ถึงแม้เวลานี้ัทะเลทรายจะไม่ได้พาลโมโหมาที่พวกเขา แต่ทุกคนก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี!
ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าทำไมเ้าัทะเลทรายถึงได้เล็งเป้าไปที่ิอวี่ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าัทะเลทรายที่บ้าคลั่งแบบนี้ ิอวี่จะรับมือกับมันได้อย่างไรกัน?
อสูราาขั้นที่สี่ระดับสูงสุดเดิมก็สามารถเล่นงานกดดันผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองได้อยู่แล้ว ในเวลาที่มันกำลังคลั่ง การฆ่าิอวี่ให้ตายทำได้เหมือนแค่บีบมด
ในใจของทุกคนรู้สึกว่าโชคดี
ิอวี่วางแผนการมากมาย แถมใจกล้าเอาตัวเองไปเสี่ยงอีก ทั้งยังใช้วิธีการสลับตัว มาถึงขั้นนี้แล้วกลับล้มเหลวทุกอย่าง และสุดท้ายอย่างไรก็หนีความตายไปไม่พ้น
“นี่คือชะตากรรม”
ที่ปากของลั่วอิงนั้นมีอากาศลอยออกมา นางถอนหายใจเอาความไม่พอใจในตัวิอวี่ออกมาจนหมด
ส่วนซูอี้หรานก็ไม่ได้สนใจที่จะใส่เสื้อผ้าเลย ตัวของเขาดำเป็ตอตะโกหมอบอยู่ด้านหลังของอสูรสัตว์ปีก ดวงตาจับจ้องไปที่ิอวี่อย่างเดียว เมื่อผ่านประสบการณ์มาหลายต่อหลายครั้ง ครั้งนี้เขาเชื่อแล้วว่าิอวี่นั้นสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้อีกครั้งแน่นอน
ดังนั้น ในเวลานี้ซูอี้หรานก็ได้แต่แอบภาวนาในใจ
เขาภาวนาว่า ขออย่าให้ิอวี่นั้นสร้างปาฏิหาริย์อะไรได้อีกเลย ิอวี่จะต้องตาย ิอวี่จะต้องตาย ... จะต้องตาย ... จะต้องตาย ...
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังคิด ัทะเลทรายก็เข้าใกล้ิอวี่มากขึ้นเรื่อยๆ มันควบคุมทรายให้พุ่งขึ้นสูงกว่าร้อยเมตรจนเกิดลมกระหน่ำรุนแรง เหมือน้าซัดให้ิอวี่จมหายไปในทะเลทราย!
“วิหคั เื่มาถึงขั้นนี้แล้ว อยู่ที่เ้าล่ะนะ! ข้าเชื่อใจเ้านะ!” ิอวี่เกาะอยู่ที่คอของเ้าวิหคัปีกมืด เขาเกาะมันเอาไว้แน่น พวกเขาใจสื่อถึงกัน จิตสำนึกของเขาอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ส่วนวิหคัปีกมืดก็คิดอยากจะหนี ซึ่งก็คิดเหมือนกันเลย
แม้ว่าจะมีอุปสรรคและอันตรายมากมาย แต่ความตั้งใจที่จะฝ่าฟันมันก็ไม่ได้ถูกทำลายลง!
วิหคัปีกมืดกระพือปีกทั้งสองของมันอย่างบ้าคลั่ง เืลมไหลเวียนรุนแรง ร่างกายของมันเร็วขึ้นเรื่อยๆ เริ่มท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง
ถึงแม้วิหคัปีกมืดจะเป็แค่อสูรระดับสิบ แต่มันก็มีสายเืของัอยู่ ถึงแม้พลังของมันจะสู้ัทะเลทรายไม่ได้เลย แต่พร์ในการบินบนฟ้า ัทะเลทรายก็สู้มันไม่ได้เหมือนกัน!
มันแบกิอวี่กับเิหยูเยียนบินฝ่าทะลวงฝุ่นทรายไปด้านหน้าท่ามกลางความสั่นะเืของอากาศอย่างบ้าคลั่ง
“โฮก!”
เมื่อัทะเลทรายเห็นว่าการโจมตีของมันไม่ได้ผลก็ยิ่งโกรธกว่าเดิม ร่างกายของมันเคลื่อนไหว เกล็ดับนตัวเริ่มสั่นจนเกิดเสียงขึ้นมา ครั้งนี้ มันดึงเอาพลังออกมามากขึ้นกว่าเดิม ควบคุมทรายตรงหน้าให้ซัดใส่วิหคัปีกมืดเป็ระลอก
มันเป็การโจมตีรอบด้าน วิหคปีกมืดถูกล้อมแบบไร้ทางหนี
ิอวี่รวบรวมสมาธิ ยื้อเวลาเมื่อครู่ให้ผ่านไปประมาณห้าวินาทีแล้ว เหลือแค่อีกห้าวินาทีก็จะสามารถหนีออกจากที่นี่ได้แล้ว เขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร!
