เ้าหกตื่นขึ้นมาเพราะเสียงประท้วงที่ท้อง ก่อนจะพบว่ายามนี้นางมิได้นอนอยู่ที่ห้องเดิม พี่ชายรูปหล่อก็มิรู้หายไปที่ใดแล้ว หรือจะหนีไปแล้ว? นางคิดพร้อมกับทำตาโต เพียงหลับไปแค่ตื่นเดียวเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกทีพี่ชายรูปหล่อถือโอกาสนี้หนีไปเสียแล้ว เช่นนั้นก็ต้องตัดขา!
นางรีบะโลงจากเตียง ไม่แม้แต่จะสวมรองเท้ารุดวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งจะวิ่งพ้นประตูก็ต้องชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเสียก่อน จ้าวซื่อที่ถือถ้วยเข้ามารีบเอี้ยวตัวหลบ “จะวิ่งไปที่ใดของเ้า จริงๆ เลย เกือบทำน้ำแกงในถ้วยหกแล้วเห็นหรือไม่”
หากหกไปละก็เสียดายแย่ บะหมี่ที่อยู่ในถ้วยใช้น้ำแกงไก่ต้มเชียวนะ
“ท่านแม่ พี่ชายเล่า” เ้าหกเอ่ยถามอย่างร้อนใจ
จ้าวซื่อเอียงศีรษะพร้อมกับเม้มปาก “นอนอยู่ในห้องนั้น”
ครั้นได้ยินเช่นนั้นเ้าหกรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องที่ว่าทันที เมื่อประตูเปิดออกก็ได้สบเข้ากับั์ตาเย็นเฉียบประหนึ่งน้ำในสระที่กำลังมองมา
พี่ชายฟื้นแล้วจริงๆ ด้วย!
กู้อวี้ในเวลานี้กำลังนั่งพิงหัวเตียง ห้อมล้อมด้วยน้องชายทั้งสามซึ่งกำลังเล่าถึงความโเี้ร้ายกาจของเ้าหกให้ฟัง
กู้เอ้อร์หลาง “ท่านพี่ เ้าหกผู้นั้นเป็คนที่น่ากลัวมาก นางเล่นงานพวกข้าจนเจ็บไปหมดทั้งตัว”
กู้ซานหลาง “ท่านพี่ ท่านอย่ารับนางเป็ภรรยานะขอรับ นางบอกว่าจะตัดขาของท่านพี่ด้วย”
กู้ซื่อหลางพยักหน้าหงึกๆ ตาม “ใช่ นางร้ายกาจมาก” ทว่าเพิ่งจะพูดจบสายตาพลันเหลือบไปเห็นเ้าหกที่กำลังวิ่งเข้ามา เขารีบเอามือปิดปากพลางก้าวเท้าถอยหลังจนไปชิดติดกำแพง ก่อนจะวิ่งออกไปอย่างหวาดกลัว
กู้เอ้อร์หลางและกู้ซานหลางยังไม่เห็นเ้าหกที่เพิ่งเข้ามาในห้อง ยังคงเล่าถึงความร้ายกาจของนางให้พี่ชายฟังอย่างออกรสออกชาติ “นางเพิ่งจะอายุสี่ขวบก็ร้ายกาจถึงเพียงนี้แล้ว โตไปต้องทวีความร้ายกาจเป็แน่
“สู้พี่สาวซูเสียนก็มิได้ ไม่ว่าจะดีดพิณ เดินหมาก เขียนอักษร วาดภาพ ล้วนเก่งกาจหมดทุกด้าน ทั้งนิสัยยังอ่อนโยน ท่านพี่รับนางเป็ภรรยาเถิด อย่าแต่งแม่เสือเป็ภรรยาเลย”
