บทที่ 155 หานเซียงจื่อคลุ้มคลั่ง
เย่จื่อเฉินเลียริมฝีปาก แล้วจึงกดยืนยันคำขอเป็เพื่อนของกลุ่มเทพโป๊ยเซียนทั้งหมด
ติ๊ง!
ติ๊ง!
ติ๊ง!
...
โทรศัพท์ของเซียนกลุ่มหนึ่งภายในวิหารเทพโป๊ยเซียนดังขึ้นติดๆ กัน ทุกคนเลิกคิ้ว วางงานในมือลงแล้วเหลือบดูโทรศัพท์
"เฮ้ ท่านเง็กเซียนผู้นั้นรับข้าเป็เพื่อนแล้ว"
หลันไฉ่เหอวางตะกร้าลงข้างกายแล้วระบายยิ้ม หลู่ตงปินก็โยนกระบี่ทิ้งแล้วพูดขึ้น
"รับข้าแล้วเหมือนกัน"
"เขาก็รับข้าแล้วเหมือนกัน"
"ของข้าก็รับแล้ว"
เซียนทุกคนในวิหารเทพโป๊ยเซียนพูดขึ้นติดต่อกัน สักพัก ทุกคนก็เลื่อนสายตาไปยังหานเซียงจื่อ
"เหล่าหาน เอ่อ..."
หลู่ตงปินยังพูดไม่จบ ก็เห็นว่าทางด้านของหานเซียงจื่อดวงตาแดงก่ำพร้อมกับกำโทรศัพท์แน่น
ตลอดหนึ่งอาทิตย์มานี้ เขาเป็ทุกข์มาก เขาจำเป็ที่จะต้องระบายไฟร้อนในใจออกไปถึงจะดีขึ้น
หานเซียงจื่อ : เ้าหนู! กล้าเพิ่มเพื่อนฉันงั้นเหรอ
คำขอเพิ่มเพื่อนของกลุ่มเทพโป๊ยเซียนนั่นได้รับการยืนยันหมดแล้ว สิ่งแรกที่เย่จื่อเฉินทำคือเหลือบดูระดับความสนิทของทุกคน
อยู่ที่ระดับเพื่อนทุกคน
ติ๊ง!
ทันใดนั้น เย่จื่อเฉินก็ได้รับข้อความของหานเซียงจื่อ เมื่อเห็นเนื้อความบนหน้าจอ จึงได้ปรายตามองดูระดับความสนิทอีกครั้ง
เ็า
ก็รู้อยู่แล้ว!
เย่จื่อเฉินยิ้มเยือกเย็น ดูจากท่าทางแล้วนั้น หานเซียงจื่อคงจะร้อนใจจนเป็บ้าแล้ว ไม่งั้นก็คงไม่พูดแบบนี้ออกมาโดยไม่สนใจฐานะของตัวเองหรอก
เย่จื่อเฉิน : เ้าทักมาหาข้าทำไม?
เย่จื่อเฉินเป็คนประเภทที่ว่าใครอ่อนมาอ่อนกลับ แต่ถ้าใครแข็งมาก็แข็งกลับ
ถ้าหานเซียงจื่ออยากทะเลาะกับเขา งั้นเขาก็จะทะเลาะด้วย!
หานเซียงจื่อ : ครั้งที่แล้วข้ายังคุยกับเ้าไม่จบ เ้าก็เมินข้าไปเลย หมายความว่ายังไง?
เย่จื่อเฉิน : ยังจะหมายความว่าอะไรได้อีก ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่ายุ่งอยู่ มีเวลาไปสนใจพวกเด็กเล็กอย่างเ้าที่ไหนกัน
เด็กเล็ก!
เมื่อหานเซียงจื่อที่อยู่ในวิหารเทพโป๊ยเซียนเห็นข้อความนี้ ก็แทบจะกลืนโทรศัพท์ลงคอด้วยความโกรธ
หนึ่งในเทพโป๊ยเซียนอย่างเขา กลับโดนมองว่าเป็เด็กเล็กอย่างนั้นเหรอ!
