เมื่อรู้ว่าคนคนนี้แท้จริงแล้วคือหลิงหยุนดาบเดียวที่อยู่ในรายการจัดอันดับเลเวลหัวใจของเหลยเป้าก็กระตุกวูบจากนั้นเขาก็เริ่มนึกเสียใจขึ้นมา พี่ใหญ่เหลยเป้าแห่งโบสถ์จิติญญาแห่งาคนนี้ไม่ได้อยู่ในรายชื่อสิบอันดับแรก......... หรือแม้แต่สามสิบอันดับแรกด้วยซ้ำ
และด้วยประโยคน่าอับอายที่เขาพูดขึ้นมาก่อนหน้านี้เขาก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าดวงตาทั้งคู่ที่มองมาที่เขาสามารถทำให้เขาหวาดกลัวได้มากขนาดไหน ในใจของเขาถูกปกคลุมไปด้วยไอสังหารอันน่ากลัวชวนหนาวสั่น และทันใดนั้นดวงตาเย็นเยียบก็เย็นะเืมากยิ่งขึ้น ความน่ากลัวอันหนาวเหน็บทำให้เขารับรู้ได้ถึงหัวใจที่สั่นไหว เวลาที่ดวงตาของชายคนนั้นจ้องมองมาเพียงไม่กี่วินาทีหน้าผากของเขาก็ปรากฏเหงื่อเย็นเยียบไหลซึมทออกมา
คนที่สามารถมีดวงตาเช่นนี้ได้จะต้องเป็คนที่น่ากลัวมากอย่างแน่นอน............. ในเวลานี้เขามั่นใจมาก
“เอาล่ะๆ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันไม่เคยรู้จักนายมาก่อนเลย เพราะงั้นนายมาทางไหนก็ไสหัวกลับไปทางนั้นซะ!” เหลยเป้าโบกมือไปด้วยท่าทางสงบเยือกเย็น แม้ว่าเขาจะพูดออกไปอย่างแข็งกระด้าง แต่ใครก็ฟังออกมาว่ามันแปลกๆ
หลิงหยุนดาบเดียวไม่เคลื่อนไหว ดาบสองมือในมือของเขาแผ่ไอสังหารอันเย็นเยียบล็อกเป้าไปที่ร่างของเหลยเป้า ดวงตาทั้งคู่ของเขาเปล่งประกายเ็าในแบบที่คนธรรมดาไม่น่าจะมี แค่ดวงตาเช่นนี้ก็เป็การพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา.........เพราะมีแค่คนที่เคยฆ่าคนมาก่อนและคนที่ไม่สนใจชีวิตคนเท่านั้นถึงจะปรากฏสายตาแบบนี้ได้
ดวงตาของเขาเหมือนกับเย่เทียนเซี่ยเวลาโกรธเกรี้ยว
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากลงมือ แต่ว่า.............ภายในตัวเมืองห้าม PK ไม่เพียงเขาจะไม่สามารถสังหารเหลยเป้าได้ กลับกันเขาอาจจะถูกทหารประจำเมืองเทียนเฉินจับกุมและถูกลงโทษอย่างหนักหน่วงก็เป็ได้ แต่ถ้าไม่ลงมือ......... เขาจะทนต่อการดูถูกของเหลยเป้าได้อย่างไร
ไม่ว่าใครถูกสายตาเช่นนี้จ้องมองก็ล้วนไม่เป็ตัวของตัวเองทั้งสิ้น สายตาแบบนี้ทำให้เหลยเป้ารู้สึกเหมือนกับถูกมีดแหลมคนเชือดเฉือน หลักจากผ่านไปพักหนึ่งในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว เขาปล่อยวางความกลัวทั้งหมดแล้วะโออกมาเสียงดัง “ไอ้ลูกเต่า! แกหูหนวกเหรอ! โง่หรือไง! ฉันบอกให้แกไสหัวไปไม่ได้ยินหรือไง! รีบไสหัวไปซะ! ถ้าไม่รีบไสหัวไปฉันจะฆ่าแกให้ตายเลย!!”
