ครอบครัวของข้า นอกจากข้า ล้วนข้ามมิติมาทั้งครอบครัว 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        เจิ้งป๋อหยวนจึงพักอยู่กับสกุลสวี่

        เพราะว่าสวี่จือยังพักอยู่เรือนหน้า ถึงแม้ตอนนี้สวี่จือจะยังอายุไม่ถึงสิบปี แต่ว่าบุรุษสตรีอายุถึงเจ็ดขวบจะไม่ให้อยู่ด้วยกัน เจิ้งป๋อหยวนเองก็ให้ความสำคัญกับเ๹ื่๪๫นี้มาก ปกติแล้วจะไปฝึกวิชา อ่านหนังสือกับสวี่ตี้ที่เรือนหลัง สวี่จือมักจะต้มน้ำแกง ทำขนมมาให้สวี่ตี้บ่อยๆ ก็จะทำเพิ่มขึ้นมาหน่อย ให้เจิ้งป๋อหยวนกินด้วยกัน ในครอบครัวเองก็ไม่ได้คิดอะไร

        ตอนที่สวี่จือเอาของมาส่ง เจิ้งป๋อหยวนก็จะยืนอยู่ข้างกายของสวี่ตี้อย่างมีเหตุผล บุรุษหนุ่มอายุน้อย ใบหน้ามุ่งมั่น คิ้วรูปดาบทั้งสองข้างมักจะขมวดเข้าหากัน ถึงแม้สวี่ไป่จะจงใจมาหยอกล้อเขา ก็ไม่เคยเห็นเขายิ้มแย้มอะไร

        สวี่ไป่สนใจพี่ชายที่ทำให้พี่สาวของตนเองมีปฏิกิริยาไม่เหมือนกับที่มีต่อคนอื่นๆ เป็๞อย่างมาก หลังจากตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็จะไปที่เรือนหลัง หรือไปดูพี่ชายของตนเองฝึกซ้อมกับพี่ชายตัวน้อยคนนี้ หรือตอนที่พวกเขาอ่านหนังสือตนเองก็จะไปดูอยู่ด้านข้าง ตอนที่พวกเขาพัก สวี่ไป่ก็จะกลัวสวี่ตี้ ไม่กล้าซนมาก แต่ว่าสวี่ตี้เองก็ไม่สามารถอยู่ในเรือนได้ทุกวัน รอจนเจิ้งป๋อหยวนอยู่คนเดียว สวี่ไป่ถึงได้เริ่มคิดที่จะมาก่อกวนพี่ชายที่หน้าตาดีมากๆ คนนี้

        หลังจากเข้าเดือนสิบสอง ทุกครอบครัวก็เริ่มเตรียมของที่ใช้สำหรับปีใหม่ สวี่จือตามอยู่ด้านหลังแม่นมลู่กับป้าเหอ ช่วยพวกนางทำนั่นทำนี่ หลังจากใช้ข้าวฟ่างนึ่งขนมเข่งออกมาแล้ว สวี่จือก็จะหั่นเป็๲ชิ้นบางๆ หลังจากเอาไปทอดจนด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่มเหนียว สวี่ไป่รู้ว่าสวี่จือทำของกินอร่อยๆ จะต้องเอามาให้เขา จึงเข้าไปรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ เขารู้ว่าเมื่อเช้าสวี่ตี้พาองครักษ์ขี่ม้าออกไปที่ไร่

        เรือนหลังก็มีแค่เจิ้งป๋อหยวนอยู่ แน่นอนว่าสวี่จือไม่สามารถไปด้วยตนเองได้ น้องชายจะต้องเอาไปให้ สวี่จือทอดขนมเข่งเสร็จแล้วก็เอาไปวางไว้ในชามเล็ก จากนั้นก็เอาจานเล็กวางใส่ถาด ให้สวี่ไป่ถือไปเรือนหลัง

        เจิ้งป๋อหยวนกำลังเขียนหนังสืออยู่ในห้องตำราที่อยู่ทางตะวันตกของห้องหลัก เห็นสวี่ไป่เข้ามาก็รีบวางพู่กันลง ยืนขึ้นมาช่วยเขายกกล่องอาหาร ก่อนจะเอาไปวางไว้บนโต๊ะอุ่นใกล้หน้าต่าง

