บทที่ 14
คนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่บนเตียงเริ่มขยับตัวเล็กน้อย ที่รักรู้สึกเพลียมากจนลืมตาไม่ขึ้น ทว่ายังเอามือข้างหนึ่งควานหาหมอนข้างใบโปรดทั้งที่ยังหลับตาอยู่ หากไม่ใช่เพราะเขาติดหมอนข้างมากจนเกินไปก็คงไม่รู้สึกตัวตื่น โดยปกติหมอนข้างจะวางอยู่ข้างขวาเสมอ แต่ตอนนี้ข้างกายกลับว่างเปล่า เขาเลยคิดว่าตัวเองคงเผลอเอาหมอนใบยาวที่ชอบนอนกอดไปวางไว้อีกฝั่งแน่ ๆ
เ้าของเปลือกตาสีอ่อนที่ปิดสนิทอยู่พลิกตัวไปอีกด้านก่อนจะเอื้อมไปคว้าหมอนข้างด้วยความเคยชิน ที่รักคิดว่าหมอนข้างจะอยู่ในระยะที่ไม่ไกลจากตัวมากนัก แต่ััแปลก ๆ ที่ไม่คุ้นเคยทำให้เริ่มขมวดคิ้วคิดสงสัย สิ่งที่อยู่ในฝ่ามือของเขามีลักษณะคล้ายหมอนข้างย่อส่วน แต่มันไม่นุ่มนิ่มเท่าหมอนข้างใบโปรด และเหมือนเ้าสิ่งนั้นจะเริ่มแข็งมากขึ้นด้วย ที่รักพยายามเลิกเปลือกตาที่หนักอึ้งเพื่อดูสิ่งแปลกปลอมตรงหน้า
ขวับ!!
ภาพที่เห็นตอนลืมตาคือมือของเขาวางอยู่ตรงกลางลำตัวของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และในวินาทีถัดมามือของเขาก็ถูกคว้าไปวางไว้อีกที่แทน ที่รักกะพริบตาปริบ ๆ พลางคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ ก่อนจะเริ่มประมวลภาพในหัวอีกครั้ง ความจำสุดท้ายคือ…
เขานั่งรอหมื่นฟ้าอยู่ที่โซฟานี่…
และพอเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงที่นั่งเอาหลังพิงหัวเตียงอยู่ถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป เพราะถ้าฝันคงััไม่ได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดแปลกไป เขาจ้องมองหมื่นฟ้าที่ตอนนี้เล่นโทรศัพท์อยู่เงียบ ๆ ก่อนจะเลื่อนสายตามองหามือตัวเอง หมื่นฟ้าเอามือของเขาไปวางไว้ที่หน้าท้องของเ้าตัว
“อันนี้ของพี่ฟ้าครับ…จับเล่นไม่ได้นะตัวดื้อ”
หมื่นฟ้าพูดทั้งที่ไม่ละสายตาออกจากหน้าจอโทรศัพท์ เ้าตัวใช้มือเพียงข้างเดียวกดบนหน้าจอ ส่วนมืออีกข้างกุมมือของเขาไว้แน่น ที่รักดึงมือออกจากการถูกกุมทั้งที่รู้ว่าการกระทำนี้อาจจะทำให้อีกฝ่ายที่โดนเขาลวนลามโดยไม่ตั้งใจรู้สึกแย่ แต่ที่รักต้องถอยเพื่อมาตั้งสติก่อน
รู้แล้ว…รู้ว่าต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง…
แต่…ฮือออออออ T______T
ไปจับของเขาทำไมเล่า!! ของตัวเองก็มี!!
คนตัวเล็กพลิกตัวหันหลังให้หมื่นฟ้า ที่รักกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วคิดทบทวนว่าตัวเองเข้ามานอนในห้องของหมื่นฟ้าได้อย่างไร และคนที่สามารถให้คำตอบได้คงเป็เ้าของห้องสีเทานี้เท่านั้น เขาสูดลมหายใจเข้าปอดพร้อมยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติอีกครั้ง แต่ที่รักต้องรีบชักมือกลับไปไว้ข้างกายอย่างเร็วเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามือที่ลูบหน้าเคยัักับบางอย่างมาก่อน
น่าอายชะมัด!!!
ที่รักค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งโดยไม่หันไปมองหมื่นฟ้า เขาคิดว่าเ้าตัวไม่ถือสาเพราะสภาพงัวเงียของเขาคงทำให้หมื่นฟ้าเข้าใจได้ว่าไม่ได้ตั้งใจ
ไม่ได้ตั้งใจจับนะครับ…
ของรักก็มี…รักไม่อยากจับของคนอื่นหรอก
แต่เพราะที่รักคิดถึงใจหมื่นฟ้าถึงได้อยากขอโทษ เขาเป็คนจับยังอายและรู้สึกแย่ขนาดนี้ คนโดนจับคงรู้สึกไม่ต่างกัน เมื่อนึกถึงใจเขาใจเรา…
หมื่นฟ้าโดนจับคงรู้สึกบางอย่าง…คงรู้สึกไม่ดีแหละ
ถ้าเขาโดนหมื่นฟ้าจับบ้างล่ะ…ก็คงรู้สึกแย่ไม่ต่างกัน
แต่อย่าไปคิดเลยยย T_____T
“พะ พี่ฟ้าครับ…”
“ครับ?”
“คือ…มะ เมื่อกี้…”
“ตัวดื้อไม่ต้องรับผิดชอบพี่ฟ้าหรอกครับ พี่ฟ้าเข้าใจ”
T______T พูดเหมือนเขาปล้ำหมื่นฟ้าเลย “ขะ เข้าใจว่าอะไรครับ?”
ที่รักหันกลับไปมองหมื่นฟ้า เ้าตัวยังคงเล่นโทรศัพท์อยู่ก่อนจะละสายตาจากจอเพื่อมองเขาเช่นกัน หมื่นฟ้าไม่ได้มีอาการเขินอายสักนิด นั่นคงเป็เพราะเขาอายแทนเ้าตัวไปหมดแล้ว
“เข้าใจว่าตัวดื้อไม่ได้ตั้งใจ”
“ใช่ครับ…รักไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะพี่ฟ้า ตอนนั้นมันง่วงมาก ๆ รู้สึกเบลอ ๆ ด้วย”
“ครับ พี่ฟ้าเชื่อ”
“รักไม่ใช่คนทะลึ่งด้วยนะครับพี่ฟ้า”
“หึ ๆ ”
“พี่ฟ้าหัวเราะทำไมครับ…พี่ฟ้าไม่เชื่อเหรอครับ?”
ที่รักรู้สึกหน้าเห่อร้อนจนแทบจะะเิเพราะหมื่นฟ้าไม่ยอมตอบอะไร เ้าตัวเอาแต่อมยิ้มแล้วกลับไปเล่นโทรศัพท์ต่อ
“ฮึ่ย!!! รักไม่ใช่คนทะลึ่งสักหน่อย”
“…”
“แต่ถึงยังไงรักก็ต้องขอโทษครับ…รักขอโทษนะครับ ที่…ที่นั่นแหละครับ”
“พี่ฟ้ายังไม่ได้ว่าตัวดื้อเป็คนทะลึ่งเลย”
“แต่พี่ฟ้าหัวเราะนี่…มันก็เหมือนไม่เชื่อ”
หมื่นฟ้าเอาโทรศัพท์วางลงข้างกายแล้วสบตากับเขา “พี่ฟ้าเชื่อว่าตัวดื้อไม่ใช่คนทะลึ่งครับ”
“…”
“เพราะถ้าตัวดื้อเป็คนแบบนั้นจริง ๆ …ตัวดื้อจะไม่หน้าแดง”
T________T อุณหภูมิร้อนระอุที่รวมตัวกันอยู่บนแก้มทั้งสองข้างทำให้หมื่นฟ้าเชื่อเขาจริง ๆ
“ระ รักว่ารักต้องกลับแล้วครับ…ป่านนี้พี่เบบคงยืนรอหยิกแก้มรักอยู่หน้าบ้านแล้ว”
ที่รักหลุบตามองกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างของตัวเอง จากที่ดูด้วยตาเปล่าแล้วไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของมันทำให้เขาเริ่มกวาดสายตามองหาโทรศัพท์ตัวเองบนเตียงสีเทา
“หานี่อยู่เหรอครับ?”
