เล่มที่ 10 บทที่ 286 ขั้นจิงตันหกโคจร
นักพรตหยางิแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง…
‘ออกมาอีกแล้วหรือ?’
‘ผู้บำเพ็ญหนุ่มนามว่าหลินเฟยคนนี้...นอกจากจะเอาชนะผู้าุโอู๋จากสำนักซินเหอได้ไม่พอ ยังเอาชนะเหล่ยหวังหรือเยาเตาได้อีกงั้นหรือ?…’
‘คนหนุ่มสมัยนี้ร้ายกาจเพียงนี้เชียว?’
‘ผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันสามารถเอาชนะได้สบายๆแบบนี้เลยหรือ? นี่มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด’
และเหตุการณ์ต่อหลังจากนี้เองก็ยิ่งทำให้นักพรตหยางิรู้สึกเหลือเชื่อขึ้นไปอีก…
เพียงครู่เดียวเท่านั้น หลินเฟยก็ก้าวขาขึ้นไปยังบันไดขั้นที่สี่แล้ว…
“อีกแล้วหรือ…” ครั้งนี้นักพรตหยางิถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว…
‘แล้วจะให้พูดอะไรอีกเล่า…’
เพราะเหล่ยหวังกับเยาเตานั้น ถือว่าเป็ยอดฝีมือในทะเลอูไห่ก็ว่าได้ ต่อให้เป็นักพรตหยางิเองก็ยังต้องหวั่นเกรงต่อพวกเขา แต่หลินเฟยกลับเอาชนะได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ แล้วจะให้นักพรตหยางิพูดอะไรได้อีก?
ยังไม่จบเพียงเท่านี้…
เพราะหลังจากขึ้นไปยังขั้นที่สี่ ก็ยังมีขั้นที่ห้าตามมา…
จากขั้นที่ห้าก็ยังมีขั้นที่หก…
เมื่อถึงขั้นที่หกแล้ว ก็ยังมีขั้นที่เจ็ดรออยู่…
นักพรตหยางิจึงได้แต่มองอ้าปากตาค้าง กระทั่งหลินเฟยก้าวขึ้นไปถึงขั้นที่เก้า…
ขั้นบันไดมีทั้งหมดสิบแปดขั้น บัดนี้หลินเฟยกลับขึ้นไปถึงเก้าขั้นแล้ว…
หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ…
หลินเฟยสามารถเอาชนะยอดฝีมือขั้นจิงตันทั้งสิบของทะเลอูไห่ได้กว่าครึ่งแล้ว!
‘นี่มันอะไรกัน?’
นักพรตหยางิรู้สึกไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น…
‘ใช่แล้วล่ะ เพราะหลินเฟยแข็งแกร่งเป็อย่างมาก…’
แข็งแกร่งชนิดที่ไปไกลกว่าขั้นบำเพ็ญตนเองเสียอีก…
‘แตต่อให้แข็งแกร่งเพียงใด แต่ก็ไม่น่าจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้นี่นา?’
นี่ไม่ใช่แค่แข็งแกร่งเท่านั้น…
แต่เป็แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อเลยจริงๆ!
