ร้องขอจนประโยคสุดท้ายเสียงของเสี่ยวหงเอ๋อร์ก็เริ่มสะอื้นขึ้นมา ฝูเอ๋อร์รู้สึกแค่ว่าคอแข็งจนเริ่มสั่น
นางกระแอมออกมายกมือขึ้นไปลูบผมแห้งกรอบของเด็กหญิง ก่อนหน้านี้ผมของเด็กคนนี้ยังลื่นสลวยอยู่เลยนี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันกลับเปลี่ยนมาแห้งเช่นนี้แล้ว
“คุณหนูเสี่ยวหงเอ๋อร์ท่านบอกข้าได้หรือไม่ ว่าเหตุใดถึงได้เอาน้ำร้อน…สาดไปทางน้องชายทั้งยังบีบคอของเขา”
เมื่อพูดถึงเื่นี้เสี่ยวหงเอ๋อร์กรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัว
“ข้าไม่ได้ทำข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่ได้ทำ…ข้าไม่ได้ทำจริงๆ ข้าแค่…กรี๊ด เขาสมควรเขาแย่งความสนใจทั้งหมดไป หลังจากเขามา ฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่ชอบข้าท่านแม่เกลียดข้าที่สุด นางบอกว่าข้าคือสตรี คือของที่ต้องจ่ายเงินชดเชย ฮือข้าเกลียดเขา ข้าเกลียดเขา เขาไม่ใช่น้องชายข้า ไม่ใช่…”
เด็กน้อยเสียการควบคุมทั้งกรีดร้อง ทั้งตัวสั่น
ใบหน้าดุร้ายนั้นเต็มไปด้วยน้ำตานางคลานเข้ามา อยากจะจับฝูเอ๋อร์เอาไว้ แต่ฝูเอ๋อร์กลับส่ายหน้าแล้วหมุนตัวเดินออกไป
คือสิ่งใดที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปคือสิ่งใดที่ทำให้เด็กตัวเล็กๆ เป็อันตรายั้แ่ยังเล็ก…
จวนรับรองใหญ่…ภายใต้ภาพลักษณ์ภายนอกที่สว่างสดใสได้ซ่อนสิ่งสกปรกเอาไว้มากมาย…
เฉินเนี้ยนหรานมายืนอยู่ในห้องเล็กๆของเรือนด้านหลังจวนสกุลหลิน พอคิดว่าอีกเดี๋ยวจะได้เจอกับถวนถวน นางก็อดจะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
แยกจากกันได้สามเดือนกว่าแล้วตอนที่ถูกอุ้มไป ถวนถวนตัวประมาณสิบสองจินแล้ว ผ่านไปนานเพียงนี้เขาจะตัวหนักขึ้นบ้างหรือไม่? บนใบหน้ามีเนื้อหรือยัง จะส่งยิ้มให้คนอื่นเหมือนกับเชวียนเชวียนหรือไม่?
ทุกครั้งที่คิดถึงถวนถวนหัวใจของนางก็จะถูกบีบจนเจ็บ
เพียงแค่การสูญเสียถึงทำให้รู้ว่าตนเองไร้ประโยชน์มากเพียงใด
เรือนหลังนี้คือเรือนด้านหลังของจวนสกุลหลิน และเป็สถานที่ที่หนิงเซียงจัดให้มาเจอกับถวนถวนตามลำพัง