“วิหคั บินพุ่งลงไปในทะเลทรายดูดเลย เร็วเข้า!”
สถานที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด กลางอากาศมีฝุ่นทรายปะทะเข้ามามากมาย แต่ในเวลานี้ในทะเลทรายดูดนั้นปลอดภัย!
“โฮก!”
วิหคัปีกมืดส่งเสียงร้องขึ้นมา จากนั้นก็ทำตามคำสั่งของิอวี่พาพวกเขาสองคนมุดลงไปในทะเลทรายดูด เมื่อเห็นฝุ่นมหึมาและทรายจำนวนมากตกลงมาจากทุกทิศทุกทาง เ้าวิหคัปีกมืดก็ดำดิ่งลงไปในทรายดูดทันที ระนาบของทะเลทรายดูดสามารถต้านทานผลกระทบอันน่าสะพรึงที่น่ากลังของฝุ่นทรายได้เป็อย่างดี
ิอวี่ได้ยินแค่เสียงะเิดังก้องมาจาก้า จิตสำนึกของเขาเหมือนจะมึนๆ นิดหน่อย แต่ในเวลานี้ไม่มีเวลาให้เ็ป เขาพยายามกัดฟันตั้งสติและส่งคำสั่งออกไปอีกครั้ง
ในเวลานี้ ัทะเลทรายเห็นิอวี่มุดลงไปในทะเลทรายดูด มันก็ดึงเอาพลังจิต อยากจะควบคุมทรายที่อยู่ด้านล่างเล่นงานวิหคัปีกมืด
แต่วินาทีที่มันกำลังใช้พลังจิต วิหคัปีกมืดก็พุ่งออกมาจากทะเลทรายดูดอีกครั้ง ครั้งนี้มันไม่ได้บินไปด้านหน้า แต่บินขึ้นสูง!
ิอวี่้าหลุดออกจากกรอบการควบคุมของัทะเลทราย!
ในเวลาคับขัน ิอวี่ใช้ความคิด เขารู้ว่าเมื่อครู่สามารถหลบการโจมตีของัทะเลทรายได้มันอาจจะเป็เื่บังเอิญ หากเขาบินไปด้านหน้าอีกก็จะถูกทรายล้อมเอาไว้เหมือนเดิม หากใช้แผนเดิม ัทะเลทรายก็จะต้องระวังตัวเพิ่มขึ้น ถ้าคิดจะมุดลงทะเลทรายดูดมันน่าจะเล่นงานเขาทันทีแน่นอน!
เพียงเวลาไม่กี่อึดใจ เขาก็คงถูกฆ่าตายแน่นอน
ทะเลทรายดูดนั้นไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็ระนาบ ไม่ว่าิอวี่จะบินพุ่งตรงไปด้านหน้าไกลแค่ไหนก็ไม่มีทางหลุดจากการควบคุมของัทะเลทรายไปได้ในระยะเวลาสั้นๆ แน่นอน วิธีเดียวที่ทำได้ก็คือบินพุ่งขึ้นสูงถึงจะสามารถเว้นระยะห่างออกไป และหลุดจากการโจมตีของัทะเลทรายได้!
แล้วทำไมัทะเลทรายถึงจะไม่รู้ความคิดของิอวี่กันล่ะ มันควบคุมฝุ่นทรายะเิตัวพุ่งขึ้นสูงหลายสาย เพื่อ้ากลืนเ้าวิหคัปีกมืดให้จม!
ิอวี่เกาะคอเ้าวิหคปีกมืดแล้วควบคุมให้มันโยกเอียงและหมุนเพื่อสลัดฝุ่นทรายที่ซัดมาที่ตัวของเขา และบินพุ่งสูงไปบนท้องฟ้าอีก
“วิหคั สามวินาทีสุดท้าย ใช้ความเร็วที่สุดบินพุ่งขึ้นไปเลย!!!”
“โฮก! ... ”
วิหคัปีกมืดะเิปีกของมันออกทั้งหมด แสงสีทองอร่ามหมุนวนรอบปีกของมัน และปล่อยพลังออกมาจนหมด มันเหมือนดวงดาวที่ส่องประกายแสงระยิบระยับ!
ส่วนเิหยูเยียนที่อยู่ด้านหลังของิอวี่ก็โอบเอวของเขาเอาไว้แน่น หน้าของนางซุกอยู่บนแผ่นหลังของิอวี่ หลับตาสนิทไม่กล้ามองอะไรเลย!