"พวกเ้าดู พวกเ้าดูคำพูดของเ้าเด็กนี่ เขาไม่เห็นเทพโป๊ยเซียนอย่างเราอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ!"
หานเซียงจื่อถือโทรศัพท์ไปให้พวกเพื่อนๆ ของเขาดู แต่กลับไม่มีคนสนใจคำพูดของเขาเลย ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีใครมองเขาเลยสักคน
โดยเฉพาะเถียไกว่หลี่ ที่โทรศัพท์ของเขาโดนหานเซียงจื่อเขวี้ยงจนแตก ตอนนี้เห็นหน้าเขาทีก็โกรธเขาที
"พวกเ้านี่จริงใจกันจริงๆ"
หานเซียงจื่อกัดฟัน หันไปยกนิ้วหัวแม่มือให้ทุกคน
พวกเ้าไม่ช่วยข้า งั้นข้าจัดการเองก็ได้!
หานเซียงจื่อ : มาคุยกันแบบเปิดอกดีกว่า ที่ผู้เฒ่าจันทราทักมาหาเหอเซียนกู่ เป็เพราะเ้าสั่งใช่ไหม
เย่จื่อเฉิน : ข้าสั่งเองแหละ แล้วจะทำไม
เย่จื่อเฉินรู้อยู่แล้วว่าที่หานเซียงจื่อทักมาหาเขาก็เพราะว่าเื่นี้แน่ แต่เพื่อไม่ให้เกิดการขัดแย้งเพิ่มขึ้นอีก เขาจึงได้เสริมไปอีกหนึ่งประโยค
เย่จื่อเฉิน : แต่ที่ข้าให้ผู้เฒ่าทักไปหาเทพธิดาเหอเซียนกู่นั้น ไม่ใช่ว่าข้าจะเกี้ยวนาง
ตอนที่หานเซียงจื่อเห็นข้อความอันแรกของเย่จื่อเฉิน เขายังนับถือที่เย่จื่อเฉินนั้นเป็ชายใจกล้าอกสามศอกคนหนึ่ง
แต่ประโยคหลัง ทำให้เขาะเิขึ้นมาทันที
ให้ผู้เฒ่าจันทราทักมาหาเหอเซียนกู่ ถ้าไม่ได้จะเกี้ยว แล้วจะทำอะไร!
คนที่ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง เขาเกลียดที่สุดเลย
หานเซียงจื่อ : อย่ามาเหลวไหล ถ้าไม่ได้คิดจะเกี้ยวเหอเซียนกู่ แล้วเ้าจะทักมาหานางทำไม?
เย่จื่อเฉิน : ท่านหานเซียงจื่อ ท่านจะชอบเทพธิดาเหอเซียนกุ่ ท่านก็ชอบไปสิ แต่อย่ามาทำเหมือนว่าทุกคนบน์ต้องชอบนางกันหมด
เย่จื่อเฉินกลอกตาอย่างหมดคำจะพูด พี่ลิงที่คอยแอบมองอยู่ข้างๆ ตลอดก็ยิ้มกริ่ม
"เ้าคิดจะเกี้ยวเหอเซียนกู่เหรอ? แบบนั้นหานเซียงจื่อไม่มีทางปล่อยเ้าไปแน่นอน"
"ผีน่ะสิถึงอยากเกี้ยวนาง!" เย่จื่อเฉินทำหน้าบึ้ง แล้วพูดขึ้น "พวกเขาไม่เข้าใจข้าก็ช่างพวกเขา แต่ท่านน่าจะรู้จักข้าดีนะ ที่ข้าอยากคุยกับเทพธิดาเหอเซียนกู่ ก็เพราะรากบัววิเศษเก้ารู!"
"เ้ามาอธิบายกับข้าก็ไม่มีประโยชน์หรอก เ้าต้องไปอธิบายกับหานเซียงจื่อนู่น"
"ท่านซุนหงอคงจะช่วย?"
