ในการต่อสู้กับหานหนานเทียนก่อนหน้านี้ กระบี่เพลิงจากเผ่าอนธการโดนอีกฝ่ายทำลายไปแล้ว ตอนนั้นเสิ่นเสวียนเก็บเศษชิ้นส่วนเหล่านี้เอาไว้ในมิติ เผื่อไว้ใช้ทำอย่างอื่น
วัสดุที่ใช้สร้างกระบี่เพลิงเล่มนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่ละสิ่งที่ใช้สร้างล้วนอยู่ในขั้นลึกลับ ครั้งนี้เสิ่นเสวียน้าใช้วัสดุเหล่านี้สร้างศาสตราิญญาขึ้นมา
ศาสตราิญญามีความหมายตามชื่อเรียก นั่นคือของล้ำค่าที่มีจิติญญา ระดับความทนทานของมันเทียบเท่ากับศาสตราวิเศษขั้นปฐีของที่นี่ เมื่อมีศาสตราิญญา เขาจะสามารถป้องกันตัวได้ในระดับหนึ่งในทวีปหลิงโซ่วที่ให้ความเคารพต่อผู้แข็งแกร่งแห่งนี้
เสิ่นเสวียนนั่งอยู่บนหอคอย เศษชิ้นส่วนของกระบี่เพลิงลอยวนอยู่รอบๆ ร่างของเขา
เสิ่นเสวียนหลับตาอยู่ พลังจิติญญาปกคลุมไปทั่วร่าง ทำให้เศษชิ้นส่วนเหล่านี้ส่งเสียงดังออกมาพร้อมกัน และในส่วนล่างของมิติมีเพลิงิญญาเปล่งประกายวูบวาบอยู่
เขาใช้หอคอยเป็เตาหลอม ใช้ร่างกายเป็ส่วนสำคัญในการหลอมละลายเศษชิ้นส่วนเหล่านี้ เพลิงิญญามีส่วนผสมจากเพลิงิญญาของงูหน้าผี เพลิงิญญาของหม่าเมี่ยน และเพลิงประจำตัวของเขาเอง เปลวเพลิงทั้งสามหลอมรวมเป็หนึ่งเดียว กำลังหลอมละลายเศษชิ้นส่วนเหล่านี้ทีละน้อย
น่าเสียดายที่ภายนอกมองไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหอคอย ไม่เช่นนั้นคงทำให้ตื่นใกันไปทั่ว
วิธีการสร้างศาสตราวุธที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้แม้แต่นักสร้างศาสตราวุธขั้นห้ายังทำไม่ได้ และนักสร้างศาสตราวุธขั้นห้ามีแต่ผู้ที่มีพลังเหนือกว่าขั้นราชัน ไม่มีทางต่ำกว่าได้เลย
อันที่จริงนักสร้างศาสตราวุธและนักปรุงยาเรียกรวมกันเป็อาชีพเดียว พวกเขามีพื้นฐานเดียวกัน เพียงแต่บางคนชอบสร้างศาสตราวุธ บางคนชอบปรุงยา ภายหลังเริ่มแตกต่างกันจึงแยกออกเป็สองอาชีพ แน่นอนว่ายังมีบางคนเลือกฝึกฝนทั้งสองอย่างไปพร้อมกันและทำได้ดีอีกด้วย
โดยทั่วไปแล้วคนแบบนี้จะถูกสำนักหรือตระกูลใหญ่ๆ รับตัวไป และได้รับการปฏิบัติอย่างแขกที่มีเกียรติ
ผ่านไปอีกประมาณหนึ่งเค่อ เศษชิ้นส่วนกระบี่ที่ลอยอยู่รอบๆ ร่างหลอมละลายกลายเป็ของเหลวที่มีไฟลุกโชนคล้ายกับลาวา แต่กลับเปี่ยมไปด้วยไอพลังหลิงชี่ แสดงให้เห็นถึงความพิเศษของมัน
เสิ่นเสวียนที่หลับตาอยู่พลันกระตุกยิ้มมุมปาก คลื่นพลังมิติสั่นไหวเล็กน้อย แล้วขวดสีดำหลายขวดก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
ขวดสีดำทั้งหมดสี่ขวดลอยวนไปรอบๆ ร่างของเขา ในขณะที่หมุนวนไปเหมือนกับััได้ถึงเพลิงิญญาของหม่าเมี่ยนที่ด้านล่าง ไอพลังสีดำมากมายแผ่กระจายออกมาไม่หยุด ขณะเดียวกันขวดสีดำที่แข็งแกร่งพลันแตกกระจาย