“ใช่ ท่านพี่รีบไล่แม่เสือออกจากบ้านไปเถิด”
“พี่สาวซูเสียนคือผู้ใด”
น้ำเสียงหวานหยดย้อยนี้ดังขึ้นที่ด้านหลัง ครั้นกู้เอ้อร์หลางและกู้ซานหลางหันไปมองก็ได้พบกับเ้าหกซึ่งกำลังยิ้มจนตากลายเป็เส้นโค้งส่งมาให้ ทั้งสองคนใจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าประหนึ่งเหมือนได้เจอผีร้ายก็มิปาน จากนั้นหมุนกายเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
เพิ่งจะวิ่งออกจากห้องไปได้แค่อึดใจเดียว เสียงร้องของกู้ซื่อหลางพลันดังขึ้น “ท่านแม่ พี่รองกับพี่สามตีข้า…ฮือๆ”
เ้าหกกะพริบตาปริบๆ ราวกับว่าตัวเองคือผู้บริสุทธิ์ ขณะมองสบตาพี่ชายรูปหล่อที่กำลังมองจ้องมา
ขนาดพี่ชายทำหน้าตาเ็าเช่นนี้ก็ยังหล่อเหลาเอาการ นางยกสองมือกุมแก้มยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มทั้งสองข้างแลดูน่ารักน่าชัง
“ข้าจะให้ท่านพ่อท่านแม่ส่งเ้ากลับไป พวกเราแต่งกันโดยไม่มีแม่สื่อไม่มีการปรึกษาหารือ จึงไม่อาจเรียกว่าแต่งงานเป็สามีภรรยากันแล้วได้” กู้อวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ด้วยสภาพของเขาในยามนี้ หากแต่งภรรยาไม่เท่ากับทำให้อีกฝ่ายเสียเวลาหรือ
อีกประการหนึ่งอีกฝ่ายเพิ่งจะอายุแค่สี่ขวบก็ถูกจับให้แต่งงานเข้าสกุลกู้โดยไม่รู้เื่รู้ราว ต่อไปหากรู้ความจะต้องรู้สึกเสียใจทีหลังเป็แน่ แต่ทว่าเขาเพิ่งจะกล่าวจบคนตรงหน้าก็เดินเข้ามาจับมือ รอยยิ้มบนใบหน้าของอีกฝ่ายเลือนหายไปสิ้นเปลี่ยนเป็สีหน้าขึงขังจริงจัง จากนั้นกล่าวประหนึ่งผู้ใหญ่รู้ความคนหนึ่งว่า “พี่ชาย ท่านวางใจเถิด ข้าจะรีบบอกให้ท่านพ่อท่านแม่หาแม่สื่อให้ประเดี๋ยวนี้ ข้าจะไม่ยอมให้ท่านได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจเป็อันขาด ข้าจะเลี้ยงดูท่านไปชั่วชีวิต!”
พูดจบก็ปล่อยมือ แล้วหมุนกายวิ่งออกไป
กู้อวี้ขมวดคิ้วมุ่น นางพูดว่ากระไรนะ?
คำพูดคำจาพวกนี้นางพูดออกมาได้อย่างไร แล้วไปเอามาจากที่ใด ใครเป็คนสอนนาง?