ซุนหงอคงลูบคลำใบหน้า เอนหลังพิงเบาะแล้วยิ้ม
"ข้าเข้าไปยุ่งไม่ได้หรอก"
ไม่มีน้ำใจ!
เ้าลิงตัวนี้ พอไม่ใช่เื่ของตัวเองก็ไม่คิดจะสนใจสักนิด เขาไม่แม้แต่จะคิดเลยว่าพอตนเองมาถึงปิงเฉิงแล้ว เย่จื่อเฉินต้องเสียเงินเพราะเขาไปตั้งเท่าไร
พอถึงตอนจะขอให้ช่วย เขายังไม่คิดจะช่วยอีก
พอปรายตามองดูซุนหงอคงที่ทำเหมือนกำลังดูอะไรสนุกๆ อยู่ เย่จื่อเฉินก็เบนสายตากลับมาอยู่ที่หน้าจอวีแชทอีกครั้ง
หานเซียงจื่อ : เ้าพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง เหอเซียนกู่เป็สาวงามหนึ่งเดียวบน์ คนที่ชอบนางมีเยอะแยะไป?
เย่จื่อเฉิน : คนงามหนึ่งเดียวบน์?
เย่จื่อเฉินเบ้ปากส่งข้อความตอบกลับไป
เย่จื่อเฉิน : ท่านคิดเอาเองเหรอ? ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าตอนที่ท่านพูดคำนี้ท่านเอาฉางเอ๋อไปไว้ที่ไหน? ท่านเอานางฟ้าทั้งเจ็ดไปไว้ที่ไหน? ท่านเชื่อไหมว่าถ้าแคปข้อความนี้แล้วส่งไปในกลุ่ม ขุนพล์เทียนเผิงสามารถระดมพลทั้งสี่ขั้วโลกไปฆ่าท่านได้เลยนะ
หานเซียงจื่อ : ข้าบอกว่าเหอเซียนกู่งามที่สุดก็คืองามที่สุด
เย่จื่อเฉิน : ข้าว่าเทพธิดาเหอเซียนกู่ก็งั้นๆ แหละ
เขาไม่เคยเห็นหรอกว่าเทพธิดาเหอเซียนกู่หน้าตาเป็ยังไง แต่เขาก็คิดว่าคงไม่ได้สวยอะไรมากมายนักหนาหรอก
ถ้าเทพธิดาเหอเซียนกู่สวยมากจริงๆ ถ้าอย่างนั้นบน์ก็คงไม่พูดถึงฉางเอ๋อกันบ่อยๆ หรอก ทำไมไม่เห็นจะพูดถึงเทพธิดาเหอเซียนกู่ว่าสวยหยาดเยิ้มบ้างเลย
หานเซียงจื่อ : เ้าพูดแบบนี้ หมายความว่าเหอเซียนกู่อัปลักษณ์อย่างนั้นเหรอ?
เย่จื่อเฉิน : ประสาท
เห็นได้ชัดเลยว่า ความรักที่หานเซียงจื่อที่มีต่อเทพธิดาเหอเซียนกู่นั้นไปถึงขั้นบ้าคลั่งแล้ว
บอกตามตรง ว่าเย่จื่อเฉินก็ชื่นชมเขาอยู่ไม่น้อย
ชอบคนคนหนึ่งมาได้นานขนาดนี้ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ
แต่ถึงจะเป็แบบนั้น เขาจะมาหาเื่ทะเลาะแบบไม่มีเหตุผลไม่ได้นะ
เย่จื่อเฉินกลอกตา ก่อนจะลบเพื่อนหานเซียงจื่อทิ้งไป เขาไม่อยากคุยกับผู้ชายที่พูดจาผิดปกติผิดมนุษย์แบบนี้ต่อไปแล้วจริงๆ
หานเซียงจื่อ : เ้ากล้าด่าข้า
หานเซียงจื่อที่เห็นข้อความบนหน้าจอ ก็พิมพ์ตอบกลับไปอย่างฉุนจัด
ยืนยันเพื่อน...