ขวดสีดำเหล่านี้คือของล้ำค่าขั้นศาสตราิญญา เพียงแต่ศาสตราิญญาเช่นนี้จะแสดงอานุภาพได้เฉพาะในยมโลกหรือโลกิญญาเท่านั้น หากอยู่ในโลกมนุษย์จะมีประสิทธิภาพลดลง คิดจะหลอมละลายศาสตราิญญาทั่วๆ ไปไม่ใช่เื่ง่าย ที่มันหลอมละลายได้รวดเร็วขนาดนี้เพราะเพลิงิญญาของหม่าเมี่ยน
ไอพลังสีดำแผ่กระจายออกมาจากขวดสีดำสี่ใบหลอมรวมเข้ากับเศษชิ้นส่วนกระบี่ที่หลอมละลายไปแล้ว สองสีแดงดำผสมผสานและทับซ้อนเข้าด้วยกัน
ขวดสีดำหลอมละลายไปทีละน้อย ส่วนเสิ่นเสวียนเหงื่อไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ไอพลังของเขาเทียบกับ่สมบูรณ์พร้อมไม่ได้เลย แม้แต่ลมหายใจยังถี่ขึ้น
แม้จะมีเพลิงิญญาของหม่าเมี่ยน แต่การหลอมละลายขวดสีดำสี่ใบพร้อมกันยังเป็การท้าทายมากสำหรับเขา แต่เขาเป็คนชอบความท้าทายอยู่แล้ว หากไม่ใช่เื่ยากเขาก็ไม่อยากทำเลย
ขวดสีดำสี่ใบนี้คือขวดยาน้ำสกัดจากหลินจือโมราที่เสิ่นเสี่ยวเม่ยและเสิ่นว่านซื่อใช้ไปแล้วก่อนหน้านี้ ครั้งนี้เขา้าใช้วิธีสร้างศาสตราวุธของเซียนพเนจรเพื่อสร้างกระบี่เพลิงเล่มนี้ขึ้นมาใหม่
สามชั่วยามผ่านไป
เมืองอวี่ฮว่าตอนนี้เกือบถึง่บ่ายแล้ว หิมะถูกกวาดไปอยู่ข้างๆ บางที่มีการปั้นขึ้นเป็มนุษย์หิมะ เด็กบางคนกำลังเล่นหิมะอยู่อย่างสนุกสนาน
ส่วนบนหอคอยตระกูลเสิ่นถูกแผดเผาไปแล้วกว่าสามชั่วยาม ในที่สุดเขาก็หลอมละลายขวดสีดำสี่ใบนั้นจนหมดสิ้น และทำให้มันหลอมรวมเป็หนึ่งเดียวกับเศษชิ้นส่วนกระบี่ที่หลอมละลายแล้ว
การสร้างศาสตราิญญามีอยู่สี่ขั้นตอน คือ ชำระล้าง หลอมรวม สะกดิญญา และขึ้นรูป
เสิ่นเสวียนทำขั้นตอนชำระล้างและหลอมรวมสำเร็จแล้ว หลังจากนี้คือการสะกดิญญาซึ่งเป็ขั้นตอนสำคัญที่สุด ความสำเร็จของการสะกดิญญาจะกำหนดความสำเร็จของการสร้างอาวุธชิ้นนี้ได้
ใช้ทักษะของเซียนพเนจรในการสะกดิญญา ต้องใช้การค้นหาจิติญญาจากภายในมิติ จากนั้นนำมาบีบอัดแล้วส่งเข้าไปภายในศาสตราวุธ เห็นได้ชัดว่าเสิ่นเสวียนยังทำไม่ได้ ทว่าเขามีตัวเลือกที่เหมาะสมมากๆ อยู่อย่างหนึ่ง
นั่นคืออัญมณีบนเกราะของเผ่าอนธการ
อัญมณีเม็ดนั้นมีความพิเศษมาก เสิ่นเสวียนไม่เคยเจอวัสดุเช่นนี้มาก่อน มันสามารถแผดเผาอายุขัยของมนุษย์แล้วแปรเปลี่ยนเป็พลังได้ เป็การแปรเปลี่ยนลักษณะพิเศษของธรรมชาติ ซึ่งคล้ายคลึงกับความสามารถบางอย่างในยมโลก จึงเหมาะสมมากหากเอามันมาใช้แทนจิติญญา
เสิ่นเสวียนควบคุมพลังไปเรื่อยๆ วัสดุทั้งหมดรอบๆ ร่างของเขาหลอมรวมเข้าด้วยกันและเริ่มขึ้นรูปเป็กระบี่อย่างเชื่องช้าภายในมิติเบื้องหน้า
กระบี่เล่มนี้ใหญ่มาก ยาวสามฉื่อ[1] หนึ่งชุ่น[2] กว้างหนึ่งฉื่อสองชุ่น วางนอนอยู่ตรงหน้าเขา
มันถูกขึ้นรูปเรียบร้อยแล้ว พลังภายในนั้นคล้ายจะยังไม่ถูกควบคุม มันเริ่มแผ่กระจายออกมาภายนอกอย่างบ้าคลั่ง กระบี่ที่ใหญ่อยู่แล้วกลับขยายใหญ่ขึ้นกว่าสามเท่า
“กด!”