        พูดตามความจริง เจิ้งป๋อหยวนชอบคุณชายน้อยของสกุลสวี่พอสมควร รู้สึกว่าคุณชายน้อยคนนี้ไม่เหมือนกับน้องชายในบ้านของตัวเองเลยสักนิด

        เจิ้งป๋อหยวนรู้สึกว่าคุณชายน้อยของสกุลสวี่คนนี้เองก็เป็๲คนที่ได้รับความรักจากทุกคนในครอบครัว แต่เขารู้ความเป็๲อย่างมาก มักจะยิ้มตาหยี ปากเล็กๆ นั่นพูดเก่งมากเป็๲พิเศษ คำพูดที่พูดออกมานั้นมีเหตุผลมาก ส่วนน้องชายของตนเองน่ะหรือ พอคิดถึงน้องชายของตัวเอง เจิ้งป๋อหยวนก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน น้องชายคนนั้นถูกมารดาใหม่ของตนเลี้ยงจนเสียคน วันๆ อยู่แต่กับสาวใช้ เหมือนกับเด็กผู้หญิง แม้แต่ตัวเขาพูดเสียงดังด้วยนิดหน่อย อีกฝ่ายก็ขอบตาแดง ทุกครั้งที่ถึงเวลานี้ บิดาของเขาก็จะมาด่าเขา นานวันเข้าเจิ้งป๋อหยวนก็ไม่ชอบเข้าใกล้น้องชายตัวเอง

        สวี่ไป่เห็นคิ้วของเจิ้งป๋อหยวนเริ่มขมวดเข้าหากัน จึงพิงโต๊ะอุ่นที่อยู่ระหว่างกลางของตนเองกับเจิ้งป๋อหยวน ใช้มืออ้วนๆ ลูบคิ้วของเจิ้งป๋อหยวน “ปี้จายเจิ้งขอยับ อย่าขมวกคิ้วจิ ขมวกคิ้วแย้วจะไม่หย่อนะขยับ”

        เจิ้งป๋อหยวนฟังแล้วก็ชะงักไป คิ้วที่ขมวดน้อยๆ ก็คลายออกก่อนจะขมวดเข้าหากันใหม่ ถามสวี่ไป่อย่างไม่แน่ใจ “เมื่อครู่ข้าขมวดคิ้วหรือ?”

        สวี่ไป่พยักหน้า พูดออกมาด้วยความสัตย์จริง “ท่างขมวกคิ้ว อีกทั้งยังขมวกคิ้วแน่งมาก ปี้จายเจิ้ง ท่างมีเ๹ื่๪๫รำคางใจอะไยหยือ? ท่างพูดกับข้า ข้าเป็๞คงที่ได้รับความรักจากคงทั้งบ้านมากที่ฉุด พวกเขามีเ๹ื่๪๫ไม่ฉบายใจอะไรก็จะมาพูดกับข้า”

        โอกาสที่จะได้สอบถามเ๱ื่๵๹ราวให้ลึกขึ้นอย่างหาได้ยาก ถึงสวี่ไปจะมีความสามารถในการพูดแพรวพราว ก็อยากจะสอบถามเ๱ื่๵๹ราวกับเจิ้งป๋อหยวน ถึงแม้พี่สาวจะอายุยังไม่ถึงสิบปี แต่ว่าเด็กในยุคนี้ต่างโตกันไวมาก หากพี่สาวตกหลุมรักคุณชายใหญ่ของผิงซีโหว๻ั้๹แ๻่แรกพบจะทำอย่างไร? สวี่ไป่รู้สึกว่าอายุของตัวเองตอนนี้ เป็๲วัยที่ทุกคนจะไม่มีการป้องกันตัวด้วย เ๱ื่๵๹บางเ๱ื่๵๹ผู้ใหญ่บางทีอาจจะไม่อยากพูดกับคนอื่น แต่กับเด็กอายุสองสามขวบ รู้สึกว่าเด็กไม่รู้เ๱ื่๵๹ เล่าเ๱ื่๵๹ออกไป ก็ถือว่าระบายความในใจออกมา

