มมุมปากก่อนจะช่วยกันกับเสี่ยวอวี่พับเสื้อผ้ากลับเข้าไปในกล่องใหม่ สายตาของไทเฮายังมองตามการเคลื่อนไหวของซูิเยว่ ทุกคนต่างมองออกว่าไทเฮาพอใจกับชุดที่ซูิเยว่ออกแบบชุดนี้มาก
นางยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเอ่ย “ของขวัญของหม่อมฉันอาจจะไม่ได้เป็ของราคาแพง แต่เป็น้ำใจของหม่อมฉัน ที่ทำเองกับมือ หวังว่าไทเฮาเหนียงเหนียงจะชอบ วันนี้เป็วันเกิดของไทเฮาเหนียงเหนียง หม่อมฉันจึงขออวยพรให้ไทเฮาไม่ว่าปีไหนก็เหมือนกับปีนี้ อ่อนเยาว์ตลอดกาลเพคะ”
สตรีคนไหนบ้างที่ไม่ชอบให้คนอื่นชมว่าตัวเองอ่อนเยาว์ โดยเฉพาะไทเฮาที่อายุถึงขนาดนี้แล้ว
ไทเฮายกยิ้มกว้างจนตาปิดในชั่วพริบตา นางพอใจกับของขวัญและคำอวยพรมาก “ดีดีดี ของขวัญของเ้านั้นมีน้ำใจรวมอยู่ด้วย ข้าชอบมาก”
“ขอบพระทัยเพคะไทเฮา”
สีหน้าของเหล่าขุนนางที่เมื่อครู่ยังหัวเราะซูิเยว่ก็ต่างย่ำแย่กันไปหมด โดยเฉพาะจ้าวอวี้ถิง มือที่อยู่ในแขนเสื้อกำแน่นพร้อมกับกัดริมฝีปากแน่น แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ นางจ้องแผ่นหลังซูิเยว่ด้วยความเกลียดชังจนแทบจะเป็รู
ซูิเยว่ปิดกล่องแล้วส่งของขวัญให้นางกำนัลข้างกายไทเฮา
ไทเฮายิ้มเต็มใบหน้าก่อนจะหันไปมองฮ่องเต้ “ของขวัญของคุณหนูซูข้าชอบนัก อีกเดี๋ยวต้องประทานรางวัลให้หนักๆ”
“พ่ะย่ะค่ะ พ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้เองก็คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนมาเป็เช่นนี้ แต่เสื้อตัวนั้นงดงามมากจริงๆ “อีกเดี๋ยวลูกจะประทานรางวัลให้แน่นอน”
ซูิเยว่ที่ได้รับผลตอบรับเช่นนี้กลับไม่ประหลาดใจเลยสักนิด หากจะรักษาอาการป่วยก็ต้องรักษาตามอาการ ฐานะสูงส่งอย่างไทเฮา มีของมีค่าอะไรบ้างที่นางไม่เคยเห็น ดังนั้นหากจะมอบของขวัญจะมอบของราคาแพงไม่ได้ ต้องมอบของที่พิเศษ
ซูิเยว่ย่อตัว “หม่อมฉันทูลลาก่อนเพคะ”
“รอเดี๋ยว” ไทเฮาเรียกนางเอาไว้ “ชุดสวยขนาดนี้ วันนี้ข้าจะต้องสวมมันแน่นอน เ้าตามข้ามา”
ซูิเยว่ชะงักไปก่อนจะยิ้มแล้วรับคำ “เพคะ”