ไม่ว่าหว่านฉือจะทำการใดลับหลัง ก็ไม่สามารถทำลายภาพลักษณ์ของนางที่มีต่อสาธารณชนได้
ในวันอภิเษกของนาง ผู้คนในเมืองหลวงหลั่งไหลกันมาเต็มสองข้างทางถนน พากันยืนเขย่งเท้า อยากเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของสตรีผู้มีชื่อเสียง
การอภิเษกครานี้ สร้างความเคลื่อนไหวไปทั้งเมือง
การประดับประดางานมงคลสีแดงทอดยาวจากจวนองค์ชายเจ็ด ไปถึงจวนของหว่านฉือ ต้นไม้สีเขียวทางด้านซ้ายและขวาของถนนถูกปกคลุมไปด้วยแถบสีแดงที่ทอดยาวออกไปภายใต้แสงอาทิตย์ ดูน่ายินดีมาก
หรงซิวแต่งชุดแดงขี่ม้าตัวสูง อยู่หน้าแถว
เขามีชื่อเสียงั้แ่อายุยังน้อย ว่าหล่อเหลาและเ็า สีแดงเืบนหน้าของเขาสร้างรัศมีอันน่าทึ่ง และเกี้ยวใหญ่ที่หรูหราแปดคันที่อยู่ข้างหลังเขา ได้กลายเป็พื้นหลังที่ไม่โดดเด่น
สตรีที่เข้ามาห้อมล้อม ก็ต้องหลงใหลเมื่อได้เห็นเขา
จะแต่งงานก็ต้องแต่งกับองค์ชายเจ็ด คำพูดนี้มิผิดเลย!
ทั้งรวยและทรงพลัง ทั้งมีความสามารถและหล่อเหลา สูงส่งจากหมู่คน ดีที่สุดในหมู่ลูกเขย!
แม้ว่าตำแหน่งพระชายาจะถูกไปแล้ว แต่การเป็นางสนมตัวเล็กๆ พิธีแต่งงานตรงหน้ามิได้แพ้ไปกว่าพระชายาเลย ได้หน้าได้ตาไม่น้อย!
กลุ่มคนที่จัดงานเดินไปถึงที่หมายอย่างราบรื่น หรงซิวลงจากหลังม้า และแม่สื่อผู้มีไฝอยู่ข้างปากก็เดินเอวบิดเข้ามา
“ฝ่าาเพคะ! โปรดรอสักครู่เพคะ! ข้าจะไปเชิญเ้าสาว ณ บัดนี้!” ขณะที่นางพูด นางก็เขย่าผ้าเช็ดหน้าต่อหน้าบุรุษหนุ่มราวกับว่านางหยอกล้อ
หรงซิวขมวดคิ้ว พยักหน้าเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน สตรีผู้นั้นก็รีบเดินออกมาอย่างมีความสุข และสตรีที่ถูกพยุงมาด้านหลังของนางก็คือหว่านฉือ
นางสวมชุดแต่งงานสีแดงคลุมผ้าสีแดง ร่างกายของนางดูสง่างามมาก ทุกก้าวที่เดินก็ราวกับต้นหลิวพลิ้วลม แทบจะล้มลงได้ทุกครา
โชคดีมีสาวใช้คอยดูแลอย่างดีทั้งซ้ายและขวา
หรงซิวแววตาเ็า มิมีร่องรอยของความสุขบนใบหน้าเขาเลย เขาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย มิรู้ว่าเพราะเหตุใด เขาถึงได้คิดถึงการอภิเษกกับอวิ๋นอี้คราก่อน
การอภิเษกครานั้นผ่านไปอย่างรีบร้อน พิธีของพวกเขาจึงแสนเรียบง่าย
เขาที่ถูกความเกลียดชังบังตา เพียงแค่้าบรรลุเป้าหมาย จึงจำรายละเอียดของพิธีการแต่งงานมิได้เลยสักนิด
สิ่งที่จำได้อย่างคลุมเครือเพียงอย่างเดียวคือวันนั้นอวิ๋นอี้เดินเร็วมาก
นิสัยเก็บตัวและไม่กล้าแสดงออกของนาง กดเก็บความตื่นเต้นเอาไว้มิได้ จึงวิ่งเข้าไปหาเขา แต่นางไม่คิดเลยว่า นางจะวิ่งเข้าสู่หลุมฝังศพที่รกร้างว่างเปล่า
หรงซิวรู้สึกปวดใจลึกๆ
ถ้าหาก...ถ้าหากว่าเขารู้ ว่าเขาจะชอบอวิ๋นอี้ คงแสดงความรักต่อนางอย่างจริงจังและกระตือรือร้นั้แ่แรกที่ได้เห็นนาง
แต่โชคดีที่ยังไม่สายเกินไป
“ฝ่าา?”
