“เจียงหงหย่วน ท่านเอาใหญ่แล้วนะ!”
“สุภาพบุรุษตกลงกันด้วยปาก(วาจา) ไม่ใช้กำลัง!”
“เจียงหงหย่วน ท่านรังแกข้า!”
หลินหวั่นชิวดิ้นรนบนตักเขา ประท้วงเสียงเบา
ชายฉกรรจ์ส่งเสียงฮึดฮัด “สุภาพบุรุษตกลงกันด้วยปาก ไม่ใช้กำลังใช่หรือไม่?”
หลินหวั่นชิวพยักหน้า “ใช่ๆ ใช้ปากไม่ใช้กำลัง” ถ้าแก้ไขด้วยคำพูดได้จะไม่ลงมือ!
ทว่าวินาทีต่อมา…
นางรู้สึกเจ็บที่ก้น…
ชายฉกรรจ์หน้าไม่อายกัดก้นนาง!
“เจียงหงหย่วน เ้ามันไร้ยางอาย!” คราวนี้นางน้ำตาไหลแล้วจริงๆ ไหลด้วยความอับอาย
“เ้าบอกเองว่าใช้ปากไม่ใช้กำลัง” เจียงหงหย่วนมองรอยฟันที่ตัวเองทิ้งไว้ ก้นนางเหมือนเต้าหู้ ตอนนี้กำลังสั่น
เขามองแล้วต้องกลืนน้ำลาย
“ห้ามใช้ทั้งปากทั้งกำลัง!” มารดามันเถิด เ้าหมอนี่จะเอาใหญ่แล้ว
เจียงหงหย่วนมองไปทางอื่น ช่วยนางใส่กางเกง จากนั้นเปลี่ยนท่าดึงนางเข้ามากอด ถามเสียงแหบแห้งว่า “วันหน้ายังจะกล้าปิดบังข้าอีกหรือไม่?”
หลินหวั่นชิวรีบยอมแพ้ “ไม่กล้าแล้ว”
เจียงหงหย่วนหลุบตามองใบหน้าอมชมพูของนาง แววตาเขาทั้งลุ่มลึกและมืด ประหนึ่งกระแสน้ำวนที่ไร้ที่สิ้นสุด สามารถดูดกลืนทุกอย่างลงไป “วันหน้ามีกระไร…จะให้ข้ารู้เป็คนสุดท้ายอีกหรือไม่?”
“ฮือฮือ…ไม่กล้าแล้ว วันหน้ามีกระไร ข้าจะให้ท่านรู้เป็คนแรกเป็แน่”
“เด็กดี” เจียงหงหย่วนเคลื่อนฝ่ามือหนามาจับที่ท้ายทอยนาง ก้มหน้าลงจูบที่เส้นผมเบาๆ
เขากอดนางเอนตัวลง จูบหน้าผากนางซ้ำไปมา
“เ้าหนูน้อย ทำเอาข้าใแทบแย่”
ตอนที่เจียงหงป๋อมอบยาพิษให้เขา มีแต่์เท่านั้นที่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร
“ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว” หลินหวั่นชิวซุกอกเขาบ่นอู้อี้ เอาอายุเ้าของร่างเดิมกับอายุในยุคปัจจุบันของนางมารวมกันก็…สี่สิบปีแล้ว
แต่ถึงไม่นับอายุเ้าของร่างเดิม อายุที่แท้จริงของนางก็ขึ้นเลขสามแล้วอยู่ดี
หน้าอกของนางถูกชายฉกรรจ์คว้าไปบีบแบบไม่เกรงใจ
“ไม่เด็กแล้วจริงๆ”
“ข้าไม่ได้หมายถึงเช่นนั้น!” หลินหวั่นชิวโมโห คุยด้วยเหตุผลกับหมาป่าผู้หิวโหยไม่ได้เลยจริงๆ
“ใช่ อายุไม่น้อยแล้ว นี่ก็เข้าปีใหม่แล้ว สิบห้าแล้ว เข้าห้องหอได้แล้ว”
“เจียงหงหย่วน…ท่านช่วยทำตัวให้เป็ผู้เป็คนหน่อยได้หรือไม่?” หลินหวั่นชิวทุบอกเขาสองครั้งด้วยความโมโห
เสียงลึกทุ้มและเ้าเล่ห์ของชายฉกรรจ์แทรกเข้ามาในหู “ภรรยาข้าทนไม่ไหว จะปลุกปล้ำข้าบนเตียง…”
หลินหวั่นชิว “…”
เ้าชายฉกรรจ์!