จากที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้หากนาง้าเจอลูก ทำได้แค่รอคอยอยู่ที่นี่ราวกับเป็สาวใช้คนหนึ่งรอจนกระทั่งนักพรตอุ้มเด็กเข้ามาอวยพรแล้ว ในเวลาสั้นมากๆ แต่แม้จะสั้นมากเท่าใดนางก็สามารถเจอกับถวนถวนแล้ว
ระยะเวลาของการรอคอยยาวนานมากเรือนด้านหน้ายังมีเสียงดนตรีดังไม่น้อย
นี่คือพิธีที่จวนสกุลหลินกำลังทำเพื่อฮูหยินผู้เฒ่าผู้หนึ่งที่เสียไปความจริงแล้ว พิธีเช่นนี้ก็ทำให้กับคนรุ่นหลังได้ดู คนที่จากไปแล้วนั้น จะดูได้ที่ใดกัน
“รีบมาเถิดลูกของข้า…”
เฉินเนี้ยนหรานหลับตาลงแล้วเดินไปมาด้วยความร้อนใจนางใกล้จะควบคุมความรู้สึกของตนเองไว้ไม่อยู่แล้ว โชคดีในที่สุดเวลาก็ผ่านไปพร้อมกับมีเสียงรองเท้าเดินมาจากที่ไกลออกไป
และมายืนอยู่ตรงหน้าประตูไม่ไกลออกไปมีโคมไฟ
“เหล่าฮูหยินรอกันอยู่ด้านนอกเถิด”ผู้ติดตามข้างกายของนักพรตเมื่อเห็นว่าถึงแล้ว ก็โบกมือทำสัญญาณให้พวกฮูหยินผู้เฒ่าออกไป
“เช่นนั้นจะต้องฝากท่านเซียนซือแล้วเ้าค่ะก่อนหน้านี้ร่างกายของเด็กคนนี้ได้รับาเ็เล็กน้อยลำบากท่านเซียนซืออวยพรให้สักหน่อย เด็กคนนี้จะต้องหายดีขึ้นมาแน่เ้าค่ะ”
เฉินเนี้ยนหรานอยากจะเงยหน้าขึ้นมากแต่นางทำไม่ได้ ตอนนี้เหล่าฮูหยินผู้เฒ่าต่างรออยู่ด้านข้างกันหมด
แม้แต่สาวใช้ที่รู้จักกันแต่ก่อนตอนนี้ก็มายืนอยู่ข้างกัน นางไม่กล้าเงยหน้าเลยสักนิด ทำได้แค่ยืนรอทำเป็สาวใช้ที่ดีอยู่ตรงนั้น
ฮูหยินผู้เฒ่าฝากฝังเสร็จแล้วก็ให้ฝูเอ๋อร์กับหงเอ๋อร์สองสาวใช้ที่ยืนดูแลขนาบซ้ายขวาไปเฝ้าอยู่ด้านข้าง
ตอนที่หงเอ๋อร์จะออกไปกวาดตามองเห็นเฉินเนี้ยนหรานค้อมกายอยู่ ในแววตามีความสงสัยแล่นผ่านรู้สึกเพียงว่า เหตุใดร่างนี้ถึงได้รู้สึกคุ้นตาเช่นนี้นะ แต่ความคิดชั่วแล่นนี้ก็ถูกนางโยนเอาไปไว้ด้านหลัง
ไม่ว่าอย่างไรที่นี่คือจวนสกุลหลิน คุณชายไม่มีทางเป็อะไร
“ฮูหยินผู้เฒ่าไปรออยู่ด้านนอกเถิดเ้าค่ะ ที่นี่ลมแรง ให้ข้าอยู่เฝ้าคุณชายน้อยที่นี่พิธีเสร็จแล้วข้าจะอุ้มเขากลับไป” ฝูเอ๋อร์พูดโน้มน้าว
“ก็ดีเฮ้อ ที่นี่ลมแรงไปสักหน่อยจริงๆ”
อายุของฮูหยินผู้เฒ่าเยอะแล้วก่อนหน้านี้ยังอดหลับอดนอนเฝ้าถวนถวน ตอนนี้จึงเริ่มจะฝืนไม่ไหว นางรู้ว่าร่างกายของตนเองยังตายไม่ได้หากตายไปแล้ว ผู้ใดจะช่วยปกป้องคนที่นาง้าปกป้องกันเล่า!
