จุนห่าวและหานรุ่ยเดินผ่านห้องโถงไปยังประตูใหญ่อันแปลกตา ขณะที่ยืนหยุดนิ่ง ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นเืที่เข้มข้นขึ้นในอากาศ
เสี่ยวไป๋กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “จุนห่าว รีบผลักประตูเข้าไปเร็วเข้า ของดีอยู่ในนั้น”
สายฟ้าก็กล่าวกับจุนห่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านพ่อ ปล่อยข้าออกไป ข้าอยากเข้าไปข้างใน”
จุนห่าวสงบอารมณ์ของสายฟ้าในจิตสำนึกของเขา และพูดว่า “รอประเดี๋ยว ให้ข้าและแม่ของเ้าเข้าไปก่อน หากไม่มีอันตรายใดๆ ก็จะปล่อยเ้าออกไป”
จุนห่าวไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ผลักประตูอย่างช้าๆ ด้วยความระแวดระวัง ประตูถูกผลักให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และกลิ่นเืก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลังจากประตูเปิด จุนห่าวและหานรุ่ยจึงเดินเข้าไป กลิ่นเืแตะจมูก พวกเขาจึงสูดดมเข้าไปตรงๆ
“ที่นี่คือที่ไหน เหตุใดถึงมีพลังปราณที่เข้มข้นเช่นนี้” จุนห่าวพูดกับเสี่ยวไป๋ คิดในใจ มันช่างคล้ายกับโรงฆ่าสัตว์
“ที่นี่ดีนัก เต็มไปด้วยพลังแห่งเื” เสี่ยวไป๋พูดอย่างเคลิบเคลิ้ม จากนั้นหยุดครู่หนึ่ง พร้อมพูดอย่างหดหู่ว่า “น่าเสียดายนัก มันไร้ประโยชน์สำหรับที่นี่ มิฉะนั้นด้วยพลังอันแข็งแกร่ง ข้าคงได้ดูดซับพวกมัน และแปรผันเข้าสู่ขั้น์ได้”
“อะไร พลังปราณก่อเกิดของเ้า ยังไม่ถึงขั้น์รึ?” จุนห่าวถามด้วยความประหลาดใจ เห็นปกติเสี่ยวไป๋ที่จะยียวนกวนประสาท เสี่ยวไป๋พูดอย่างไม่พอใจว่า “ไม่ถึงขั้น์แล้วยังไงหรือ ไม่ถึงขั้น์ ก็ยังเก่งกว่าผู้ฝึกลมปราณมือใหม่อย่างเ้า หากเ้าเอาเวลามาพูดมากกับข้าเช่นนี้ สู้รีบไปบำเพ็ญเพียรในสระโลหิตเสียดีกว่า ยังเพิ่มพูนพลังปราณได้ ร่างกายที่มีพร์เช่นเ้าจะเสียไปเปล่าๆ”
“สระโลหิต ไหนล่ะสระโลหิต?” จุนห่าวถามอย่างงงงวย คิดในใจ อย่าบอกนะว่าข้างในคือสระโลหิตหรือ? มิน่าล่ะกลิ่นเืถึงเข้มข้นถึงเพียงนี้
“ไม่บอกเ้าหรอก ให้หาเอง” เสี่ยวไป๋พูดอย่างเฉยเมย คิดในใจ เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว มันไม่จำเป็ต้องบอกจุนห่าว
จุนห่าวลูบจมูกของเขาพลางคิดในใจว่า เหมือนว่าเสี่ยวไป๋จะโกรธเขา เขายังไม่พูดเลยว่ามันยังไม่ถึงขั้น์? จะโกรธเื่อะไร?
