"ซ่งอวี้ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว เหตุใดเ้าเพิ่งมาหาข้า" ป้าหวังเดินยิ้มออกมาจากเรือน ชำเลืองมองมนุษย์ป้าหนังตาตก
อย่าคิดว่านางไม่ได้ยิน เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าหญิงวัยกลางคนคนนี้กำลังหาเื่ซ่งอวี้ ทั้งยังอยู่ที่หน้าเรือนของนาง เห็นป้าหวังคนนี้รังแกได้ง่ายๆ เช่นนั้นหรือ
ซ่งอวี้ส่งยิ้มให้ป้าหวัง "ข้านอนตื่นสายเ้าค่ะ จึงทำให้ออกจากเรือนช้า ระหว่างทางก็บังเอิญเจอป้าคนนี้ด้วย"
ซ่งอวี้ไม่พูดถึงเื่ที่มนุษย์ป้าหนังตาตกดูถูกนาง แต่ทุกคนต่างรู้ดีแก่ใจ เมื่อนำทั้งสองคนมาเปรียบเทียบกันแล้ว รังแต่จะทำให้ซ่งอวี้ดูใจกว้างและรู้มารยาทมากยิ่งขึ้น
นี่คือจุดประสงค์ของซ่งอวี้ ที่นางไม่พูดเป็เพราะไม่มีความจำเป็ ถึงอย่างไรทุกคนก็ได้ยินแล้ว เช่นนั้นสู้ทำให้คนในหมู่บ้านรู้สึกดีกับตนมากขึ้นยังจะดีเสียกว่า วันข้างหน้าจะได้ไม่เกิดเื่เช่นนี้ขึ้นอีก
สีหน้าของมนุษย์ป้าหนังตาตกแปรเปลี่ยนเป็ขุ่นเคืองทันที "หวังผอจื่อ ธุระกงการอะไรของเ้า กลับเรือนไปซะ เ้าไม่ต้องมายุ่งเื่ของพวกข้า!”
เวลานี้ป้าหวังทำเหมือนเพิ่งเห็นมนุษย์ป้าหนังตาตกอย่างไรอย่างนั้น นางยิ้มแล้วหันไปกล่าวคำทักทาย "ข้าก็ว่า เหตุใดจึงได้ยินเสียงคุ้นหูตลอดเวลา ที่แท้ก็คือเ้านี่เอง โจวปาผอ"
ฮ่าๆ!
ตอนที่ได้ยินคำว่า 'โจวปาผอ' สามพยางค์นี้ คนส่วนมากล้วนกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ต่างพากันหัวเราะ เสียงหัวเราะหลายคนประสานรวมกันเช่นนี้ทำให้เสียงดังไม่น้อย ครานี้คนอื่นๆ ก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่พากันหันหลัง หัวเราะด้วยความขบขันจนหัวไหล่สั่นเทา
เป็ความจริงที่ว่า ชื่อโจวปาผอนี้ช่างน่าตลกยิ่งนัก
ซ่งอวี้เม้มริมฝีปากกลั้นหัวเราะเอาไว้ เวลานี้นางต้องเคร่งขรึม กำลังทะเลาะเบาะแว้งหากส่งเสียงหัวเราะจะเป็การไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย
ปาผอ ปาผอ...ร้องเรียกเช่นนี้ในเวลาแบบนี้ เกรงว่าจะเป็การหัวเราะเยาะมนุษย์ป้าหนังตาตกกระมัง
มนุษย์ป้าหนังตาตก ไม่สิ เวลานี้ควรจะเรียกว่าโจวปาผอ หน้าดำหน้าแดงทันที
โจวปาผอรู้ ขอเพียงมีหวังผอจื่ออยู่ ไม่มีวันพลาดโอกาสในการโต้เถียงกับนาง เมื่อครู่นางตั้งใจจะขับไล่หวังผอจื่อก่อน หวังผอจื่อจะได้ไม่ต้องช่วยซ่งอวี้ ทว่าคิดไม่ถึงว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีเช่นนี้ ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับหวังผอจื่อ แต่ดึงดันที่จะยุ่ง
