เขาตายแล้วงั้นเหรอ? หัวใจของหลงหว่านเอ๋อร์เต้นระส่ำ เมื่อครู่เธอมัวแต่พยายามจุดไฟจนไม่ทันได้สนใจพวกเขา ใบหน้าสวยเผือดสี เธอพอจะมองออกว่าเย่เฟิงสามารถหลบหลีกการโจมตีของอีกฝ่ายได้ ทว่าเพื่อปกป้องเธอ เขากลับขวางอยู่ข้างหน้า ดังนั้นจึง--
ระยะห่างระหว่างหลีฮวาและหลงหว่านเอ๋อร์มีเืสดๆ ของเย่เฟิงสาดกระจายแดงฉานราวกับนรกบนดิน
กระบวนท่าดาบ์ตัดวายุของหลีฮวายังคงดำเนินต่อไป แสงจากหมู่ดาวและแสงจันทร์มืดครึ้มลง ผืนทะเลสาบสะท้อนภาพรอบบริเวณคล้ายอยู่ในนรก
เพียงไม่นานคนทั้งคู่ก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เืที่สาดกระจายเ่าั้คล้ายไม่ใช่ของจริง? หยดเืที่กระเซ็นมาโดนตัวของพวกเขาเป็เหมือนหมอกที่ค่อยๆ เลือนหายไป แม้แต่กระบวนท่าดาบ์ตัดวายุที่สะบั้นร่างของเย่เฟิงเป็ชิ้นๆ ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ใช่
‘ไม่ถูกต้อง เป็แค่ภาพลวงตางั้นเหรอ?’ ภายในใจหลีฮวาเปลี่ยนเป็เคร่งขรึมเมื่อเห็นว่าตัวเองตกหลุมพรางศัตรู แต่แล้วก็ยกยิ้มมุมปากจ้องหลงหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ใกล้ตัวด้วยสายตาเป็ประกายราวเสือจ้องตะครุบเหยื่อ
แม้ความจริงภาพเืสาดกระจายเ่าั้จะทำให้เขาตกหลุมพรางได้แล้ว ทว่าอย่างไรความแข็งแกร่งของเขาก็คือของจริง อาศัยเพียงกลอุบายเล็กน้อย เด็กพวกนี้ไม่มีทางชนะเขาได้หรอก
“ไอ้ลูกเต่า ในเมื่อแกใช้เล่ห์กลหนีไปแล้ว งั้นก็ให้สาวสวยคนนี้รับกรรมแทนนายไปแล้วกัน!” หลีฮวาเลียริมฝีปาก ก่อนใช้กระบวนท่าดาบ์ตัดวายุอย่างต่อเนื่องและพุ่งเข้าหาหลงหว่านเอ๋อร์ หวังจะสับร่างเธอเป็ชิ้นๆ!
ในเวลานั้นรูม่านตาของหลงหว่านเอ๋อร์หดตัวลง เธอลุกขึ้นเพื่อหลบหนี ทว่าขาทั้งสองข้างาเ็จากเหตุการณ์ก่อนหน้าทำให้เคลื่อนไหวไม่ทัน!
และใน่วิกฤตินั้นเอง ร่างของเย่เฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นเงียบเชียบห่างจากด้านหลังของหลีฮวาเพียงสิบเมตร กระบี่เล่มยาวเปล่งประกายสีฟ้าครามซึ่งเกิดจากลมปราณ ก่อนตัดผ่านอากาศพุ่งใส่หลีฮวาอย่างดุดันและรวดเร็วราวสายฟ้าฟาด!
ฉัวะ!
เสียงอาวุธมีคมกรีดผ่านเนื้อ เืสดๆ สาดกระจายตามทางที่กระบี่วาดผ่าน ขณะที่ประกายกระบี่นั้นจางหายไป ดาบเล่มยาวของหลีฮวาก็ลอยขึ้นและหล่นลงไปตรงพุ่มไม้ด้านข้าง
“อ๊าก!!!” หลีฮวากรีดร้องอย่างน่าเวทนา ดังก้องท้องฟ้ายามค่ำคืน
ในที่สุดหลงหว่านเอ๋อร์ก็เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน ทว่าเธอกลับเห็นหลีฮวาถูกตัดแขนจนกุด ทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมกับเืไหลนอง สีหน้าและแววตาดูน่ากลัวมากเมื่อต้องพบกับความเ็ปอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
“เป็ไปได้ยังไง? กระบี่พลังปราณ... กระบี่พลังปราณจริงๆ” หลีฮวาพยุงร่างตัวเองขึ้นมาอย่างคนไร้กำลัง ก่อนหันกลับไปมองสายตาที่อยู่ภายใต้หน้ากาก สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดผวา
เมื่อครู่เป็กระบี่พลังปราณไม่ผิดแน่!