ทีมันพูดว่าเขาเป็มือใหม่ในการบำเพ็ญเพียร เขายังไม่โกรธเลย
จุนห่าวไม่ได้สื่อสารกับเสี่ยวไป๋แล้ว เวลานี้เขาและหานรุ่ยเดินไปที่มุมห้อง เห็นสระน้ำขนาดใหญ่สี่สระ หนึ่งในสระน้ำขนาดใหญ่สี่สระนั้น มีสระน้ำขนาดเล็กที่พอนั่งได้แค่สองคน สระน้ำเต็มไปด้วยเืสีแดงสด และกลิ่นเืก็มาจากที่นั่น ส่วนภายในสระน้ำขนาดใหญ่ยังมีสุนัขจื่อเหลยบำเพ็ญเพียรอยู่ข้างใน สระน้ำขนาดเล็กไม่มีสุนัขจื่อเหลย ทว่าเห็นได้ชัดว่าพลังแห่งเืเข้มข้นกว่าสระน้ำขนาดใหญ่ จุนห่าวคิดว่า สระน้ำขนาดเล็กต้องเป็สระที่าาสุนัขจื่อเหลยใช้เป็แน่
เห็นสุนัขจื่อเหลยไม่ขยับเขยื้อนอยู่ในสระน้ำขนาดใหญ่ จุนห่าวคิดว่า สุนัขจื่อเหลย 12 ตัวนี้ ต้องบำเพ็ญเพียรถึง่เวลาสำคัญเป็แน่ เพราะขนาดพวกเขามาถึง พวกเขาก็ไม่ตอบสนองอะไร ครั้งนี้จุนห่าวและหานรุ่ยมิได้ใจอ่อน จัดการสุนัขจื่อเหลยในทันที จากนั้นก็ปล่อยสายฟ้าออกจากเทศะแห่งพันธะสัญญาในจิตสำนึก ทันทีที่สายฟ้าออกมา มันก็ะโลงไปในสระโลหิตขนาดใหญ่อย่างไม่รีรอ
“จุนห่าวเ้าก็ปล่อยเ้าเสือดดาวน้อยเถอะ ให้มันและจุนตงจุนหนานไปแช่ในสระขนาดใหญ่กัน สระโลหิตนี้เป็ของดี การแช่ไม่เพียงเพิ่มพลังปราณ ยังฝึกฝนร่างกายได้” หยุดสักพักหน่อย เสี่ยวไป๋พูดกับจุนห่าว “จากนั้นเ้าและหานรุ่ยไปแช่ในสระเล็ก พลังแห่งเืที่นั่นยิ่งเข้มข้น พวกเขาแช่ไปก็ทนไม่ไหว”
"สระโลหิตนี้ ส่งกับพลังปราณและการปรับสภาพร่างกายหรือ?” จุนห่าวเอ่ยถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นเืในสระโลหิตเขาก็คิดขึ้นมาได้
โชคดีที่เืในสระเืนี้ไม่ใช่เืมนุษย์ มิฉะนั้นเขาก็ไม่เต็มใจแช่
“ใช่ นี่เป็สิ่งดี ในสระเล็กจะเต็มไปด้วยเืของสัตว์อสูรที่ยิ่งใหญ่ ทั้งยังลงยาวิเศษที่แสนล้ำค่าด้วย ไม่รู้ว่าเป็ผลงานของใคร สระใหญ่เต็มไปด้วยเืของสัตว์อสูรทั่วไป ทว่าก็ได้เพิ่มยาวิเศษ ที่เหมาะสำหรับผู้ที่พลังปราณต่ำ”
เสี่ยวไป๋พูดอย่างปลงๆ เ้าของสระโลหิตแห่งนี้คงจะเป็เหมือนมัน ที่ตกมาจากแดน์ แค่ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องยังไงกับสุนัขจื่อเหลย ถึงมอบของดีเช่นนี้แก่สุนัขจื่อเหลย เสี่ยวไป๋คิดว่ามันอาจไม่สำคัญ หลังจากที่เพื่อนของมันจากหรือตายไป สุนัขจื่อเหลยคงได้สถานที่แห่งนี้โดยบังเอิญ เฮ้อ... ไม่คิดแล้ว ไม่มีบอกในบันทึกความทรงจำ ช่างน่าปวดหัวยิ่งนัก
จุนห่าวบอกหานรุ่ยถึงวิธีการใช้สระโลหิต เขาเห็นท่าทางเพลิดเพลินของสายฟ้า ก็รู้สึกใจเต้น ทว่าเมื่อคิดถึงสุนัขจื่อเหลยที่เคยแช่มาก่อน จุนห่าวกลับรู้สึกรังเกียจ เห็นท่าทีลังเลของจุนห่าว หานรุ่ยเอ่ยถาม “ทำไม มีอะไรแปลกหรือ?”