หวังผอจื่อและโจวปาผอมาจากหมู่บ้านเดียวกัน
พวกนางเป็เพื่อนบ้านกันั้แ่เด็ก ทั้งยังเป็ลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูล ั้แ่เล็กจนโตพวกนางได้รับความรักมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นจึงชอบเปรียบเทียบกันทุกเื่ วันนี้ข้าซื้อปิ่นปักผมดอกไม้ พรุ่งนี้เ้าซื้อสีชาดอันใหม่ แข่งขันกันเช่นนี้กระทั่งแต่งงานออกเรือน
ทั้งสองไม่ได้แต่งงานออกเรือนไปหมู่บ้านเดียวกัน ดังนั้นในตอนหลังจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกัน พวกนางไม่ถึงขั้นข้ามสันเขาเพื่อมาแข่งขันกัน ดังนั้นความรู้สึกที่คิดอยากจะข่มอีกฝ่ายจึงค่อยๆ จางหายไป บางครั้งยามพบเจอกันบนท้องถนนก็ประชดประชันกันเล็กน้อย ส่วน่เวลาอื่นๆ ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน
แต่ว่าตอนรอคนมาทาบทามสู่ขอ ความเป็จริงโดยมากล้วนเป็หวังผอจื่อที่อยู่เหนือกว่า แค่เพราะมารดาของหวังผอจื่อเป็คนปากร้าย ดังนั้นหวังผอจื่อจึงได้ความปากร้ายของมารดามาด้วย หากพูดถึงฝีปากแล้วโจวปาผอไม่อาจเทียบกับหวังผอจื่อได้
ปกติเจอกันบนท้องถนนมีปากเสียงกันเล็กน้อย เวลานี้โจวปาผอไม่อยากถือสา วันนี้นางมาพร้อมกับ 'ภารกิจ' หากภารกิจล้มเหลวเพราะหวังผอจื่อ กลับไปอาจจะโดนตำหนิก็เป็ได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของโจวปาผอก็ย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม
ป้าหวังเดินไปยืนข้างซ่งอวี้ด้วยความสบายใจ ชำเลืองมองโจวปาผอ "เ้าช่างจุ้นจ้านยิ่งนัก เ้ามีสิทธิ์พูดเื่ในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวของพวกข้าั้แ่เมื่อใด? เ้าที่เป็เพียงคนนอกหมู่บ้าน อย่ามาจุ้นจ้านกับเื่ในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวเลย"
เป็การโต้กลับอย่างเจ็บแสบ ทั้งมีเหตุผล ทั้งประชดประชันที่โจวปาผอยุ่งเื่ชาวบ้าน ทั้งยังบอกสถานะของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน แสดงถึงศิลปะในการพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ
โจวปาผอหน้านิ่วคิ้วขมวดอยากจะพุ่งตัวเข้าไปตบตี ทว่าคนที่ยืนข้างนางรีบรั้งเอาไว้ นางดีดดิ้นไม่หลุดจึงเริ่มพูดพล่าม "หมู่บ้านเสี่ยวหนิวของพวกเ้าจะรังแกกันหรือ? ข้าพูดผิดอย่างไร? นางเป็เพียงหญิงกำพร้าดวงกินญาติมิตร นางจะเอาเงินทองจากไหนมาซื้อที่ดิน? เงินของนางต้องได้มาด้วยวิธีสกปรกอย่างแน่นอน พวกเ้าตาบอดหรืออย่างไร!"
