“กู่ไห่?” หลี่ฮ่าวหรานถลึงตา ก่อนะโอย่างโกรธเกรี้ยว
เขาหยุดดึงพลังของไต้ซือหลิวเหนียน แล้วหันมาให้ความสนใจกับผู้มาใหม่
เมื่อก่อน หลี่ฮ่าวหรานมิได้ให้ความสนใจต่อผู้น้อยอย่างกู่ไห่เท่าใดนัก แต่ตอนนี้ กลับต้องมาระวังอีกฝ่าย เพราะนับจากโลกของหมากล้อม ไปจนถึงเกาะจิ๋วหวู่ รูปแบบการต่อสู้ของท่านผู้เฒ่า ล้วนเกี่ยวข้องกับหมากล้อมทั้งสิ้น
และใน่เวลานี้ ทักษะหมากล้อมของกู่ไห่ ก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้ว ว่ายิ่งใหญ่และยากที่จะต้านทานขนาดไหน
แม้ว่าในโลกของหมากล้อมแห่งความตายนี้ เิไท่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ก็จริง แต่สุดท้าย กู่ไห่ก็ยังส่งหลงหว่านชิงและสององครักษ์ เข้ามาด้านในเขตแดนป้องกันได้อย่างง่ายดาย
หมากทั้งสามเม็ดนั้น กลับต่อสู้จนชนะ ทำให้เิไท่ตกจากบัลลังก์ และสูญเสียความสำเร็จไป
... ใช้หมากแค่สามเม็ด ก็สามารถพลิกผลแพ้ชนะได้แล้ว?
และตอนนี้ กู่ไห่ก็ะโลงมาเล่นด้วยตัวเอง...
“ฮ่าๆๆๆ! กู่ไห่... กู่ไห่?” เิไท่ที่กำลังจะตาย มองดูกู่ไห่จากระยะไกล พลันความกราดเกรี้ยวก็ก่อตัวเกิดขึ้นในใจ
พูดกันตามตรง เิไท่ไม่เคยคิดดูถูกกู่ไห่เลย ปฏิบัติต่ออีกฝ่ายเหมือนเป็ศัตรูอันดับหนึ่งของตน พยายามอย่างเต็มที่ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา แต่ท้ายที่สุด ก็ไม่อาจเอาชนะกู่ไห่ได้
ในเวลานี้ เิไท่ไม่มีความคิดที่จะต่อสู้กับอีกฝ่ายแล้ว แม้ในใจจะรู้สึกไม่พอใจก็ตาม... เหตุใดทั้งพลังและร่างกายของกู่ไห่ ถึงได้เหนือกว่าตน?
หากไม่มีกู่ไห่... เขาจะไปได้ไกลกว่านี้หรือไม่?
เ้าช่างเกิดมา เพื่อเหนือกว่าข้าจริงๆ
“ท่านกู่... ในที่สุดท่านก็มาแล้ว!”
“ท่านกู่ ช่วยด้วย... ได้โปรดรีบแก้หมากนี้!”
“ท่านกู่ ท่านเล่นหมากล้อมได้อย่างยอดเยี่ยม คงจะสามารถแก้กลหมากแห่งความตายได้ใช่หรือไม่? ท่านกู่... ช่วยด้วย! ”
“ท่านกู่ โปรดระวังพลังของหลี่ฮ่าวหรานด้วยขอรับ!”
