วรยุทธ์มีทั้งหมด 5 ระดับ ได้แก่ ์ ปฐี ลึกลับ บุษรา มนุษย์ แต่ละระดับแบ่งออกเป็ 3 ขั้น คือ ขั้นต่ำ ขั้นกลาง ขั้นสูง ยิ่งวรยุทธ์มีระดับและขั้นสูงเท่าไหร่ พลานุภาพก็จักยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น วรยุทธ์บุษราขั้นสูงกับวรยุทธ์บุษราขั้นต่ำ ต่างชั้นกันยิ่งราวฟ้ากับเหว จอมยุทธ์ที่ฝึกปรือวรยุทธ์บุษราขั้นสูงสามารถบดขยี้จอมยุทธ์ที่ฝึกปรือวรยุทธ์บุษราขั้นต่ำได้อย่างไร้ข้อกังขา ฉะนั้นอย่าได้เอ่ยถึงจอมยุทธ์ที่ฝึกปรือวรยุทธ์ระดับมนุษย์เลย
ความแข็งแกร่งของวรยุทธ์นั้นเป็สิ่งชี้วัดความแข็งแกร่งของจอมยุทธ์ แม้ว่ากำลังภายในจักเป็รากฐานของเส้นทางแห่งยุทธ์ หากมันส่งผลกระทบอย่างชัดแจ้งในด้านบำเพ็ญเพียร มิได้เสริมแกร่งพลานุภาพเท่าไหร่นัก
ทว่ากับวรยุทธ์นั้นไม่เหมือนกัน วรยุทธ์ที่แข็งแกร่งสามารถทำให้จอมยุทธ์แกร่งกล้าอย่างก้าวะโได้ใน่ระยะเวลาสั้นๆ
จูชิงจ้องมองวรยุทธ์《หลัวโหวยิงตะวัน》ด้วยความฉงนสงสัย เดิมทีเขาคิดว่าสิ่งที่ประจักษ์จากศิลาผนึกิญญาพิชิต์จะต้องเป็สิ่งล้ำค่าเหนือสามัญ คาดไม่ถึงว่าจักเป็《หลัวโหวยิงตะวัน》วรยุทธ์ไร้ขั้นไร้ระดับเยี่ยงนี้!
วรยุทธ์ไร้ขั้นไร้ระดับคืออะไร มันก็คือวรยุทธ์ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ด้อยค่ายิ่งกว่าวรยุทธ์ขั้นต่ำ!
“ศิลาผนึกิญญาพิชิต์คงมิได้แกล้งข้าอยู่ใช่หรือไม่” รอยยิ้มอันขมขื่นปรากฏบนใบหน้าของจูชิง เขานึกว่าจะได้เพชรได้พลอย ใครเล่าจักไปคิดว่าจะได้ก้อนหินมาแทน จูชิงผิดหวังเป็อย่างมาก
ทว่าแม้ว่าจักไม่ชอบใจอย่างไร แต่สุดท้ายจูชิงก็เลือกฝึกปรือ《หลัวโหวยิงตะวัน》
ถึง《หลัวโหวยิงตะวัน》จะเป็วรยุทธ์ที่มิได้เป็ที่นิยม แต่ก็เป็วรยุทธ์ หากบำเพ็ญเพียรสำเร็จจักต้องเป็ประโยชน์ต่อเขาในสักวันหนึ่ง
อีกทั้งจูชิงไม่มีวรยุทธ์อื่นใดติดตัวเลย การต่อสู้ครั้งก่อนนั้นพึ่งพาเพียงแค่อักขระาหลัวโหว ฉะนั้นแล้วมีวรยุทธ์ติดตัวเอาไว้บ้างย่อมดีกว่า
จูชิงแทบไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายในการตระหนักรู้《หลัวโหวยิงตะวัน》ซึ่งนี่เป็เอกลักษณ์เฉพาะของศิลาผนึกิญญาพิชิต์ เขาสามารถหยั่งรู้และเข้าใจวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดายคล้ายกับมันถูกสร้างมาให้กับจูชิง
พื้นฐานของวรยุทธ์《หลัวโหวยิงตะวัน》ก็คืออักขระาหลัวโหว อย่างน้อยๆ ก็ต้องตระหนักรู้สามอักขระาหลัวโหวถึงจะฝึกปรือวรยุทธ์นี้ได้
“หรือว่าอักขระาหลัวโหวจักเป็รากฐาน กระทั่งวรยุทธ์ยังต้องใช้อักขระาหลัวโหว!” จูชิงถอนหายใจอย่างอดมิได้
อักขระาหลัวโหวเป็รากฐานของ《เคล็ดวิชา์าหลัวโหว》ยิ่งกลั่นหลอมอักขระาหลัวโหวออกมาได้มากเท่าไหร่ พลังก็จักยิ่งแกร่งกล้ามากขึ้นเท่านั้น
จูชิงปลื้มปีติอยู่ในใจ โชคดีจริงๆ ที่ขโมยไข่จระเข้ั์ดึกดำบรรพ์มาได้ ถ้ามิใช่เพราะพลังบริสุทธิ์ที่อัดแน่นอยู่ภายใน มิรู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจักหล่อหลอมอักขระาหลัวโหวเส้นที่สามสำเร็จ
“ไม่คิดเลยว่าอักขระาหลัวโหวจักทำอะไรแบบนี้ได้ด้วย?” จูชิงมองแขนขวาของตัวเองด้วยความประหลาดใจ ธนูโลหิตคันหนึ่งปรากฏบนแขนขวา ขนาดใหญ่เท่าคนหนึ่งคน ลมปราณตลบอบอวลถ้วนทั่วทุกหนแห่ง
ภายใต้พลานุภาพของสามอักขระาหลัวโหวกอปรกับลมปราณเหนือชั้นฟ้า แขนขวาของจูชิงวิวัฒน์กลายเป็คันธนู!