ที่รักเงยหน้ามองคนถาม หมื่นฟ้าเอี้ยวตัวไปหยิบโทรศัพท์ของเขาที่ถูกวางไว้บนชั้นข้างหัวเตียงก่อนจะยื่นคืน “ครับ”
คนตัวเล็กก้มหน้าเช็กสายเรียกเข้าทันทีที่ได้โทรศัพท์คืน ที่รักคาดว่าพี่สาวจะต้องโทรหาเป็ร้อยสาย แต่ว่าบนหน้าจอกลับว่างเปล่า บางทีพี่เบบอาจจะเข้าใจว่างานแบบนี้ต้องใช้เวลาถึงได้ปล่อยให้กลับช้าได้โดยไม่โทรตาม
ที่รักคิดจะถามหมื่นฟ้าว่าตัวเองเข้ามานอนในห้องนี้ได้อย่างไรหลังจากที่โทรไปรายงานตัวกับพี่สาวแล้วเพราะเขาคงเผลอหลับไปนานพอสมควร จากที่ดูนาฬิกาบนจอโทรศัพท์แล้ว
อีกสิบห้านาที…สองทุ่มครึ่ง
เผลอหลับไปนานเลยไอ้ลูกหมาอ้วนเอ๊ย!
“ตอนพี่ฟ้าอุ้มตัวดื้อเข้ามานอน มันตกอยู่บนเตียง พี่ฟ้ากลัวตัวดื้อจะนอนทับก็เลยเอามาวางไว้บนชั้น”
คนฟังเงยหน้าเบิกตาโตด้วยความใ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาแล้วชี้หน้าหมื่นฟ้าเพื่อจับผิด “พี่ฟ้าหลอกรักไม่ได้หรอก!” พูดจบก็ย่นจมูกใส่คนตัวสูงไปอีกหนึ่งที
หมื่นฟ้าน่ะเหรอจะอุ้มเขาได้…เขาตัวหนักจะตาย
อยากจะแกล้งให้อายละซี่ ~
แค่นี้ไม่ะเืหัวใจหรอก…
“หึ ๆ ”
“นั่น…หลุดหัวเราะออกมาแล้ว พี่ฟ้าขี้โม้จริง ๆ ด้วย”
หมื่นฟ้าหัวเราะในลำคอก่อนจะเอามือตบที่ว่างข้างกายคล้ายชวนให้เขาไปตรงนั้น “งั้นตัวดื้อมานอนตรงนี้หน่อยครับ เดี๋ยวพี่ฟ้าจะลองอุ้มอีกที ถ้าครั้งนี้อุ้มไม่ได้ แสดงว่าพี่ฟ้าขี้โม้จริง ๆ ”
“…” หมื่นฟ้าท้าทายกันมาก ๆ เลย ถามว่าเขาจะกล้ารับคำท้าไหม… “รักจะกลับบ้านแล้วครับ”
คุณท้องฟ้าที่กำลังหัวเราะทำให้ห้องสีเทาดูสว่างสดใสไปหมด ที่รักไม่กล้าเสี่ยงรับคำท้าของหมื่นฟ้าหรอก เพราะถ้าเ้าตัวสามารถอุ้มเขาได้จริง ๆ
คราวนี้หมื่นฟ้าอาจจะต้องอุ้มเขาเข้าวัดเลยทีเดียว
จากที่ไม่เชื่อก็ต้องทำใจยอมรับ พอที่รักรู้ว่าตัวเองโดนอุ้มเข้ามานอนในห้องของหมื่นฟ้าใบหน้าที่เห่อร้อนอยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิมากขึ้นไปอีก หากอยู่ใกล้ต่อไปอีกสักวินาทีเดียวจะต้องหัวใจวายแน่ ๆ เขาจึงตัดสินใจลุกจากเตรียมเพื่อจะออกจากห้องนี้
“พี่ฟ้าจะไปส่งรักใช่ไหมครับ?”
“ครับ”
“งั้นรักไปรอข้างนอกนะครับ ให้พี่ฟ้าได้เตรียมตัวก่อน”
“โอเคครับ”
“…”
“ตัวดื้อ…”
ที่รักชะงักฝีเท้าขณะเดินมาที่ประตูห้อง อีกแค่เพียงไม่กี่ก้าวก็จะได้ออกไปจากห้องนอนของหมื่นฟ้าแล้ว แต่เสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยเรียกทำให้เขาต้องหมุนตัวกลับไปด้านหลังอีกครั้ง
“ครับพี่ฟ้า?”
“โทรศัพท์ครับ…”
หมื่นฟ้าที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงหยิบโทรศัพท์เขาที่คาดว่าวางลืมไว้เมื่อกี้ขึ้นมาโบกไปมาเบา ๆ ที่รักถอนหายใจให้กับความขี้ลืมของตัวเองก่อนจะก้มหน้าเดินกลับไปที่เตียงสีเทาอีกรอบ
ที่รักไม่ยอมขึ้นไปบนเตียงเพื่อขอโทรศัพท์คืน เขาเลือกจะยืนที่ปลายเตียงแล้วเอื้อมมือไปแทน ในจังหวะที่เกือบจะคว้าโทรศัพท์ได้แล้ว หมื่นฟ้าคนขี้แกล้งก็ชักมือกลับไป เขาเลยเสียหลักล้มลงไปทับร่างของอีกฝ่าย
ไม่รู้เป็เพราะแรงโน้มถ่วงของโลกหรือน้ำหนักตัวเขาที่ทำให้เราอยู่ในท่าทางที่ไม่เหมาะสม สิ่งที่รองรับเขาควรจะเป็เตียงสีเทาไม่ใช่ร่างของคนตัวสูง
ที่รักกะพริบตาปริบ ๆ จ้องมองดวงตาคู่คมด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อััได้ถึงอุณหภูมิอุ่นร้อนที่รินรดอยู่บนปลายจมูก และคงเป็เพราะเราอยู่ใกล้กันมากเกินไปถึงไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อน ที่รักกลัวว่าการเคลื่อนตัวโดยไม่ระวังจะทำให้จมูกของตัวเองไปัักับบางส่วนบนใบหน้าหมื่นฟ้า
เขาเลยหยุดนิ่งให้แน่ใจก่อน…
แต่นั่นก็แค่ร่างกาย
ส่วนหัวใจไม่หยุดนิ่งเลย…
และเป็ในตอนนั้นที่โทรศัพท์เครื่องสีดำที่สั่นแจ้งเตือนแทรกเข้ามาตรงช่องว่างที่เหลืออยู่น้อยนิด ลมหายใจของหมื่นฟ้าจึงถูกตัดขาดจนไม่สามารถัับนปลายจมูกเขาได้อีก
“โทรศัพท์เข้าครับตัวดื้อ…”
ที่รักได้สติทันทีที่เห็นว่าปลายสายเป็ใคร เขารีบพยุงตัวลุกขึ้นก่อนจะคว้าโทรศัพท์มารับสาย “รักกำลังกลับแล้วครับพี่เบบ”
[ฟ้าโทรมาบอกแล้วว่าแกเผลอหลับ…ไม่ได้จะโทรมาว่าอะไร แค่จะบอกว่ากุญแจซ่อนไว้ในตู้จดหมายนะ มาถึงก็ไขเข้ามาเอง เผื่อรถติดแล้วถึงดึก]
“โอเคครับ”
[แล้วนี่กำลังจะออกแล้วใช่ไหม?]
“คะ ครับ”
[อือ ๆ โอเค]
ที่รักวางสายเสร็จก็นั่งนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงเพื่อรอให้อีกฝ่ายเริ่มบนสนทนาก่อน หากจะลุกออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไรคงจะดูเสียมารยาทไม่น้อย แต่เหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้เขาไม่กล้าสู้หน้าหมื่นฟ้าสักเท่าไหร่
“เบบโทรตามแล้วใช่ไหมครับ?”
“คะ ครับ” ที่รักตอบโดยไม่หันไปมองอีกฝ่าย
“งั้นเดี๋ยวพี่ฟ้าขอเข้าห้องน้ำก่อน ตัวดื้อรอพี่ฟ้าแป๊บนะครับ”
“ครับ”
ที่รักรีบออกจากห้องหลังจากที่หมื่นฟ้าหายเข้าไปในห้องน้ำ เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดิมก่อนจะยกมือขึ้นมาวางทาบที่หน้าอกข้างซ้ายแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
อย่าเต้นแรงไปกว่านี้เลยนะเ้าหัวใจ…
ร่างกายจะรับไม่ไหวแล้ว T_____T
ก๊อก ๆ
ทว่าเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ที่รักต้องหยุดคุยกับหัวใจตัวเอง เขาอยากจะรอให้หมื่นฟ้ามาเปิดประตูรับแขกเอง แต่เสียงเรียกของผู้หญิงที่อยู่หลังบานประตูทำให้ที่รักตัดสินใจลุกไปต้อนรับแทน
พ่อเคยบอกว่าอย่าให้ผู้หญิงรอนาน ๆ
“คุณฟ้า…คุณฟ้าอยู่ไหมคะ?”