ฝูเอ๋อร์กับเหล่าป้าๆต่างรออยู่ด้านนอกเรือน ถูกเซียนซือขังเอาไว้ด้านนอก
“ปิดประตู”ตามมาด้วยเสียงดุของเซียนซือ เฉินเนี้ยนหรานจึงรีบปิดประตูสายตามองไปยังร่างของถวนถวนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา วินาทีที่เห็นเด็กน้อยในตาของนางก็รื้นน้ำตา
เด็กคนนี้ผอมกว่าตอนที่เพิ่งจะแยกกันไปสักหน่อย สามารถคิดได้เลยว่าสองเดือนนี้เขาถูกรังแกมากแค่ไหน
“เอาเด็กคนนี้ไปอุ้ม”ในตอนนั้นเอง ท่านเซียนซือที่ไม่เอ่ยปากพูดมาตลอดสั่งให้นางอุ้มเด็ก
สำหรับสิทธิพิเศษนี้เฉินเนี้ยนหรานอยากได้มันมาตลอด
นางรีบเข้าไปรับถวนถวนที่อยู่ในอ้อมกอดมาไม่รู้ว่าเป็เพราะธรรมชาติโดยกำเนิดหรือไม่ ขณะที่เด็กน้อยเข้าใกล้นาง หัวเล็กๆนั้นก็เข้ามาซบ
“ลูกเอ๋ย…แม่คิดถึงเ้าเหลือเกิน…”ความคิดทั้งหมดของเฉินเนี้ยนหรานได้เปลี่ยนเป็ความอ่อนโยนในแววตา
นางอุ้มลูกน้อยที่แยกจากกันไปสองเดือนนิ่งในใจเ็ปมาก แต่ก็รู้สึกพอใจมาก
“ถอดเสื้อของเด็กออกให้หมด!”ในตอนนั้นเองที่เซียนซือเอ่ยปากออกมาอีก
“อ๋อได้เ้าค่ะ” ถึงแม้จะไม่เข้าใจ แต่เฉินเนี้ยนหรานก็ยังทำตามคำสั่ง
ตอนที่ถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมดเมื่อเห็นร่างกายที่ผอมจนเหมือนกระดูกของลูก น้ำตาของนางก็ไหลออกมา และตอนที่ถอดกางเกงตัวเล็กด้านในออกจนเผยให้เห็นระหว่างขาของเด็กชายแดงจนน่ากลัวนางก็กรีดร้องออกมา
หว่างขาของถวนถวนมีาแที่ลึกมากกล้ามเนื้อพวกนั้นยังเป็สีชมพู จากตรงนั้นยาวไปจนถึงต้นขาซ้าย เป็สีแดงฉาน
แม้แผลจะแห้งสนิทแล้วแต่รอยแผลเป็ร้ายแรงนั้นยังกระแทกใจคน
“ท่านอาจารย์เด็กคนนี้น่าสงสารจริงๆ เด็กเพียงนี้ก็ถูกลวกจนกลายเป็เช่นนี้แล้ว”ในตอนนี้เองเซียนซือที่ติดตามมาด้วยพูดพลางถอนหายใจ
“หากไม่เป็เช่นนี้พวกนางจะให้เ้าอวยพรหรือ! ไปเอาน้ำมนต์เซียนของข้ามา”ทันใดนั้น น้ำเสียงของเซียนซือก็ไม่ได้เคร่งขรึมอีกต่อไปแต่เปลี่ยน…มาเป็น้ำเสียงสบายๆ
เพียงแต่ความสนใจของเฉินเนี้ยนหรานอยู่ที่ตัวของถวนถวนไม่สนใจถึงการเปลี่ยนแปลงของท่านเซียนสือคนนี้ และที่นางมองไม่เห็นก็คือ ท่านเซียนซือกำลังมองพิจารณานางอย่างสนใจ
หากนางเงยหน้ามองท่านเทียนซือคนนี้สักนิดจะต้องใมากอย่างแน่นอน เพราะในโลกใบนี้ ได้มีบุรุษที่เป็เทพเซียนอยู่จริงๆแน่นอนว่าจะต้องเมินดวงตาเ้าเล่ห์ของท่านเซียนซือ…ยามที่หรี่ตาลงแล้วแฝงความร้ายกาจออกมา….
“ท่านอาจารย์น้ำมนต์มีอยู่ไม่มากแล้วนะขอรับ จะให้เด็กคนนี้ได้อย่างไร? พวกเรายังต้องเอาพวกนี้ไปช่วยคนนะขอรับ”
“อ๋อเ้าลูกศิษย์พูดเช่นนี้ ข้ากลับรู้สึกว่ามันก็เป็เช่นนั้น สาวใช้ เ้าว่า ข้าควรสาดน้ำมนต์ลดความเจ็บให้กับเด็กคนนี้หรือไม่?” ผู้ใดจะรู้ว่าท่านเซียนซือในตอนนี้กลับนั่งลงบนเก้าอี้แล้วถามคำถามเฉินเนี้ยนหราน
“หา?” เฉินเนี้ยนหรานเพิ่งจะได้สติจากภาพน่าสงสารของถวนถวนเมื่อเงยหน้าขึ้นมาสบตามาดร้ายของเซียนซือ ลางสังหรณ์ของนางทำให้คิ้วขมวดเข้าหากันเซียนซือคนนี้ ในตอนนี้นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางชั่วร้าย รอยยิ้มมาดร้ายมาก มีตรงที่ใดที่เหมือนกับคนเป็เซียน
คนเช่นนี้ถูกผู้คนเชื่อได้อย่างไรกัน?