“ฝ่าาเพคะ?”
แม่สื่อส่งหว่านฉือไปให้หรงซิว แต่กลับเห็นว่าเขาเอามือไพล่หลังไม่ขยับ จากใบหน้าของเขา ดูเหมือนว่ากำลังคิดถึงความทรงจำกระไรบางอย่าง
หลังจากที่เรียกซ้ำๆ สองรอบ ถึงได้เห็นว่าเขาเริ่มจะเงยหน้าขึ้นช้าๆ
ในวันมงคลเช่นนี้ แม่สื่อได้รับเงินมาช่วยจัดแจงงานจำนวนมาก นางจะทำผิดพลาดมิได้
นางรีบยิ้มและพยักหน้า “ฝ่าาเพคะ ดูเหมือนวันนี้พระชายาจะงดงามมาก ทำเอาท่านหลงไปเลย!”
น้ำเสียงของแม่สื่อนั้นน่าขบขันมีไหวพริบ ทำเอาสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ ยิ้มปริ
หรงซิวไม่ตอบ ก้มลงมองเชือกสีแดงในมือ จับเงียบๆ หันหลังเดินลงบันไดไป
แม่สื่อรีบะโว่า "ไปกันเถิด! เ้าบ่าวพาเ้าสาวกลับจวนแล้ว!"
เสียงประทัดดังขึ้น ฝูงชนล้นหลามกันเหมือนคลื่น และเสียงปรบมือก็ดังขึ้นราวกับน้ำซัดฝั่ง
เมื่อเห็นว่าพระชายาอยู่บนเกี้ยวแล้ว แม่สื่อก็โล่งใจ นางโบกมืออย่างมีความสุข และให้คนในคณะโปรยซีถาง [1] และเมล็ดแตง ทั้งยังมีกระเป๋า ที่ใส่เศษเงินไว้ด้วย
ฝูงชนที่มีชีวิตชีวาก็สนุกสนานครื้นเครงกันถึงที่สุด
หลายคนคุกเข่าลงและะโอย่างตื้นตัน ขอบคุณองค์ชายและพระชายา เสียงดังก้องไปทั่วฟ้า
หว่านฉือที่นั่งอยู่บนเกี้ยว รอยยิ้มบนริมฝีปากของนางก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่แววตาของนางกลับเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
นี่คือสิ่งที่นาง้า!
งานอภิเษกยิ่งใหญ่ มีชีวิตชีวา ก็ยิ่งน่าจดจำ นางก็ยิ่งมีศักดิ์ศรีและได้รับความนิยมมากขึ้นเท่านั้น!
ถ้าให้ดีที่สุดก็คือคนทั้งเมืองหลวงได้จดจำนางที่เป็พระชายาผู้นี้ แล้วลืมพระชายาเอกคนที่อยู่ในจวนไปเสีย
อวิ๋นอี้มิได้สวยและมิมีความสามารถ ใช้กระไรมาดำรงสถานะนั้น?
นางจะบีบอวิ๋นอี้ ให้ได้รู้ตัวตนของตนเอง และยอมสละตำแหน่งพระชายาเอก เพื่อที่นางจะได้อยู่อย่างมั่นคง และสบาย
หากแต่ว่า...
รอยยิ้มของหว่านฉือหายไปในทันใด และมือที่อยู่ภายใต้ชุดสีแดงก็กำแน่น
เมื่อคิดถึงถึงเื่นี้นางก็ไม่ชอบใจ ก่อนที่นางจะโค่นอวิ๋นอี้ลงไปได้ นางจะต้องอยู่อย่างผู้เป็รอง แม้กระทั่งต้องก้มหัวและยกชาให้สตรีผู้นั้นดื่มเสียด้วย!
ช่างมันสิ!
