สายตาของเซียวเฉินมีแววหนักใจมาก พริบตาก็เร่งเร้าพลังเสวียนทั่วร่าง ระแวดระวังสุดขีด เตรียมพร้อมรับศึกตลอดเวลา ถึงอย่างไร กลิ่นอายนั้นก็แข็งแกร่งเกินไป เซียวเฉินไม่ได้จากไปทันที แต่หลบอยู่ในถ้ำต่อ ที่นี่เป็สถานที่ปลอดภัยที่สุดภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ถูกพบเห็น
ทว่าครู่ต่อมา ถ้ำก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรง
เซียวเฉินรีบขยับร่าง เหินออกจากถ้ำและหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง
ในเมื่อถูกพบเห็น สุดท้ายก็หนีเอาชีวิตรอด ต้องสู้ไม่ได้แน่นอน แค่กลิ่นอายก็น่ากลัวปานนี้ ต้องมีความสามารถแข็งแกร่งแน่ หากปะทะกันคงตายไร้ที่ฝัง ดังนั้น ขณะที่ถ้ำถล่มลงมา เซียวเฉินก็หลบหนีอย่างรวดเร็ว พริบตาก็เหาะไปไกลหลายร้อยเมตร
ขณะที่เซียวเฉินนึกว่าปลอดภัยแล้วนั้น เสียงคำรามสัตว์ร้ายก็สะท้านฟ้าดิน
แม้แต่แผ่นดินยังะเื
เซียวเฉินมีสีหน้าปั้นยาก “ข้าเจอตัวอะไรกันแน่ น่ากลัวขนาดนี้!”
เซียวเฉินหันหน้าไปดู ใจก็เต้นรัวทันที
หากวานรั์ค้ำยันฟ้าที่เซียวเฉินฆ่าก่อนหน้านั้นถือเป็สัตว์ประหลาดั์ สัตว์ปิศาจด้านหลังของเซียวเฉินในตอนนี้ใหญ่กว่ามันสองเท่า ร่างสูงสิบกว่าเมตร หน้าตาดุร้ายเขี้ยวยาว โเี้อำมหิต ดูไม่ออกว่าเป็สัตว์ปิศาจอะไร น่าจะเป็พันธุ์ผสม เซียวเฉินหลบหนีไม่หยุด
แต่ระยะห่างใกล้เข้ามาทุกขณะ
เซียวเฉินอยากจะด่าทอ ทำไมเขาต้องเจอเื่โชคร้ายไปเสียหมดนะ
เซียวเฉินะโข้ามยืดระยะห่างทันที จากนั้น กระบี่หนักเบิกฟ้าก็หลุดจากฝัก ปราณกระบี่เปล่งอานุภาพทั่วนภา ดูเหมือนเบิกฟ้าจะแข็งแกร่งขึ้นตามความสามารถของเซียวเฉินที่เพิ่มขึ้น คมถึงขั้นตัวเซียวเฉินเองยังสะท้าน ปราณกระบี่มารวมกัน เซียวเฉินฟันออกโดยไม่คิดมากทันควัน
กระบี่นี้ว่องไวถึงขีดสุด เล็งเป้าสัตว์ปิศาจตัวนั้นในพริบตา
กระบี่นี้มีพลังสายฟ้า
คัมภีร์กระบี่ทัณฑ์์กระบวนท่าที่สอง ัตระหนกพิโรธ เก้าชั้นฟ้าเปี่ยมวายุคลั่งและอสนีบาต!
กระบี่ปรากฏทรงอานุภาพดุจเทพัลงสู่มหานที บรรจุอัสนีอันน่าตระหนก แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ตูม!
