เฮลิคอปเตอร์ลงจอดบนลานบิน้าของสถาบันวิจัยฉางชา ใบพัดค่อยๆ หมุนช้าลงจนหยุดสนิท ความเงียบปกคลุมผู้โดยสารทุกคน ขณะที่พวกเขาแลกเปลี่ยนสายตากันเป็ครั้งสุดท้าย
"ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองแล้ว" หวังเจี้ยนกระซิบ "อย่าลืมว่าเราคือนักวิทยาศาสตร์และทหารจากศูนย์ฝึกตงไห่ มาตรวจเยี่ยมและส่งวัตถุดิบ"
หลินเว่ย ปรับหน้ากากปลอมตัวของเขาเล็กน้อย รู้สึกถึงพลังชี่ที่ไหลเวียนอยู่ภายใน กำลังรอคอยที่จะถูกปลดปล่อย ด้านนอก เ้าหน้าที่สองคนเดินตรงมาที่เฮลิคอปเตอร์ ใบหน้าไร้อารมณ์
"รหัสประจำตัว" เ้าหน้าที่หนึ่งในชุดเกราะสีดำร้องขอ ดวงตาเ็าสแกนพวกเขาทุกคน
หวังเจี้ยนมอบแท็บเล็ตที่มีข้อมูลปลอมให้ "คณะตรวจเยี่ยมจากศูนย์ฝึกตงไห่ พร้อมวัตถุดิบสำหรับโครงการฟีนิกซ์"
เ้าหน้าที่สแกนข้อมูล ดวงตาเรียวแคบจ้องมองใบหน้าพวกเขาทีละคน หลินเว่ยพยายามคงสีหน้านิ่งสงบของเขาไว้ แม้ว่าหัวใจจะเต้นรัวเมื่อเ้าหน้าที่หยุดมองเขานานกว่าคนอื่น
"ได้รับอนุญาต" เ้าหน้าที่บอกในที่สุด "ทีมขนถ่ายจะมาเร็วๆ นี้ ระหว่างรอ ดร.หลิงเฟย้าพบคณะตรวจเยี่ยม"
หัวใจของทุกคนเต้นแรง เมื่อได้ยินชื่อหลิงเฟย หญิงสาวผู้ทรยศที่เคยแกล้งทำเป็อพยพแล้วนำพวกเขาเข้ากับดัก
"ดร.หลิงเฟย?" หวังเจี้ยนทวนคำ พยายามปิดบังความใ "เราไม่ได้ถูกแจ้งว่าจะมีการประชุม"
"ตารางเปลี่ยนแปลงเมื่อเช้านี้" เ้าหน้าที่ตอบเรียบๆ "โปรดตามมา กลุ่มหลักเท่านั้น ทีมขนถ่ายรออยู่ที่นี่"
หลินเว่ยแลกเปลี่ยนสายตากับหลิวซินและเมิ่งหลิง นี่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของแผน แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก การปฏิเสธจะทำให้เกิดความสงสัย
"ไปกันเถอะ" หวังเจี้ยนตัดสินใจ พยักหน้าให้กลุ่ม
หลินเว่ย เมิ่งหลิง หลิวซิน ลี่ชิง และหวังเจี้ยนเดินตามเ้าหน้าที่เข้าไปในตัวอาคาร ทิ้งให้ทีมทหารพิเศษของเจิ้งหวังดูแลอุปกรณ์และเตรียมการขั้นต่อไป
ภายในสถาบัน ทุกอย่างขาวสะอาดและเป็ระเบียบอย่างน่ากลัว ผนังเรียบไร้ตำหนิ พื้นมันวาวสะท้อนแสง ทางเดินยาวมีประตูเหล็กเรียงรายสองฝั่ง แต่ละประตูมีรหัสอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องสแกนม่านตา
"รู้สึกเหมือนเดินเข้าปากสัตว์ประหลาด" ลี่ชิงกระซิบเบาๆ
"อย่าแสดงความกังวล" หลินเว่ยเตือน "มีกล้องทุกที่"
พวกเขาถูกนำไปยังห้องประชุมขนาดใหญ่ ตรงกลางมีโต๊ะรูปวงรี ล้อมรอบด้วยเก้าอี้หนังสีดำ หน้าต่างกระจกใสมองเห็นห้องทดลองชั้นล่าง ที่มีนักวิทยาศาสตร์ในชุดป้องกันสีขาวกำลังทำงานกับอุปกรณ์ที่ซับซ้อน