ในยุทธจักร ผู้คนส่วนใหญ่ทำได้เพียงต่อสู้ระยะประชิดเท่านั้น ยกเว้นคนสองประเภท คนประเภทแรกคือผู้เชี่ยวชาญอาวุธลับ ส่วนอีกประเภทก็คือผู้ที่สามารถดึงพลังจากภายในมาใช้ภายนอกได้ เช่นการแสดงออกในรูปแบบกระบี่พลังปราณ มีดพลังปราณ และอื่นๆ อีกมากมาย!
พ่อของหลงหว่านเอ๋อร์ ผู้นำตระกูลหลงอย่างหลงโม่หรานก็ถือเป็คนหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งมากพอจะใช้กระบี่พลังปราณได้ เพราะเขามีระดับพลังมากถึงห้าสิบปี แต่คนที่ใช้พลังลมปราณได้นับว่ามีจำนวนน้อยมากในยุทธจักร ชายสวมหน้ากากคนนี้เป็ใครกันแน่?
หลีฮวาไม่รู้เลยว่าการฝึกพลังลมปราณของเย่เฟิงไม่เหมือนกับคนอื่น และยิ่งไม่รู้เลยว่าพลังลมปราณกับพลังภายในไม่เหมือนกัน
พลังในร่างกายที่ถูกเรียกว่า ‘พลังภายใน’ มาจากความยากที่จะนำมันออกมาใช้ภายนอกได้ ทำได้เพียงโคจรอยู่ภายในร่างกายหรืออาวุธเพื่อเพิ่มพลังแก่ผู้ใช้ แต่ความสามารถของพลังลมปราณสอดคล้องกันตามธรรมชาติ ตามหลักวิถีเซียนส่วนใหญ่พลังลมปราณจะถูกปลดปล่อยออกมาภายนอกหลอมรวมเข้ากับฟ้าดินจากนั้นจึงเกิดประสิทธิผล
หลักการของทั้งสองอย่างนี้มีพื้นฐานแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้หลีฮวาจึงหวาดกลัว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งขนาดที่สามารถดึงกระบี่พลังปราณออกมาใช้ได้ เขาที่เป็นักดาบและมีระดับพลังลมปราณเพียงสิบกว่าปีย่อมไม่อาจต่อกรกับอีกฝ่ายได้!
แม้แต่การตายของไห่ถาง เขาก็ไม่คิดแก้แค้นแทนเธอแล้ว หลีฮวาใช้มือข้างที่เหลือห้ามเืแขนที่ขาด จากนั้นหยิบดาบเล่มยาวแล้วพุ่งตัวหนีออกจากหุบเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เขากลัวว่าโม่จิ่วเกอจะใช้กระบี่พลังปราณไล่ตามมา หากเป็อย่างนั้นคงไม่สามารถหลบหนีได้อีก เคราะห์ดีที่เย่เฟิงเพียงยืนมองเขาหลบหนีโดยไม่คิดไล่ตามไป
ความจริงเย่เฟิงก็อยากตามกำจัดอีกฝ่ายให้สิ้นซาก การปล่อยคนที่คุกคามตัวเองหลุดรอดไปได้ย่อมไม่ใช่นิสัยของเขา แต่ปัญหาคือชายหนุ่มไม่สามารถแสดงกระบี่พลังปราณอีกได้ ทั้งยังไม่มีแรงพอจะไล่ตามสังหารอีกฝ่าย
กระบวนท่ากระบี่ัสังหารเมื่อครู่ เป็เคล็ดวิชาที่แหวนกระบี่ัโบราณส่งเข้ามาในหัวของเขา กระบวนท่าแรกเป็เพียงขั้นพื้นฐานของกระบี่พลังปราณ ไม่มีอะไรพลิกแพลง แค่ปลดปล่อยพลังไปที่กระบี่ ซึ่งนั่นนับเป็การใช้พลังชี่ทั้งหมดในร่างของเย่เฟิง
“มรดกสืบทอดของกระบี่ัล้วนอยู่ในแหวนโบราณทั้งหมด...” เย่เฟิงหอบหายใจ กระบี่สีส้มเล่มยาวในมือของเขาพลันหายไปทันที หากไม่มีพลังชี่ก็ไม่สามารถทำให้กระบี่ดำรงอยู่ได้อีก กลับกลายเป็เพียงความว่างเปล่า
เย่เฟิงเพิ่งทำความเข้าใจท่วงทำนองแรกของกระบวนท่ากระบี่ัสังหารก็สามารถใช้ออกไปได้สำเร็จ หากเื่นี้แพร่งพรายออกไปคงทำให้ผู้คนประหลาดใจอย่างยิ่ง ว่านี่คือพร์อะไรกัน?