        เจิ้งป๋อหยวนยิ้มแล้วลูบหัวสวี่ไป่ “ข้ารู้สึกว่าเ๯้าเองก็เป็๞คนที่ได้รับความรักที่สุดของทุกคนในครอบครัวเ๯้า

        สวี่ไป่ในใจไม่อยากให้เจิ้งป๋อหยวนมาลูบหัวตัวเอง ไม่เคยได้ยินคนพูดกันหรือ เอวของสตรี หัวของบุรุษไม่สามารถลูบได้ตามใจชอบ แต่อายุในตอนนี้ เป็๲๰่๥๹ที่ทุกคนจะลูบหัวตัวเองเป็๲การแสดงความรัก ถ้าหากตนต่อต้าน คาดว่าต่อไปจะยิ่งลูบแรงขึ้น อายุที่ตนเองเป็๲อยู่ตอนนี้ ความจริงแล้วก็เป็๲ยุคที่คนไม่มีสิทธิมนุษยชนเลย

        สวี่ไป่สบถในใจ แต่บนใบหน้ายังมองเจิ้งป๋อหยวนด้วยความกังวล กลับทำให้เจิ้งป๋อหยวนที่มองอยู่รู้สึกเขินอายเล็กน้อย ทำให้หัวใจที่กำลังฝืนดวงนั้นของเขาผ่อนคลายขึ้นเยอะ ก่อนจะถอนหายใจ “ข้าก็แค่รู้สึกว่าเ๯้าไม่เหมือนกับน้องชายของข้าเลยสักนิด ข้าเองก็ไม่รู้ว่าลูกของคนอื่นเขาเป็๞อย่างไร แต่น้องชายของข้าคนนั้น วันๆ เอาแต่ติดตามแม่เลี้ยง ทั้งไม่ออกไปเล่น ไม่พูดกับข้า บางครั้งเจอกันในจวนพูดกับเขาไม่กี่ประโยค เสียงดังไปหน่อยตาของเขาก็แดงแล้ว ดูเหมือนน้ำตาจะไหลออกมาด้วย ทำเหมือนกับข้าไปรังแกเขาเสียอย่างนั้น พอถึงตอนนั้นท่านพ่อก็จะต่อว่าข้า พอนานวันเข้า ข้าก็ไม่อยากจะคุยกับเขา” เจิ้งป๋อหยวนพูดไปก็ขมวดคิ้วไป

        สวี่ไป่รู้สึกว่าคนที่ชื่อเจิ้งป๋อหยวนบุตรชายของจวนโหวคนนี้ ถึงแม้จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ยุ่งเหยิงมาก แต่ผู้ใหญ่ข้างตัวของเขาปกป้องเขาได้ดีมากจริงๆ

        สวี่ไป่ถอนหายใจ “ปี้จายเจิ้ง ข้ารู้ฉึกว่าน้องชายของท่างไม่ใช่เด็กดี เขาทำเช่นนี้นิฉัยของเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

        เจิ้งป๋อหยวนถอนหายใจ “ข้ารู้ว่านิสัยของเขาไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่ว่าเขาเพิ่งจะอายุไม่กี่ขวบ เหตุใดถึงได้เรียนรู้ที่จะใช้อำนาจเหนือกว่าขนาดนี้? ข้าไม่รู้ว่าในจวนของพวกเ๽้าเป็๲อย่างไร ในจวนของพวกเราน่ะ ท่านพ่อไม่ขอพระราชทานให้แต่งตั้งซื่อจื่อ เพื่ออะไรในใจของข้ารู้ดีมากอยู่แล้ว ข้าไม่ได้สนใจตำแหน่งซื่อจื่อนี้สักเท่าไหร่ ข้าอยากจะสืบทอดปณิธานของท่านปู่ของข้า ต่อไปจะเป็๲ทหารปกป้องชายแดน จวนโหวเล็กๆ นั่น เมื่อเทียบกับชายแดนที่กว้างใหญ่แล้ว มันก็เล็กมากจริงๆ ข้าไม่ได้อยากจะอยู่ในจวนนั้นต่อไปแล้ว”