ช่วยเป็ผู้เป็คนหน่อยเถิด!
จริงๆ นะ ขอร้องล่ะ!
“หย่วนเกอ เื่จ้าวหงฮวา…ท่านไม่โกรธข้าใช่หรือไม่?” แหย่ไม่ได้แต่ยังหลบได้อยู่ รีบเปลี่ยนเื่คุยดีกว่า
แม้การเปลี่ยนเื่คุยจะดูฝืนและฝืดจนเกิดประกายไฟ แต่หลินหวั่นชิวไม่มีทางเลือก ขืนปล่อยให้ชายฉกรรจ์พูดต่อไป นางกลัวจะรักษาประตูเมืองไม่ไหว
“เ้าใจอ่อนเกินไป” เจียงหงหย่วนแค่คิดว่าถ้าหลินหวั่นชิวไม่มีไหวพริบ ไม่ได้แอบปีนขึ้นหลังคาไปเห็นและได้ยินทุกอย่าง…
เช่นนั้นจุดจบของนาง…
เขาไม่กล้าคิด
และไม่อยากคิดเช่นกัน
“ใช้วิธีดาบนั้นคืนสนองมาเอาคืนแล้วยังเรียกว่าใจอ่อนอีกหรือ? หย่วนเกอ ข้าว่าท่านน่าจะเข้าใจเกี่ยวกับความใจอ่อนผิดกระมัง” หลินหวั่นชิวพูด “การจะฆ่าผู้ใดสักคนไม่ใช่เื่ยาก ที่ยากคือให้คนคนนั้นมีชีวิตอยู่ด้วยความทรมานต่างหากเล่า พวกเราไปมาหาสู่ใกล้ชิดกับบ้านจ้าว ป้าสองจ้าวเอาตัวมาช่วยกำบังข้าทุกครั้ง ไม่ว่าเื่กระไรก็ช่วยเป็คนแรกเสมอ ไม่เคยถอยหนี สุ่ยเซิงเองก็ช่วยท่านจัดการธุระ ความผิดของจ้าวหงฮวาไม่ควรส่งผลไปถึงพวกเขา อย่าให้ตะปูแค่ตัวเดียวทำน้ำแกงทั้งหม้อเสีย ท่านไม่ต้องสนใจเื่ของนาง ข้าจะจัดการเอง” นางยังมีแผนสำหรับจ้าวหงฮวาอีก
“วางใจเถิด หากมีกระไรที่ข้าทำไม่ได้ ข้าจะบอกท่านเป็แน่” หลินหวั่นชิวเห็นชายฉกรรจ์ไม่ตอบก็รีบพูดต่อ
“อืม” ในที่สุดชายฉกรรจ์ก็ยอมส่งเสียง ถือเป็อันตกลง
“ท่านเจอกระไรเกี่ยวกับจางซื่อบ้างหรือไม่?” หลินหวั่นชิวซุกตัวในอ้อมกอดชายฉกรรจ์อย่างเรียบร้อย ไม่กล้าขยับตัวมั่วซั่ว พยายามหาเื่มาคุยไม่ให้บรรยากาศเย็นะเื
นางกลัวว่าบรรยากาศเย็นลงแล้วชายฉกรรจ์จะทำแบบโน้นแบบนี้กับนาง
“ตรวจสอบดูแล้ว แต่อำเภอใหญ่เกินไป คงอีกสักพักกว่าจะได้คำตอบ” เขาใช้ขอทานในอำเภอเป็สายข่าว ต้องใช้เวลาสักระยะ
แต่ตอนนี้…เขาสามารถลองใช้โอสถวอนเซียน
เขาไม่ได้บอกหลินหวั่นชิวเื่ยาพิษสองขวดที่หงป๋อให้มา
นั่นเพราะ…
เขาไม่อยากให้นางรู้