เสียงร้องถามที่ดังเล็ดลอดเข้ามาทำให้ที่รักรีบเร่งฝีเท้าไปที่ประตูบานใหญ่ก่อนจะเปิดมันออกด้วยความรวดเร็ว ผู้หญิงวัยกลางคนที่อุ้มตะกร้าหวายและถือไม้แขวนที่มีเสื้อเชิ้ตยืนอยู่หน้าประตูเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย เธอถอยหลังออกจากประตูเล็กน้อยแล้วจ้องมองเลขบนบานประตูก่อนจะส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้เขา
“ห้องคุณฟ้าจริง ๆ ด้วย พี่นึกว่ามาผิดห้อง…”
“อ๋อ พี่ฟ้าเข้าห้องน้ำอยู่ครับ เดี๋ยวรักไปเรียกให้นะครับ”
“ไม่เป็ไรค่ะ ๆ ถ้าไม่เป็การรบกวนจนเกินไป พี่ฝากเสื้อผ้าให้คุณฟ้าได้ไหมคะ? ...พอดีพี่ซักแล้วก็รีดเสร็จก่อนกำหนดก็เลยแวะเอามาส่งน่ะค่ะ”
“ได้ครับ…” ที่รักรับเสื้อเชิ้ตจำนวนหนึ่งมาจากผู้หญิงคนนั้น
“ส่วนค่าซักรีดของเดือนนี้…พี่เขียนใบเสร็จใส่ไว้ในตะกร้าแล้วนะคะ บอกให้คุณฟ้าโอนเข้าบัญชีเดิมได้เลยค่ะ”
“ได้ ๆ ครับ”
“…”
แกร๊ก!
เสียงคล้ายประตูที่ถูกปิดดังมาจากด้านหลังทำให้ที่รักเดาว่าเ้าของห้องทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว เขาเลยละสายตาจากผู้หญิงตรงหน้าหันกลับไปดูให้แน่ใจ
หมื่นฟ้าจริง ๆ ด้วย
“พี่ฟ้าครับ…พี่เขาเอาผ้ามาส่งให้ครับ”
“ที่รักรับไว้ให้พี่ฟ้าแล้วใช่ไหมครับ?”
“…” ที่รัก…หมื่นฟ้าไม่เคยเรียกเขาแบบนี้ ทำไมตอนนี้เ้าตัวถึงได้เรียกชื่อเขาซะเต็มยศเลย “คะ ครับ”
หมื่นฟ้าที่เดินมาถึงหน้าประตูรีบคว้าเสื้อเชิ้ตกับตะกร้าหวายไปจากเขาทันที ก่อนจะหันไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าประตู “ให้ผมโอนเข้าบัญชีเหมือนเดิมหรือพี่สาอยากได้เงินสดครับ?”
“แล้วแต่คุณฟ้าสะดวกเลยค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมเอาเงินสดให้ดีกว่าครับ” ทั้งสองมือของหมื่นฟ้าเต็มไปด้วยเสื้อผ้าและตะกร้าหวาย เ้าตัวพยักพเยิดหน้าไปที่กระเป๋ากางเกงก่อนจะเอ่ย “ที่รักหยิบกระเป๋าตังค์ให้พี่ฟ้าหน่อยครับ”
“คะ ครับ”
“ล้วงดี ๆ นะครับ…ไม่เอาแบบตอนนั้น”
ที่รักที่กำลังล้วงหากระเป๋าสตางค์อย่างตั้งใจถึงกับชะงักเพราะประโยคติดทะลึ่งนั่น “พี่ฟ้า!!!”
“หึ ๆ ”
ตอนนี้กระเป๋าสตางค์แบรนด์ดังของหมื่นฟ้าอยู่ในมือของเขาเป็ที่เรียบร้อย เ้าตัวบอกให้เขาเอาเงินออกมาให้พี่ผู้หญิงหนึ่งพันบาท ที่รักแอบเห็นรูปของหมื่นฟ้าตอนเด็ก ๆ เลยหลุดหัวเราะออกมา
หมื่นฟ้าตัวจิ๋ว…
ยืนตัวแข็งทื่ออย่างกับถ่ายบัตรประชาชนเลย
ตอนเด็ก ๆ ก็ตัวเล็ก…ตอนนี้ทำไมถึงตัวโตจัง
“พี่ไม่ได้เอาเงินติดตัวมาเลยคุณฟ้า ไม่มีทอนให้เลยค่ะ”
“เก็บไว้เลยครับ…เอาไว้รวมกับของเดือนหน้า”
“ขอบคุณนะคะ”
“ครับ”
“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ…”
ที่รักละสายตาจากรูปหมื่นฟ้าในวัยเด็ก เขาก้มศีรษะพร้อมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนหันกลับมาหาคนตัวสูงที่กำลังเดินเอาเสื้อผ้าไปเก็บ ที่รักปิดประตูแล้วรีบสาวเท้าตามหมื่นฟ้า
“พี่ฟ้า ๆ ตอนเด็ก ๆ พี่ฟ้าก็ตัวเล็ก…ทำไมตอนนี้ถึงตัวโตจังครับ?”
“ม้าเห็นพี่ฟ้าตัวเล็ก ตอนเด็ก ๆ ก็เลยให้ดื่มนมเยอะ ๆ กินแต่ของที่มีประโยชน์”
“แล้วพี่ฟ้ามาตัวโตตอนกี่ขวบ?”
คนตัวเล็กที่แสนจะสงสัยในรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากของหมื่นฟ้าเงยหน้าถามขณะที่เ้าตัวกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ การที่คนตัวสูงไม่ตอบเขาในทันทีทำให้มีเวลากวาดสายตาไปโดยรอบอีกครั้ง
รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในห้องหมื่นฟ้าอีกแล้ว…
“พี่ฟ้าจำไม่ค่อยได้เลยครับ…น่าจะเป็ตอนสิบสองที่ความสูงพุ่งขึ้นเร็วมาก ๆ ”
“อ๋อ…” ที่รักมองหมื่นฟ้าที่จัดเรียงเสื้อเชิ้ตตามโทนสีไล่ลำดับจากสีเข้มไปจนถึงสีอ่อน “แล้วทำไมพี่ฟ้าจะต้องเรียงเสื้อแบบนี้ด้วยครับ?”
“เพราะเวลาหยิบจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาไงครับ…แล้วมันก็ดูเรียบร้อยด้วยครับ”
“พี่ฟ้านี่เนี๊ยบจริง ๆ เลยนะครับ”
“เสร็จแล้วครับ”
“แล้วเสื้อผ้าในตะกร้าละครับพี่ฟ้า ไม่เก็บเหรอครับ?”
“เดี๋ยวพี่ฟ้าไปส่งตัวดื้อก่อนดีกว่า ค่อยกลับมาเก็บทีหลังก็ได้ครับ”
“มันเยอะเลยเหรอครับ?”
“ครับ ต้องแยกด้วย”
“อ๋อ…”
หมื่นฟ้าอมยิ้มก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวเขา “อยากรู้อะไรอีกไหมครับ?”
“ไม่แล้วครับ…รักหายสงสัยแล้ว”
“งั้นพี่ฟ้าพาตัวดื้อไปส่งที่บ้านดีกว่า”
“ครับ”
เราออกมาจากคอนโดใน่สามทุ่ม การจราจรจึงโปร่งโล่งทำให้ที่รักมาถึงบ้านได้ในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง เขากำลังจะยื่นมือไปปลดเข็มขัดเพื่อจะลงจากรถ ครั้งนี้ก็เหมือนในทุก ๆ ครั้งที่ไม่เคยทันหมื่นฟ้าเลย เ้าตัวมักจะเร็วกว่าเขาเสมอ เช่นในตอนนี้ที่เข็มขัดของเขาถูกปลดออกโดยหมื่นฟ้า
“ขอบคุณครับพี่ฟ้า…”
“ครับ”
“งั้นรักไปก่อนนะครับ”
“ครับ…”
“…” ที่รักที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถเพิ่งนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงหันกลับไปหาคนข้างกาย “ลืมอะไรหรือเปล่าครับพี่ฟ้า…”
ถ้าเราเป็คนสนิทกันแล้วจริง ๆ
หมื่นฟ้าจะรู้ว่าลืมอะไร…
“ฝันดีครับตัวดื้อ”
ที่รักอมยิ้มก่อนเอ่ย “ฝันดีเหมือนกันนะครับคุณท้องฟ้า”
เราสนิทกันแล้วจริง ๆ สินะ
:)
50%
#กี่หมื่นฟ้า
M.FAH : เลิกเรียนยังครับ?