นางคับแค้นใจยิ่งนัก เดิมทีเห็นท่าทีอ่อนแอของซ่งอวี้ที่รังแกได้ง่ายๆ คิดว่าต้องจัดการนางได้แน่นอน ทว่าคิดไม่ถึงว่าจะมีหวังผอจื่อมาปกป้อง ถ้อยคำเพียงประโยคหนึ่งโต้กลับจนนางกลายเป็คนไม่มีเหตุผล
เห็นสีหน้าของโจวปาผอแล้วป้าหวังไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย ทั้งยังพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม
"เมื่อวานตอนที่ซ่งอวี้ไปขอซื้อที่ดินกับผู้ใหญ่บ้าน ข้าก็อยู่ด้วย วันนี้จะไปทำเื่โอนย้ายที่ดิน ประเดี๋ยวข้าจะไปพร้อมกับซ่งอวี้ หากพวกเ้าไม่เชื่อเช่นนั้นก็ไปด้วยกันจะได้ไม่ต้องปากเสียชอบพูดจาลับหลังผู้อื่น"
โจวปาผอหัวเราะเยือกเย็น "ผู้ใดบ้างที่ไม่รู้ว่าเ้ากับซ่งอวี้สนิทสนมกัน พวกเราไม่กล้าเชื่อคำพูดของเ้าหรอก นอกจากนี้หากเ้ามีเจตนาปิดบังความสัมพันธ์ของนางกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็ต้องลอบให้เงินเ้าอย่างลับๆ เพื่อที่นางจะได้ซื้อที่ดินอย่างถูกต้องไม่ใช่หรือ? เื่ทั้งหมดนี้ไม่อาจพิสูจน์อะไรได้"
คำพูดของโจวปาผอแท้จริงแล้วช่างหยาบคายยิ่งนัก ทั้งที่ไม่มีหลักฐานว่าซ่งอวี้กับผู้ใหญ่บ้านมีความสัมพันธ์กันและไม่มีพยานที่เชื่อถือได้ แต่เจตนาร้ายยังคงอยู่ นางสามารถโต้เถียงได้แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งที่โจวปาผอพูดไม่ใช่ความจริง
ป้าหวังรู้สึกสะอิดสะเอียน กรอกตามองบน
จู่ๆ ซ่งอวี้ก็แสร้งทำเป็พูดพึมพำโดยไม่ได้ตั้งใจ "เช่นนั้นวันข้างหน้ายามทุกคนมีเื่ก็ไม่อาจไปที่เรือนของผู้ใหญ่บ้านแล้วหรือ? หากเป็สตรีก็จะถูกกล่าวหาอย่างพร่ำเพรื่อว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่บ้าน เช่นนั้นหมู่บ้านเสี่ยวหนิวของเราก็ชุลมุนวุ่นวายไปหมดไม่ใช่หรือ?"
คำพูดแ่เบาเพียงหนึ่งประโยค เตือนสติทุกคนได้ทันที
จริงด้วย พวกนางถูกโจวปาผอชักนำให้ตกลงไปในหลุมพราง ซ่งอวี้เพียงไปซื้อที่ดินกับผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น ทั้งยังมีป้าหวังอยู่ในเหตุการณ์ แต่กลับถูกคนแต่งเื่เป็เื่เป็ราว แล้วหากเป็พวกนางเล่า?
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ มีหญิงสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนและมีสตรีที่เพิ่งแต่งงานออกเรือน ทั้งยังมีสตรีที่มีลูกแล้ว เวลานี้พวกนางหน้าเปลี่ยนสี
‘เมื่อสองวันก่อนเ้าไปหาผู้ใหญ่บ้านตามลำพัง เพื่อบันทึกชื่อของลูกชายลงในบันทึกบรรพบุรุษ’
'เ้าเองก็ด้วยไม่ใช่หรือ!'
สายตาของทุกคนแทบจะสื่อความหมายเดียวกัน แม้ผู้ใหญ่บ้านจะไม่ใช่ขุนนางใหญ่ แต่ต้องคอยดูแลเื่เล็กเื่ใหญ่ในหมู่บ้าน งานยุ่งมาก ขอเพียงเกิดเื่ขึ้นในตระกูล ล้วนหนีไม่พ้นผู้ใหญ่บ้าน นอกเสียจากว่าไม่อยากอยู่ในหมู่บ้านนี้แล้ว
หญิงสาวที่รวมตัวกันที่นี่ มีเื่ไปหาผู้ใหญ่บ้านแทบจะทุกเดือน หากเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะสาเหตุนี้ พวกนางไม่กล้าคิดจริงๆ ว่าวันข้างหน้าจะทำอย่างไร หญิงสาวที่ชื่อเสียงป่นปี้ จุดจบที่ดีที่สุดคือหย่าร้าง จุดจบที่เลวร้ายที่สุด ดูแม่นางหรงเป็ตัวอย่าง
เมื่อััได้ถึงสายตาที่เปลี่ยนไปของหญิงสาวและบรรดาสตรีที่เพิ่งแต่งงาน ยามมองโจวปาผอ ซ่งอวี้ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ นางตั้งใจให้เป็เช่นนี้ ตั้งใจเอาตนเองไปผูกกับพวกนาง ขอเพียงวันข้างหน้าพวกนางต้องไปหาผู้ใหญ่บ้านก็ย่อมต้องแก้ปัญหานี้
ซ่งอวี้พอใจกับการชักนำของตนเองอย่างมาก แค่ดูว่าบรรดาสตรีที่ยืนอยู่ด้านหน้านางจะโต้กลับโจวปาผออย่างไรก็รับรู้แล้ว