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วน เมื่อมองเห็นกู่ไห่ก็เริ่มมีความหวัง แม้ว่าในตอนแรก พวกเขาโดยส่วนใหญ่จะมาที่เกาะจิ๋วหวู่ เพื่อแย่งชิงลูกท้อร้อยปี แต่ตอนนี้ ก็ไม่มีความคิดนั้นอีกแล้ว ความหวังเพียงหนึ่งเดียวในเวลานี้ ก็คือ ขอให้อีกฝ่ายช่วยพวกเขาออกจากกลหมากแห่งความตายนี้เท่านั้น
“ไต้ซือหลิวเหนียน ท่านไม่เป็อะไรใช่หรือไม่?” กู่ไห่หันกลับไปมองร่างที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
“พรวด! ยังไม่ตาย... ฮ่าๆ!” ไต้ซือหลิวเหนียนที่นอนจมกองเือยู่ กระอักโลหิต ก่อนจะหัวเราะเสียงดังลั่น
“กู่ไห่ ข้าขอโทษ ที่ทำให้เกิดเื่ยุ่งยาก!” หลงหว่านชิงพูดทั้งน้ำตา
“เอาล่ะ... อย่าได้กังวล! ข้าอยู่นี่แล้ว!” กู่ไห่ตอบ พลางยกยิ้ม ก่อนจะค่อยๆ วางหลงหว่านชิงลง
“ท่านถังจู่!” องครักษ์ทั้งสามรีบกระโจนเข้ามา
หลงหว่านชิงรู้สึกดีขึ้นมาก รีบเช็ดหยาดน้ำที่หางตาให้แห้ง ก่อนหันไปมองกู่ไห่ ดวงตาของนางฉายแววขอบคุณ เพราะชายหนุ่มไม่ได้ถือโทษโกรธนาง
“ท่านไปอยู่กับไต้ซือหลิวเหนียนเถอะ เขาจะบอกเอง ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป” กู่ไห่เอ่ย
“อืม!” หลงหว่านชิงพยักหน้ารับ
หลังจากบอกหลงหว่านชิงแล้ว กู่ไห่จึงสืบเท้าไปหนึ่งก้าว พร้อมกวาดตามองหลี่ฮ่าวหรานด้วยรอยยิ้ม “ท่านผู้บัญชาการเฉินจีหยิง ข้าคิดไม่ถึงเลย ว่าตอนนี้เ้าจะเป็ผู้เดินหมากแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า ยังเป็แค่หมากเม็ดหนึ่งแท้ๆ”
“ฮึ่ม! คิดว่ามีแต่เ้าที่คู่ควรหรืออย่างไร? และยามนี้ เ้าก็เป็เพียงหมากในกระดานของข้าเท่านั้น!” ว่าแล้ว หลี่ฮ่าวหรานก็สะบัดมือใส่อีกฝ่าย
“อา!”
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนที่อยู่โดยรอบ พลันกลิ้งไปหลายตลบ เพราะแรงโบกสะบัด ราวกับหุ่นเชิดใต้อาณัติของผู้ควบคุมหมาก
ทุกคนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเ็ป มีเพียงกู่ไห่ที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
“อะไรกัน?” สีหน้าของหลี่ฮ่าวหรานเปลี่ยนไป
เขาควบคุมหมากสีทอง เพื่อดูว่าเส้นไหนเชื่อมต่อกับกู่ไห่ หวังที่จะควบคุมอีกฝ่ายให้ได้อย่างใจนึก
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กู่ไห่ไม่ได้รับผลกระทบจากพลังของเขาแต่อย่างใด แต่กลับเดินตรงไปยังหลี่ฮ่าวหรานอย่างเย่อหยิ่ง
“ท่านผู้บัญชาการหลี่ สนุกหรือไม่? ข้ากำลังรอให้ท่านแสดงพลังให้ดูอยู่เชียว?” กู่ไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เป็ไปไม่ได้! เ้าไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้า เ้าไม่ใช่ทั้งหมากสีขาวหรือดำอย่างนั้นหรือ?” สีหน้าของหลี่ฮ่าวหราน บ่งบอกถึงความไม่พอใจ
“ตอนนี้รู้แล้วหรือ? หากข้าอยู่ในกลหมากนี้ แต่ต้องเป็เพียงเม็ดหมาก เช่นนั้น ข้าจะเล่นเป็เพื่อนเ้าได้อย่างไร?” กู่ไห่เอ่ย พลางส่งยิ้มบางๆ กลับไป
“ฮึ่ม! ไม่ใช่ทั้งหมากสีขาวและดำ แล้วจะทำอะไรได้?” หลี่ฮ่าวหรานกล่าวอย่างเ็า
ระหว่างพูด หลี่ฮ่าวหรานก็ยื่นมือไปข้างหน้า เพื่อรวบรวมพลังจากผู้ฝึกตนกว่าหกหมื่นคน ก่อนซัดไปที่กู่ไห่ หวังจะสังหารอีกฝ่ายให้ตายในคราเดียว
ตูมๆ!