"รอที่นี่" เ้าหน้าที่สั่ง ก่อนจะออกจากห้องไป ประตูล็อกอัตโนมัติด้วยเสียง "คลิก" ที่ฟังดูเหมือนบทสรุปของชะตากรรม
หวังเจี้ยนรีบคว้าอุปกรณ์ตรวจจับการดักฟังจากกระเป๋า สแกนห้องอย่างรวดเร็ว
"มีกล้องสองตัว ไมโครโฟนสามตัว" เขารายงานเสียงต่ำ "จำกัดการพูดคุย"
เมิ่งหลิงเดินไปที่หน้าต่าง มองลงไปยังห้องทดลอง "นั่นมันห้องผลิตไวรัสหลัก" เธอกระซิบ "ฉันเห็นเครื่องปฏิกรณ์ที่ใช้ผลิตไวรัสฟีนิกซ์"
หลินเว่ยมองตาม เห็นถังทรงกระบอกสูงใหญ่ที่มีของเหลวสีแดงเข้มหมุนวนอยู่ภายใน เส้นท่อจำนวนมากเชื่อมต่อกับระบบกลั่นและถังเก็บรอบๆ มันคือโรงงานแห่งความตาย ที่จะผลิตไวรัสที่จะเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็ทาสไร้ความคิด
"ที่นั่นไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยเท่าที่ควร" หลิวซินสังเกต "มีนักวิทยาศาสตร์ไม่กี่คน ทหารก็น้อย"
"นั่นแปลกมาก" ลี่ชิงพึมพำ "ราวกับพวกเขา..."
ประตูเปิดออกทันใดนั้น สิ้นสุดการสนทนา หญิงสาวในชุดสูทขาวเดินเข้ามาพร้อมผู้ติดตามสองคน ใบหน้าคมคายของเธอเป็ที่จดจำได้ดีสำหรับทุกคน - หลิงเฟย ผู้ทรยศที่เคยหลอกพวกเขา
"ยินดีต้อนรับสู่สถาบันวิจัยฉางชา" เธอกล่าวยิ้มๆ "หรือควรเรียกว่า... ผู้พิทักษ์แห่งดวงตะวัน?"
หัวใจของทุกคนแทบหยุดเต้น หลินเว่ยรู้สึกถึงพลังชี่ที่หมุนวนอย่างรุนแรงในร่างกาย พร้อมตอบโต้
"ฉันอยากจะประหลาดใจ" หลิงเฟยพูดต่อ เดินวนรอบโต๊ะ "แต่พวกเราคาดการณ์การมาของพวกคุณแล้ว ั้แ่หยางเหวินทรยศเรา"
"เธอวางแผนดักเราั้แ่แรก" หลิวซินกระซิบ
"แน่นอน" หลิงเฟยตอบด้วยรอยยิ้ม "หรือพวกคุณคิดว่าการแทรกซึมเข้าฐานลับที่ใหญ่ที่สุดจะง่ายขนาดนั้น? พวกคุณล้มเข้ากับดักอย่างสมบูรณ์แบบ"
เธอกดปุ่มบนโต๊ะ จอภาพบนผนังสว่างขึ้น แสดงภาพหยางเหวินที่ถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยช้ำและเื
"พวกเธอทำอะไรกับเขา?" เมิ่งหลิงถามเสียงสั่น
"แค่สอบปากคำเล็กน้อย" หลิงเฟยตอบเรียบๆ "เขาเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับแผนของพวกคุณ ทั้งเื่วัคซีนและเส้นทางเข้า"
"แล้วน้องสาวของเขาล่ะ?" หลินเว่ยถาม
หลิงเฟยหัวเราะเบาๆ "หยางอิง? เธอไม่เคยตกอยู่ในอันตรายเลย เธอเป็หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์หลักของเรา ผู้ภักดีต่อองค์กรเทียนซื่อ แตกต่างจากพี่ชายที่อ่อนแอของเธอ"
ความโกรธผุดขึ้นในใจของหลินเว่ย เขานึกถึงความทุกข์ทรมานที่หยางเหวินได้รับ จากความเชื่อที่ว่ากำลังปกป้องน้องสาวที่รัก
"ทำไมพวกเธอ้าให้เราเข้ามาที่นี่?" หวังเจี้ยนถาม น้ำเสียงเ็า "ทำไมไม่ยิงเฮลิคอปเตอร์ตกั้แ่แรก?"