“โฮก!!!”
ัทะเลทรายบ้าแล้ว มันคิดไม่ถึงเลยว่าวิหคัปีกมืดจะมีความเร็วมากขนาดนี้ ใช้ทะเลทรายดูดยังไม่สามารถตามได้ทัน มีแค่ ...
ทันใดนั้นเอง ัทะเลทรายก็เอาหัวมุดลงไปในทะเลทรายดูด ร่างกายของมันเคลื่อนไหวและเหวี่ยงหางออกไปจนเกิดเสียงโครมคราม มันใช้กำลังะโพุ่งตัวออกมาจากทะเลทรายดูดลอยตัวไปอยู่กลางอากาศ เพื่อเข้าใกล้วิหคัปีกมืดมากที่สุด!
มันอ้าปากกว้าง ้าจับกัดและกลืนิอวี่กับวิหคัปีกมืดเข้าไปให้แหลกสลายในปาก!
สามวินาที ...
เมื่อััได้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา เ้าวิหคัปีกมืดก็บินพุ่งขึ้นฟ้าไปด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม อีกนิดเดียวก็จะทะลุเมฆแล้ว
หนึ่งวินาทีผ่านไปเร็วมาก เหลืออีกสองวินาที! และในเวลานี้ เ้าัทะเลทรายก็อยู่ห่างจากิอวี่แค่สามสิบเมตรเท่านั้น!
ยังเหลืออีกหนึ่งวินาที แสงที่หยกนั้นแสบตามากขึ้น อีกนิดเดียวก็จะคลุมทั่วตัวของวิหคัปีกมืดแล้ว ัทะเลทรายเองก็เร่งความเร็วขึ้นอีกจนเหลือระยะห่างแค่สิบเมตรเท่านั้น
ในวินาทีนี้เอง วิหคัปีกมืดก็เหมือนกระบี่ที่ออกจากฝัก มันพุ่งแทงทะลุเมฆไปเลย ปากของัตัวใหญ่ได้ห่อหุ้มวิหคัปีกมืดเอาไว้จนหมดแล้ว และกำลังจะกลืนกินพวกเขาในทันที
ทั้งๆ ที่อยู่ในอันตรายถึงตาย แต่ิอวี่กลับยิ้มมุมปากขึ้นมา
“ลาก่อนนะ”
แสงสีขาวสว่างวาบ แล้วร่างของพวกิอวี่กับเ้าวิหคัปีกมืดก็หายวับไปเลย
เมื่อัทะเลทรายปิดปากลง มันกลับกัดเจอแต่อากาศ
“ไม่!!!”
ซูอี้หรานที่จับตาดูอยู่กลางอากาศในจุดที่ต่ำลงมาถึงกับกุมขมับแล้วส่งเสียงร้อง ทั้งๆ ที่เขาภาวนาให้ิอวี่ตาย ทำไมิอวี่ถึงได้สร้างปาฏิหาริย์ในเวลาคับขันแบบนั้นได้อีกนะ?
หรือว่าคำภาวนาของเขามันไม่จริงใจมากพอ?!
ซูอี้หรานบ้าไปเลย ัทะเลทรายเองก็บ้าไปแล้วเช่นกัน
มันกลับลงมาที่ทะเลทรายดูดอีกครั้งและะโขึ้นมาอีกครั้ง แล้วลองมองหาตัวิอวี่ แต่ในเวลานี้ ลมปราณของิอวี่กับไข่ัมันล้วนแต่หายไปจากพื้นที่แห่งนี้แล้ว!
ความโกรธแผ่กระจายไปทั่วตัวของัทะเลทราย มันมุดลงไปในทรายแล้วก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าแผ่นดินนี้กำลังจะถึงวันดับสูญ!
ในเวลานี้ ิอวี่ได้ไหลเข้ามาในอุโมงค์ทางเดินและหมุนเคลื่อนที่กลับมายังโลกปัจจุบัน
ิอวี่รู้สึกว่าอุโมงค์ที่เขาอยู่ในตอนนี้มันเป็สีม่วงดำและบิดเบี้ยว เขารู้ว่าตนเองปลอดภัย แต่ยังไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเพราะยังมีอีกสิ่งที่เขาต้องทำ นั่นก็คือการเคลื่อนย้ายลมปราณตัวอ่อนัมา
“เฮยจี อยู่หรือเปล่า? ตอนนี้เ้าใช้ลายเส้นอักขระดึงลมปราณออกมาจากไข่ัเลย”
ิอวี่เอาไข่ัออกมาจากเกราะแขนแล้ววางเอาไว้บนหลังของวิหคัปีกมืด จากนั้นก็ใช้พลังจิตส่งเสียงเข้าไปในหยกโบราณ
“อือ ... ” เสียงของเฮยจีดังขึ้นมาจากหยกโบราณ “เ้าไม่กลัวผู้หญิงคนนั้นรู้หรือว่าเ้าแอบทำอะไรกับไข่ัน่ะ?”
