หลงเยียนหรันเป็คนที่มีความภาคภูมิใจในตนเองมากกว่าคนอื่นๆ นางเป็ัที่แท้จริง และนางยังเป็ความหวังของัรุ่นใหม่ในโลก เช่นนี้นางจะปล่อยให้คนที่นางเยาะเย้ยมาเป็เวลานานโจมตีโดยไม่ใช้วรยุทธ์เลยได้อย่างไร?
นางอับอายจริงๆ
หลงเยียนหรันเมินเฉยต่อความประหลาดใจของผู้ชมโดยสิ้นเชิง และปรากฏตัวอีกครั้งด้วยท่าทางเกรี้ยวโกรธ
นี่เป็การต่อสู้ครั้งที่สองระหว่างทั้งสองคน
“ข้ายังไม่ทันได้ใช้พลังเต็มที่ แต่เ้าก็ขโมยชัยชนะไปแล้ว”
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ เ้าต้องยอมรับชะตาแล้ว เพราะข้าโกรธแล้วจริงๆ!”
ท่ามกลางเสียงคำรามของหลงเยียนหรันที่โกรธเกรี้ยว ดูเหมือนว่านางกำลังจะกลายร่างเป็ัที่ดุร้ายและมีอำนาจเหนือกว่า และด้วยกลิ่นอายของการต่อสู้ที่บ้าคลั่ง นางจึงร่ายหมัดพญาัมาต่อสู้อีกครั้ง
นางมาถึงระดับเริ่มต้นเท่านั้น ข้อแตกต่างคือตอนนี้นางไม่สามารถแสดงพลังของกระบวนท่าทั้งหมดได้ ครั้งนี้นางจึงใช้กำลังของตนอย่างเต็มที่โดยไม่มีการสำรอง แล้วพลังของหมัดพญาัประจัญบานก็พุ่งขึ้นเป็เส้นตรงทันที
หลัวเลี่ยหรี่ตาและจ้องมองไปยังหลงเยียนหรันที่กำลังบ้าคลั่ง
“ไม่ยอมแพ้? อย่างนั้นข้าจะโจมตีจนกว่าเ้าจะยอม!”
เขาไม่เคยมองว่าหลงเยียนหรันเป็ผู้หญิงเลย
เขายังไม่ได้นำพลังวรยุทธ์มาใช้ ใช้เพียงการผสมผสานกำลังภายในและพละกำลังทางกายภาพ รวบรวมเป็หมัดอันดุเดือดส่งออกไป
ตูม!
ทั้งสองปะทะกันเหมือนัดุร้ายสองตัว
และข้อดีของเคล็ดวิชาั์ก็ถูกเปิดเผยอีกครั้งเช่นกัน
เคล็ดวิชานี้ไม่เพียงทำให้ร่างกายเปลี่ยนแปลง แต่ยังทำให้พลังภายในมีอำนาจเหนือกว่าผู้อื่น ดังเช่นตอนนี้ ที่แม้ว่าหลงเยียนหรันจะแข็งแกร่ง แต่นางก็ยังถูกเตะถอยหลังไปมากกว่าสิบก้าว ในขณะที่หลัวเลี่ยถอยหลังไปเพียงสี่ถึงห้าก้าวก่อนจะหยุดลง
ในขณะที่หลงเยียนหรันยังคงถอยหลัง หลัวเลี่ยก็ได้พุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง
คนหนึ่งถอยมากกว่าสิบก้าว แต่คนหนึ่งถอยไปสี่ถึงห้าก้าว แน่นอนว่าคนที่จำนวนก้าวในการถอยน้อยกว่าย่อมมีเวลาเพียงพอในการเตรียมตัวโจมตีมากกว่า
ั้แ่ได้เริ่มหมัดแรก หลัวเลี่ยก็เป็ฝ่ายได้เปรียบอย่างแน่นอน
ตูม! ตูม! ตูม!
หมัดสามหมัดที่พลังะเิรุนแรงที่สุดถูกซัดออกไปในพริบตา
ในหมัดแรก หลงเยียนหรันอาเจียนเป็เื และถอยออกไป
ในหมัดที่สอง หลงเยียนหรันมีเืไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด และลอยไปข้างหลัง
และในหมัดที่สาม หลงเยียนหรันก็สลายไป!