"อ๋อ... ผู้นำผู้พิทักษ์ที่ยิ่งใหญ่" หลิงเฟยเยาะเย้ย "เพราะเรา้าพวกคุณมีชีวิตอยู่... โดยเฉพาะเขา" เธอชี้ไปที่หลินเว่ย
"ฉัน?" หลินเว่ยถาม
"แน่นอน" หลิงเฟยตอบ สีหน้าเปลี่ยนเป็จริงจัง "หรือควรเรียกว่า โครงการ Phoenix-Alpha? คุณคือความสำเร็จแรกของเรา การทดลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"
หลินเว่ยรู้สึกเย็นวาบในอก "เธอกำลังพูดอะไร?"
"คุณไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม?" หลิงเฟยหัวเราะเบาๆ "คิดว่าตัวเองเป็แค่นักศึกษาแพทย์ธรรมดาที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม? เปล่าเลย... คุณถูกสร้างขึ้นมาั้แ่ต้น เป็ต้นแบบของมนุษย์พันธุ์ใหม่ที่สามารถควบคุมพลังชี่ได้"
ลี่ชิงจับมือหลินเว่ยไว้แน่น ััได้ถึงความตึงเครียดที่แผ่ออกมาจากร่างของเขา
"คุณโกหก" หลินเว่ยกล่าว แม้จะรู้สึกว่าคำพูดของเธออาจเป็ความจริง
"คุณคิดว่าทำไมคุณถึงเรียนรู้วิชาัทะยานฟ้าได้เร็วขนาดนั้น?" หลิงเฟยถาม "ทำไมพลังชี่ของคุณถึงแข็งแกร่งกว่าคนอื่น? เพราะคุณถูกออกแบบมาให้เป็อย่างนั้น"
"แล้วทำไมถึงบอกฉันตอนนี้? คุณ้าอะไร?" หลินเว่ยถาม
"พวกเรา้าให้คุณเป็ผู้นำ" หลิงเฟยตอบ "ผู้นำของมนุษยชาติยุคใหม่ เราไม่ได้้าทำลายมนุษยชาติ แต่เรา้าปรับปรุงพันธุกรรมของมนุษย์ ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภัยคุกคามที่กำลังจะมาถึง"
"ภัยคุกคามอะไร?" ลี่ชิงถาม
"จากนอกโลก" หลิงเฟยตอบ สีหน้าจริงจัง "องค์กรเทียนซื่อได้รับข้อมูลบางอย่างจากดาวเทียมของเรา สิ่งมีชีวิตต่างดาวกำลังมุ่งหน้ามายังโลก และพวกมัน้าทรัพยากรของเรา"
"ฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์" หลิวซินแย้ง "เธออาจกำลังโกหกเพื่อหลอกเรา"
"ดูนี่สิ" หลิงเฟยกดปุ่มอีกครั้ง ภาพบนจอเปลี่ยนเป็วัตถุรูปร่างคล้ายจานบินขนาดใหญ่ที่เคลื่อนที่ในอวกาศ "นี่ถ่ายโดยดาวเทียมของเราเมื่อหกเดือนก่อน รูปร่างและการเคลื่อนที่ไม่เหมือนวัตถุธรรมชาติใดๆ และมันกำลังมุ่งหน้ามายังระบบสุริยะของเรา"
ทุกคนมองภาพด้วยความใ ไม่มีใครพูดอะไร
"พวกเราจำเป็ต้องเตรียมมนุษยชาติให้พร้อม" หลิงเฟยอธิบายต่อ "ไวรัสฟีนิกซ์ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทำให้มนุษย์เป็ทาส แต่เพื่อปรับปรุงพันธุกรรมให้เราสามารถต่อสู้กับภัยคุกคามนี้ได้"
"ทำไมเราควรเชื่อเธอ?" หลินเว่ยถาม "หลังจากที่เธอหลอกเราครั้งแล้วครั้งเล่า"
"เพราะตอนนี้เราไม่มีเหตุผลที่จะโกหกอีกต่อไป" หลิงเฟยตอบ "พวกคุณอยู่ในการควบคุมของเราแล้ว พวกคุณได้เห็นภาพ และเรามีข้อเสนอสำหรับคุณ หลินเว่ย"
"ข้อเสนออะไร?"