“ไม่มีอะไร ข้าก็แค่นึกถึงที่สุนัขจื่อเหลยเคยแช่ เลยรู้สึกรังเกียจเล็กน้อย” จุนห่าวพูดกับหานรุ่ยพลางขมวดคิ้ว
หานรุ่ยพูดอย่างเฉยเมยว่า “แล้วมีอันใด สระโลหิตนี้มีคุณสมบัติบริสุทธิ์ เ้าดูในสระโลหิตสิ ศพของสุนัขจื่อเหลยหายไปแล้ว” พูดจบ ก็วางจุนตงที่อยู่ในอ้อมแขนลง
จุนห่าวมองตามมือของหานรุ่ย หากเป็อย่างที่หานรุ่ยว่าจริงๆ ศพของสุนัขจื่อเหลยคงละลายไปแล้ว จุนห่าววางจุนหนานลงจากอ้อมแขนเช่นกัน และให้จุนตง เสือดาวน้อยและจุนหนานลงแช่สระใหญ่ด้วยกัน
จุนห่าวและหานรุ่ยมองจุนตง จุนหนานและเสือดาวน้อยลงไปในสระ เห็นพวกเขาไม่ตอบสนองรุนแรงใดๆ จุนห่าวพูดกับหานรุ่ยว่า “เราก็ลงไปด้วย?”
หานรุ่ยมองจุนห่าวแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เ้ารังเกียจมิใช่หรือ?” คิดในใจ คิดไม่ถึงว่าจุนห่าวจะดัดจริตเช่นนี้
“ข้าก็แค่พูดไป ก่อนหน้านี้ขนาดท่อบำบัดน้ำเสียยังเคยลง ต้องแช่สระที่สุนัขไม่กี่ตัวเคยแช่จะเป็อะไร พูดจบจุนห่าวก็ถอดเสื้อผ้า เหลือไว้เพียงชุดชั้นใน”
“เ้าถอดเสื้อผ้าทำไม?” หานรุ่ยเอ่ยขึ้นพลางมองจุนห่าวที่เหลือเพียงชุดชั้นใน จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่พอใจว่า “นิสัยนี้ของเ้าไม่ดีเลย แช่ในที่สาธารณะเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้น จะไม่ถูกคนอื่นเห็นเข้าหรือ?”
จุนห่าว “......” คิดในใจ เขาไม่ใช่ผู้ชอบโชว์ สถานที่ที่มีคนอยู่อื่น เขาจะไม่ถอดเสื้อผ้าของเขาหรอก เขาถอดเสื้อผ้าก็มิใช่ว่าจะให้หานรุ่ยดู ทำให้เขาคิดจะเลิกให้ยาสลบที่เตรียมไว้ให้
จุนห่าวพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มีแค่เราสองคนมิใช่หรือ?” จากนั้นเขาก็กระซิบข้างหูหานรุ่ยว่า “ข้าอยากใกล้ชิดกับเ้าบ้าง หรือว่าเ้าไม่้า? เราไม่ได้นอนด้วยกันหลายวันแล้ว” พูดจบเขาก็เอื้อมมือดึงเอวหานรุ่ยกระชับเข้ามา และกระชับเข้าแน่นเข้ามาอีก
หานรุ่ยตีมือจุนห่าวอย่างไม่พอใจ จ้องมองจุนห่าวและพูดว่า “วางมือของเ้าดีๆ ที่นี่มีแค่เราสองคนหรือ? ลูกๆ ไม่ใช่คนหรือ?” พูดจบและหยุดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดกระซิบข้างหูจุนห่าวอย่างดุๆ ว่า “หากเ้าทำตัวไม่ดี จากนี้ไปก็อย่าคิดจะนอนเตียงเดียวกับข้า ขึ้นเตียงเมื่อไหร่ข้าก็จะถีบเ้าทันที” พูดจบก็จ้องจุนห่าวด้วยสายตาร้ายกาจพร้อมเดินลงไปในสระเล็ก
จุนห่าวบ่นพึมพำ ขณะเดินตามหลังหานรุ่ยว่า “เมื่อครู่นี้ข้าดูแล้ว ว่าลูกๆ ไม่ได้มองพวกเรา พวกเขากำลังว่ายน้ำเล่นในสระใหญ่อย่างมีความสุข อีกอย่างพวกเขาจะเห็นหรือก็ไม่เห็นเป็ไร พวกเขายังเด็ก จะเข้าใจอะไร?”