กระบี่จู่โจมลงด้านหน้าลำตัวของสัตว์ปิศาจอย่างหนักหน่วง ทำให้ฝุ่นคละคลุ้งลอยกระจายในพริบตา เซียวเฉินยิ้ม สิ่งที่เขา้าคือผลลัพธ์เช่นนี้ เขาแค่คิดจะหนี ไม่ได้คิดจะสู้กับสัตว์ปิศาจตัวนั้น ดังนั้น กระบี่นี้จึงแค่หลอกคู่ต่อสู้ เขาเก็บกระบี่แล้วหลบหนีอย่างว่องไว
แต่สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงคือ สัตว์ปิศาจตัวนั้นถึงกับมองแผนการของเขาออก
พ่นลำแสงจู่โจมเซียวเฉินอย่างรุนแรง
เซียวเฉินไม่ทันมีปฏิกิริยา รีบใช้กระบี่ต้านทาน ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น คมกระบี่มีประกายไฟกระเด็นรอบด้าน เบิกฟ้าร้องโหยหวน แขนทั้งสองข้างของเซียวเฉินยิ่งะเืเหมือนจะหลุด แม้แต่เนื้อหนังก็มีโลหิตสดไหลซึม ร่างกายถูกกระแทกลอยไปไกลร้อยเมตร โลหิตสดไหลลงมาจากมุมปากของเขา
โจมตีครั้งเดียว ทำให้เซียวเฉินาเ็หนัก
สัตว์ปิศาจตัวนี้น่ากลัวถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
ดวงตาของเซียวเฉินฉายแววใสุดขีด
“เ้าเดรัจฉานนี่ถึงกับมีความสามารถขั้นเสวียนฟ้าระดับสูงสุด...” เซียวเฉินทนความเ็ปทางกาย เอ่ยอย่างหวาดหวั่น
ตนเองมีความสามารถแค่ขั้นเสวียนฟ้าสี่ชั้นฟ้า จะต้านทานสัตว์ปิศาจขั้นเสวียนฟ้าเก้าชั้นฟ้าระดับสูงสุดได้อย่างไร?
นี่ไยมิใช่ไม่ประมาณตน แส่หาที่ตายหรือ...
ดวงตาของเซียวเฉินฉายแววหนักใจ จากนั้นมีความบ้าคลั่งปรากฏขึ้น
ยอมสู้ตายดีกว่าให้เ้าเดรัจฉานนี่ดูถูก!
วิ้ง!
ขยับกระบี่ชักนำอัสนี สายลมคลั่งหวีดหวิว ดวงตาของเซียวเฉินฉายแววบ้าคลั่ง
คัมภีร์กระบี่ทัณฑ์์กระบวนท่าที่สี่ อัสนีเทพลงสู่หล้าสะท้านจิ่วโจว ิญญาโศกเศร้าภายใต้ทัณฑ์์!
“ฟัน!”
เซียวเฉินคำราม เจตจำนงกระบี่อันน่ากลัวเล็งเป้าสัตว์ปิศาจตัวนั้น เวลานี้ อานุภาพที่แผ่ออกมาจากเบิกฟ้าเรืองโรจน์ประหนึ่งกระบี่นี้ผ่านภาได้!
นายแห่งกระบี่เข่นฆ่า ยามนี้ ไอสังหารพวยพุ่ง!
กระบี่แกร่งกร้าวปานนี้ เพื่อใช้สังหารสัตว์ปิศาจตัวนั้น!
ตูม!
รังสีกระบี่และสายฟ้าผสานเข้าด้วยกันแล้วร่วงมาจู่โจมสัตว์ปิศาจตัวนั้น ดวงตาของสัตว์ปิศาจตัวนั้นฉายแววเข่นฆ่า ปากพ่นลำแสงออกมาต้านทาน ระหว่างพวกเขามีเสียงดังสนั่นไม่ขาด แสงเสวียนต้านทานรังสีกระบี่และกลืนกินช้าๆ หลังจากกลืนกินอย่างต่อเนื่อง กระบี่นั้นก็ไม่เรืองโรจน์เช่นก่อนหน้านี้อีก
โฮก!
สัตว์ปิศาจพ่นลำแสงอีกครั้ง เพียงแต่ลำแสงสายนั้นแข็งแกร่งมาก
ราวกับการโจมตีครั้งนี้สามารถสังหารเซียวเฉินได้
เซียวเฉินฟันสามกระบี่ติดต่อกันจึงคลี่คลายได้ แต่แขนทั้งสองข้างมีโลหิตเปียกชุ่ม ชุดบนตัวถูกโลหิตย้อมเป็สีแดง ต่อให้เขามีร่างเทพอัสนีก็ยังรับการโจมตีที่แข็งแกร่งระดับนี้ไม่ไหว ถึงอย่างไร สัตว์ปิศาจตัวนั้นก็แข็งแกร่งกว่าเขาหกขั้น
การโจมตีอย่างต่อเนื่องทำให้เซียวเฉินถูกกระทำและตกเป็ฝ่ายรับโดยสมบูรณ์
เซียวเฉินถูกอัดกระเด็นซ้ำๆ กระอักโลหิตสดออกจากปากไม่หยุด
“หรือว่าข้าเซียวเฉินต้องตายด้วยเงื้อมมือของเดรัจฉานตัวหนึ่ง...” อดทนต่อความเ็ปทั่วร่าง เอ่ยพึมพำ ดวงตาฉายแววไม่ยินยอมอย่างยิ่ง มุมปากมีรอยยิ้มขมขื่น
ในเวลานี้เอง หยกประดับของเซียวเฉินเปล่งแสงจรัสปกคลุมเขาไว้ภายในอีกครา
จากนั้น พลังกดดันอันป่าเถื่อนพวยพุ่งออกมาสยบฟ้าดิน
ขอบตาของเซียวเฉินร้อนผ่าวอีกครั้ง
“ขอบคุณท่านแม่...” ขอบคุณท่านแม่ที่ปกป้องข้ามาตลอด…
เซียวเฉินไม่คิดจะสู้พัวพันต่อไป ไม่เช่นนั้น ถึงมีหยกประดับที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ ก็อาจจะหนีจากกรงเล็บของเ้าเดรัจฉานตัวนี้ไม่รอด ดังนั้น เซียวเฉินจึงอาศัยโอกาสนี้หลบหนีอีกครั้ง เหาะตะบึงมาตลอดทาง
ทว่าไปได้ครึ่งทางเซียวเฉินก็ชะงักเท้า
เพราะเบื้องหน้าคือผาชัน
ไปข้างหน้าอีกก้าวคือเหวลึกหมื่นจั้ง ด้านหลังก็มีสัตว์ปิศาจคร่าชีวิต!