“ไม่เป็ไร หยูเยียนไม่พูดกับใครหรอก”
หลังจากผ่านเื่ราวมามากมาย ิอวี่เชื่อว่าเิหยูเยียนจะต้องรักษาความลับไว้แน่ ไม่มีทางแพร่งพรายเื่นี้ออกไปแน่นอน เพราะเื่นี้มันเร่งด่วนมาก ิอวี่เองก็ไม่ได้อธิบายอะไรกับเฮยจีมากมาย
“ดูท่าพวกเ้าสองคนเข้าขากันได้ดีเลยนี่”
เฮยจียิ้มแล้วส่ายหน้า เสียงใสๆ ของนางกลายเป็เสียงที่เ็าลง “ในเมื่อรับปากจะช่วยเ้าแล้ว ข้าจะเป็คนดีให้ถึงที่สุดแล้วกัน แต่ว่านี่จะเป็ครั้งสุดท้ายนะ ดูแลศิษย์น้องหยูเยียนของเ้าให้ดีเถอะ ข้าไม่ใช่เครื่องมือของเ้านะ”
พูดจบนางก็ดีดนิ้ว แสงพุ่งออกมาที่ไข่ัแล้วล้อมรอบมันเอาไว้
“เฮยจี พูดอะไรแบบนั้นกัน ข้าไม่ได้คิดแบบนั้นนะ” ิอวี่รู้สึกว่าเฮยจีกำลังเข้าใจเขาผิด แต่ว่าเมื่อเขาส่งเสียงไปที่หยกโบราณอีกครั้ง เฮยจีกลับไม่ตอบเขาอีกแล้ว
“นี่ เฮยจี ... ”
ิอวี่ลองเรียกอีกหลายครั้ง แต่เฮยจีก็ไม่สนใจเขาเลย นางเหมือนจะร่างอักขระกั้นกลางเพื่อตัดขาดจากโลกภายนอก
......
ในเวลานี้ ที่ทะเลทรายดูด
ัทะเลทรายยังคงคลั่งอยู่ ศิษย์ชั้นยอดหลายคนเริ่มหนีกระจัดกระจาย รวมไปถึงซูอี้หรานกับลั่วอิงด้วย พวกเขาหนีขึ้นบนท้องฟ้าสูงเพื่อหลบให้พ้นจากขอบเขตของัทะเลทราย
เมื่อมีตัวอย่าง ทุกคนก็เลียนแบบในการบินขึ้นสู่ที่สูง เพื่อไม่ให้ัทะเลทรายมีโอกาสในการโจมตี
ต่อให้ัทะเลทรายจะอยู่ในสถานะเกรี้ยวกราดแค่ไหน แต่มันก็ไม่สามารถบินตามมา มันไม่สามารถทำการโจมตีขึ้นมาถึงบนชั้นเมฆได้
บนชั้นเมฆ
ซูอี้หรานนั่งอยู่บนเหยี่ยวทะเลทรายของเขาและจ้องมองัทะเลทรายคำรามเสียงอย่างดุร้ายที่อยู่ด้านล่าง เขาอยู่ในอาการตกตะลึงถึงขีดสุด
ในเวลานี้ก็มีเงาๆ หนึ่งกำลังบินตรงมา
เขาคนนั้นก็คือโอวหยางเต้าอวี่
โอวหยางเต้าอวี่ในเวลานี้เต็มไปด้วยาแ ที่มุมปากของเขามีรอยเื ผมเผ้ายุ่งเหยิงสยายลงมาประบ่า เืลมของเขาไม่มั่นคง เหมือนว่าจะได้รับาเ็มาจากการต่อสู้กับัทะเลทราย
หากไม่ใช่เพราะได้สายเืดวงตะวัน กำลังการต่อสู้ที่น่าทึ่ง และพลังชีวิตแข็งแกร่ง เกรงว่าตัวเขาคงเหลือลมหายใจสุดท้ายไปแล้ว
แต่โอวหยางเต้าอวี่กลับไม่ได้รู้สึกเสียใจกับอาการาเ็พวกนี้เลย เพราะเขาทำในสิ่งที่เขาควรทำแล้ว เขาถ่วงเวลาัทะเลทรายได้หลายนาทีก็เพื่อซื้อเวลาให้กับพวกซูอี้หราน พูดได้ว่าเขาคือวีรบุรุษในภารกิจครั้งนี้เลย