ไม่มีทางที่ผู้บำเพ็ญขั้นมิ่งหุนจะสามารถเอาชนะผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันได้ด้วยซ้ำ…
ฉะนั้นการที่หลินเฟยเอาชนะผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันได้ถึงเก้าคนรวดแบบนี้ จึงเป็เื่ที่ยากจะทำใจเชื่อได้
“จิงต้าไห่…” นักพรตหยางิจ้องมองจิงต้าไห่เป็นาน กระทั่งสุดท้ายจึงถอนหายใจออกมา
“อาจารย์พูดไม่ผิดหรอก เ้าน่ะ เป็คนที่โชคดีมาก…”
“ฮ่าๆ…” จิงต้าไห่ได้ยินเช่นนั้น ก็ะเิหัวเราะลั่นออกมา
‘นั่นสินะ โชคดีไม่น้อยเลย เดิมทียังคิดว่าตนเองโชคร้ายที่ถูกปล้นชิงจุดชีพจรหินิญญาไป แต่คิดไม่ถึงว่าเคราะห์ร้ายจะกลายเป็ดีเสียได้ ทำให้เขาได้รู้จักกับหลินเฟยคนนี้ไงล่ะ…’
เพียงดูตอนนี้ก็รู้แล้ว…
ยอดฝีมือขั้นจิงตันแห่งทะเลอูไห่กว่าครึ่งล้วนพ่ายแพ้ให้กับหลินเฟย เกรงว่าคนระดับนี้ วันหน้าจะต้องมีพลังเหนือสรรพสิ่งแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว ด้วยความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ครั้งเมื่ออยู่หุบเขาร้างนี้ คงจะเป็ประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว ดีไม่ดีสำนักหนานิอาจจะพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย…
หลังจากหัวเราะจนหนำใจแล้ว จิงต้าไห่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา
“ศิษย์พี่คิดว่าหลินเฟย…”
“ไม่มีทาง” นักพรตหยางิรู้ดีว่าจิงต้าไห่จะถามอะไร เขาจึงตอบออกมาโดยไม่ต้องคิดทันที จากนั้นก็ส่ายหน้าน้อยๆ และเอ่ยต่อ
“คนที่อยู่ขั้นที่สิบนี้ จะต้องเป็จงซานจากสำนักเชียนซานเป็แน่ นั่นเป็ถึงผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันที่ผ่านการโคจรมาแล้วหกขั้นเชียวนะ…”
“…” จิงต้าไห่ได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักลง ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“นั่นสิ ผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันหกโคจร ไม่น่ารอด…”
แม้จะบรรลุขั้นบำเพ็ญด้วยของนอกกาย แต่เพราะเป็ศิษย์สำนักหนานิ แถมยังมีนักพรตหยางิเป็ศิษย์พี่ ความรู้ของจิงต้าไห่ก็ถือว่ากว้างขวางอยู่บ้าง เขาจึงพอจะเข้าใจว่าพลังของผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันหกโคจรนั้น เป็อย่างไร…
เพราะขั้นจิงตันจะมีการโคจรพลังทั้งหมดเก้าขั้นและมีการเปลี่ยนแปลงอีกสามครั้ง
นั่นก็แปลว่าหลังจากบรรลุขั้นจิงตันแล้ว ผู้บำเพ็ญจะต้องผ่านการโคจรพลังเก้าขั้นถึงจะมีสิทธิ์ถูกขนานนามว่าเจินเหรินได้ ดังนั้นนอกจากเหล่าเ้าสำนักแล้ว จึงมีเพียงผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันที่ผ่านเก้าโคจรมาแล้วเท่านั้นที่เป็เจินเหริน และการโคจรพลังทั้งเก้าขั้นนี้เอง ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกสามครั้ง โดยทุกการโคจรพลังทั้งสามครั้งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหนึ่งครั้ง กระทั่งโคจรพลังครบเก้าขั้น ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครบสามครั้ง…
การเปลี่ยนแปลงครั้งแรกจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อโคจรพลังครบสามครั้งแล้วเท่านั้น ถึงตอนนั้นแล้ว ก็จะสามารถเอาชนะเคราะห์แห่งความตายได้
หลังจากที่เอาชนะเคราะห์แห่งความตายได้แล้ว ชีวิตก็ยืนยาวขึ้นไปอีก ถือว่าได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางะอย่างแท้จริง ตบะพลังในตัวก็จะหลอมรวมกันจนเกิดห้วงมิติแห่งความเป็ตายขึ้นมา
สำหรับผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันทั่วๆ ไปนั้น การอยู่ในห้วงมิติแห่งความเป็ตาย ก็เปรียบเสมือนการมีพลังที่ไร้เทียมทาน ไม่ว่าจะมีพลังกล้าแกร่งกว่าอย่างไร ก็ไม่อาจล่วงล้ำเข้าไปในห้วงมิติแห่งความเป็ตายของอีกฝ่ายได้ง่ายๆ…
และหลังจากโคจรพลังครบหกขั้นแล้ว เคล็ดวิชามากมายในตัวก็จะหลอมรวมกัน ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ห้วงมิติแห่งความเป็ตาย เรียกได้ว่าหลังจากนี้ไม่มีเคล็ดวิชาใดๆสามารถทำลายมันได้อีกแล้ว หากมีตบะพลังระดับเทียนกังแล้ว ก็ล้วนไม่สามารถทำอันตรายใดๆได้เลยทีเดียว
ดังนั้นนักพรตหยางิและจิงต้าไห่จึงคิดว่าหลินเฟยไม่น่าจะก้าวผ่านขั้นที่สิบไปได้…
ไม่ใช่ว่าหลินเฟยไม่เก่ง…
แต่เพราะมีหลักฟ้าดินค้ำคอเอาไว้ เจึงไม่อาจฝืนลิขิตฟ้าได้
เมื่อหลายร้อยปีก่อนจงซานก็ผ่านการโคจรพลังหกขั้นแล้ว….