เสิ่นเสวียนนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นพลางกล่าวเสียงเย็น คลื่นเสียงของเขาแปรเปลี่ยนเป็พลังพุ่งเข้าควบคุมกระบี่ที่กำลังขยายใหญ่เอาไว้
ทันทีที่พลังของเขาััมัน กระบี่หดขนาดลงอย่างรวดเร็วราวกับลูกโป่งถูกปล่อยลม จนกลับมาเป็รูปร่างเดิม
ทว่าหลังจากนั้นไม่นานมันก็ขยายใหญ่อีกครั้ง
“กด!”
เสิ่นเสวียนกล่าวออกไปเช่นเดิม แสดงพลังออกไปควบคุมอีกครั้ง
ทุกครั้งที่กดให้มันเล็กลงจะรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในครั้งนี้มีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่มาก จะควบคุมพวกมันไม่ได้จึงเป็เื่ปกติ
หลังจากควบคุมพลังไปหลายครั้ง รูปร่างของกระบี่ก็ค่อยๆ คงที่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เสิ่นเสวียนควบคุมพลังเ่าั้มากกว่าร้อยครั้งแล้ว ทำให้กระบี่เล่มนั้นนิ่งลงไม่ขยายใหญ่อีก ส่วนเสิ่นเสวียนที่ก่อนหน้านี้เหลือพลังอยู่เพียงครึ่งเดียว ตอนนี้เขาเหลือพลังไม่ถึงหนึ่งส่วนเลยด้วยซ้ำ โชคดีที่หลังจากนี้ไม่ต้องใช้พลังมากแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาจะสร้างศาสตราวุธสำเร็จหรือไม่ก็ยังไม่รู้
“ออกมา!”
เสิ่นเสวียนะโเสียงเย็น เกราะที่เก็บซ่อนอยู่ในมิติก่อนหน้านี้ถูกเขาเรียกออกมา ทันทีที่มันปรากฏขึ้นและเผชิญหน้ากับเพลิงิญญามันก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เพียงชั่วขณะเดียวก็เหลือแต่อัญมณีสีดำเม็ดนั้นลอยอยู่นิ่งๆ
พลังจิติญญาพุ่งเข้าััอัญมณีเม็ดนั้น เขารู้สึกได้ว่าภายในนั้นเปี่ยมไปด้วยพลังจิติญญาแต่มิอาจทำลายได้ อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญเลย ใช้มันเป็วัสดุสะกดิญญาก็เพียงพอแล้ว
“ไป!”
เสิ่นเสวียนะโออกไปอีกครั้ง อัญมณีเม็ดนั้นพุ่งเข้าไปประดับอยู่บนกระบี่เล่มนั้นอย่างแม่นยำราวกับถูกจับวาง
ทันทีที่อัญมณีฝังลงไป ราวกับกระบี่เล่มนี้มีจิติญญาสมบูรณ์แล้ว ลวดลายสีดำปรากฏขึ้นสองสาย แล้วมันก็ลามปกคลุมไปทั่วทั้งเล่ม
ชี่!
เมื่ออัญมณีเข้าตรงตำแหน่งแล้วกระบี่เล่มนี้ก็ส่งเสียงออกมาทันที จากนั้นมันก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำให้ทุกคนในเมืองอวี่ฮว่าได้ยินเสียงอย่างชัดเจน
เสิ่นล่างอยู่ภายในเรือนของตนเอง เขาเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าในทันที แล้วหันมองไปทางหอคอยตระกูลเสิ่นด้วยสีหน้าใ
“ศาสตราวิเศษขั้นปฐีปรากฏขึ้นแล้ว!”
เสิ่นล่างกล่าว ริมฝีปากสั่นระริก
ขณะเดียวกัน อำนาจอื่นๆ ในเมืองอวี่ฮว่าต่างกำลังจับจ้องไปทางหอคอยตระกูลเสิ่น
ที่นั่นไม่มีอะไรเลยแท้ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกกดดันอย่างรุนแรง
แต่ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีอะไร พวกเขาต่างรู้ว่าตระกูลเสิ่นเหนือกว่าพวกเขาอย่างสิ้นเชิง กลายเป็ตระกูลยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง
“กระบี่ร้องัคำราม ไม่เลวเลย ในเมื่อเป็เช่นนี้ข้าขอตั้งชื่อเ้าว่า ‘กระบี่ัคำราม’ แล้วกัน”
เสิ่นเสวียนกล่าวพร้อมยื่นมือออกไปคว้ากระบี่ไว้ ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง
.................................................
[1] ฉื่อ คือหน่วยวัดระยะทาง (1 ฉื่อ ยาวประมาณ 33.3 เิเ)
[2] ชุ่น คือหน่วยวัดระยะทาง (1 ชุ่น ยาวประมาณ 3.33 เิเ)