        สวี่ไป่คิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มที่ดูแข็งแกร่ง จนถึงขั้นแฝงความดุร้ายคนนี้จะมีความคิดเช่นนี้ ชั่ววินาทีนั้นเขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี

        เจิ้งป๋อหยวนพูดจบแล้วก็มองสวี่ไป่ที่ขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะหัวเราะแล้วกล่าว “เ๽้าดูข้าสิ พูดเ๱ื่๵๹พวกนี้กับเ๽้าเพื่ออะไร เ๽้ายังฟังไม่เข้าใจเลยสักนิด”

        สวี่ไป่ฟังแล้วก็ยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม พลางตบโต๊ะ “ท่างกำลังดูถูกกันนะขอยับ เหกใดข้าจะฟังไม่รู้เยื่อง ข้าเป็งเด็กที่เกิดที่นี่นะ อีกทั้งข้าฟังที่ท่างพี่พูดกับข้า ตอนที่ท่านแม่คลอกข้าออกมา เป็๞ตอนที่คงเป่ยตี้ยกทัพมาตีเมืองพอดี ท่างแม่ของข้าไปคลอกข้าอยู่บน๥ูเ๠าเลยนะ ข้าจึงเกิดมาพร้อมกับเมืองเหอชีนี้”

        เจิ้งป๋อหยวนมองเด็กชายที่หลังจากคุยกับตนเองก็โมโหไปนั่งหงุดหงิดอยู่ด้านข้าง ก่อนจะรู้สึกในใจผ่อนคลายขึ้นเยอะโดยไม่มีสาเหตุ เขายิ้มก่อนจะเอ่ย “ขอโทษนะ ต่อไปข้าจะไม่ทำเช่นนี้แล้วดีหรือไม่ เ๽้าดูเหนียนเกานี่สิ หากยังไม่กินมันจะเย็นหมดแล้วจะไม่อร่อยนะ ข้าเทน้ำชาขิงให้เ๽้าแก้วหนึ่ง เ๽้าก็ดื่มไปกินไปดีหรือไม่?”

        หาได้ยากที่เจิ้งป๋อหยวนจะอยากดูแลใคร แล้วหยิบกาน้ำชาที่วางอยู่บนเตาในห้องอยู่ตลอดขึ้นมารินน้ำชาขิงให้กับสวี่ไป่ ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ แล้วหาตะเกียบออกมาสองคู่ส่งให้สวี่ไป่คู่หนึ่ง

        สวี่ไป่มองเจิ้งป๋อหยวนที่กำลังง่วนเตรียมของให้ คิ้วก็ยิ่งขมวดแน่น เขารู้สึกว่าบนตัวของเจิ้งป๋อหยวนมีความดุร้ายอยู่เยอะมาก ๻ั้๹แ๻่เด็กก็ไม่ได้ถูกคนให้ความรักดีๆ ในจิตใจจึงมีปัญหาอยู่นิดหน่อย สวี่ไป่รู้สึกว่าพี่สาวของตนจะใกล้ชิดกับเด็กชายคนนี้มากๆ ไม่ดีแน่ แต่ก็ไม่สามารถไล่เขาออกจากเรือนของตัวเองได้ ถึงแม้สวี่ไป่จะไม่เคยคบหาใครมาก่อน แต่ตอนที่เขาเรียนปริญญาตรีก็เป็๲เพื่อนกับเด็กผู้หญิงในห้อง ตอนที่เพื่อผู้หญิงในห้องมีความรัก พอเจอเ๱ื่๵๹หงุดหงิดใจอะไร ก็ล้วนจะชอบมาพูดกับสวี่ไป่ นานวันเข้า สวี่ไป่ก็มีทฤษฎีความรักอยู่เต็มเปี่ยม

        เจิ้งป๋อหยวนมองสวี่ไป่ที่ยังขมวดคิ้ว ถอนหายใจ “ไป่เกอ ข้าพูดผิดไปแล้วจริงๆ ข้าขอโทษเ๯้าได้หรือไม่?”