ที่รัก : กำลังเช็กชื่ออยู่ครับ
ที่รัก : คุณท้องฟ้าหิวแล้วเหรอครับ?
M.FAH : คิดถึงข้าวกะเพราหมูกรอบไข่เจียวแล้วครับ
ที่รัก : รอแป๊บนะครับพี่ฟ้า เช็กชื่อเสร็จรักจะรีบออกไปเลย
M.FAH : ครับ :)
ที่รักวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเลกเชอร์ก่อนจะให้ความสนใจกับกระดาษสีขาวแผ่นเล็ก ๆ อีกครั้ง เขาเขียนข้อความบางอย่างลงในนั้นแล้วม้วนมันให้คล้ายมวนบุหรี่ ตลอดสามวันที่ผ่านมาเขาให้บุหรี่หมื่นฟ้าวันละสองมวน และเพราะที่รักไม่ได้กะจำนวนไว้มันจึงหมดโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเช้าหมื่นฟ้าส่งรูปอาหารเช้ามาให้เหมือนทุก ๆ วัน โดยปกติเ้าตัวจะได้รางวัลตอบแทนเป็บุหรี่ ทว่ามันหมดเกลี้ยงไปแล้ว แต่ที่รักยังอยากให้รางวัลคุณหมื่นฟ้าเด็กดีอยู่ เขาเลยหาบางสิ่งมาทดแทนบุหรี่ให้หมื่นฟ้า
ความจริงไปซื้อบุหรี่ซองใหม่มาให้หมื่นฟ้าก็ได้
แต่จริง ๆ แล้ว…ก็ไม่อยากให้สูบสักเท่าไหร่
ที่รักบอกหมื่นฟ้าไปตามตรงว่าบุหรี่ที่อยู่กับเขาหมดแล้ว และก็พูดปลอบใจคนที่ตั้งใจตื่นมากินข้าวเช้า เขาบอกว่าวันนี้เตรียมบุหรี่แบบพิเศษไว้ให้หมื่นฟ้าด้วย เ้าตัวเลยจะมากินข้าวกลางวันกับเขา
“ทำอะไรวะไอ้แก้มย้อย?”
“ก็ผลิตบุหรี่ให้พี่ฟ้าไง”
“ผลิตบุหรี่ให้พี่กู?”
“อื้อ…บุหรี่ที่พี่ฟ้าฝากไว้กับกูหมดแล้ว แต่วันนี้คุณหมื่นฟ้าเด็กดีกินข้าวเช้า ถึงบุหรี่จะหมดแต่ก็ต้องให้รางวัลเขา”
“โอ้โฮ…แคร์กันขนาดไหนอะ?” ไทป์พูด
“กูยังไม่ทำเพื่อแฟนตัวเองเท่ามึงเลยอีแก้มย้อย…”
“มึงเป็แฟนที่ใช้ไม่ได้เลยนะจอย”
“เสือกอีไทป์”
“แล้วมึงจะเอาบุหรี่กระดาษนี่ไปให้พี่กูจริง ๆ ดิ …เหมือนเอาไปหลอกเด็กเลย”
“ไม่ได้หลอกนะลี้…กูเชื่อว่าพี่ฟ้าเห็นแล้วจะต้องประทับใจ”
“อะ ๆ กูไม่ขัดจินตนาการอันกว้างไกลของมึงละ”
“ลี้…วันนี้พี่ฟ้ามากินข้าวกับพวกเราด้วยนะ”
“โรงอาหารแตกแน่ ๆ พี่ฟ้ามากินข้าวที่โรงอาหารตอนพักกลางวันเนี่ย…” จอยเอ่ย
“จริง พี่ฟ้าไม่เคยกินข้าวที่มอเลยนะเว้ย”
“เคยมากินบ้างแหละ…วันนั้นกูก็เห็นพี่ฟ้าไปกินกับพี่ดอม” พันลี้พูด
คนตัวเล็กที่กำลังตั้งใจม้วนกระดาษไม่ได้สนใจบทสนทนาของเพื่อน ๆ เท่าไหร่ ที่รักเอาบุหรี่สูตรพิเศษที่ตัวเองผลิตเก็บใส่กระเป๋าเสื้อก่อนจะลุกไปเช็กชื่อที่โต๊ะอาจารย์
เมื่อนักศึกษาทุกคนเช็กชื่อและส่งงานครบหมดแล้วอาจารย์จึงปล่อย ที่รักกับพันลี้เดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมเพื่อนร่วมคลาสคนอื่น ๆ ส่วนจอยกับไทป์ขอแยกไปกินข้าวข้างนอกกับแฟนที่อยู่ต่างคณะเลยแยกไปอีกทาง
‘แก…พวกพี่ฟ้ามาทำไมอะ?’
‘มารอพบอาจารย์เปล่า…’
‘แล้วทำไมไม่ไปห้องคณะล่ะ มาชั้นสิบก็เจอแต่รุ่นน้อง อาจารย์กลับไปหมดแล้ว’
‘ฉันจะไปรู้เหรอไง เราไปยืนรอลิฟต์กัน เผื่อจะได้ลงลิฟต์พร้อมพวกพี่เขา’
คนตัวเล็กที่เดินตามเพื่อนผู้หญิงกลุ่มหนึ่งมองไปที่หน้าลิฟต์ ที่รักเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นหมื่นฟ้ากับรุ่นพี่อีกสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่
“ดีใจมากไหมมึง…แค่เห็นพี่กูก็ยิ้มได้แล้ว”
“กะ กูยิ้มเหรอลี้?” ถามก่อนจะเม้มริมฝีปากเก็บซ่อนรอยยิ้ม
“เออดิ…”
หมื่นฟ้าที่ยืนกอดอกคุยกับพี่บอลพี่ทิมอยู่ปรายตามองมาทางเขา พอเ้าตัวเห็นกันก็ส่งยิ้มในแบบเดิมมาให้ทันที แม้เขาจะเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวในตอนที่เห็นหมื่นฟ้า แต่รอยยิ้มที่คล้ายแสงแดดในยามเช้าที่ถูกส่งมาให้ในตอนนี้ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เผลอเหมือนเขา
“รอนานไหมครับพี่ฟ้า?”
“ไม่นานครับ”
“ไม่นานอะไรไอ้ฟ้า…ยืนจนขาแข็งไปหมดแล้วเนี่ย”
“แล้วตามมาทำพ่อมึงเหรอ?”
“ก็เพื่อนคนอื่นหนีไปกินข้าวกับแฟนหมดเลยอะ”
“เออ ไอ้ดอมก็พาเบบไปกินข้าวข้างนอก กูกับไอ้บอลก็ต้องตามมึงมาดิ”
“เออ กูกับไอ้ทิมไม่มีแฟนอย่างคนอื่นเขา ส่วนมึงก็…”
“กูจะมากินข้าวกับตัวดื้อ…” หมื่นฟ้าตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเรียบนิ่ง “พวกมึงก็ไปกินข้าวกับคนสนิทพวกมึงสิ”
“พูดแบบนี้แล้ว…ลี้ยังไปกินข้าวด้วยได้ปะวะ?”
“ก็ไปด้วยกันหมดนั่นแหละ…เราสนิทกันหมดเลยเนอะพี่ฟ้า” ที่รักพูดขึ้นพอเห็นหมื่นฟ้าเริ่มหงุดหงิดที่โดนถามเยอะ แล้วเ้าตัวคงจะรู้สึกอึดอัดเพราะมีรุ่นน้องปีสองหลายคนที่รอลิฟต์จ้องมองไม่เลิก
“พี่ฟ้าสนิทแค่กับตัวดื้อครับ”
“น้องชายแท้ ๆ อย่างพันลี้รู้สึกยังไงครับ?” ทิมเอ่ยถามพร้อมยื่นมือไปจ่อที่ปากของพันลี้คล้ายกำลังสัมภาษณ์คนดัง
“ชินครับ…บนโลกนี้พี่ฟ้าไม่เอาใครเลยนอกจากตัวดื้อของเขา”
“พอ ๆ แซวมันมาก เดี๋ยวก็โดนส้นตีนกันหมดหรอก…ลิฟต์จะมาแล้ว” บอลเอ่ย
ที่รักหันไปยิ้มให้คนตัวสูงที่ยืนทำหน้านิ่ง ๆ อยู่ หมื่นฟ้ายิ้มตอบก่อนจะยักคิ้วใส่เขา หากไม่มีเสียงฮือฮาที่ดังขึ้นจากเพื่อนร่วมชั้นปีที่อยู่อีกฝั่ง ที่รักก็คงสติหลุดเพราะท่าทางขี้เล่นของหมื่นฟ้า เขาขมวดคิ้วมองผู้หญิงกลุ่มนั้นคุยกันเสียงเล็กเสียงน้อย แต่เพราะอยู่ไกลกันพอสมควรถึงไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เพื่อนกลุ่มนั้นส่งเสียงร้องออกมา
“ลิฟต์มาแล้ว ๆ ไปเร็วพวกมึง…”
“มาเร็วไอ้แก้มย้อย”
พี่บอล พี่ทิม และพันลี้รีบเดินเข้าไปในลิฟต์ทันทีที่ประตูเปิดออก ตามด้วยเพื่อนร่วมชั้นปีอีกหลายคนที่พยายามเบียดกันเข้าไปในตู้สี่เหลี่ยม ที่รักยืนรอจนทุกคนเข้าไปหมดแล้วถึงหันไปหาคนตัวสูงที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากไปรอบนี้
“ไอ้ฟ้า…เข้ามาเร็ว ๆ ”
“เออ เหลืออีกสองที่พอดี เข้ามาไอ้แก้มย้อย” พันลี้กวักมือเรียกให้เขาเข้าไปในลิฟต์ สายตาของทุกคนที่อยู่ในลิฟต์กำลังกดดันเขาสองคนอยู่
“ตัวดื้อ…เรารอไปรอบอื่นไหมครับ?”