ฝ่ามือกว่าหกหมื่นปรากฏขึ้น ก่อนพุ่งตรงไปยังกู่ไห่
เมื่อเห็นสถานการณ์ในตอนนี้ เหล่าผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนต่างก็หลับตา ไม่อาจทำใจดูความโหดร้ายเช่นนี้ได้ แม้กู่ไห่จะเก่งกาจในการเดินหมาก แต่ก็มีพลังแค่ระดับก่อ์เท่านั้น แล้วจะต้านทานมันได้อย่างไร?
“ไม่...!” หลงหว่านชิงที่เดินออกไปไกล พลันร้องอุทานด้วยความใ
ตูมๆ!
ภายใต้เสียงะเิที่ดังสนั่น กว่าหกหมื่นฝ่ามือพุ่งเข้าปะทะกัน แต่อย่างไรก็ตาม กู่ไห่ที่ยืนอยู่ใจกลางกลุ่มฝ่ามือ ยังคงยืนนิ่ง และเดินไปข้างหน้าทีละก้าวอย่างไม่หวั่นเกรง
“อะไรกัน?” สีหน้าของหลี่ฮ่าวหรานเปลี่ยนไป
แม้แต่ท่านไต้ซือหลิวเหนียน ก็ยังไม่อาจต้านทานการโจมตีเช่นนี้ ทว่า กู่ไห่กลับ... เป็ไปได้อย่างไร?
กลุ่มผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนต่างเบิกตากว้าง เมื่อเห็นกำแพงอากาศซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางราวสิบจั้ง เข้ามาปกคลุมกู่ไห่เอาไว้
“เขตแดน? เขตแดนป้องกัน?” ทันใดนั้น ก็มีคนร้องด้วยความพิศวง
“ผู้เดินหมาก? กู่ไห่ก็เป็ผู้เดินหมากเช่นกันอย่างนั้นหรือ? เป็ไปได้อย่างไร!?” เิไท่ที่อ่อนแรงเบิกตากว้างอย่างแปลกใจ
หมากสีทองสองเม็ด ไม่ได้อยู่ในมือของหลี่ฮ่าวหรานหรอกหรือ? ดังนั้น เขาจึงควรจะเป็ผู้เดินหมากเพียงคนเดียว แล้วเหตุใดกู่ไห่ถึงมีเขตแดนป้องกันได้ล่ะ?
“ท่านกู่ก็เป็ผู้ควบคุมหมากเช่นกัน!”
“เยี่ยมเลย ท่านกู่ก็มีหมากสีทองด้วย!”
“ท่านกู่มีเขตแดนป้องกัน... และเขตแดนป้องกันนี้ ก็เป็ของผู้เดินหมาก!”
กลุ่มผู้ฝึกตนทั้งหลายต่างพากันโห่ร้องด้วยความยินดี
หลี่ฮ่าวหรานมองหมากสีทองสองเม็ดบนฝ่ามือตน ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ก่อนเอ่ย “เป็ไปไม่ได้! เหตุใดเ้าถึงมีหมากสีทอง? เหตุใดเ้าถึงเป็ผู้เดินหมากเช่นเดียวกับข้า? ในเมื่อทั้งหมากสีขาวและดำ ข้าคือผู้ควบคุมทั้งสิ้น!”
หลี่ฮ่าวหรานชะงักเล็กน้อย พร้อมกับสีหน้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป “หมากใส? เ้าหมากโปร่งใส? แต่หมากสีทองที่ควบคุมหมากโปร่งใส ถูกเว่ยหยางทำลายไปแล้วมิใช่หรือ? มันแตกไปแล้ว?”
“ยังเดินหมากไม่จบ แล้วมันจะถูกทำลายได้อย่างไร?” กู่ไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
สีหน้าของหลี่ฮ่าวหรานมืดครึ้ม ดวงตาดุร้ายวาวโรจน์ เขาไม่ใช่ผู้เล่นคนเดียวอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้มีผู้เดินหมากเพิ่มขึ้นมาอีกคน ก็คือกู่ไห่... กู่ไห่? เขาต้องต่อสู้กับกู่ไห่?