ไอสังหารที่ทำให้หัวใจของผู้คนสั่นไหวขยายตัวขึ้นมาทันที ดาบของหลิงหยุนดาบเดียวถูกชี้ไปด้านหน้าแล้วทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้าใส่เหลยเป้า
จริงๆแล้วเหลยเป้าไม่กลัวการโจมตีของหลิงหยุนดาบเดียวเลยแม้แต่น้อย เพราะการ PK ในตัวเมืองไม่ว่าใครถูกหรือผิดฝ่ายที่ลงมือก่อนเป็คนแรกจะถูกทหารประจำเมืองสกัดและจับกุม หลิงหยุนดาบเดียวเป็ผู้เล่นที่อยู่ในอันดับที่เจ็ดของรายดารจัดอันดับ เป็คนที่ไม่ควรหาเื่ด้วย แต่เหลยเป้ามีนิสัยหยิ่งยะโส ไม่เคยยอมประนีประนอมกับใคร ยิ่งรวมกับโบสถ์จิติญญาแห่งาที่เป็แบคอัพของเขาแล้ว เขาที่เป็ส่วนหนึ่งของกองกำลังอันยิ่งใหญ่จึงไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา
ความเร็วของหลิงหยุนดาบเดียวเร็วมาก เร็วจนทำให้คนอื่นพูดไม่ออก อาชีพนักรบแต่ความเร็วที่แสดงออกมาราวกับนักฆ่า ร่างของเขาพุ่งเข้าไปได้ครึ่งหนึ่งทันใดนั้นสายลมโหมกระหน่ำก็ส่งเสียงหวีดหวิวขึ้นมาท่ามกลางท้องฟ้า ตรงหน้าร่างของเขาปรากฏเงาของคนๆหนึ่งขึ้นมาทันที............... ราวกับคนๆนั้นปรากฏตัวขึ้นมาในชั่วพริบตา
การกระทำของเขาหยุดชะงักไปทันทีเขาใช้สายตาน่ากลัวอันเย็นเยียบจ้องมองไปยังคนที่อยู่ตรงหน้าเขา ความเร็วเมื่อกี้ของคนที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นมาทำให้เขาตกตะลึงและเริ่มสำรวจชายคนนี้อย่างละเอียด และเมื่อเขายิ่งตรวจสอบเขาก็ยิ่งตกตะลึง
คนที่หยุดหลิงหยุนดาบเดียวเอาไว้ก็คือเย่เทียนเซี่ย แน่นอนว่าเขาไม่ได้ใจดีถึงขนาดจะต้องกังวลว่าการโจมตีของหลิงหยุนดาบเดียวจะทำให้ชายหนุ่มถูกทหารประจำเมืองเทียนเฉินจับกุม แต่ว่า.............. เหลยเป้าคนนี้ยัง ยังไม่ถึงคิวที่ชายคนนั้นจะลงมือ
“เจอกันอีกแล้วนะ” เย่เทียนเซี่ยหัวเราะเสียงเย็นแล้วเดินเข้าไปหาเหลยเป้าช้าๆ
เย่เทียนเซี่ยในตอนนี้ได้เปลี่ยนมาใส่เขี้ยวัปีศาจและเขี้ยวั์ อีกทั้งเขายังสวมหน้ากากผู้กล้าไว้บนใบหน้า ด้านหลังก็ปกคุมไปด้วยเสื้อคลุมิญญา ทั้งร่างของเขาทำให้เขาโดดเด่นขึ้นมาและส่งผลให้เกิดเสียงซุบซิบมากมาย