“…” ที่รักพอจะรู้ว่าหมื่นฟ้าไม่ชอบความวุ่นวาย นั่นหมายถึงเ้าตัวคงไม่ชอบสถานที่ ๆ แออัดและเต็มไปด้วยผู้คนแบบนี้ แต่ที่รักเชื่อว่าถ้ามีเขาอยู่ด้วย…หมื่นฟ้าจะรู้สึกสบายใจ “คุณท้องฟ้าเชื่อคุณท้องทะเลนะครับ…ไปกัน”
ที่รักคว้ามือของคนตัวสูงแล้วจูงเข้ามาในลิฟต์ เขาให้หมื่นฟ้าเข้าไปยืนอยู่ตรงมุมข้าง ๆ พี่บอล เ้าตัวจะได้ไม่ต้องเบียดกับคนแปลกหน้า ส่วนตัวเขาเองยืนอยู่ข้าง ๆ หมื่นฟ้าแล้วหันหน้าไปทางพันลี้ที่ยืนอยู่หน้าประตูลิฟต์
พอประตูลิฟต์ปิดสนิทและทุกคนอยู่ในความเงียบสงบ ที่รักก็ััได้ถึงฝ่ามือหนาที่สะกิดแขนเบา ๆ “ครับพี่ฟ้า…”
“หันมาหาพี่ฟ้าหน่อยครับ”
ที่รักอมยิ้มแล้วหมุนตัวไปหาหมื่นฟ้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเ้าตัว ในขณะที่มองอีกฝ่ายเขาก็รู้สึกขอบคุณขึ้นมาในใจ…ที่รักขอบคุณที่หมื่นฟ้ายอมเชื่อใจกัน “คุณท้องฟ้ากลัวที่แคบเหรอครับ?”
“เปล่าครับ…แค่อยากเห็นหน้าใกล้ ๆ ”
คนฟังพยายามกลั้นหัวเราะ ที่รักเขย่งปลายเท้าเพิ่มความสูงให้ตัวเองอีกหน่อยเพื่อให้ใบหน้าของเขาใกล้กับอีกฝ่ายมากขึ้น “เห็นชัดหรือยังครับคุณท้องฟ้า…”
“ชัดจนเห็นแก้มแดง ๆ เลยครับ”
ที่รักอมยิ้มแล้วพยักหน้ารับคนตัวสูงก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แม้ว่าเราจะคุยกันด้วยเสียงแ่เบาจนแทบจะเป็เสียงกระซิบ แต่เหมือนทุกคนในลิฟต์จะได้ยินทุกประโยคคำพูดของเราสองคนถึงได้ก้มหน้าอมยิ้มกัน
เหมือนทุกคนกำลังเขินอะไรอยู่…ปกติเขาก็คุยเล่นกับหมื่นฟ้าแบบนี้
ทุกคนไม่คุยกับคนสนิทด้วยคำพูดแบบนี้เหรอ O_O
“พ่อเอ๊ย! ลิฟต์ก็เปิดแม่งทุกชั้นเลย ใครกดเล่นวะ?”
“เออ คนยิ่งเยอะ ๆ อยู่ แทนที่จะได้ถึงชั้นล่างเร็ว ๆ ”
รุ่นพี่สองคนที่บ่นด้วยความหงุดหงิดพาให้รุ่นน้องในลิฟต์ขำพรืด พี่บอลส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนจะบอกให้พันลี้กดปิดประตูลิฟต์
“ไอ้ลี้เหนื่อยหน่อยนะ คนที่อยู่ใกล้ๆ ก็ไม่คิดจะขยับเลย”
“เออ พี่ฟ้าอยู่ใกล้กว่าแล้วทำไมไม่กดปุ่ม”
“มือไม่ว่าง”
“กูก็เห็นมึงยืนเฉย ๆ แล้วมือมึงทำอะไรอยู่?”
“ประคองตัวดื้ออยู่”
คนที่ไม่รู้ตัวว่าโดนประคองอยู่หลุบตามอง่ล่างของตัวเอง แล้วก็เป็แบบนั้นจริง ๆ มือทั้งสองข้างของหมื่นฟ้ากำลังจับเอวของเขาไว้ ที่รักคิดว่าคงเป็เพราะััที่เบาจนเกินไปของอีกฝ่ายถึงทำให้ไม่รู้สึกตัว
“ยอม…กูยอมแล้ว”
“เออ ลี้ก็ยอม เดี๋ยวกดเองก็ได้ แค่กดปิดประตู ไม่เกินใจหรอก…”
และคงเป็เพราะเราอยู่ในท่านี้เลยทำให้ที่รักหวนนึกถึงตอนที่เราอยู่บนเตียงด้วยกันเมื่อหลายวันก่อน ตอนที่ใบหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ ที่รักพยายามสลัดหัวเพื่อขับไล่ภาพจำนั้นก่อนที่หัวใจจะโวยวายเสียงดัง
ถ้าปล่อยให้มันร้องโวยวาย…งานนี้ได้ยินกันทั้งลิฟต์แน่ ๆ T______T
“ไหนบุหรี่สูตรพิเศษครับ?”
ทว่าประโยคคำถามของหมื่นฟ้าช่วยเบี่ยงความสนใจของเขาจากเหตุการณ์ในวันนั้นได้เป็อย่างดี ที่รักเงยหน้ามองคนตัวสูงอีกครั้งก่อนจะล้วงเอามวนกระดาษสีขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วโชว์ให้หมื่นฟ้าดู
“นี่ครับ…”
“แง่ว ~…ตัวดื้อหลอกพี่ฟ้านี่ครับ?”
แง่ว…เสียง แง่ว เท่ากับผิดหวัง แต่เป็การแสดงความผิดหวังที่น่ารักที่สุดในโลก หมื่นฟ้าพูดด้วยเสียงน่ารัก ๆ แบบนั้นพร้อมทำหน้าตางอแงตามสไตล์เ้าตัว ที่รักไม่คิดว่าคนตัวโต ๆ ที่แสนจะเ็ากับคนอื่นอย่างหมื่นฟ้าจะน่ารักได้มากขนาดนี้ แล้วภารกิจห้ามหัวใจไม่ให้ร้องโวยวายก็ล้มเหลว เพราะตอนนี้ก้อนเนื้อสีแดงร้องเสียงดังก้องไปทั่วทั้งโสตประสาท
และอาจจะดังมากขึ้นจนคนอื่นได้ยิน…
“หัวเราะเหี้ยไร?”