“ท่านอาจารย์ของข้าถามเ้าว่าจะลดความเ็ปเด็กคนนี้หรือไม่?” ผู้ติดตามถามคำถามของอาจารย์อีกครั้งอย่างไม่พอใจ
“ลดความเ็ปหรือเอาสิ เอาสิเ้าคะ ขอให้ท่านเซียนโปรดลงมือด้วยเ้าค่ะ”เฉินเนี้ยนหรานในตอนนี้มีหรือจะสนใจอย่างอื่นรู้แค่ว่าสามารถช่วยลดความเ็ปของเสี่ยวถวนถวนได้เช่นนั้นก็เป็สิ่งที่ดีที่สุด
“อ่อเ้า…นี่ถือว่าเป็การขอร้องข้าแล้วเช่นนั้นหรือ?” ท่านเซียนที่นั่งอยู่จู่ๆ ก็แย้มยิ้มสดใสออกมา ดวงตาดอกเถาคู่นั้นพอแย้มยิ้มดวงตาก็หยีลงเป็ดอกเถาแวววาวเส้นเล็กๆ
สายตานี้หากสตรีปกติได้เห็น จะต้องถูกแสงสว่างของดวงคู่นี้สาดส่องเข้ามาจนลืมตาไม่ขึ้นแน่แต่นางในตอนนี้ได้เพิกเฉยต่อเสน่ห์ของท่านเซียนซือคนนี้ไปเสียจนหมดสิ้น…
“เ้าค่ะข้ากำลังขอร้องให้ท่านเซียนซือช่วยลดความเ็ปให้กับเด็กคนนี้”เฉินเนี้ยนหรานพูดซ้ำอีกครั้งด้วยความร้อนใจ เื่ที่เกี่ยวข้องกับลูกชายนางใจเย็นไม่ได้
“จะขอร้องข้าเ้ารู้หรือไม่ว่าค่าตอบแทนของการขอเซียนซือนั้นเท่าใด? เ้าจะใช้สิ่งใดมาขอร้อง?” รอยยิ้มเล่นสนุกของเซียนซือยิ่งลึกขึ้น
ดวงตาเ้าเล่ห์คู่นั้นยิ่งมีความเย็นเยียบแล่นผ่านไป
เฉินเนี้ยนหรานเงยหน้ามองเขาด้วยความไม่เข้าใจ“เงินที่ตัวของข้ามีไม่มาก เ้านี่ เ้านี่ ถอดออกมารวมกันแล้วพอหรือไม่เ้าคะ?” นางถอดต่างหูและปิ่นรวมถึงสร้อยคอออกมา
ของพวกนี้เป็ของที่มีค่าทั้งหมดในตัวของเฉินเนี้ยนหรานตอนนี้แล้ว
เซียนซือมองของในมือนางอย่างจริงจังมือเรียวยาวถือของพวกนี้ขึ้นมา ก่อนที่เขาจะต้องใจตรวจสอบของ
สุดท้ายท่านเซียนซือก็ส่ายหน้า
“เฮ้อเ้าจะต้องรู้นะว่าที่ข้ามาที่จวนนี้ มีรายได้เป็เงินสองร้อยตำลึง อย่างของพวกนี้ของเ้าน่ะข้าลองคำนวณดูแล้ว มีค่าเพียงยี่สิบตำลึงเท่านั้นความต่างของยี่สิบตำลึงและสองร้อยตำลึงน่ะ ออกจะห่างกันไปหน่อยหรือไม่ อืม…”
“แอ้…”เด็กน้อยที่ถูกอุ้มอยู่ในอ้อมกอดของเฉินเนี้ยนหรานอาจจะเพราะแขนขาทั้งสี่ถูกปล่อยออกจากกันแล้วและคล้ายจะไม่ได้กลัวความหนาว ยกมือขึ้นมาโบกมือโบกไม้ทักทายเฉินเนี้ยนหราน