...
นอกกลหมากแห่งความตาย ห่างจากดอกโบตั๋นั์ไม่ไกลนัก
เนื่องจากหลี่ฮ่าวหรานเป็ผู้เดินหมาก เขาจึงสร้างเงามายาขึ้นมาได้ ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนที่อยู่นอกดอกโบตั๋นั์ เกิดความโกลาหล
ไม่มีใครคาดคิด ว่าหลี่ฮ่าวหรานจะโหดร้ายถึงเพียงนี้ หลังจากหลอกลวงหลงหว่านชิงไปแล้ว ก็ยังคิดจะฆ่าทุกคนอีกหรือ? เพียงเพื่อมรดกของท่านผู้เฒ่า?
เมื่อครู่ เขาก็เกือบจะสังหารหลงหว่านชิงไปแล้ว
“หลี่ฮ่าวหรานช่างร้ายกาจจริงๆ เขาหลอกลวงหลงหว่านชิงมานานแล้วอย่างนั้นหรือ!”
“เพียงเพื่อชีพจรั เ้านี่ช่างไร้ยางอายจริงๆ!”
“เขาช่างรนหาที่ตายจริงๆ ถ้าเขาสังหารหลงหว่านชิง ท่านตาของนางคงไม่ปล่อยเขาแน่!”
“ยังดีที่เขาหยุดมือ... คนอื่นก็คงจะรอดแล้ว!”
“ดูสิ! กู่ไห่ก็กลายเป็ผู้เดินหมากด้วยอย่างนั้นหรือ?”
“กู่ไห่กับหลี่ฮ่าวหรานกำลังจะต่อสู้กัน... และกู่ไห่ก็เป็ปีศาจเช่นกัน!”
“ใช่แล้ว! คนครึ่งอสูรกว่าสามหมื่นตน ล้วนถูกกู่ไห่สังหารไปสิ้น ทั้งๆ ที่พวกมันล้วนเป็อสูรที่โเี้!”
“กู่ไห่ต้องดีกว่าสิ! ถึงเขาจะสังหารผู้คนอย่างโเี้ แต่เ้าพวกนั้นก็เป็ปีศาจกินมนุษย์ ดังนั้นกูไห่จึงต้องกำจัดพวกมันอย่างไรเล่า!”
“ดูสิ! พวกเขากำลังจะสู้กันแล้ว และหลี่ฮ่าวหรานก็กำลังระดมพลังของทุกคนอีกครั้ง!”
“กู่ไห่เป็ผู้เดินหมาก เขามีเขตแดนคอยป้องกัน?”
เหล่าผู้ฝึกตนทั้งหลายต่างเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก พวกเขาไม่อาจมองออกได้ว่า ภายในกระดานหมากล้อมแห่งความตาย กำลังเกิดอะไรขึ้นในยามนี้
...
ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่ทางขึ้นเขา
ใครบางคนยังคงมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเงียบๆ
“หลี่ฮ่าวหราน? ข้าไม่เคยคิดว่าเ้าจะหาญกล้าถึงเพียงนี้!” เขาพึมพำเบาๆ ราวกับกำลังเอ่ยกับอากาศที่อยู่ข้างๆ ตนก็ไม่ปาน
“ขอข้าดูอีกสักหน่อย การตายของเด็กหญิงตัวน้อย ขอข้าดูวิธีการของหลี่ฮ่าวหรานก่อน” ชายปริศนายังคงพูดกับอากาศที่หมุนวนอยู่รอบกาย
...