เ้าหกเพิ่งจะวิ่งออกจากห้องก็ถูกจ้าวซื่อเข้ามาขวางหน้าเอาไว้ ก่อนจะถูกพาตัวกลับที่ห้องเอ่อร์ฝาง[1] “รีบกินบะหมี่เสีย ปล่อยไว้นานเดี๋ยวจะเย็นชืดหมด”
นี่คือบะหมี่ซึ่งต้มจากน้ำแกงไก่ สกุลกู้ช่างร่ำรวยเสียจริง ขนาดบะหมี่ยังต้มจากน้ำแกงไก่
ใช่ ข้ากำลังหิวอยู่พอดีมิใช่หรือ เ้าหกเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าท้องของตนเองในยามนี้ส่งเสียงร้องด้วยความหิวโหยดังมากเพียงใด เป็เพราะนางถูกความงามของพี่ชายรูปหล่อล่อลวงโดยแท้ จนลืมไปเสียสนิทว่าตนเองกำลังหิวอยู่
“รีบกินเร็วเข้า” จ้าวซื่อยื่นชามมาเบื้องหน้าบุตรสาว “แล้วแม่ก็ต้มไข่ให้เ้าด้วยสามฟอง”
หากไม่ใช่เพราะในถ้วยใส่ไม่หมด นางคงต้มห้าฟองไปแล้ว
บ้านสกุลกู้ประหนึ่งที่อยู่ของเทพเซียนก็มิปาน ไหข้าวสารในห้องครัวมีข้าวสารอยู่เต็มไห ไหเส้นบะหมี่ก็มีเส้นบะหมี่ในนั้นเต็มไหเช่นกัน กระทั่งในตะกร้าไข่ก็มีไข่อยู่เต็มตะกร้า
“ขอบคุณท่านแม่มากเ้าค่ะ” เ้าหกกล่าวขอบคุณอย่างว่าง่าย ก่อนจะรับถ้วยมาแล้วเริ่มขยับตะเกียบ เพียงแต่รสชาติ…
ยังห่างชั้นจากที่ท่านแม่กู้ทำให้นางไกลนัก
หลังจากกินเข้าไปได้หนึ่งคำเ้าหกตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดว่าจะต้องรักษาท่านแม่กู้ให้หายดีให้ได้ หากจะให้เืแก่นางคงมิได้ เช่นนั้นก็ต้องคิดหาวิธีอื่น
หลังจากเ้าหกกินเส้นบะหมี่หมดก็กระดกถ้วยขึ้นดื่มน้ำแกงตามจนเกลี้ยง จากนั้นเอ่ยถาม “ท่านแม่ แล้วท่านพ่อเล่า”
“พ่อของเ้ากลับบ้านไปแล้ว ไม่เห็นหรือไรว่าฟ้าข้างนอกมืดแล้ว แต่หลายวันหลังจากนี้แม่จะอยู่ที่นี่เป็เพื่อนเ้าไปก่อน”
เ้าหกรีบโบกไม้โบกมือเป็พัลวัน “ท่านแม่ ท่านก็กลับไปเถิด ข้าโตแล้ว ท่านไม่ต้องอยู่เป็เพื่อนข้าหรอก”
จ้าวซื่อยกมือขยี้ผมบุตรสาว พร้อมกับยิ้มอย่างขบขัน “เ้าโตแล้วที่ใดกัน เ้าใหญ่ต่างหากถึงจะเรียกว่าโตแล้ว”
เ้าหกกอดอกพร้อมกับเค้นเสียง ฮึ ขึ้นจมูก “หากพูดออกมาท่านต้องใเป็แน่ ข้ามีอายุพันกว่าปีเชียวนะ”
“ก็ได้ เ้าคือปีศาจโตแล้วที่มีอายุพันกว่าปี” จ้าวซื่อยิ้มอย่างยอมลงให้บุตรสาว
“มีอายุน้อยกว่าพันปีจึงจะเรียกว่าปีศาจเด็ก ส่วนปีศาจที่โตแล้วต้องมีอายุพันปีขึ้นไป” เ้าหกอธิบายผู้เป็มารดาด้วยสีหน้าจริงจัง
จ้าวซื่อยิ้มพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆ นางกลั้นหัวเราะจนปวดท้องไปหมดแล้ว แต่ผู้ใดไหนเลยจะรู้ว่าเ้าหกจะพูดต่ออีกว่า “ท่านรีบกลับไปเถิด รีบกลับไปบอกท่านพ่อว่าให้รีบหาแม่สื่อ ไม่อย่างนั้นพี่ชายจะหนีข้าไปได้”