อื้ม เขาก็เป็คนไม่ดีเช่นนี้แหละ
เื่นี้ยังคงเป็ปริศนา ถึงทั้งคู่จะคุยกันไปก็ยังไม่ได้คำตอบ
เจียงหงหย่วนไม่ได้ทำกระไร กอดนางนอนหลับ
เมื่อหลินหวั่นชิวตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น ข้างกายก็ไม่มีผู้ใดแล้ว นางลุกไปล้างหน้า ส่องกระจกห่อผ้าพันแผลใหม่และแต่งหน้าให้เหมือนคนป่วย
“ไท่ไท่ ไท่ไท่บ้านจ้าวกับไท่ไท่บ้านหวางมาเ้าค่ะ” ยายสวีพูดในขณะที่ยกอาหารเช้าเข้ามาให้นาง “บ่าวให้พวกนางไปรอที่ห้องโถงเรือนใต้”
หรือก็คือไม่ได้ให้เข้ามาในลาน
“รอข้ากินเสร็จแล้วท่านไปพาพวกนางเข้ามาเถิด”
“เ้าค่ะ”
“หวั่นชิว…”
“หวั่นชิว เ้าเป็กระไรมากหรือไม่?”
เมื่อป้าสองจ้าวกับหลิวซื่อเดินเข้ามา หลินหวั่นชิวกำลังเอนตัวพิงหัวเตียง ใบหน้าซีดขาว ริมฝีปากไม่มีเื
เห็นว่าผ้าพันแผลบนศีรษะมีคราบเื ทั้งคู่ยิ่งเป็ห่วงกว่าเดิม
“ท่านหมอบอกให้ข้าพักผ่อนให้เพียงพอ หย่วนเกอฝากคนซื้อยาทาแผลมาให้ ได้ยินว่าช่วยลบรอยแผลเป็ อีกเื่คือให้ระวังเื่อาหารการกิน น่าจะไม่ได้เป็กระไรมากเ้าค่ะ ท่านป้าทั้งสองนั่งลงเถิด”
ขณะที่พูด ยายสวียกเก้าอี้สองตัวมาวางข้างเตียง ชงชาให้ทั้งคู่เสร็จจึงถอยออกไปและปิดประตู
“ไม่เป็กระไรก็ดีแล้ว!” ป้าสองจ้าวกลัดกลุ้มมาทั้งคืน นอนไม่หลับ
“หงฮวาไม่เป็กระไรใช่หรือไม่เ้าคะ?” หลินหวั่นชิวถามอย่างอิดโรย
ป้าสองจ้าวแค่ได้ยินนางถามถึงจ้าวหงฮวาก็ตาแดงทันที “นังเด็กนั่นถูกโจวเอ้อร์เหนิงข่มเหงไปแล้ว” นางแทบไม่มีแรงเมื่อพูดถึงจ้าวหงฮวา
ยากจะจินตนาการจริงๆ ว่าสตรีที่นั่งเช็ดน้ำตาสะอึกสะอื้นอยู่หน้าเตียงตอนนี้คือป้าสองจ้าวที่กล้าเผชิญหน้าและพุ่งชนกับทุกอย่าง…
หลินหวั่นชิวสังเกตเห็นว่า เพียงแค่คืนเดียว ผมหงอกที่ขมับป้าสองจ้าวเหมือนจะหนาขึ้นมาก
หลิวซื่อถอนหายใจ ลูบหลังป้าสองจ้าวแล้วเงยหน้ามองหลินหวั่นชิว “หวั่นชิว เกิดกระไรขึ้นกันแน่? ผู้ใดทำร้ายเ้า?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้