ธนูเล่มนี้เหมือนกับธนูของเทพปีศาจที่จูชิงเห็นก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน จูชิงจำคำว่าธนูหลัวโหวที่สลักอยู่บนธนูได้!
ธนูที่เขาวิวัฒน์จากอักขระาหลัวโหวมีต้นแบบมาจากธนูหลัวโหว!
จูชิงใจสั่นสะท้าน มือซ้ายเหนี่ยวสายธนู ทันใดนั้นลูกธนูโลหิตอันแหลมคมพลันประจักษ์ขึ้นบนธนูหลัวโหว ลมปราณในกายาผสานรวมกันเป็ลูกธนูโลหิต สูบกลืนลมปราณของจูชิงแทบหมดตัว!
ในการบำเพ็ญเพียร《เคล็ดวิชา์าหลัวโหว》จูชิงต้องใช้ลมปราณมากกว่าจอมยุทธ์ทั่วไปหลายเท่า กระนั้นแล้วก็ยังไม่เพียงพอต่อการสร้างลูกธนูโลหิตหนึ่งลูก!
เมื่อลูกธนูคมโลหิตประจักษ์ คันธนูหลัวโหวสั่นสะท้านคราหนึ่ง ก่อนที่ลูกธนูคมโลหิตจักสลายหายไป!
“เกิดอันใดขึ้น?” จูชิงตกตะลึง ลูกธนูคมโลหิตที่วิวัฒน์จากลมปราณของเขา เหตุใดจู่ๆ ถึงหายไปล่ะ
ทว่าพอจูชิงใช้ความคิด ลูกธนูคมโลหิตกลับปรากฏในมือของเขาอีกครั้ง!
หลังจากที่ทำซ้ำติดต่อกันหลายหน ในที่สุดจูชิงก็เข้าใจแล้วว่าลูกธนูคมโลหิตมิได้หายไป หากทว่ามันผสานลงไปในธนูหลัวโหว เมื่อใดที่ลูกธนูคมโลหิตหลอมเข้าไปในธนูหลัวโหว ร่องพาดสายธนูหลัวโหวก็จักสาดแสงดุจดั่งดวงทิวา
จูชิงไม่อยากเชื่อ ธนูหลัวโหวที่กลั่นออกมาจากอักขระาหลัวโหวจักน่าพรั่นพรึงขนาดนี้ ทั้งยังสามารถเก็บลูกธนูเอาไว้ได้ด้วย
จูชิงลองเหนี่ยวสายธนูยิงขึ้นออกไปกลางอากาศ ธนูคมโลหิตพุ่งแหวกผ่านอากาศเสียงกึกก้องแปรเปลี่ยนเป็แสงสีเืสว่างเจิดจ้า ทะลวงผ่านก้อนเมฆแยกออกจากกัน!
“แข็งแกร่งมาก!” จูชิงเบิกตาทั้งสองกว้าง พลานุภาพของลูกธนูเหนือกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มากโข
ลูกธนูที่ผสานอักขระาหลัวโหวกับลมปราณทั้งหมดของเขา พลานุภาพเหนือฟ้าเกินพรรณนา
จูชิงมั่นใจยิ่งยวดว่าเพลานี้แม้จักเป็อสูรดึกดำบรรพ์ขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณ เบื้องหน้าลูกธนูนี้ล้วนต้องตายอย่างมิต้องสงสัย กระทั่งอสูรดึกดำบรรพ์ขั้นสร้างลมปราณยังต้องาเ็แสนสาหัส!