หานรุ่ยพูดกับจุนห่าวอย่างไม่หันกลับมาว่า “เ้าดูอีกทีสิ พวกเขากำลังมองที่ใด? คิดว่าพวกเขาไม่เข้าใจหรือ? พวกเขาเข้าใจทุกอย่าง” พลางคิดในใจ จุนห่าวทำให้เขาอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว
จุนห่าวหันขวับ เห็นจุนตงและจุนหนานที่กำลังใช้สองมือทำท่าส่องด้วยตาที่มีรูตรงนิ้วมือ กำลังส่องพวกเขาอย่างตั้งใจ แม้กระทั่งเสือดาวน้อยที่ลอยอยู่ในสระโลหิต ก็มองมาทางนี้ด้วยดวงตาไร้เดียงสา มีเพียงสายฟ้าที่หมกมุ่นอยู่กับการบำเพ็ญเพียรในสระโลหิต
จุนห่าวะโกับจุนตงและจุนหนานอย่างโกรธเคืองว่า “มองอะไร อุดหูขโมยกระดิ่ง [1] สนุกมากนักหรือ?”
จุนหนานรีบเอ่ยว่า : ท่านพ่อ เราไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ข้าไม่เห็นท่านลูบไล้ท่านแม่เลย
จุนตงก็รีบเอ่ยว่า : ท่านพ่อ ข้าก็ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น ไม่เข้าใจอะไรจริงๆ
จุนห่าวมองจุนตงและจุนหนาน สายตาของพวกเขาจะดื้อดึงเท่าไหร่ก็ดื้อดึงได้ จะไร้เดียงสาเท่าไหร่ก็ไร้เดียงสาได้ คิดในใจ ใครเชื่อพวกเขาก็บ้าแล้ว คนนึงบอกไม่เห็นอะไร คนนึงบอกไม่เข้าใจอะไร เห็นเขาเป็คนโง่รึ? น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่คนโง่ เพียงแค่ลืมไปว่า เด็กๆ ที่นี่จะโตเร็ว อายุแปดเก้าขวบก็เริ่มมีความรัก และเป็ธรรมดาที่อายุสิบสามสิบสี่ก็แต่งงานมีลูก เห็นทีจากนี้ไปเขาต้องระวังเสียหน่อย มิฉะนั้นหากภรรยาไม่ยอมให้เขาขึ้นเตียง งั้นก็แย่น่ะสิ
จุนห่าวเปลี่ยนหัวข้อและพูดกับจุนตงจุนหนานว่า “พวกเ้าอยู่ในนี้ หากรู้สึกว่าไม่สบายตัวให้ออกมาทันที อย่าได้ฝืน” พูดจบก็รีบเดินลงไปในสระเล็ก
จุนห่าวะโลงสระและนั่งถัดจากหานรุ่ย พลังจากที่เขาเข้ามา เขาก็รู้สึกว่ามีพลังงานพุ่งพรวดเข้าสู่ร่างกายของเขา และผสานเข้ากับกายเนื้อและเืของเขาอย่างต่อเนื่อง จุนห่าวเคลื่อนย้ายพลังงาน ซึ่งพลังงานในสระโลหิตมองเห็นร่างกายภายในของจุนห่าวได้ ร่างกายของจุนห่าวแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับพลังปราณที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น
หานรุ่ยก็เช่นเดียวกัน พลังมากมายหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา ยามที่กำลังเสริมสร้างร่างกายของเขาให้แข็งแรง พลังปราณก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้าทั้งสองก็หมกมุ่นอยู่กับการบำเพ็ญเพียร
เวลานี้สายฟ้าที่อยู่ในสระใหญ่อึดอัดมาก ไม่หมือนกับดุจปลาได้น้ำดังเดิม ร่างกายกระตุกอย่างต่อเนื่อง เืสดจำนวนมากหลั่งไหลออกจากร่างกาย ขณะเดียวกัน พลังงานเืในสระโลหิตก็เจาะเข้าสู่ร่างกายของสายฟ้า เข้าๆ ออกๆ เช่นนี้ไปเรื่อยๆ เืของสายฟ้าเกิดการแปรเปลี่ยนอย่างไม่รู้ตัว ในที่สุดสายฟ้าก็รู้สึกว่ากระดูกของมันสลายไปพร้อมกับจัดโครงสร้างใหม่ ร่างกายก็เช่นกัน เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่ดำรงอยู่อีกต่อไป มีเพียงความเ็ปอย่างทุกข์ทรมานที่เตือนว่ายังคงอยู่ หากมันยืนหยัดไม่ไหว มันจะกลายเป็หนึ่งในเืที่หยดอยู่นับไม่ถ้วนในสระโลหิตนี้ หากมันยืนหยัดได้ นับั้แ่นี้ไป มันจะได้ชีวิตใหม่ ั้แ่นี้ไปคงมีอนาคตที่แตกต่าง