เกราะมือ หน้ากาก ผ้าคลุม ไม่ว่าไอเทมใดในจำนวนสามชิ้นนี้ก็มากพอที่จะดึงดูดสายตาตื่นใของผู้คนได้ทั้งสิ้น ไม่ต้องพูดอะไรมากแค่เกราะมือที่มีหัวัสลักอยู่ หน้ากากที่ยิ่งไม่มีใครเคยพบเคยเห็นมาก่อน และผ้าคลุม............ ด้วยความพิเศษของไอเทมผ้าคลุมเพียงแค่มีสักชิ้นก็เป็เื่ที่สามารถทำให้ผู้คนอิจฉาได้แล้ว นอกจากนี้้าเสื้อคลุมิญญายังส่องแสงสีเทาออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย และด้วยแสงสีทองบางเบาที่เปล่งประกายออกมาก็ทำให้ผู้คนตื่นเต้นขึ้นมาอีกหลายเท่า
และเหลยเป้าคนนั้น ในตอนที่เขาเพิ่งจะกลับเข้าเมืองเทียนเฉินมามันคือคนที่พยายามจะแย่งชิงเกราะมือของเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเกรงใจใดๆทั้งสิ้น ตอนนั้นเขาเคยกระซิบบอกไปแล้วว่าอย่าให้เขาได้เจอมันในป่าอีก.......... แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ต้องรอไปถึงในป่าซะแล้ว
เหลยเป้าจำเขาได้ในทันทีเพราะไอเทมของเขานั้นโดดเด่นสุดๆ หลังจากความแปลกใจเขาก็ย่นจมูกแล้วยิ้มเย็นขึ้นมา “เป็แก...........”
“แก” คำนี้ยังไม่ทันจบแรงกดดันมหาศาลก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา
ปั้ง!!
-1340!
ท่ามกลางความใและแปลกใจเงาดำขนาดใหญ่สายหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในมือของเย่เทียนเซี่ยก็พุ่งออกไปทางเหลยเป้าทันที
โจมตีถึงตาย! บนจุดที่อาวุธปะทะกับร่างเนื้อกลับปรากฏเสียงะเิอย่างน่าเหลือเชื่อดังออกมาราวกับหินสองก้อนพุ่งชนกันอย่างไรอย่างนั้น
การลงมือของเขาไร้ความลังเล ไม่มีความปราณี แม้กระทั่งจะให้เวลาฝ่ายตรงข้ามพูดมากกว่านี้สักหน่อยก็ยังไม่ได้ นี่มันเหนือความคาดหมายของผู้คนโดยรอบลิบลับ
และอาวุธแปลกๆที่มีรูปร่างชวนตกตะลึงนั้นยังสามารถสร้างตัวเลขความเสียหายได้เกินพันจนทำให้ผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในที่แห่งนั้นเบิกตาค้างด้วยความช็อค
มันคืออะไร............. มันเป็ดาบแปลกๆอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าเป็ค้อนพิเศษ?
และตัวเลขความเสียหายนั่น.............. การโจมตีหนึ่งครั้งของเขาสร้างความเสียหายได้เกินพัน!