เมื่อเห็นว่าการส่งล้มเหลว หานเซียงจื่อจึงลุกพรวดขึ้นทันที มือขวาเขวี้ยงโทรศัพท์ลงพื้นสุดแรง
"โมโหชะมัด!"
"โมโหชะมัด!"
"ดู พังอีกเครื่องแล้ว"
เฉากั๋วจิ่วมองดูโทรศัพท์ที่แทบจะแตกละเอียดอยู่บนพื้นแล้วก็ส่ายหน้าถอนหายใจ โทรศัพท์เป็ของหายากบน์เลยนะ
ครั้งที่แล้วก็ทำโทรศัพท์ของเถียไกว่หลี่แตก พวกเขาต้องรวมเงินกันถึงจะซื้อเครื่องใหม่ให้เขาได้
นี่มาพังอีกแล้ว
ดูเหมือนว่าต่อไปนี้หานเซียงจื่อจะไม่ต้องใช้โทรศัพท์แล้วล่ะ
"เหล่าหาน ข้าว่าเ้าวู่วามเกินไปนะ"
ที่จริงการคุยกันของหานเซียงจื่อกับเย่จื่อเฉินก็อยู่ในสายตาของหลันไฉ่เหอตลอด แล้วเขาก็เห็นกับตาตัวเองที่ว่าเย่จื่อเฉินไม่ได้คิดจะเกี้ยวเหอเซียนกู่
"ข้าวู่วามเหรอ เ้านั่นมันบอกว่าเหอเซียนกู่อัปลักษณ์!"
"ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยพูดนะ" หลันไฉ่เหอถอนหายใจอย่างเอือมระอา แล้วพูดขึ้น "ทุกอย่างเ้าคิดไปเองทั้งนั้น เ้าเดาความคิดของอีกฝ่ายเป็ตุเป็ตะ เ้าต่างหากที่ทำไม่ถูก"
"หลันไฉ่เหอ นี่เ้าเป็สหายข้าหรือเปล่า!"
หานเซียงจื่อถลึงตาโต หลันไฉ่เหอไหวไหล่อย่างขุ่นเคือง ก่อนจะเดินหนีไปอีกทางโดยไม่พูดอะไรอีก
สหายตรงหน้านี้เป็บ้าไปแล้ว เขาไม่มีอะไรต้องพูดอีก
ท่าทางของหานเซียงจื่อตกอยู่ในสายตาของเฉากั๋วจิ่ว หลังจากที่ถอนหายใจเบาๆ เขาจึงพูดกับจางกัวเหล่าที่อยู่ตรงข้าม
"เหล่าจาง เ้าคุยกับเง็กเซียนผู้นั้นหน่อยสิ"
"คุยยังไงเล่า" จางกัวเหล่าลูบเครา แล้วพูด "ไม่รู้ว่าเง็กเซียนผู้นั้นคิดยังไงกับกลุ่มเทพโป๊ยเซียน เกิดบุ่มบ่ามทักไปหาเขาอาจจะไปทำให้อีกฝ่ายเกลียดเข้าก็ได้"
"เง็กเซียนผู้นั้นอยากได้รากบัววิเศษเก้ารู้ เหล่าหาน เ้าคิดมากเกินไปแล้ว"
จู่ๆ หลู่ตงปินที่เอาแต่ยืนอยู่ข้างๆ โดยไม่พูดอะไรก็เปิดปากพูดขึ้นมา พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ในมือไปทางหานเซียงจื่อ
เมื่อครู่นี้ตอนที่หานเซียงจื่อเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง เขาก็ได้ทักไปคุยกับเย่จื่อเฉินแล้ว
"รากบัววิเศษเก้ารู? ใครอยากได้รากบัววิเศษเก้ารู?"
ทันใดนั้น เหอเซียนกู่ก็ได้เดินเข้ามา พอเห็นโทรศัพท์ที่แตกละเอียดอยู่บนพื้น ก็หน้านิ่วคิ้วขมวดพูดขึ้นทันที
"หานเซียงจื่อ เ้าเป็บ้าอะไรอีก!"