แค่ลู่หวยเหรินยกก้น หญิงชราก็รู้แล้วว่าเขาจะผายลมกลิ่นอะไร นับประสาอะไรกับความคิดในใจของเขากัน?
ทันใดนั้นหญิงชราก็เรียกให้ลู่จิ่งซานเข้ามา
ลู่หวยเหรินสูงราวๆ ร้อยเจ็ดสิบสี่เิเได้ ส่วนลู่จิ่งซานนั้นน่าจะได้ส่วนสูงจากทางฝั่งแม่ น่าจะสูงประมาณร้อยแปดสิบเจ็ดเิเได้
พออีกฝ่ายเข้ามายืนตัวตรงสง่าอยู่ตรงนั้น ลู่หวยเหรินที่นั่งอยู่ตรงขอบเตียงก็เผลอลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติ แต่พอเมื่อยืนขึ้นแล้วกลับพบว่ายังต้องเงยหน้าขึ้นคุยกับเขาอยู่ ก็รู้สึกขัดๆ ในใจขึ้นมาอีก
พอคิดถึงเื่ที่ลู่จิ่งซานเป็คนเสนอเื่แยกบ้าน ความไม่พอใจในตัวอีกฝ่ายก็ยิ่งทวีขึ้นไปอีก
ไม่มีความเฉลียวฉลาดเอาเสียเลย ทำไมไม่รู้จักนั่งลงหรือไม่ก็ถอยออกไปยืนไกลๆ บ้างเลยหรือไง?
เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แล้วก็พูดขึ้น “แกจะแยกบ้านเหรอ?”
“แกรู้ไหมว่าการแยกบ้านมันหมายความว่ายังไง?” ลู่หวยเหรินยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห “ย่าแกยังอยู่ทั้งคน บ้านหลังนี้จะแยกกันไม่ได้!”
ลู่จิ่งซานเงยหน้ามองหญิงชราแวบหนึ่ง
“ย่ายังไม่ได้บอกเื่นี้กับพ่อแกอย่างละเอียด” หญิงชราพูดขึ้น
“อ้อ” ลู่จิ่งซานมองลู่หวยเหริน “งั้นผมพูดเองก็ได้”
“ผมจะแยกออกไปจากบ้านรอง” ลู่จิ่งซานพูด “เื่ของเสี่ยวอวี่ต่อไปผมจะดูแลเอง พวกพ่อไม่ต้องเป็ห่วง เื่อื่นๆ ในบ้านก็เหมือนเดิม”
“หมายความว่ายังไง?” ลู่หวยเหรินหัวเราะอย่างขบขัน “เพราะเื่เมื่อวานงั้นเหรอ? ก็แค่เด็กผู้หญิงสองคนทะเลาะกันนิดหน่อยเอง จิ่งซาน แกจะโกรธเป็ฟืนเป็ไฟไปทำไม?”
“หรือว่าเพราะเมียแก?” ลู่หวยเหรินแสยะยิ้มพลางกัดฟัน “ฉันกับน้าเหอของแกยังแข็งแรงดีอยู่เลย หล่อนเป็แค่สะใภ้ที่เพิ่งแต่งเข้ามาใหม่ ก็เริ่มวุ่นวายเื่แยกบ้านแล้วเหรอ?”