คนตัวเล็กที่กำลังก้มหน้าเอามวนกระดาษเก็บต้องเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น ที่รักไม่อยากจะเชื่อว่าคุณหมื่นฟ้าคนน่ารักจะกลายเป็คุณหมื่นฟ้าคนดื้อได้เร็วขนาดนี้ เ้าตัวถามและจ้องพี่บอลด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนที่ทำเป็ประจำ
“ไอ้ฟ้า…อ้อนเขาอย่างกับลูกแมว คนแบบมึงมาทำแบบนี้ ใครจะไปกลั้นหัวเราะไหววะ? ...หมดกันเพื่อนผู้น่าเกรงขามของกู”
“หัวเราะมาก ๆ เดี๋ยวได้โดนส้นตีนยัดปาก”
คำขู่ของหมื่นฟ้าไม่ได้มีผลแค่กับพี่บอลเท่านั้น เพราะเสียงหัวเราะคิกคักที่ดังอยู่เมื่อครู่เริ่มเบาลงทำให้รู้ว่าคำพูดนั้นกระทบทุกคน
เพราะที่รักไม่อยากให้หมื่นฟ้าเป็คนดุร้ายในสายตาคนอื่น เขาเลยเอามือข้างที่ว่างอยู่จับใบหน้าของคนตัวสูงที่จ้องพี่บอลอยู่ให้หันกลับมาหากัน ที่รักออกแรงบีบแก้มทั้งสองข้างของหมื่นฟ้าด้วยมือข้างเดียวก่อนจะยกนิ้วชี้ที่ว่างอยู่อีกข้างขึ้นมาจรดที่ริมฝีปากตัวเอง
“ไม่เอาครับ…ไม่พูดแบบนั้นนะครับคุณท้องฟ้า”
“แต่ไอ้บอลแซวพี่ฟ้า…”
“เดี๋ยวรักจะจัดการพี่บอลให้เอง…แต่คุณท้องฟ้าห้ามพูดไม่เพราะในลิฟต์อีกนะครับ”
หมื่นฟ้าไม่ยอมตอบอะไรเขา เ้าตัวทำหน้านิ่งเหมือนเดิม “…”
“จะดื้อเหรอครับคุณท้องฟ้า?” ถามพร้อมขมวดคิ้วใส่คนดื้อ
“…”
หมื่นฟ้าไม่ตอบอะไร แต่เ้าตัวกลับย่นจมูกใส่หนึ่งทีก่อนจะส่งยิ้มในแบบเดิมมาให้เขา มันเป็ในตอนนั้นเองที่ที่รักยอมปล่อยมือออกจากใบหน้าของหมื่นฟ้าแล้วยอมแพ้…
หมื่นฟ้าย่นจมูกแบบที่เขาชอบทำเลยT______T
แต่ทำไมหมื่นฟ้าถึงได้น่ารักกว่านะ
น่ารักชะมัด T_____T
เขายอมให้เป็คนดื้อหนึ่งวันเต็ม…
ที่รักกะพริบตาปริบ ๆ จ้องมองคนดื้อที่ยังคงส่งยิ้มให้เขาอยู่ “…”
“หมื่นฟ้าจะไม่ดื้อครับ…ไม่ดื้อกับที่รักแล้ว”
ที่รักเพิ่งรู้ว่าสรรพนามที่ไม่คุ้นเคยส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วได้มากกว่าเดิม เพราะตอนที่หมื่นฟ้าพูดประโยคนั้นหัวใจเขาเหมือนจะทะลุออกมากองตรงหน้า แต่ทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้งเพราะเสียงของพี่บอล
“ฮิ้ววววว ~”
“ฮิ้ว อะไรไอ้บอล” ทิมเอ่ยถาม
“ก็ดีใจที่ถึงชั้นหนึ่งสักทีไง…มดขึ้นลิฟต์เต็มไปหมด กูกลัวโดนมดกัดไข่จริง ๆ ”
“มดจะหาเจอเหรอพี่บอล เล็กขนาดนั้นอะ…” พันลี้ว่าก่อนจะเดินหัวเราะออกไปจากลิฟต์ รุ่นน้องทุกคนพากันขำจนพี่บอลอายหน้าดำหน้าแดงไปหมด
“ไอ้ห่าลี้…ร้ายพอกับพี่แม่งเลย”
แม้ว่าทุกคนจะตลกกันมากแค่ไหน แต่คนตัวสูงที่เดินขนาบข้างเขาอยู่ก็ยังคงแสดงสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนเดิม ที่รักเชื่อแล้วว่านอกจากเขาไม่มีใครสามารถทำให้คุณท้องฟ้ายิ้มได้
#กี่หมื่นฟ้า
“นี่ครับ…บุหรี่สูตรพิเศษของรัก” ที่รักพูดพร้อมยื่นมวนบุหรี่ให้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หมื่นฟ้ารับไปแล้วเก็บใส่กระเป๋าเสื้อทันที “ไม่สงสัยอะไรหน่อยเหรอครับพี่ฟ้า?”
คนที่ก้มหน้ากินข้าวกะเพราหมูกรอบไข่เจียวไม่ตอบอะไรก่อนจะส่ายหน้าน้อย ๆ “…”
“มันพิเศษจริง ๆ นะครับ สงสัยหน่อยซี่~”
“มันมีอะไรเหรอครับ?”
“พี่ฟ้าก็ลองหยิบออกมาดูสิครับ…”
พันลี้ที่กำลังกินข้าวเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายกับเพื่อนสนิทที่นั่งชิดจนไหล่แทบจะชนกัน พี่ฟ้าวางช้อนลงแล้วหยิบเอามวนบุหรี่ที่ไอ้แก้มย้อยมันอุตส่าห์ตั้งใจทำออกมามองดู พันลี้หลุดยิ้มออกมาพอเห็นเพื่อนสนิทแสดงอาการตื่นเต้นจนเผลอเอาหน้าไปซบไว้ที่แขนของพี่ชาย
มันน่ารักซะขนาดเนี่ย…
พี่ฟ้าไม่รักก็บ้าแล้ว
“มึง…เขาเล่นอะไรกันวะ?” บอลที่อยากรู้ใจจะขาดกระซิบถามพันลี้
“คนเขาจะจีบกันแล้วพี่จะไปเสือกทำไมครับ”
“อะ ไอ้ลี้ มึงเอาอีกแล้วนะ…กูเป็รุ่นพี่มึงนะเว้ย”
“ก็พี่ขี้เสือกอะ…”
“เออ กูไม่รู้ก็ได้”
พันลี้หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่นั่งกินข้าวอยู่คนเดียว “เดี๋ยวผมมานะ…”
“มึงจะไปไหนวะ?”
“ไปกินข้าวกับเพื่อน…”
“เดี๋ยว ~ เพื่อนคนไหน?”
“คนนั้น…” พันลี้ชี้นิ้วไปหาเด็กคณะการบินคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนักก่อนจะหยิบจานข้าวของตัวเองเตรียมจะลุก
“หน้าหมาลี้จะไปไหน?”
“จะไปนั่งกินข้าวกับใกล้…ใกล้นั่งคนเดียว”
“อ้อ…ฝากบอกใกล้ด้วยนะว่าคิดถึงมาก ๆ ”
“อือ”
ที่รักพยักหน้ารับเพื่อนสนิทที่ลุกออกไปจากโต๊ะ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพันลี้สนิทกับใกล้ขนาดไปกินข้าวด้วยกันได้ ที่รักมองพันลี้ที่นั่งลงฝั่งตรงข้ามใกล้อยู่สักพักก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจคุณหมื่นฟ้าคนดื้อเหมือนเดิม
“หาความพิเศษของมันเจอหรือยังครับพี่ฟ้า?”
“…” หมื่นฟ้าแกะมวนกระดาษออก เ้าตัวยิ้มออกมาเมื่อเห็นข้อความที่เขียนไว้ในกระดาษ
ที่รักอมยิ้มก่อนจะอ่านข้อความนั้น “ขอบคุณนะครับคุณท้องฟ้าคนเก่ง…ขอบคุณที่ตื่นมากินข้าวเช้าทุกวัน”
“ครับ…” หมื่นฟ้ายิ้มแล้วเอื้อมมือมาลูบหัวเขาเบา ๆ “ขอบคุณเหมือนกันนะครับ…ขอบคุณที่คอยให้กำลังใจกันตลอด”
“ค้าบ”
บอลเอียงตัวไปหาทิมก่อนกระซิบถามเสียงแ่ “ไอ้ทิม กูก็ไม่ได้ใส่น้ำตาลในก๋วยเตี๋ยว…ทำไมมันหวานขนาดนี้วะ?”