ในตอนนี้ บนดอกโบตั๋นั์
หลี่ฮ่าวหรานควบคุมหมากสีทองสองเม็ด เงามายาที่สร้างขึ้น มิได้อยู่ทางทิศใต้หรือทิศเหนือของกระดานหมากอีกต่อไป แต่มันกลับเคลื่อนตัวไปอยู่ตรงกลาง และทางทิศตะวันตกของกระดานหมากแทน
ทางด้านทิศตะวันออกของกระดาน มีภาพมายาของกู่ไห่ที่ค่อยๆปรากฏขึ้น บนใบหน้านั้นมีรอยยิ้มเยาะ ที่ส่งไปยังหลี่ฮ่าวหรานที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม
ในสายตาของคนภายนอก ทั้งสองกำลังต่อสู้กัน โดยการเข้าควบคุมหมากกระดานนี้
“คุณชายใหญ่ นายท่านกู่กับหลี่ฮ่าวหรานกำลังจะต่อสู้กัน แต่อีกฝ่ายมีหมากสีขาวและดำมากกว่าหกหมื่นเม็ด ทว่า ในมือของนายท่านกลับไม่มีหมากเลยสักเม็ด!”
“ใช่แล้ว! เพราะหมากโปร่งใสถูกนายท่านสังหารไปหมดแล้ว ตอนนี้นายท่านมีเพียงมือเปล่า จะทำอย่างไรกันดี?”
กลุ่มคนโฉดใต้อาณัติของกู่ไห่ ต่างหวาดวิตกกับสถานการณ์ตรงหน้า
กู่ฉินส่ายศีรษะ ก่อนเอ่ย “อย่าได้กังวล ไม่มีใครเข้าใจหมากล้อมได้อย่างท่องแท้เท่าพ่อบุญธรรมอีกแล้ว วางใจเถอะ พ่อบุญธรรมไม่เป็อะไรแน่!”
“ขอรับ!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนต่างก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
...
สถานการณ์ในกลหมากแห่งความตาย
ยามนี้ หลี่ฮ่าวหรานไม่อาจเข้าใจความคิดของกู่ไห่ จึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน
หากเป็การต่อสู้ด้วยกำลัง อย่างไรคนตรงหน้าก็ไม่มีวันเทียบเขาได้ ต่อให้มีเป็หนึ่งร้อยกู่ไห่ก็เถอะ ทว่าในกลหมากเช่นนี้ ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็เช่นไร
ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลงหว่านชิงวิ่งปรี่เข้าไปหาไต้ซือหลิวเหนียน ที่นอนาเ็อยู่ไกลออกไป
“ไต้ซือหลิวเหนียน ท่านเป็อย่างไรบ้าง?” หลงหว่านชิงพยุงร่างของภิกษุชราขึ้นมาอย่างกังวล
“รีบไปหาที่ซ่อนตัวกันเถอะ!” ไต้ซือหลิวเหนียนเอ่ย พลางขมวดคิ้วแน่น
“หืม?”
“กู่ไห่ให้เ้ามาหาข้า เช่นนั้น ข้าจะพาเ้าไปซ่อนก่อน ไม่รู้ว่ากู่ไห่มีพลังอะไร แต่เ้าและข้า คนหนึ่งเป็หมากสีขาว อีกหนึ่งเป็หมากสีดำ เราทั้งคู่ต่างเป็หมากในมือของหลี่ฮ่าวหราน เ้านั่นอาจจะจับพวกเราไปเป็ตัวประกัน หากเขาไม่สามารถเอาชนะกู่ไห่ได้” ไต้ซือหลิวเหนียนกล่าว ก่อนกระอักโลหิต
“อา? จริงด้วย!” ท่าทีของหลงหว่านชิงแปรเปลี่ยน
โดยไม่ลังเลหรือรีรอให้เสียเวลา หลงหว่านชิงเร่งพาสามองครักษ์หนีไปยังจุดที่อยู่ห่างออกไป เพื่อหลบซ่อน
“ถังจู่หลงหว่านชิงและท่านไต้ซือหลิวเหนียน กำลังจะหลบหนี!” คนของกองกำลังเฉินจีหยิงะโลั่น
“หือ?” หลี่ฮ่าวหรานเลิกคิ้ว พลางมองดูสองร่างที่กำลังวิ่งหนีไปไกล
สีหน้าของหลงหว่านชิงที่กำลังหลบหนี พลันแข็งทื่อ
“ท่านผู้บัญชาการหลี่ นี่เ้าเกรงกลัวข้า จนต้องใช้ผู้หญิงมาเป็ตัวประกัน เพื่อต่อรองอย่างนั้นหรือ?” กู่ไห่ถามกลั้วหัวเราะ