เสียงกลไกดังขึ้นอีกครั้ง
“การต่อสู้สนามที่เจ็ดของสนามประลองัแท้จริง ผู้ชนะ : มีัอยู่ที่เป้า สถิติ : การต่อสู้สองครั้ง ชนะสองครั้ง และแพ้เป็ศูนย์”
หากหลงเยียนหรันประมาทในการต่อสู้ครั้งแรก การต่อสู้ในครั้งนี้คงไม่มีใครกล้าพูดว่านางประมาทอีก นางทุ่มแรงทั้งหมด แต่คู่ต่อสู้ของนางกลับยังไม่ได้ใช้วรยุทธ์ใดๆ
ในครั้งนี้ผู้ชมอยู่ในความโกลาหล
เมื่อมองไปยังหลัวเลี่ยที่ยืนอยู่คนเดียวในสนามประลองัแท้จริง ผู้ชมก็รู้สึกว่าอาจมีเป็นักรบผู้ไร้พ่ายตัวจริงแห่งโลกภพจิตักำเนิดขึ้นแล้ว
หลงโต่วไห่ซึ่งเป็หนึ่งในสี่นายพลผู้ยิ่งใหญ่ ที่มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับหลงเยียนหรันก่อนหน้านี้เกือบจะขยี้ตา ในฐานะที่พลังของเขาอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับทลายยุทธ์ และกำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับกายทองคำ เขาไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าหลงเยียนหรันจะพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
แม้แต่ซานต้าวจงก็อดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นด้วยสีหน้าไม่เชื่อ เขาพึมพำกับตัวเอง “น่าเหลือเชื่อ หลงเยียนหรันมีตัวตนเป็ัจริงๆ นะ”
“เราประเมินเด็กคนนี้ต่ำไปจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าใช้ชื่อที่ดูิ่เผ่าัของข้า” ตาของหลงโต่วไห่กระตุกหลายครั้ง “แต่ว่าองค์หญิงสามยังมีไพ่ลับอยู่ หากการประลองยังคงดำเนินต่อไป องค์หญิงสามจะต้องพลิกสถานการณ์กลับได้อย่างแน่นอน”
ซานต้าวจงกล่าวว่า “แต่เขายังไม่ได้ใช้วรยุทธ์เลย”
มุมปากของหลงโต่วไห่กระตุก
สนามประลองัเริ่มมีชีวิตชีวามากขึ้น เพราะสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หลัวเลี่ย พวกเขาเลิกพนันในการประลองอื่น และมาหยุดดูการประลองนี้ แม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับความมั่งคั่งของพวกเขา แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างหลัวเลี่ยและหลงเยียนหรัน
ทุกคนรู้ว่าหลงเยียนหรันจะไม่ยอมแพ้ และจะต่อสู้อีกครั้งอย่างแน่นอน
ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด แต่เพียงเพราะนางคือหลงเยียนหรัน ัที่แท้จริงของัรุ่นใหม่ของโลก!
นอกจากนี้ หลังจากข่าวการต่อสู้นี้แพร่กระจายออกไป ก็ดึงดูดผู้คนมากมายให้เข้ามา และจำนวนผู้คนในสนามประลองัก็เริ่มเพิ่มขึ้น บางคนที่มีสถานะสูงก็เริ่มใช้สิทธิพิเศษ เพื่อให้สามารถเข้ามาดูการประลองได้
นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนมากที่ถูกรังแกโดยหลงเยียนหรันหรือเผ่าั ต่างมาดูการประลองนี้จากการส่งผ่านการแพร่ภาพประลองในภพจิตั
จำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้นอย่างน่าใ กะเกณฑ์จากสายตาคงเกินสองล้านคนแล้ว
แต่เมื่อพิจารณาจากจำนวนประชากรเกือบหนึ่งพันล้านคนในโลกภพจิตั ตัวเลขนี้นับว่าไม่น่าแปลกใจ
ไม่มีสิ่งใดในโลกภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อหลัวเลี่ย
หลังจากเอาชนะหลงเยียนหรันได้เป็ครั้งที่สอง หลัวเลี่ยก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา
สิ่งตกทอดของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มีสามส่วน สองส่วนแรกนั้นง่ายต่อการอธิบาย และส่วนที่สามคือการเปลี่ยนแปลงภายในหัว เขาสามารถเข้าใจวรยุทธ์ได้อย่างน่าแปลกใจ และเขายังสามารถรวบรวมแิทางวรยุทธ์ที่แตกต่างกันของฉินจื้อและเหยาเฟิง ซึ่งอยู่ในระดับวังชะตาในตอนที่พวกเขาสร้างทักษะการต่อสู้ได้ ดังนั้นความเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์นี้จะไปสิ้นสุดตรงที่ใดกัน?
ในความเป็จริงหลัวเลี่ยเองก็ไม่แน่ใจ
ดังนั้นความคิดที่จู่ๆ ผุดขึ้นในหัวเขาตอนนี้ ก็คือการระลึกถึงการเคลื่อนไหวในกระบวนท่าทักษะของหลงเยียนหรัน
นั่นคือหมัดพญาัประจัญบาน
ด้วยความคิดนี้ เงาของหลงเยียนหรันก็แวบเข้ามาในหัวของหลัวเลี่ย แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง คือท่าทางการชก การใช้กล้ามเนื้อ การไหลเวียนของพลังภายใน ระยะเวลาการหายใจ และอื่นๆ ในระหว่างการชกนั้นแสดงภาพออกมาอย่างชัดเจน
จากนั้นหลัวเลี่ยก็รู้สึกราวกับว่าเขาเชี่ยวชาญหมัดพญาัประจัญบาน
“เป็จริงหรือ?”