สายฟ้าที่อยู่ในสระโลหิตยังคงหดตัว สุดท้ายหดตัวได้ประมาณหนึ่งฟุต ถึงเริ่มหยุด ส่วนขนสีเข้มบนตัวทั้งหมด ถูกปกคลุมด้วยชั้นของสีม่วง ดวงตาทั้งสองยังเปลี่ยนจากสีดำเป็สีม่วง หลังจากการปรับโครงสร้างทางร่างกายของสายฟ้า ความเ็ปในร่างกายก็พลันหายไป แต่ทว่า พลังงานในสระโลหิตยังคงเจาะเข้าสู่ร่างกายของมันโดยไม่มีวี่แววว่าจะหยุด สายฟ้ารู้ดีว่าพลังงานนี้ดีสำหรับมัน ดังนั้นจึงดูดซับอย่างตั้งใจ ตามที่พลังงานถูกดูดซับมากขึ้นเรื่อยๆ พลังปราณของสายฟ้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด โซ่ตรวนที่พันธนาการมันก็ถูกทำลาย และเลื่อนขั้นกลายเป็สัตว์อสูรระดับเริ่มแรกในขั้นที่หนึ่ง
แม้ว่าสายฟ้ายังคงเป็สัตว์อสูรที่มีพลังปราณต่ำ ทว่าสายเืของมันได้แปรเปลี่ยน ต่อจากนี้ มันมิใช่สัตว์ธรรมดาอีกต่อไป แต่เป็สัตว์อสูรที่เดินเส้นหนทางแห่งการบำเพ็ญเพียร
เสี่ยวไป๋ดูอย่างใกล้ชิดกับการเปลี่ยนแปลงในสระโลหิต ยามที่เห็นร่างของสายฟ้าชักกระตุก มันก็เป็กังวลขึ้นมา แต่ทว่า ในเวลานี้ใครก็ช่วยสายฟ้าไม่ได้ มีเพียงตนเองที่จะข้ามผ่านไปได้เท่านั้น หลังจากสายฟ้าข้ามผ่านได้แล้ว เสี่ยวก็วางใจลง โดยไม่รู้ตัว... เสี่ยวไป๋เห็นจุนห่าวและพรรคพวกกลายเป็ครอบครัวเสียแล้ว
เสี่ยวไป๋คิดอยู่ในใจ สายฟ้าไม่เพียงเคยเป็สุนัขทหาร แต่ยังมีความตั้งใจแน่วแน่ที่แข็งแกร่งยิ่งนัก แม้แต่ความเ็ปจากการปรับโครงสร้างของร่างกายก็อดทนได้
ส่วนจุนตงจุนหนานที่ไม่อาจบำเพ็ญเพียรได้ ทว่าพลังงานในสระโลหิตนั้น ได้เจาะเข้าสู่ร่างกายของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง โดยผสานเข้ากับกระดูกพวกเขา ความแข็งแกร่งทางกายของพวกเขาจึงเพิ่มขึ้น ซึ่งได้วางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการบำเพ็ญเพียรในอนาคต นี่เป็อีกโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับจุนตงและจุนหนาน
พลังงานในสระโลหิตนั้นเข้าสู่ร่างกายของเสือดาวน้อยตลอดเวลา พลังงานในสระเืจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเสือดาวน้อย และร่างกายของเสือดาวน้อยก็ใหญ่ขึ้น ลำตัวยาวกว่าหนึ่งฟุต เส้นขนเป็ประกายมากขึ้น และทักษะบำเพ็ญเพียรก็เพิ่มขึ้น
เห็นพลังปราณของทุกคนเพิ่มขึ้น เสี่ยวไป๋รู้สึกอิจฉา มันน้อยใจอยู่เสมอว่า ทำไมมันถึงเป็เพียงร่างิญญา ขนาดพลังงานที่เข้มข้นเช่นนี้ มันกลับทำได้แค่มองผ่านดวงตา มันอยากมีร่างกายเช่นกัน มันคิดว่า ครั้งต่อไปมันต้องให้จุนห่าวหาสถานที่ที่เป็ประโยชน์ต่อร่างิญญา ไม่เช่นนั้น มันคงได้แต่อิจฉาตลอดไป
[1] อุดหูขโมยกระดิ่ง คือ เมื่อคุณทำผิดก็จึงยอมรับเถอะ ผู้อื่นเห็นการกระทำของคุณหมดแล้ว