“เื่นี้เป็ความคิดของผมเอง ไม่เกี่ยวกับเธอ” ลู่จิ่งซานพูด “ผมไม่อยากให้เื่แบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก”
“ก็แค่มีปากเสียงกันไม่ใช่เหรอ” ลู่หวยเหรินพูดกลั้วหัวเราะ “จิ่งซาน แกจะจริงจังเกินไปหน่อยไหม? แค่...เพราะเื่แค่นี้ถึงกับต้องแยกบ้าน มันตลกสิ้นดี” เขาพูดพลางมือสั่น
“นั่นก็เพราะว่าพ่อไม่ได้เห็นสภาพของเสี่ยวอวี่เมื่อวาน” ลู่จิ่งซานพูดพลางเม้มปาก “เื่ที่ผ่านมา ผมไม่อยากจะรื้อฟื้นหรือตามเอาเื่อะไรมันอีก แต่ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่ยอมให้เื่แบบนั้นเกิดขึ้นอีกเป็อันขาด”
“แกตัดสินใจแล้วใช่ไหม?” ลู่หวยเหรินถามด้วยใบหน้าถมึงทึง
ลู่จิ่งซานเงียบไป
นี่คือวิธีที่เขาสามารถแก้ไขปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ได้ในตอนนี้ แน่นอนว่ายังมีอีกวิธีหนึ่งก็คือให้สวี่จือจือย้ายตามเขาไปอยู่กองทัพ แล้วพาเสี่ยวอวี่ไปด้วย ออกจากที่นี่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่
แต่ปัญหาคือตอนนี้พวกเขาเป็สามีภรรยากัน ถ้าเขาพาเธอไปที่กองทัพแล้ว ต่อไปถ้าเธออยากจะไปจากเขา คงไม่ใช่เื่ง่ายแล้ว
พอคิดถึงตรงนี้ ลู่จิ่งซานก็รู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมา ถึงขั้นอยากจะตบหน้าตัวเองสักสองสามที
เมื่อก่อนเธอก็ตกลงกับเขาแล้วว่าจะใช้เวลาสองปีเพื่อปรับตัวเข้าหากัน ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็แบบนี้ไปได้?
“พ่อไม่ต้องห่วง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “เงินเบี้ยเลี้ยงของผมทุกเดือนจะให้พ่อกับคุณย่าคนละยี่สิบห้าหยวนเหมือนกัน แล้วถ้าต่อไปขึ้นเงินเดือน เงินส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”
ตอนนี้เงินเบี้ยเลี้ยงของเขาอยู่ที่เดือนละหนึ่งร้อยห้าหยวน ให้ทางบ้านห้าสิบหยวน พวกเขาเหลือห้าสิบห้าหยวน ต้องให้เป็ค่าเล่าเรียนของเสี่ยวอวี่ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ตึงมืออยู่เหมือนกัน
“เื่ในบ้าน ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ ผมก็จะช่วยอย่างเต็มที่ ส่วนเื่เรียนและเื่แต่งงานของเสี่ยวอวี่ในอนาคต ผมก็จะบอกให้ทราบ”
บอก?
นั่นก็คือบอกให้เขาไม่ต้องมายุ่งนั่นแหละ
“ฉันเป็พ่อแกนะ!” ลู่หวยเหรินโมโหจนแทบคลั่ง “นี่แกจะแยกบ้านงั้นเหรอ? นี่แกกำลังจะตัดขาดความเป็พ่อลูกกับฉันใช่ไหม!”
“ถ้าพ่อคิดแบบนั้น ผมก็ช่วยไม่ได้” ลู่จิ่งซานพูดอย่างจนปัญญา “ผมแค่ไม่อยากให้เสี่ยวอวี่ต้องเสียใจอีก”
ต้องโทษเขาด้วยที่คิดว่าน้องสาวแค่มีนิสัยแปลกๆ นิดหน่อย
ที่ไหนได้!
“พ่อจะตีแกให้ตาย!” ลู่หวยเหรินมองไปรอบๆ ก็เจอไม้กวาดที่แม่ของตัวเองเพิ่งใช้ตีเขาเมื่อกี้ คว้ามันมาถือไว้แล้วฟาดใส่ลู่จิ่งซาน
“เ้ารอง” คุณนายลู่ะโอย่างร้อนใจ
เธอไม่คิดว่าลูกชายคนรองของเธอจะถึงกับลงมือทำร้ายคน แต่เธอเป็คนแก่ที่ขาไม่ดี “แกหยุดเดี๋ยวนี้”
แต่เธอกังวลใจมากเกินไป พอใก็มักจะเกิดเื่ผิดพลาด ไม่ได้ยันตัวให้ดี กำลังจะพลัดตกจากเตียง
“คุณย่า”
“โอ๊ย...”