《หลัวโหวยิงตะวัน》วรยุทธ์อันเรียบง่ายไม่ซับซ้อน แต่บางทีอาจเพราะความง่ายดายของมัน พลังกับความเร็วจึงพุ่งทะยานถึงจุดสูงสุดได้ในระยะเวลาสั้นๆ ถึงอีกฝ่ายจักมีกระบวนท่าเป็พันหมื่นย่อมสามารถทลายได้ในดอกเดียว!
《หลัวโหวยิงตะวัน》วรยุทธ์ที่พลิกสถานการณ์ได้ในหนึ่งการโจมตีเพียงหนึ่งครั้ง เพราะลูกธนูหนึ่งดอกต้องผลาญลมปราณจำนวนมหาศาล หากศัตรูหลบหลีกสำเร็จ ภายใต้สถานการณ์ที่ลมปราณเหือดแห้งมีเพียงต้องถูกอีกฝ่ายฆ่าตายสถานเดียว ซึ่งนับเป็จุดอ่อนของวรยุทธ์นี้
ทว่าเพลานี้เขาเก็บลูกธนูได้สี่ดอกกอปรกับความช่วยเหลือจากหินโลหิต ลมปราณในกายาพุ่งพล่านไม่ขาดสาย เขาสามารถยิงธนูได้มากถึงสี่ดอก ถ้ายังเอาชนะศัตรูมิได้อีก แสดงว่าอีกฝ่ายต้องมีพลังเหนือชั้นยิ่งกว่าจูชิง แม้มีลูกธนูมากกว่านี้ก็เปล่าประโยชน์
“แคร่ก! แคร่ก!” ทันใดนั้น จูชิงได้ยินเสียงบางอย่างสะท้อนเข้ามาในหู ราวกับบางสิ่งกำลังแตก
จูชิงหันกลับไปมองพลันเห็นัคะนองน้ำน้อยนอนอยู่บนไข่ั์ กินเปลือกไข่อย่างมีความสุข เปลือกไข่ที่จูชิงยังหมดปัญญาที่จะทำลายกลับถูกัคะนองน้ำน้อยกัดจนกลายเป็ช่องว่างขนาดใหญ่ ตัวมันครึ่งหนึ่งจมลงไปอยู่ในไข่ั์แล้ว
“เ้า!” จูชิงโมโหมิน้อย ยื่นฝ่ามือมาดหมายดึงัคะนองน้ำน้อยออกมา
แต่ัคะนองน้ำน้อยไหวตัวทัน มันมุดตัวลงไปอยู่ในไข่ั์!
“กรวบ!”
“กราบ!”
ครั้นจูชิงได้ยินเสียงัคะนองน้ำน้อยนอนเกลือกกลิ้งกินนอนอยู่ในไข่ั์ก็แทบจักกระอักโลหิต เขาเสี่ยงชีวิตตัวเองขโมยไข่ หากได้อะไรกลับมาเพียงเศษเล็บ โดยที่เหลือตกเป็ของัคะนองน้ำน้อยจนหมด
ทว่าอย่างไรเสียัคะนองน้ำน้อยก็เป็อนุชนของปลาัทองอสูรโบราณดึกดำบรรพ์ ความบริสุทธิ์ของโลหิตนั้นเข้มข้นยิ่งกว่าพ่อแม่ของมันไม่รู้กี่เท่า!