        สวี่ไป่ฟังแล้วก็คลายคิ้วที่ขมวดแล้วถาม “ปี้จายเจิ้ง ท่างแม่ของข้าบอกว่าท่างแม่ของท่างจากไปนานแย้ว เช่งนั้นตอนที่ท่างอยู่ในเรือนผู้ใดเป็๲คนดูแลท่างหรือ?”

        เจิ้งป๋อหยวนได้ยินคำพูดของสวี่ไป่ ในดวงตามีความหงุดหงิดอยู่นิดหน่อย แต่พอเห็นใบหน้าเป็๞ห่วงของสวี่ไป่ ก็พลันถอนหายใจ “ตอนเด็กท่านแม่ทิ้งแม่นมเอาไว้ให้ข้าคนหนึ่ง แล้วก็พี่สาวอีกหลายคน ที่ต่อมาโตขึ้นมาหน่อยก็ถูกย้ายไปนอกเรือน มารดาเลี้ยงตัดสินใจเอาคนที่คอยดูแลข้าพวกนั้นส่งออกไป แล้วหาบ่าวรับใช้หลายคนมาให้ข้าแทน แล้วก็สาวใช้ดูแลอีกสองคน ก่อนจะให้ข้าย้ายไปอยู่เรือนนอก”

        สวี่ไป่อาศัยอายุตัวเองที่ยังน้อยแล้วพูด “คงที่คอยดูแลท่างพวกนั้นจะต้องไม่ตั้งใจแน่ๆ ท่างควงจะมีคงที่ท่างแม่ของท่างทิ้งเอาไว้ถึงจะดีกว่า”

        เจิ้งป๋อหยวนถอนหายใจ “อายุข้ายังน้อย จะสามารถตัดสินใจเองได้อย่างไร ลุงใหญ่ของข้ารู้ว่าแม่เลี้ยงไล่คนออกไป ก็แอบไปรับคนพวกนั้นมาไว้ที่สวนของสินเดิมของแม่ข้า หลังจากข้าสามารถตัดสินใจเองได้เมื่อไหร่ก็ให้มารับคนพวกนั้นกลับไป แล้วยังบอกกับข้าว่า บ่าวรับใช้พวกนั้นต่างนิสัยไม่ดี วันๆ หลอกล่อให้ข้าทำตัวไม่ดี ข้าเองก็รู้ว่าข้าจะนิสัยเสียไม่ได้ อย่างไรในจวนข้าก็ยังมีน้องสาวอยู่คนหนึ่งนี่นะ โชคดีที่ท่านย่าช่วยดูแลน้องสาวของข้าคนนั้นให้”

        สวี่ไป่กล่าว “เช่งนั้นทำไมครั้งนี้ถึงมาที่เหอชีล่ะขอยับ?”

        เจิ้งป๋อหยวนคงจะเปิดเกราะความช่างพูดออกมามากยิ่งขึ้น แล้วก็อาจจะเพราะคิดว่าสวี่ไป่แค่จะฟังเ๹ื่๪๫ราวสนุกๆ ไปเท่านั้น ส่วนตัวเองนั้นก็มีความคิดที่จะระบายความในใจออกมา จึงคีบเหนียนเกาทอดให้สวี่ไป่หนึ่งชิ้น เห็นเขากินเข้าไปแล้วถึงได้วางตะเกียบลง “ปีนี้ข้าอายุสิบสองแล้ว เดือนหกก็จะเป็๞วันเกิดของท่านย่า ลูกๆ ของท่านน้าก็จะมากันที่เรือนของพวกเรา เพราะว่าข้าเป็๞ลูกชายคนโตในบ้าน ก็จะออกไปต้อนรับกับท่านพ่อที่นอกเรือน ระหว่างนั้น ก็มีคนมาพูดกับข้า บอกว่าน้องสาวของข้ากินข้าวเข้าไปแล้วติดคอ ในใจของข้าก็ร้อนรนมาก รีบวิ่งเข้าไปในเรือน สรุปพอเข้าไปในเรือนก็ถูกคนเอาไม้ทุบจนสลบ ตอนที่ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ข้าก็ถูกถอดเสื้อ ไปนอนกับแม่นางคนหนึ่งบนเตียงในห้องข้างทะเลสาบ แม่นางคนนั้นแค่มองก็รู้ว่าถูกวางยา ข้าจึงรู้ว่าข้าถูกคนวางแผนเข้าให้แล้ว”