ครั้นกลับถึงบ้านจ้าวซื่อเล่าเื่ที่เ้าหก้าให้บิดาหาแม่สื่อไปสู่ขอกู้อวี้ให้ผู้เป็สามีฟัง หยวนเหล่าเอ้อร์ได้ฟังพลันยิ้มกว้างอย่างปรีดาถึงกับตบเข่าดังฉาด “เ้าหกฉลาดกว่าเ้านัก พาตัวเ้าหกไปที่บ้านสกุลกู้โดยไม่มีแม่สื่อไปสู่ขอมันดูกระไรอยู่จริงๆ หากสกุลกู้ไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ขึ้นมา แค่พาเ้าหกมาส่งคืนก็นับว่าไม่เคยมีการแต่งงานเกิดขึ้นแล้ว ไม่ได้ พรุ่งนี้เช้าข้าจะไปขอเงินท่านพ่อท่านแม่เพื่อไปเชิญแม่สื่อ”
ในเวลาเดียวกันนี้เอง เพียงแค่หยวนเหล่าเอ้อร์พูดถึงเื่เงิน ผู้เฒ่าหยวนถึงกับส่งเสียงฮัดเช้ยออกมา
ฝั่งบ้านสกุลกู้ หลังจากจ้าวซื่อกลับไปแล้ว เ้าหกก็รีบวิ่งไปหาสามพี่น้องสกุลกู้เพื่อคิดบัญชี เ้าหกรุกไล่จนทั้งสามคนต้องหนีเอาตัวชิดติดกับกำแพง นางชูหมัดพร้อมกับข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม “ข้าขอเตือนพวกเ้า ห้ามพูดถึงข้าในทางที่ไม่ดีต่อหน้าพี่ชายอีก แล้วก็ห้ามบอกให้พี่ชายไล่ข้าไป ไม่อย่างนั้นละก็พวกเ้าได้ฟันร่วงหมดปากแน่!”
สามพี่น้องสกุลกู้ตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะผายลม
“เ้าหก เหตุใดถึงไม่สวมรองเท้า” กู่ซื่อซึ่งในมือถือโคมไฟบังเอิญเดินมาเจอเข้า ครั้นเห็นเ้าหกไม่สวมรองเท้าพานให้นึกว่ากำลังถูกบุตรชายตัวดีทั้งสามกลั่นแกล้ง จึงหันไปดุคนว่า “ที่ผ่านมาแม่คงตามใจพวกเ้ามากเกินไปสินะ เ้าถึงไม่รู้จักเคารพผู้ที่าุโกว่า และไม่รู้จักรักและเมตตาผู้ที่อายุน้อยกว่า ถึงได้กล้ารังแกพี่สะใภ้ของพวกเ้า!”
“ท่านแม่ พวกข้าไม่ได้รังแกนางเลยนะขอรับ” กู้เอ้อร์หลางกล่าวปฏิเสธออกมาอย่างรวดเร็ว “เป็นางต่างหากที่…”
ยังไม่ทันที่กู้เอ้อร์หลางจะพูดจบกลับถูกกู่ซื่อชิงตัดบทเสียก่อน “เ้าอย่าบอกนะว่าเ้าหกรังแกพวกเ้า พวกเ้าอายุเท่าใดแล้วนางอายุเท่าใด! นับั้แ่พรุ่งนี้เป็ต้นไปพวกเ้าต้องคัดคัมภีร์กตัญญูคนละสิบเที่ยวเป็เวลาห้าวัน! แล้วถ้าแม่เห็นว่าพวกเ้ารังแกเ้าหกอีก เช่นนั้นจะต้องไปคุกเข่าที่หน้าศาลบรรพชนแน่!”
สามพี่น้องกู้ที่ยังคงตัวสั่นเทา “…”
นี่ท่านเป็มารดาของผู้ใดกันแน่ พวกเขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจยิ่งนัก แล้ววันคืนหลังจากนี้จะใช้ชีวิตกันอย่างไร?
ด้านเ้าหก นางที่ซุกอยู่ในอ้อมอกของกู่ซื่อ หันไปขยิบตาให้แก่สามพี่น้องกู้พร้อมกับชูกำปั้นให้กำลังใจ สู้ๆ นะ ข้าจับตาดูพวกเ้าอยู่!
[1] ห้องเอ่อร์ฝาง คือห้องวึ่งตั้งขนาบข้างกับห้องหลักของบ้าน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้