ให้ตายเถอะ…
เสียงของลูกสาวที่ยังเล็ดลอดมาจากอีกห้องที่อยู่ติดกัน ถึงกับทำให้เรียมรู้สึกปวดมวนในช่องท้องขึ้นมาอย่างประหลาด
น้ำขิงยังคงร้องว่าแน่น… แน่น… แน่น… ราวกับว่าทั้งชีวิตของหล่อนพูดเป็อยู่คำเดียว คลอไปกับเสียงหายใจถี่กระชั้นของแซม เสียงกระแทกกระทั้น เสียงของเนื้อกระทบเนื้ออย่างหน่วงหนักก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง…
ที่เหลือไว้ก็เป็เพียงเสียงสะอื้นไห้ของน้ำขิงและง่ามขาของเรียมที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำเสียว หลั่งไหลออกมาอาบชุ่มกลีบสาวของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ตอนแรกเรียมคิดเองว่าเื่แบบนี้น่าจะต้องใช้เวลา เพราะว่าน้ำขิงตัวเล็กๆ มาก อีกทั้งยังสดยังซิงไม่เคยต้องมือชาย ครั้งแรกก็ต้องมาเจอของใหญ่จึงเกิดปัญหาเป็ธรรมดา
แต่นี่ก็เป็สัปดาห์มาแล้วที่ลูกสาวของหล่อนยังร้องคำเดิมออกมาซ้ำๆ
และสิ่งที่ทำให้เรียมรู้สึกผิดจนไม่อาจให้อภัยตัวเองก็เพราะตอนรุ่งเช้าหล่อนเห็นลูกสาวถึงกับเดินขาถ่างออกมาให้เห็น
“น้ำขิง… ไม่ไหวก็ไปนอนเถอะลูก ไม่ต้องช่วยงานครัวเดี๋ยวแม่ทำเอง… ”
ขณะกำลังยืนทำกับข้าวอยู่ในครัว เรียมหันมามองลูกสาวที่เดินขาถ่างอย่างเห็นได้ชัด น้ำขิงกำลังจะเข้ามาช่วยงานครัวเหมือนเช่นทุกเช้า
“ถ้างั้นหนูขอไปพักนะคะ… ”
ขณะพูดน้ำขิงเอื้อมมือข้างหนึ่งมาเท้าประตูช่วยพยุงกาย สีหน้าบ่งบอกว่าเจ็บจนเรียมรู้สึกสงสาร นึกในใจว่านี่ถถึงขั้น ‘ฉีก’ เชียวหรือ
“จ้ะ… ไปนอนพักเถอะลูก… ”
เรียมกล่าว…
แววตาเห็นใจ แม้ในใจนั้นอยากถามว่าน้ำขิงเป็อะไรกันแน่
แต่สุดท้ายประโยคที่ติดอยู่เพียงริมฝีปากก็ถูกกลืนลงคอกลับเข้าไปเหมือนทุกครั้ง จึงไม่กล้าจะเอ่ยถามเพราะกลัวว่าคนถูกถามก็คงอายที่จะต้องอธิบายเื่ราวบนเตียงระหว่างผัวเมีย
ในเวลาต่อมา