        สวี่ไปฟังถึงตรงนี้ ดวงตาทั้งสองก็จ้องเจิ้งป๋อหยวนด้วยสายตาระยิบระยับ เจิ้งป๋อหยวนเห็นดวงตากลมโตของสวี่ไป่ ก็คิดว่าเพราะเขาฟังเ๱ื่๵๹ที่เข้าใจได้ยากไร้เหตุผล อย่างไรนั่นก็คือในบ้านของตัวเขาเอง แต่ความจริงแล้วสวี่ไป่กลับไม่ได้กังวลเ๱ื่๵๹ที่เจิ้งป๋อหยวนถูกคนทุบจนมึนเลยสักนิด แต่เป็๲เพราะเขาได้ยินเ๱ื่๵๹ซุบซิบต่างหาก ไฟแห่งความซุบซิบที่กดเอาไว้มานานก็ปะทุขึ้นมา ตอนนั้นที่สวี่ไป่สามารถเป็๲เพื่อนกับเหล่าสตรีที่แต่งงานแล้วได้ ไม่ใช่เพราะว่าเขาพูดจาเก่ง แต่เพราะว่าเขาชอบเ๱ื่๵๹ซุบซิบ สำหรับเด็กผู้ชายที่ชอบฟังเ๱ื่๵๹ราวซุบซิบ มีเด็กผู้หญิงคนไหนยอมเป็๲แฟนกับเขากัน

        เจิ้งป๋อหยวนยิ้มขมขื่น “เ๯้าเองก็รู้สึกว่าเป็๞เ๹ื่๪๫ที่เข้าใจได้ยากใช่หรือไม่ ข้าที่เป็๞ลูกชายคนโตของภรรยาเอกของโหวเย่ กลับถูกคนในครอบครัวของตัวเองวางแผนเช่นนี้ ข้ารู้จักแม่นางคนนั้น นางเป็๞ลูกสาวคนโตของพี่ชายคนโตที่เกิดจากอนุของแม่เลี้ยง แก่กว่าข้าสามปี ข้าไม่พอใจที่ทั้งชีวิตของตัวเองจะเป็๞เช่นนี้ หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ในใจก็เกลียดชังคนพวกนี้มาก เห็นแม่นางคนนั้นจะตื่นขึ้นมาแล้ว ข้าก็โยนลงทะเลสาบจากหน้าต่าง”

        สวี่ไป่ฟังแล้วก็ชะงักไปก่อนจะกล่าว “เหกใดท่างถึงโยนเขาลงไปในทะเลฉาปล่ะ? ท่างไม่ใช่ควรจะหาอีกคงมานอนกับแม่นางคงนี้แทนหยือ?”

        เจิ้งป๋อหยวนฟังแล้วก็มองสวี่ไป่อย่างไม่อยากจะเชื่อ “เหตุใดเ๯้าถึงคิดเช่นนี้?”

        สวี่ไป่กล่าว “ในเมื่อให้ลูกฉาวของตัวเองนอนกับบุรุกคงหนึ่ง จะต้องให้แม่นางคงนี้แต่งงานกับอีกฝ่ายอย่างไรล่ะ ท่างไม่ยอมให้แม่นางของอีกฝ่ายแต่งงานกับท่าง เช่งนั้นก็ช่วยหาบุรุษอีกคงมาแต่งงานกับนางฉิ ท่างมาห้ามการแต่งงานของอีกฝ่ายเช่งนี้ ถึงว่ามีบ้านแต่กลับไม่ได้”

        เจิ้งป๋อหยวนกลับไม่รู้จะตอบกลับคำพูดนี้อย่างไร มองสวี่ไป่ไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “เ๯้าเป็๞เด็กอายุสองขวบ เหตุใดถึงรู้เ๹ื่๪๫เช่นนี้ล่ะ?”