“ข้ามองคนอื่นใช้มันแล้วก็สามารถเรียนรู้ได้เลยหรือ?”
หลัวเลี่ยสงสัยในตัวเอง มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ
ในขณะนี้หลงเยียนหรันก็กลับมาอีกครั้ง
“อ๊ากกก ข้าจะฆ่าเ้า!”
หลงเยียนหรันกำลังเสียสติ
แค่ถูกทุบตีสองครั้ง ความเ็ปทั้งหมดก็ทำให้นางเสียสติ ยิ่งพูดถึงความภาคภูมิใจของนาง ศักดิ์ศรีของัแท้จริง นางก็ไม่อาจยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ได้
การต่อสู้ครั้งที่สาม เริ่มได้!
หลัวเลี่ยไม่รอให้หลงเยียนหรันะโจบ ทันใดนั้นเขาก็เคลื่อนไปข้างหน้า และกระแทกหมัดออกไปตามความรู้สึกของทักษะที่เขาเพิ่งเชี่ยวชาญ
ตูม!
หลงเยียนหรันถูกะเิร่าง
การต่อสู้ครั้งที่สามจบลงแล้ว!
ในสนามประลองัเงียบสนิท มันเร็วเกินไป
ปึง!
ประตูและหน้าต่างที่คนภายนอกไม่สามารถมองเข้าไปได้ ซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้เทคนิคพิเศษของนักเวทในห้องรับรองพิเศษนั้น ก็ถูกะเิเช่นกัน
หลงโต่วไห่คว้าสิ่งที่หักด้วยมือทั้งสองข้าง และะโ “นี่คือระดับพื้นฐานของทักษะหมัดพญาัประจัญบาน เ้าเรียนรู้ทักษะหมัดพญาัแล้ว เพียงมององค์หญิงสามใช้สองครั้ง ทว่าเ้ากลับเข้าสู่ระดับพื้นฐานได้แล้ว”
ว้าว!
ผู้ชมในสนามส่งเสียงฮือฮา
แม้แต่ผู้ชมภายนอกของสนามประลองัก็ตื่นเต้น
ทักษะหมัดพญาัประจัญบานนี้ถูกสร้างขึ้นโดยหลงโต่วไห่ เขาไม่มีลูกศิษย์หรือสมาชิกในครอบครัว คนเดียวที่เขาถ่ายทอดวิชาให้คือองค์หญิงสามหลงเยียนหรัน กล่าวคือมีเพียงสองคนในโลกนี้ที่สามารถใช้ทักษะนี้ได้ คนหนึ่งคือหลงโต่วไห่ ส่วนอีกคนคือหลงเยียนหรัน และเห็นได้ชัดว่าเป็ไปไม่ได้ที่คนสองคนนี้จะถ่ายทอดวิชาให้คนอื่น
ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวเมื่อนึกถึงมันที่ไม่ใช่ทักษะการต่อสู้ที่สร้างขึ้นโดยคนทั่วไป แต่ถูกสร้างโดยหลงโต่วไห่ที่มีชื่อเสียง และแม้ว่ามันจะถูกสอนให้กับคนอื่นๆ แต่ก็ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่สามารถฝึกฝนมันได้
ก่อนหน้านี้ซานต้าวจงค่อนข้างสงสัย แต่เมื่อเขาได้ยินหลงโต่วไห่พูดแบบนี้ เขาก็แทบจะกัดลิ้นตาย เขาจ้องไปที่ชายคนนั้นในสนามประลองัแท้จริงด้วยแววตาว่างเปล่า และหายใจเข้าลึกๆ หลังจากมองดูมัน
เนื่องจากหลัวเลี่ยพบว่าเขาได้มาถึงระดับพื้นฐานของทักษะหมัดพญาัประจัญบานแล้ว เขาเกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความประหลาดใจ
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือสิ่งตกทอดที่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มอบให้เขาสามารถอธิบายได้ว่าลึกลับจริงๆ
เขารู้สึกตื่นเต้น เขาฝึกฝนทักษะหมัดพญาัในสนามประลองัแท้จริงอีกครั้ง ก่อนที่หลงเยียนหรันจะกลับมา
หลังจากชกไปสิบหมัดติดต่อกัน เขาก็มาถึงระดับเริ่มต้น
ผู้ชมในสนามประลองัตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง
หลงโต่วไห่เองก็ตกตะลึง
และจำนวนผู้ชมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับถูกกระตุ้นด้วยความร้อนแรงของการประลอง