“อย่าว่าแต่ก๋วยเตี๋ยวของมึงเลย…เบาหวานจะขึ้นตากูแล้วเนี่ย” กระซิบตอบขณะดูเพื่อนสนิทกับรุ่นน้องนั่งยิ้มให้กัน ทิมไม่ได้รู้สึกอิจฉาหรือรำคาญ แต่แค่อยากให้สองคนเกรงใจคนโสดแบบพวกเขาบ้าง…
#กี่หมื่นฟ้า
หลังจากที่กินข้าวเสร็จที่รักต้องกลับมาเรียนวิชาถ่ายภาพต่อ วันนี้อาจารย์นัดส่งชิ้นงานสำคัญที่ให้นักศึกษาถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก
งานชิ้นที่เขามีความทรงจำร่วมกับหมื่นฟ้านั่นแหละ :)
“ของน้องรัก…ได้แล้วนะจ๊ะ”
“ค้าบ…เท่าไหร่ครับคุณน้า” ที่รักเดินไปรับภาพขนาดเอสี่ที่เพิ่งพิมพ์เสร็จจากคุณป้าเ้าของร้าน
“แผ่นเดียว สามสิบจ้ะ”
“นี่ครับ…ขอบคุณมากนะครับ”
“จ้า”
“อีแก้มย้อยรอกูก่อน ของกูยังไม่เสร็จเลยเนี่ย”
“อื้อ…รออยู่”
“จอยชักช้าว่ะ…ไปไอ้แก้มย้อยไม่ต้องรอแม่งหรอก”
“ได้ไงล่ะไทป์…เพื่อนกันก็ต้องรอกันสิ”
ไทป์หัวเราะก่อนหันไปหาพันลี้ที่ยืนเล่นโทรศัพท์อยู่ “แล้วมึงเสร็จยัง?”
“แล้ว…ให้ไวเหอะพวกมึงอะ”
“ทำไมเสร็จเร็วจังวะ?”
“กูกินข้าวเสร็จก็มาทำเลย”
“ลี้หน้าหมาแอบมาคนเดียวล่ะสิ…”
“เปล่า…”
“แล้วมากับใคร?”
“ใกล้…”
“ใกล้ไหนวะ?”
“เสือก” พันลี้ว่าแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ไม้
“ใกล้คือลูกพี่ลูกน้องของพี่ดอม…มึงไม่รู้จักหรอกไทป์”
“กูรักมึงจริง ๆ เลยไอ้แก้มย้อย…เพื่อนคนอื่นชอบพูดจาหมาไม่แดกใส่กู มีแต่มึงที่พูดน่ารัก ๆ ให้กูได้ชื่นใจตลอด…มาให้กูหอมหัวที”
“อย่าเลย ไม่ได้สระผมมา…เดี๋ยวมึงจะเป็ลม”
“ฮ่า ๆ อีแก้มย้อยแม่งโคตรจะน่ารัก”
คนโดนชมอมยิ้มก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะไม้ยาวเพราะคนเริ่มเข้ามาในร้านเยอะมากขึ้น เขาทำงานของตัวเองเสร็จแล้วควรจะหลีกทางให้คนอื่นได้ทำงานสะดวก ๆ
“ไอ้แก้มย้อย มานั่งข้าง ๆ กูดิ…ไปนั่งซะไกลเลย”
“ี้เีย้ายแล้ว”
“กลัวโดนกูหยิกแก้มก็บอกมา…”
ที่รักยิ้มแล้วพยักหน้ารับก่อนจะมองรูปภาพที่อยู่ในมือ ภาพพระอาทิตย์ตกดินที่อยู่ลำดับสุดท้ายของภาพนี้ทำให้เขานึกถึงใครบางคน สาเหตุที่ที่รักเลือกจะนั่งห่างจากพันลี้ไม่ใช่เพราะกลัวโดนหยิกแก้มอย่างที่เพื่อนเข้าใจ แต่เป็เพราะเขาอยากจะหลบมาขอกำลังใจจากใครบางคน
โทรศัพท์เครื่องสีดำถูกล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง ที่รักพรมนิ้วไปบนหน้าจอก่อนจะกดส่งข้อความไปหาคนสนิทที่เพิ่งแยกกันไปเมื่อ่เที่ยง
ที่รัก : พี่ฟ้าครับ…
M.FAH : ครับ
ที่รัก : พี่ฟ้าเข้าเรียนหรือยังครับ?
M.FAH : อาจารย์ยังไม่มาเลยครับ
ที่รัก : งั้นรักขอถามอะไรพี่ฟ้าหน่อยได้ไหมครับ?
M.FAH : ครับ
ที่รัก : รักกำลังจะส่งงานโฟโต้ครับ
ที่รักยิ้ม…ยิ้มกว้างเมื่อพิมพ์ประโยคคำถามนี้
ที่รัก : คุณท้องฟ้าสนใจจะเป็ท้องทะเลให้รักสักวันไหมครับ?
M.FAH : send a voice
ที่รักกดเปิดฟังข้อความเสียงที่อีกฝ่ายส่งมาให้…
‘หึ ๆ พี่ฟ้าเป็กำลังใจให้นะครับ…ซู่ ~ ซู่ ~ นะครับคนเก่ง’
และที่รักยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อคุณท้องฟ้ายอมเป็ท้องทะเลให้เขาหนึ่งวัน
ที่รัก : ขอบคุณนะครับพี่ฟ้า
M.FAH : ครับ
เป็ครั้งแรกที่ที่รักรู้สึกว่าหัวใจได้รับกำลังใจอย่างเปี่ยมล้น และเป็ครั้งแรกที่เขายิ้มทั้งที่หัวใจเต้นแรง ที่รักกดฟังข้อความของหมื่นฟ้าอีกครั้ง มันเป็ในตอนนั้นเองที่เขาตระหนักได้ว่าหมื่นฟ้าเป็คนสนิทที่มีอิทธิพลต่อหัวใจ
หมื่นฟ้าไม่ใช่แค่คุณท้องฟ้า
สำหรับเขาในตอนนี้...หมื่นฟ้าเป็ได้ทั้งท้องฟ้าและท้องทะเลเลย
:)
“ทำงานได้ดีนะ”
“ขอบคุณครับอาจารย์”
ที่รักก้มศีรษะให้อาจารย์ที่เอ่ยปากชมขณะรับชิ้นงานไป เขาหมุนตัวเดินออกมาจากแถวที่ยาวเหยียดก่อนมุ่งตรงไปหาพันลี้ที่นั่งรออยู่หลังห้อง ส่วนไทป์กับจอยที่รหัสนักศึกษาอยู่ลำดับแรก ๆ ส่งงานเสร็จแล้วเลยขอตัวกลับไปก่อน
“กลับไงแก้มย้อย?”
“กลับกับพี่เบบ…แต่ว่าเมื่อกี้พี่เบบไลน์มาบอกว่าให้ไปนั่งรอที่ร้านบิงซูใต้ตึกก่อนเพราะพี่เบบมีสอบย่อย อาจารย์จะปล่อยช้าหน่อย”
“อ๋อ…งั้นเดี๋ยวกูไปอยู่เป็เพื่อน”
“ไม่เป็ไร ๆ มึงต้องรีบไปซื้อรองเท้าสตั๊ดนี่…”
“ช่างแม่ง ไปซื้อไม่ทันก็ใส่คู่เก่าก็ได้”
“ก็เมื่อเช้าเห็นมึงบอกว่าพรุ่งนี้มีไปเตะบอล…แล้วคู่เก่าก็ไม่ค่อยดีแล้ว มึงไปเถอะ ไม่ต้องห่วงกู”
“ไม่ห่วงมึงแล้วจะห่วงใคร…”
ที่รักเดินตามพันลี้ออกมาจากห้องเรียน ตอนเรียนเขาเห็นเพื่อนเปิดดูรองเท้าบอลตลอดและเ้าตัวก็บอกว่าเลิกเรียนจะรีบไปซื้อรองเท้าสตั๊ดเพราะพรุ่งนี้มีนัดเตะบอลกับรุ่นพี่
เห็นว่าเป็การแข่งบอลรอบสำคัญประจำปีอะไรสักอย่าง…
“แข่งบอลแบบจริงจังเลยเหรอลี้?”
“จะว่าจริงจังก็ได้…แต่ไม่จริงจังก็ได้ กูจะอธิบายยังไงดีวะ?”
“มันซับซ้อนขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“กูว่ามีคนรออธิบายให้มึงฟังแล้ว…” ที่รักมองตามสายตาของพันลี้ที่กำลังจ้องใครบางคนอยู่
“พี่ฟ้า…”
“…” หมื่นฟ้าส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินเข้ามาหา “ส่งงานแล้วใช่ไหมครับ?”
“ครับ…พี่ฟ้ามาทำอะไรชั้นนี้ครับ?”
“มารออยู่เป็เพื่อนตัวดื้อครับ”
“ดีเลย งั้นลี้ไปก่อนนะพี่ฟ้า…จะไปซื้อรองเท้าสตั๊ด เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีใส่แข่งบอล”
“เออ”
“ไปก่อนนะแก้มย้อย”
“อะ อื้อ…” ที่รักตอบรับเพื่อนแล้วหันกลับมาหาคนตัวสูง ก่อนเอ่ย “มาอยู่รอเป็เพื่อนรักเหรอครับ?”