อย่างไรก็ตามสำหรับเย่เฟิงแล้วนับเป็เื่ปกติ ตอนอยู่ที่โลกเทวะ ทำไมซูเฟยหยิ่งผู้เป็ถึงเทพธิดาผู้เ็าซึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือถึงได้ชื่นชอบและรับเขาเป็ศิษย์กันล่ะ? มีเพียงเหตุผลเดียว— เด็กหนุ่มคืออัจฉริยะ!
สำหรับการฝึกวิถีเซียน ความแข็งแกร่งจะเป็ตัวบ่งบอกถึงระดับความสูงต่ำของพลังลมปราณ ทว่าพร์เองก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน
การบรรลุวิชาเซียนระดับง่าย เช่น การอำพรางตา การสะกดจิต เคล็ดเต่าัอุดลมปราณ บางคนอาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสิบวัน ทว่าเย่เฟิงใช้เวลาเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น คนที่มีพร์สูงส่งไม่เพียงแต่เข้าใจวิถีเซียนได้รวดเร็ว ยังใช้เคล็ดวิชาได้ล้ำลึกกว่าคนทั่วไป แม้จะใช้เคล็ดวิชาเดียวกัน ทว่าผลลัพธ์จะแข็งแกร่งและรุนแรงกว่าคนอื่น
ในโลกเทวะ ทุกเคล็ดวิชาล้วนมีระดับขั้น ผู้ที่มีพร์ต่ำจะสามารถฝึกได้เพียงขั้นแรก ในทางกลับกันผู้ที่มีพร์สูงส่งจะสามารถฝึกได้ถึงขั้นที่สอง ขั้นที่สาม...
ไม่รู้ว่ายุทธจักรจะมีเงื่อนไขแบบนี้อยู่หรือไม่...
เย่เฟิงไอออกมาสองครั้ง ในที่สุดเขาก็ไม่อาจฝืนตัวเองและทรุดตัวลงกับพื้น บริเวณอกและต้นขาของเขามีแผลฉกรรจ์ที่ลึกจนมองเห็นกระดูก อีกทั้งเืก็ยังไหลไม่หยุด
พลังดาบ์ตัดวายุของหลีฮวาไม่สามารถมองข้ามได้เลย มันทำให้เขาาเ็หนัก ถ้าการต่อสู้ยังดำเนินต่อ เย่เฟิงย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายคนนั้นแน่ โชคยังดีที่หลังจากชายวิปริตคนนั้นถูกตัดแขนไปข้างหนึ่งก็เกิดกลัวจนลนลานหนีไป
“เฮ้ นายเป็ยังไงบ้าง!” ภายใต้แสงดาวสาดส่องและควันไฟปกคลุมทั่วบริเวณ หลงหว่านเอ๋อร์รีบวิ่งโซเซไปหาเขาด้วยความกังวล จนกระทั่งเห็นว่าคนตรงหน้ายังมีลมหายใจอยู่
เมื่อเห็นาแฉกรรจ์ตรงอกและต้นขาของเขา อีกทั้งแผลขนาดเล็กประปรายบนร่างกาย เธอก็ปวดใจราวถูกมีดกรีด
“ฉันไม่เป็ไร แค่ก...” เย่เฟิงรู้สึกขบขันเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้หลงรักเขาขึ้นมาแล้วหรอกนะ?
“รอท่านพ่อของฉันมา แล้วกลับตระกูลหลงไปกับฉัน” หลงหว่านเอ๋อร์กำลังอารมณ์ไม่ดี คิ้วของเธอขมวดเป็ปม หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง อาการาเ็พวกนี้เพียงกลับตระกูลหลงแล้วใช้เวลารักษาสักเดือนก็กลับเป็ปกติแล้ว
ในความคิดของเธอ แค่พ่อของเธอมาถึงทุกอย่างก็จบ เมื่อพาผู้ชายคนนี้กลับไป ด้วยพร์ของเขา พ่อของเธอต้องชอบเขาแน่?
ไม่เพียงเท่านั้น...
“ยังมีอีกอย่าง นายถอดหน้ากากสิ ฉันไม่ดูถูกว่านายน่าเกลียดหรอก” หลงหว่านเอ๋อร์จ้องคนตรงหน้าก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดรำคาญเล็กน้อย
น่าเสียดาย คำขอทั้งสองอย่างที่พูดมา เย่เฟิงคงต้องทำให้เธอผิดหวังแล้ว เขาไม่สามารถให้เธอเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของตน อีกทั้งไม่สามารถกลับไปตระกูลหลงกับอีกฝ่ายได้ ไม่เช่นนั้นคงมีแต่์ที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้