คนๆนี้เป็ใคร? หรือจะเป็NPC? ใช่แล้ว จะต้องเป็NPC แน่ๆ ผู้เล่นใน่เวลานี้จะมีพลังโจมตีโอเวอร์แบบนั้นได้ยังไง
พลังชีวิตของเหลยเป้าถูกเย่เทียนเซี่ยกวาดไปจนเกลี้ยงภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ร่างของเขาทรุดลงบนพื้นและตายลงไป เมื่อเสียงแจ้งเตือนว่า “ท่านเสียงชีวิตแล้ว” ดังขึ้นข้างหูประสาทการรับรู้ของเขาก็ไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา
“เฮ้อ พี่รองก็เป็ซะอย่างนี้ สำหรับคนที่สมควรตายเขาก็ี้เีเสียปากพูดอะไรมากมาย แม้แต่จะถามฝ่ายตรงข้ามให้ละเอียดก็ยังี้เีทำเลย.......... อืม คนๆนั้นดูเหมือนจะเป็เ้าสามของตระกูลเหลยสินะ” จั้วพั่วจวินที่ยืนอยู่กลางกลุ่มคนพูดขึ้นมาอย่างสงสาร
“ว๊าว! คุณชายสามแห่งตระกูลเหลยผู้โชคดี ในโลกใบนี้สิ่งที่เขาสูญเสียก็แค่ระดับแค่นั้นเอง เขาน่าจะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองขอบคุณที่เื่นี้ไม่ได้เกิดขึ้นในโลกจริง.........โอ้! แน่นอนล่ะ ถ้าสมองอันน่าสงสารของเขามีจิตสำนึกซะบ้าง เื่ราวอันน่าสลดจะเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเราได้ยังไง”
และเมื่อเหลยเป้าล้มลงไป ตรงหน้าของเย่เทียนเซี่ยก็เปล่งแสงสีขาวขึ้นมาสองดวง ดาบทหารประจำเมืองเล่มใหญ่ที่ส่องประกายเย็นะเืก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขา แล้วเสียงดังก้องก็ดังขึ้นมา “เซี่ยเทียน เ้าฝ่าฝืนกฎของเมืองเทียนเฉิน ทำให้เกิดการต่อสู้ภายในเมือง พวกเราจำต้องทำการจับกุมเ้า เชิญเ้าตามพวกเรามาด้วย หากต่อต้านโดยไม่มีเหตุผลเ้าจะได้รับโทษหนักหลายเท่า!”
เซี่ยเทียน!?
เขาคือเซี่ยเทียน!?
เมื่อชื่อเซี่ยเที่ยนถูกป่าวประกาศออกมาจากทหารประจำเมืองก็ทำให้เสียงถกเถียงกันของกลุ่มคนยิ่งดังขึ้นอีกเท่าหนึ่ง ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างจนถึงที่สุดแล้วมองไปยังชายที่แสนลึกลับด้วยความมึนงง ผู้เล่นเกินครึ่งใช้กำไลข้อมือของตัวเองถ่ายรูปหรือบันทึกวีดีโอเอาไว้ทันที
ใน่มือใหม่ชื่อของเซี่ยเทียนได้ถูกประกาศขึ้นมาใน World of Fate เนื่องจากเขาสามารถผ่านการทดสอบระดับนรกได้ และการเลื่อนอันดับอย่างรวดเร็วในการการจัดอันดับเลเวลก็ยิ่งทำให้เขาสร้างตำนานขึ้นมาใหม่อีกบท จนถึงตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเซี่ยเทียน.......... แต่พวกเขากลับไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีคนเคยพบชายผู้แข็งแกร่งและลึกลับเป็อันดับหนึ่งของเขตหัวเซี่ยใน world of Fate ......... และวันนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการปรากฏตัวในที่สาธารณะเป็ครั้งแรกของเขาจะทำให้ผู้คนตื่นเต้นแค่ไหน
การโจมตีของเขาน่ากลัวมาก น่ากลัวเกินกว่าที่พวกเขาทั้งหมดจะจินตนาการได้ ความเสียหายเกินพัน ใน่เวลานี้ต่อให้เป็นักเวทย์ไฟและนักเวทย์สายฟ้าที่แข็งแกร่งก็ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายเกินหนึ่งพันได้ แต่เซี่ยเทียนกลับทำได้แล้ว เขาทำเื่ที่ผู้เล่นในปัจจุบันไม่สามารถทำได้ ขณะเดียวกันไอเทมบนร่างของเขาก็แสดงให้เห็นถึงความไม่ธรรมดาของเขาแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนใเหมือนกันก็คือ....... พูดว่าจะทำก็ทำเลย ไม่ลังเล ไม่ปราณี และไม่ชักช้า แม้ว่าตอนนี้จะอยู่กลางเมืองก็ตาม