ต่อให้หลินเฟยแข็งแกร่งขนาดไหน สุดท้ายก็ยังเป็เพียงผู้บำเพ็ญขั้นมิ่งหุนอยู่ดี หากยังไม่บรรลุขั้นจิงตันละก็ ตบะพลังก็ล้วนไม่ถึงระดับขั้นเทียนกัง เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าจงซานซึ่งเป็ผู้บำเพ็ญจิงตันที่ผ่านการโคจรพลังมาแล้วหกขั้น จึงไม่ต่างอะไรกับการพยายามเอาชนะพยัคฆ์ร้ายด้วยมือเปล่า นับว่าไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย…
“น่าเสียดายจริงๆ…” นักพรตหยางิถอนหายใจออกมาอีกครั้ง สายตาที่มองไปยังขั้นบันไดหิน ก็เต็มไปด้วยความเสียดาย…
เพราะพลังที่หลินเฟยสำแดงออกมานั้น เรียกได้ว่าแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ ตลอดทางที่อยู่บนบันไดหินถือว่าราบรื่นเป็อย่างมาก ถึงกับเอาชนะยอดฝีมือขั้นจิงตันของทะเลอูไห่ได้ถึงเก้าคนรวด เพียงแค่นี้ก็ทำให้นักพรตหยางิรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาแล้ว บางครั้งยังอดคิดไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ว่าหากหลินเฟยสามารถก้าวขึ้นไปถึงสิบแปดขั้นรวดได้จะเป็เช่นไร?
แต่น่าเสียดายที่ทำได้แค่คิดเท่านั้น…
เพราะผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันหกโคจร ถือว่ามีพลังแตกต่างกับผู้บำเพ็ญขั้นมิ่งหุนราวฟ้ากับเหว ตบะพลังและเคล็ดวิชาทุกอย่างไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้แม้แต่น้อย เพราะอยู่คนละระดับขั้นกัน…
ทว่าขณะที่นักพรตหยางิกำลังจมอยู่กับความคิดตนเองนั้นเอง จิงต้าไห่ที่อยู่ด้านข้างก็ร้องเสียงหลงด้วยความใขึ้นมา
“ศิษย์พี่ดูนั่น!”
“หืม?”
นักพรตหยางิชะงักลงเล็กน้อย ก่อนจะเบิกตาโตขึ้น…
เพราะคนที่เขาคิดว่าไม่มีโอกาสเอาชนะได้นั้น บัดนี้กลับปรากฏตัวอีกครั้งบนบันไดขั้นที่สิบแล้ว…
‘มันจะเป็ไปได้อย่างไร!’
นักพรตหยางิถึงกับต้องขยี้ตาอย่างแรง…
‘เป็เื่จริงแน่ๆ ข้าไม่ได้ตาฝาด…’
‘เขาปรากฏตัวออกมาจริงๆด้วย!’
เวลานี้เอง นักพรตหยางิรู้สึกราวกับถูกสายฟ้าฟาด กำลังยืนนิ่งราวกับรูปปั้น เป็นานก็ยังไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกมาดี สายตาที่มองไปยังหลินเฟยซึ่งปรากฏตัวขึ้นบนบันไดขั้นที่สิบก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ในหัวก็มีเพียงประโยคเดียวที่ดังซ้ำๆวนไปวนมา…
‘นี่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ!’
หลินเฟยเป็เพียงผู้บำเพ็ญขั้นมิ่งหุนเคราะห์สาม แต่กลับเอาชนะจงซานที่มีขั้นบำเพ็ญจิงตันหกโคจรได้…
ทันใดนั้นเอง นักพรตหยางิก็เกิดสงสัยขึ้นมาขณะที่หลินเฟยกำลังก้าวขึ้นขั้นที่สิบ ‘หรือเขาจะบรรลุขั้นจิงตันแล้วนะ?’
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------