ใบหน้าของเซียวเฉินมีรอยยิ้มขมขื่น
“โฮก!” สัตว์ปิศาจเงยหน้าขึ้นกู่ร้องยาวนานเหมือนบอกว่าเซียวเฉินหมดหนทางหลบหนีแล้ว
แต่ใบหน้าของเซียวเฉินกลับมีรอยยิ้ม เขามองสัตว์ปิศาจตัวนั้นแล้วเอ่ยยิ้มๆ ว่า “เดรัจฉาน ข้าจะโดดหน้าผาไม่ให้เ้ากินข้า เ้าจำไว้นะ หากข้าไม่ตาย ข้าจะตามหาเ้าจนสุดหล้าและป่นกระดูกเ้าให้เป็ผุยผง!” เซียวเฉินกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มกลับทำให้คนสั่นสะท้าน
จากนั้น เซียวเฉินก็ะโลงหน้าผา
สัตว์ปิศาจไม่ได้ก้าวขึ้นหน้า ดวงตาถึงขั้นมีแววพรั่นพรึง
ราวกับมีตัวอะไรใต้หน้าผาทำให้มันรู้สึกหวาดกลัว
หลังจากหมุนวนตรงนี้หลายรอบก็หมุนตัวจากไปอย่างรวดเร็ว...
ร่างของเซียวเฉินร่วงลงไปไม่หยุด เซียวเฉินเคยประสบความรู้สึกบนขอบเหวแห่งความเป็ตายมาแล้ว ดังนั้น เขาไม่กลัว เขาะโหน้าผาบางทียังมีโอกาสรอด แต่หากเขาไม่ะโ ต้องตายแน่นอน
ร่างกายถูกไอเย็นใต้หน้าผาแทรกซึม ตลอดร่างหนาวจนทำให้เซียวเฉินแทบหมดสติ
“หนาวมาก...”
เซียวเฉินค่อยๆ หมดสติ ร่างกายเย็นเยียบถึงขีดสุด โลหิตจะผนึกแข็ง ร่างกายแข็งทื่อ ยามนี้มีแววว่าจะตาย ระหว่างที่เซียวเฉินสติเลอะเลือนอยู่นั้น การรับรู้พลันตะลึงงัน จากนั้นปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมาขับไล่ไอเย็น เซียวเฉินอาศัยแสงเพลิงมองก้นเหว
สีหน้าถึงกับอึ้ง
หรือว่าที่นี่เป็ดินแดนอีกแห่ง
เนื่องจากเขาเห็นวังแห่งหนึ่งที่ก้นเหว แม้ทรุดโทรม แต่สภาพโออ่าอย่างเห็นได้ชัด
เซียวเฉินเร่งเร้าพลังเสวียน ควบคุมความเร็วในการตกของตนเองให้ร่วงลงก้นเหวช้าๆ
วังที่เข้าสู่คลองจักษุทำให้เซียวเฉินเหม่อลอย
แม้ดูแล้วทรุดโทรมมาก แต่กลิ่นอายกลับแผ่ไพศาล ทำให้คนใจสะท้าน
หรือว่าที่นี่จะมีความลับอะไร?
คิดถึงตรงนี้ เซียวเฉินก็สะกดความตื่นเต้นในใจ ผลักประตูวังเปิดออกช้าๆ...