ลู่จิ่งซานก้าวขายาวๆ เข้าไปอุ้มหญิงชราไว้ แต่ลู่หวยเหรินไม่รู้ เขาถือไม้กวาดฟาดใส่ลู่จิ่งซานไม่ยั้ง แล้วไม้กวาดก็ฟาดเข้าที่หน้าผากของลู่จิ่งซาน
ไม้กวาดทำความสะอาดเตียงไม่ได้ใหญ่มาก ลู่หวยเหรินจับปลายไม้กวาดแล้วใช้ส่วนที่จับตีคน ตีใส่ก็เจ็บ แต่ความเ็ปแค่นี้ลู่จิ่งซานทนได้
ในเมื่อเขาตัดสินใจแบบนี้แล้ว ลู่หวยเหรินจะโมโหก็ไม่แปลก ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ระบายบ้างก็ไม่เสียหายอะไร แค่เจ็บตัวนิดหน่อย แต่ไม่คิดว่าหญิงชราเกือบจะพลัดตกจากเตียง
หญิงชราเคยได้รับาเ็เมื่อหลายปีก่อน แม้จะดูแลตัวเองอย่างดี แต่ก็อายุมากแล้ว ถ้าเกิดล้มลงไปก็แย่แน่
“แกมีสิทธิ์อะไรมาตีเขา?” หญิงชราพูดด้วยใบหน้าดำคล้ำ พลางหอบหายใจ “แกเลี้ยงดูเขามา หรือว่าดูแลเขา?”
ลู่หวยเหรินคอตก “คุณแม่”
“ฉันยังไม่ตาย” หญิงชราชี้หน้าเขา “ถ้าแกจะตีเขา ก็ฆ่าฉันให้ตายก่อนสิ”
ลู่หวยเหรินจะกล้าได้ยังไง?
“เื่แยกบ้าน เป็อันว่าตกลงกันตามนี้” หญิงชราพูด “ส่วนเื่เมียแก ฉันไม่สนว่าแกจะไปคุยกับหล่อนยังไง”
“ถ้าหล่อนจะอาละวาด” หญิงชราหัวเราะอย่างเ็า “พวกแกก็ไสหัวไปให้ไกลๆ ฉันซะ อย่ากลับมาบ้านนี้อีก ฉันจะถือว่าไม่มีลูกชายอย่างแก”
นี่...ไม่ได้กำลังขู่เขาอยู่ใช่ไหม?
ถ้าพวกเขาไม่ตกลงที่จะให้ลู่จิ่งซานแยกออกไปจากบ้านรอง หญิงชราก็จะเอาจริงแล้วไล่พวกเขาออกจากบ้านรองไปทั้งบ้าน
ลู่หวยเหรินรีบวิเคราะห์ในใจอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ทำได้แค่พยักหน้าให้ลู่จิ่งซานด้วยใบหน้าบึ้งตึง
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ หญิงชราก็เรียกทุกคนไปรวมกันที่ห้องของตัวเอง
นี่เป็ครั้งแรกที่บ้านตระกูลลู่มาประชุมกันหลังจากที่สวี่จือจือแต่งเข้ามา
บ้านใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะเป็การแยกตัวของลู่จิ่งซานออกจากบ้านรอง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาเลย
แต่ก็ไม่เป็อุปสรรคที่จ้าวลี่เจวียนจะดีใจ ขอแค่เป็เื่ที่ทำให้เหอเสวี่ยฉินไม่สบายใจ สำหรับเธอมันก็เป็เื่ที่ดีทั้งนั้น โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นเหอเสวี่ยฉินทำหน้าเหมือนคนจะอาเจียนเป็เื จ้าวลี่เจวียนก็แทบจะฉีกยิ้มจนถึงใบหู
เหอเสวี่ยฉินเป็ผู้หญิงที่เสแสร้งเก่งมาก แถมยังชักจูงคนได้เก่ง จนทำให้คนทั้งประชาคมชีหลี่คิดว่าอีกฝ่ายใจดี เป็แม่เลี้ยงที่ดีที่สุดในปฐี
มีแต่เธอที่เป็พี่สะใภ้เท่านั้นที่รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้เป็คนปากหวานก้นเปรี้ยว
คงจะคิดถึงแต่เื่ผลประโยชน์จากเื่แต่งงานของลู่ซืออวี่ในอนาคตสิท่า ตอนนี้ถึงได้ทำหน้าเหมือนคนท้องผูกแบบนี้
ส่วนสวี่จือจือก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย เมื่อเห็นสายตาที่เหมือนจะฆ่ากันได้ของเหอเสวี่ยฉิน เธอก็ยังสามารถยิ้มให้ได้อย่างสดใส
“สวี่จือจือ” เหอเสวี่ยฉินยิ้มอย่างเ็า “หนทางยังอีกยาวไกล พวกเรามาคอยดูเถอะ”
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้