เขาเหมือนกับตัวประหลาดหรือบัคที่ไม่ควรมีอยู่ใน World of Fate............. ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป ภายในโลกเดียวกันนี้เขาใช้อะไรในการทำสิ่งเหล่านี้กันนะ
และตอนนี้สิ่งที่พวกเขามองเห็นกลับเป็ปัญหาขนาดใหญ่ที่เซี่ยเทียนกำลังเผชิญ......... หลังจากการเริ่ม PK ผู้เล่นก่อนในเมืองจะต้องพบกับการลงโทษ....... ผู้ที่ทำการ PK ในเมืองจะถูกทหารประจำเมืองจับกุมและถูกนำไปคุมขังเป็เวลาสามชั่วโมง ถ้าขัดขืน......... นั่นจะยิ่งดีเพราะทหารประจำเมืองเหล่านี้จะลงดาบอย่างไม่ลังเล และไม่เพียงจะถูกขังอยู่ในคุกแต่ยังจะถูกลงโทษอย่างโหดร้ายยิ่งขึ้นด้วยการลดระดับและปรับไอเทมอีกด้วย
เซี่ยเทียนจะเชื่อฟังหรือว่าเขาจะขัดขืน? เชื่อฟัง? หลังจากฆ่าตนท่ามกลางสายตาของคนหมู่มากและยังถูกจับต่อหน้าคนหมู่มากด้วย ดูเหมือนว่านี่จะเป็ภัยต่อชื่อเสียงของเขาเสียแล้ว ขัดขืน? ผู้เล่นจะสามารถขัดขืนทหารประจำเมืองได้อย่างไร
และแล้วฉากที่ทำให้ผู้คนต้องเบิกตาโตจนแทบถลนออกจากเบ้าก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
เย่เทียนเซี่ยหยิบเหรียญทองแดงเหรียญหนึ่งออกมาดวงตาของทหารประจำเมืองอึ้งค้างไป มันคือเหรียญที่ผู้เล่นคนอื่นๆไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่มีใครมองตัวอักษรบนเหรียญได้อย่างชัดเจน ดวงตาของทหารประจำเมืองหยุดอยู่ที่เหรียญนั้น จากนั้นท่าทีแข็งกร้าวก็ผ่อนคลายลงทันที ทหารประจำเมืองทั้งสองค่อยๆโค้งคำนับเย่เทียนเซี่ยช้าๆ จากนั้นก็หายไปเป็แสงสีขาวสองดวงเหมือนตอนที่พวกเขามาถึงต่อหน้าผู้คนมากมายทันที
สิ่งที่เย่เทียนเซี่ยควักออกมาคือคำสั่นนิรโทษกรรมที่เขาได้รับมาจากเ้าเมืองเทียนเฉิน ผู้คนโดยรอบยังคงไม่ได้สติจากเหตุการณ์ตรงหน้า
เย่เทียนเซี่ยเดินมาถึงข้างกายของเฉินซิน เขามองเข้าไปยังดวงตาทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยม่านน้ำตาของเธอแล้วยิ้มออกมาน้อยๆ “เอาล่ะ ไม่มีอะไรแล้ว ถ้าต่อไปมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเธอเรียกฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ”
เฉินซินพยักหน้าเบาๆจากนั้นก็เปลี่ยนเป็แรงมากขึ้น ทันใดนั้นเธอก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมา.......... ร้องไห้ออกมาดังๆ
เธอเคยชินกับการใช้ไหล่และหัวใจอันบอบบางจัดการทุกสิ่ง เธอเคยชินกับความโดดเดี่ยวและไร้ความช่วยเหลือ ความอบอุ่นที่หายไปนานแล้วความรู้สึกของการพึ่งพาช่างอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน ในตอนที่เธอสิ้นหวังเขาก็ช่วยเธอเอาไว้ แล้วยังให้ความหวังอันเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวากับเธออีก....... ตอนนี้เป็อีกครั้งที่เธอตกอยู่ใน่เวลาที่ไร้ความช่วยเหลือแบบสุดๆ แล้วเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาข้างกายเธอโดยไร้เหตุผลใดๆ ความประทับใจในตอนนี้มากพอที่จะประทับอยู่ในใจของเธอชั่วชีวิต