อสูรโบราณดึกดำบรรพ์มีกายาแกร่งกล้าโดยกำเนิด มิใช่สิ่งที่มนุษย์จักสามารถทัดเทียม ถึงจูชิงจักผสานสามอักขระาหลัวโหว แต่ก็ยังเทียบมิได้กับัคะนองน้ำน้อยที่มีอายุแค่หนึ่งเดือน
แม้ว่าจูชิงจักมีหินโลหิตคอยช่วยเหลือ ทว่าพลังเก้าในสิบนั้นถูกหินโลหิตหลอมจนหมด เขาได้รับพลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าฝืนกลืนกินลงไปมากกว่านี้มีแต่จะสิ้นเปลืองพลังบริสุทธิ์ไปโดยเปล่าประโยชน์
หากต้องสูญเสียไปโดยเปล่า มิสู้ให้ัคะนองน้ำน้อยกลืนกินเสียยังดีกว่า ทว่าไม่รู้ว่าจักส่งผลดีหรือผลเสียต่อมันกันแน่
คิดได้ดังนั้นจูชิงก็ละทิ้งความคิดที่จะเอาัคะนองน้ำน้อยออกมา ในทางกลับกันเขานั่งทำกรรมฐานข้างไข่ั์ หล่อหลอมพลังปราณที่หลั่งไหลออกมาทีละเล็กทีละน้อย
ในไข่ั์มิได้มีเพียงพลังบริสุทธิ์ หากยังมีพลังชีวิตน่าพรั่นพรึงของจระเข้ั์ดึกดำบรรพ์ เพียงซึมซับเล็กน้อยก็เป็ประโยชน์ต่อร่างกายของจูชิงอย่างมหาศาล
“กี้ๆ!” ัคะนองน้ำน้อยเพิ่งกินอิ่มเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างเบิกบานใจ ตัวขยายใหญ่เท่าแขนครึ่งของของจูชิงแล้ว ก้อนเนื้อบนหัวปูดออกมามากยิ่งกว่าเดิม!
จูชิงมองัคะนองน้ำน้อยนอนอิ่มสบายอุราพลางกลอกตาแล้วพูดว่า “ข้าอุตส่าห์ซุ่มดูสถานการณ์ตั้งสองวัน สุดท้ายกลับไปอยู่ในท้องเ้าจนหมด”
ัคะนองน้ำน้อยเลื้อยตัวไปอยู่บนไหล่ เอาหัวถูหน้าของจูชิงราวกับขอโทษ
จูชิงถูกัคะนองน้ำน้อยเอาหัวไถจนรู้สึกจั๊กจี้ เขาหัวเราะแล้วลูบหัวัคะนองน้ำน้อย “ไหนๆ เ้าก็กินไปแล้วข้าจักทำอะไรได้ล่ะ แต่คราวหน้าอย่าทำเช่นนี้อีก ไม่อย่างนั้นข้าจักจับเ้าตุ๋นซะ”
ัคะนองน้ำน้อยหน้าเปลี่ยนสี รีบพยักหน้าตอบรับทันที มันเลื้อยตัวลงมาโอบรัดแขนขวาของจูชิงก่อนที่จักผล็อยหลับไป
จระเข้ั์ดึกดำบรรพ์เปี่ยมล้นไปด้วยพลังปราณน่าสะพรึงเกินจะเอ่ย ถึงัคะนองน้ำน้อยจักเป็อสูรโบราณดึกดำบรรพ์ก็ต้องใช้เวลาหล่อหลอมพลังสักพักหนึ่ง
จูชิงมองไข่ั์สูงเท่ากับคนหนึ่งคนอย่างปวดขมับ ทิ้งมันไปทั้งแบบนี้ก็น่าเสียดาย ทว่าเขาไม่มีของล้ำค่าอย่างถุงเอกภพ แต่ถ้าต้องหิ้วมันไปไหนมาไหนทั้งแบบนี้คงลำบากไม่น้อย
โชคดีที่เอามันมาซ่อนข้างในถ้ำ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนขโมยมันไป ไว้มีโอกาสค่อยกลับมาเอามันกลับไปก็ยังไม่สาย
“โเี้เสียจริง!” กลับออกมาจากถ้ำจูชิงก็กวาดสายตามองศพที่กลาดเกลื่อนไปทั่วทุกหนแห่ง จระเข้ั์ดึกดำบรรพ์บ้าคลั่งสังหารสัตว์อสูรที่อยู่รอบตัวของมันจนหมดเกลี้ยง เดาว่าในรัศมีสิบลี้ไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่แล้ว
จูชิงได้เห็นความแข็งแกร่งและความดุร้ายของจระเข้ั์ดึกดำบรรพ์แล้ว ทว่าเขาที่ยังรอดพ้นจากเงื้อมมือมันมาได้ มิใช่โชคดีธรรมดาต้องเรียกว่าดีมากถึงมากที่สุด
แม้ว่าจูชิงอยากขโมยไข่จระเข้ั์ดึกดำบรรพ์อีกสักฟอง แต่ก็ทำได้แค่คิด ใครเล่าจักกล้าแหย่จระเข้ั์ดึกดำบรรพ์ขณะที่มันกำลังคลุ้มคลั่ง ถ้าไปมีหวังกลับมาศพไม่สวยเป็แน่แท้
“ตู้มม!” ทันใดนั้นท้องฟ้าสั่นะเื เปลวเพลิงลุกโหมผสมผสานกับอัสนี!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้