“ครับ พอดีดอมบอกว่าเบบจะเลิกสาย ตัวดื้อน่าจะรออยู่ใต้ตึกคนเดียว พี่ฟ้าเลยจะมาอยู่เป็เพื่อน”
“อ๋อ…แล้วพี่ดอมรอพี่เบบอยู่ที่หน้าห้องเรียนใช่ไหมครับ?”
“ครับ ดอมบอกว่าวันนี้แฟน้ากำลังใจเยอะหน่อยเพราะสอบยาก ก็เลยไปนั่งให้กำลังใจอยู่หน้าห้องสอบ”
“คู่นี้น่ารักไม่เปลี่ยนเลย…”
“เราไปรอเบบที่ไหนดีครับ?”
“วันนี้พี่ฟ้าอุตส่าห์เป็ท้องทะเลให้รัก…งั้นรักขอตอบแทนพี่ฟ้าด้วยการเลี้ยงบิงซูนะครับ”
“ได้ครับ”
ที่รักพาหมื่นฟ้ามาที่ร้านบิงซูใต้ตึกคณะ เขาสั่งบิงซูถ้วยใหญ่แบบจัดเต็มมาให้หมื่นฟ้า แต่เ้าตัวกินไปแค่ไม่กี่คำก็ถอยทัพ เป็เหตุให้ที่รักต้องนั่งยัดเ้าบิงซูมะม่วงอยู่คนเดียว
“โธ่…ไม่ชอบกินของหวานก็ไม่บอกรัก ตอนนี้ท้องรักจะแตกแล้วครับ”
“หึ ๆ ขอโทษครับ”
“ให้อภัยก็ได้ครับ”
“ตัวดื้อ…”
“ครับ?” ที่รักที่กำลังตักน้ำแข็งใส่ปากเงยหน้ามองคนตัวสูงที่นั่งอยู่ตรงข้าม หมื่นฟ้าเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเรียบนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน
“พรุ่งนี้พันลี้ไม่มีเรียน ตัวดื้อก็ไม่มีเรียนใช่ไหมครับ?”
“…ครับ ไม่น่าจะมี” ตอบพลางขมวดคิ้วครุ่นคิด ก่อนเอ่ย “ไม่มี ๆ ครับ เรียนชดเชยก็ไม่มี”
“พรุ่งนี้พี่ฟ้ามีแข่งบอลกับเพื่อนสมัยมัธยม จริง ๆ ก็มีเพื่อนที่มหา’ ลัยไปเตะด้วย”
“ครับ…”
“พี่ฟ้าอยากให้ตัวดื้อไปเชียร์พี่ฟ้าได้ไหมครับ?”
“…”
“นั่งเชียร์ข้าง ๆ สนาม”
“…พันลี้ก็ลงแข่งด้วยใช่ไหมครับ?”
“ครับ พี่ฟ้าจะแข่งบอลกับเพื่อนเก่ากันทุกปี จริง ๆ ก็ไม่ได้สำคัญมากมาย แค่แข่งกันเองเฉย ๆ แต่พวกเพื่อน ๆ พี่ฟ้ามันชอบจริงจังเหมือนตัวเองกำลังแข่งบอลโลก ทุกคนก็เลยจะเตรียมตัวเป็อย่างดี”
“อ๋อ…ประมาณว่าศึกชิงศักดิ์ศรีใช่ไหมครับ?” ที่รักถามพลางหัวเราะ
“ครับ ประมาณนั้น…ชนะก็ไม่ได้อะไร แต่แพ้ต้องเลี้ยงเหล้าอีกทีม”
“ดีจังเลยนะครับ เหมือนเป็การรวมตัวเพื่อนสมัยเรียนให้มาเจอกันทุกปี”
“ครับ ส่วนมากอยู่ต่างมหา’ ลัยกัน แต่มารวมตัวกันได้ครบทุกคนก็เพราะมีแข่งบอลทุกปี”
“…”
“และทุกปีเพื่อนก็จะชอบพาคนสนิทไปเชียร์ที่ข้างสนาม”
ที่รักอมยิ้มเมื่อรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้หมื่นฟ้าถามเขาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเรียบนิ่ง เ้าตัวคงจะกลัวเขาปฏิเสธ “รักเป็คนสนิทของพี่ฟ้า”
“…”
“รักไปเชียร์คุณท้องฟ้าแน่นอน ~”
หมื่นฟ้าอมยิ้มก่อนเอ่ย “ขอบคุณนะครับคุณท้องทะเล”
“ด้วยความยินดีเลยครับ รักจะไปคอยเติมพลังให้พี่ฟ้าอยู่ข้างสนามเอง…จริง ๆ รักก็เคยแข่งบอลตอนอยู่มัธยม แต่ล้มกลิ้งกลางสนามเพราะถูกอีกทีมชน รักอายมาก ๆ เลย หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยชอบเตะบอลเท่าไหร่”
“หึ ๆ ”
“แล้วเพื่อนที่มหา’ ลัยที่พี่ฟ้าบอกว่าไปด้วยนี่มีพี่ดอมไหมครับ?”
“มีครับ มีดอมกับบอล สองคนนี้รู้จักกับเพื่อนของพี่ฟ้าด้วย ก็เลยเตะบอลมาด้วยกันั้แ่ปีหนึ่งแล้ว ส่วนพันลี้เป็รุ่นน้องคนเดียวที่ได้เข้ากลุ่ม มันฝีเท้าดีเพื่อนพี่ฟ้าเลยแย่งตัวไปอยู่ในทีม”
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าพันลี้จะเตะบอลเก่ง”
“งั้นพรุ่งนี้ตัวดื้อมากับเบบใช่ไหมครับ?”
“ถ้าพี่เบบไปด้วย รักก็ไปกับพี่เบบเลยครับ”
“โอเคครับ”
“รัก…” ที่รักหันมองตามเสียงเรียกอันคุ้นเคย เขายิ้มออกมาเมื่อเห็นพี่เบบกับพี่ดอมกำลังเดินมาทางนี้
“เบบ…พรุ่งนี้เราชวนรักไปเชียร์บอล เบบอนุญาตไหม?”
เบบกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ “ดะ ได้ ๆ ”
“มีคนไปเชียร์ในรอบกี่ปีเนี่ยไอ้ฟ้า…” ดอมเอ่ยแซว
“ปีแรกที่มีคนไปเชียร์”
ที่รักยิ้มให้หมื่นฟ้าที่หันมามองเขา “รักจะเชียร์พี่ฟ้าให้เต็มที่เลยครับ”
#กี่หมื่นฟ้า
“ทำอะไรอยู่รัก? ...ไม่ลงไปกินขนมเหรอ?”
“เสร็จแล้วจะไปกินครับ”
“หมูกรอบก็รอเล่นด้วยอยู่นะ”
เบบยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนที่ถูกเปิดอ้าไว้ เธอมองน้องชายที่กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่บนโต๊ะทำงานก่อนจะเข้าไปยืนดูใกล้ ๆ
“รักกำลังทำป้ายเชียร์ให้พี่ฟ้าอยู่…”
“โอ้โฮ…ลงทุนขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ก็เห็นพี่เบบกับพี่ดอมเล่าให้ฟังบนรถว่าพี่ฟ้าเป็คนเดียวที่ไม่เคยมีใครไปเชียร์เลยตลอดสองปี”
“ใช่…แต่เป็เพราะว่าฟ้าไม่ชวนใครไปมากกว่า ส่วนมากคนที่จะไปนั่งข้างสนามก็จะเป็แฟน…หรือไม่ก็คนสำคัญ”
ที่รักละสายตาจากโปรแกรมตัดต่อตรงหน้าแล้วเงยหน้ามองพี่สาว “ระ รักก็เป็คนสนิทไง”
“ใช่…ก็เป็คนสนิทที่สำคัญมากพอที่ฟ้าจะชวนไปเจอเพื่อนสมัยเรียนของตัวเอง”
“…”
“ฟ้าให้แกไปคอยให้กำลังใจขนาดนี้แล้ว…ส่งกำลังใจให้ฟ้าเยอะ ๆ ล่ะ”
“แน่นอนอยู่แล้วพี่เบบ”
“เสร็จแล้วก็ลงไปกินขนมนะ”
“ค้าบ”
ที่รักพยักหน้ารับแล้วหันกลับมาทำป้ายเชียร์ให้หมื่นฟ้าต่อ เขาอมยิ้มขณะมองประโยคให้กำลังใจที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์
‘คุณท้องฟ้า ซู่ ~ ซู่ ~’
กำลังใจที่มีเยอะเท่าผืนทะเล
ที่รักจะเททั้งหมดให้คุณท้องฟ้า
TBC
#กี่หมื่นฟ้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้