"ร่วมมือกับเรา นำทางมนุษยชาติสู่ยุคใหม่" หลิงเฟยยื่นมือออกไป "คุณถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้ หลินเว่ย เพื่อเป็สะพานเชื่อมระหว่างมนุษย์ปัจจุบันกับมนุษย์ในอนาคต"
หลินเว่ยมองมือของหลิงเฟย รู้สึกถึงพลังชี่ในร่างกายที่เคลื่อนไหวราวกับัที่ถูกรบกวน เขานึกถึงคำพูดของปราชญ์หลินจู ถึงความสมดุลและการใช้พลังเพื่อสร้าง ไม่ใช่ทำลาย
"ถ้าสิ่งที่เธอพูดเป็ความจริง ทำไมต้องปล่อยไวรัสลงสู่ประชากร?" เขาถาม "ทำไมไม่ให้ผู้คนเลือกเอง?"
"เพราะมนุษย์กลัวการเปลี่ยนแปลง" หลิงเฟยตอบ "พวกเขาจะไม่ยอมรับโดยสมัครใจ และเราไม่มีเวลาพอที่จะรอ สิ่งมีชีวิตต่างดาวจะมาถึงภายในสองปี เราต้องเร่งกระบวนการ"
"โดยทำให้มนุษยชาติเป็ทาส?" ลี่ชิงถาม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ
"โดยช่วยพวกเขาวิวัฒนาการ" หลิงเฟยแก้ไข "คุณเองก็เห็นแล้วว่าโลกกำลังล่มสลาย มนุษย์ฆ่าฟันกันเอง แย่งชิงทรัพยากรที่เหลือน้อย ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลง เราจะไม่มีวันรอดจากภัยคุกคามนี้"
หลินเว่ยมองไปที่เพื่อนของเขาทีละคน เห็นความสับสนและความหวาดกลัวในดวงตาของพวกเขา เขารู้ว่าการตัดสินใจของเขาจะกำหนดอนาคตของมนุษยชาติ
"ฉัน้าเวลาคิด" เขาบอกหลิงเฟย
"แน่นอน" เธอตอบ "แต่อย่าใช้เวลานานเกินไป เพราะเรามีแผนสำรองหากคุณปฏิเสธ" เธอหันไปกดปุ่มอีกครั้ง ภาพเปลี่ยนเป็ห้องขังขนาดเล็ก ที่มีเด็กชายอายุราวสิบขวบนอนอยู่บนเตียง
"นั่นใคร?" ลี่ชิงถาม เสียงสั่น แม้จะรู้คำตอบในใจแล้ว
"ลูกชายคนต่อไปของคุณ" หลิงเฟยตอบ มองไปที่หลินเว่ยและลี่ชิง "เสี่ยวิ ถูกสร้างขึ้นจากพันธุกรรมของคุณทั้งสอง แต่พัฒนาให้ก้าวหน้ากว่า" เธอยิ้ม "ตอนนี้เขาเป็เพียงภาพจำลอง แต่เราสามารถทำให้เขามีตัวตนได้จริงๆ คุณไม่คิดหรอกหรือว่าควรได้พบกับลูกชายของตัวเอง?"
หลินเว่ยรู้สึกเหมือนโลกหมุนรอบตัว คำพูดของหลิงเฟยทำให้เขาสั่นสะท้าน ลูกชาย? เขาและลี่ชิงจะมีลูกชายชื่อเสี่ยวิ? แต่ถ้าเื่นี้เป็ความจริง นั่นหมายความว่าองค์กรเทียนซื่อกำลังเล่นกับชีวิตมนุษย์ราวกับเป็เกม
"ฉันให้เวลาคุณสองชั่วโมง" หลิงเฟยกล่าว "ตัดสินใจให้ดี หลินเว่ย เพื่ออนาคตของมนุษยชาติ... และครอบครัวของคุณ"
เธอเดินออกจากห้องพร้อมผู้ติดตาม ทิ้งให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบที่หนักอึ้ง พร้อมกับคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบและการตัดสินใจที่มีน้ำหนักเท่ากับโลกทั้งใบ
ลี่ชิงจับมือหลินเว่ยแน่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา "นั่นจะเป็ลูกของเรา?" เธอถามเสียงสั่น
"ฉันไม่รู้" หลินเว่ยตอบตามตรง "แต่ฉันรู้หนึ่งอย่าง" เขามองไปที่เพื่อนทีละคน "เราจะไม่ยอมให้องค์กรเทียนซื่อเล่นกับชีวิตมนุษย์แบบนี้ ไม่ว่าเหตุผลของพวกเขาจะฟังดูดีแค่ไหนก็ตาม"
หวังเจี้ยนพยักหน้าเห็นด้วย "แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป?"
"เปลี่ยนแผน" หลินเว่ยกล่าว ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "และเราต้องรีบ เพราะฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะให้เวลาเราจริงๆ สองชั่วโมงหรอก"