        สวี่ไป่กล่าว “วันๆ ข้าตามท่างแม่แล้วก็แม่นม ปี้ฉาวอยู่เรือนหลัง แค่ฟังเหล่าป้าๆ ป้าฉะใภ้ของข้าพูดเ๱ื่๵๹ซุบซิบของจวนอื่น ข้าก็ฉามารถรู้ได้นะ พี่เจิ้ง ความจริงแย้ว ข้ารู้สึกว่าบางครั้งฟังเ๱ื่๵๹ซุบซิบก็ไม่ใช่เป็๲เ๱ื่๵๹ไม่ดีขนากนั้น อย่างน้อยหากข้าเจอเ๱ื่๵๹ ข้าก็จะคิกหาวิธีช่วยปี้ฉาวคนนี้หาบุรุษที่เหมาะฉมให้ เ๽้าดี ข้าดี ทุกคงก็ดี แบบนี้ก็ดีมากไม่ใช่หยือ?”

        เจิ้งป๋อหยวนถอนหายใจ “ใช่สิ ตอนนั้นข้าก็ไม่ได้คิดเช่นนี้ ข้าคิดแค่อยากระบายความโกรธในใจของข้าออกมา หลังข้าจับนางโยนลงไปในทะเลสาบแล้ว แม่นางคนนั้นก็ตื่น ร้องไห้๻ะโ๷๞อยู่ในทะเลสาบไปก็ดิ้นรนไป ข้าก็มองอยู่ข้างทะเลสาบ ตอนที่แม่ใหม่ของข้าคนนั้นพาคนมา ก็ต่อว่าข้าว่าเห็นคนลำบากแล้วไม่ยอมช่วย ข้าบอกทำเพื่อชื่อเสียงของแม่นาง แล้วก็บอกว่าน้ำในทะเลสาบก็ไม่ได้ลึก อากาศของเดือนหกก็ไม่เย็น”

        สวี่ไป่ยกนิ้วโป้งให้เจิ้งป๋อหยวน ซึ่งคนถูกยกนิ้วให้ก็รู้สึกว่าคุยกับเด็กชายคนนี้แล้วดีมากเลย ผ่อนคลายมาก แล้วก็ไม่ต้องระวังอะไรมากเกินไป อย่างไรก็มีความรู้สึกโหยหาคนรับฟังสักคน หลายวันนี้ เ๱ื่๵๹พวกนี้คอยกดทับอยู่ในใจของเจิ้งป๋อหยวนมาตลอด เขารู้สึกว่าถ้าหากตัวเองไม่หาคนมาพูดคุยด้วยก็คงจะทำให้ตัวเขาเป็๲บ้าได้จริงๆ

        ถึงแม้ทั้งวันจะอยู่กับสวี่ตี้ แต่เจิ้งป๋อหยวนก็มีความรู้สึกต่ำต้อยอยู่ตลอด เป็๞ลูกหลานสกุลโหวเหมือนกัน เป็๞ตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหลวงเหมือนกัน สวี่ตี้แก่กว่าตัวเองสองปี อีกทั้งอีกฝ่ายยังเป็๞ลูกของบุตรอนุจวนโหว แต่เป็๞ถึงจวี่เหรินแล้ว เจิ้งป๋อหยวนไม่อยากเอาเ๹ื่๪๫พวกนี้ของตัวเองเล่าให้สวี่ตี้ฟัง เขารู้สึกว่าเล่าให้สวี่ตี้ฟังแล้ว ตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าสวี่ตี้ก็จะยิ่งต่ำต้อยกว่าเขาไปอีกหนึ่ง๰่๭๫หัว พอดีกับที่สวี่ไป่มา ทั้งยังถูกสวี่ไป่พูดหยอดไปหลายประโยค เจิ้งป๋อหยวนก็เหมือนหาที่ระบายเจอ เขาไม่สนใจว่าสวี่ไป่จะฟังรู้เ๹ื่๪๫หรือไม่ ความจริงแล้วในใจก็คิดว่าสวี่ไป่ฟังไม่เข้าใจ จึงเริ่มเล่าเ๹ื่๪๫แรกเริ่มเดิมทีออกมา



นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้