อดทนไว้ อดทนไว้ อดทนไว้ ไทเฮาสอนให้นางอดทน จะต้องกลั้นใจได้ ก้มหัวชงชาก็ช่างประไร นางค่อยสร้างภาพลักษณ์ใหม่ได้
ข้างนอกเกี้ยวนั้นมีเสียงกลองฆ้องดังระงม รื่นเริงมาก แต่บรรยากาศภายในกลับเ็าและเต็มไปด้วยการคิดแผนการ
จนกระทั่งมีเสียงโห่ร้องดังเข้ามา “ยินดีต้อนรับฝ่าาและพระชายารองกลับจวนพ่ะย่ะค่ะ!”
จากนั้นเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงประทัด บรรยากาศราวกับต้มน้ำร้อน ไม่นานก็เดือด
แม่สื่อพูดเร่ง "ฝ่าาเพคะ! ฝ่าามาเตะประตูเกี้ยวสิเพคะ!"
หว่านฉือหน้าแดง ทิ้งความคิดทั้งหมดไป กลั้นหายใจขณะฟังเสียงที่รอคอยมานาน
เพื่อเขาแล้ว นางรอั้แ่อายุสิบขวบจนถึงสิบห้า เวลาเก้าปีเต็ม นางอยากเป็ชายาของเขา คิดจนแทบไม่เหลือสติ
“เชิญพระชายาลงจากเกี้ยวเพคะ!”
มุมหนึ่งของม่านค่อยๆ ยกขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าของเหลียนเหอ นางพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ “พระชายาเพคะ เราถึงจวนแล้วเพคะ ข้าจะพยุงลงนะเพคะ”
หว่านฉือพยักหน้าอย่างตื่นเต้น ก็คิดถึงสถานะของตนเองอีกครา จัดแจงสีหน้าของตนเองทันที แล้วเอื้อมมือออกไปหาเหลียนเหอ
คนในจวนมารวมตัวกันที่ประตู เมื่อเห็นนาง ทุกคนก็คุกเข่าลงและพูดพร้อมกันว่า “ต้อนรับพระชายารองเข้าจวนพ่ะย่ะค่ะ!”
เรียกพระชายาก็พอ เรียกพระชายารองกระไรกันเล่า จะทำให้คนไม่ชอบใจให้ได้ใช่หรือไม่?
หว่านฉือเหลือบมองพวกเขาคร่าวๆ ผ่านผ้าคลุมแดง และในไม่ช้าก็เห็นรองเท้ายาวสีดำคู่หนึ่งปรากฏขึ้นในสายตา หัวใจของนางก็เต้นแรงขึ้น จากนั้นมือของนางก็ค่อยๆ ถูกดึงไปข้างหน้า
นางก้าวข้ามเตาอั้งโล่ ข้ามธรณีประตู และถูกแม่สื่อนำเดินไปที่ห้องโถง
ในห้องโถงใหญ่มีผู้คนไม่มากนัก ทันใดนั้นเสียงก็เบาลง เหลือเพียงเสียงฝีเท้าที่เบาบางเข้ามาใกล้หูของนาง
นางมองไปยังที่นั่งหลักโดยมิรู้ตัว สายตาของนางถูกบดบัง แล้วนางก็เห็นชายกระโปรงของอวิ๋นอี้
หว่านฉือมุ่ยปาก เดินเข้าไปอย่างไม่ยอม
“ฝ่าาพาน้องเข้าจวนมาแล้วหรือเพคะ?” อวิ๋นอี้สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วแกล้งถามอย่างสุภาพ น้ำเสียงของนางดูอ่อนโยน ใบหน้าของนางมิมีรอยยิ้มมากนัก “เหนื่อยหรือไม่เพคะ?”
หรงซิวยิ้มเล็กน้อย ทิ้งหว่านฉือ เดินไปหานางแล้วนั่งลง หยิบถ้วยน้ำชาเป่าขึ้นก่อนจะยื่นให้นาง “ไม่เหนื่อย แต่ร่างกายเ้ายังไม่แข็งแรง นั่งอยู่นานเลย เหนื่อยหรือไม่?”
“ไม่ค่อยเพคะ” อวิ๋นอี้พูดเบาๆ "ในเมื่อน้องก็เข้าจวนมาแล้ว เรามาทำพิธีกันเถิด" นางพูดพลางปิดปากแล้วยิ้ม "น้องเร่งรีบจะอภิเษกกับฝ่าา อย่าร้อนใจไปเลยนะ”
หว่านฉือกัดฟันแน่น นังตัวดี!
นางรู้ว่าวันนี้อวิ๋นอี้จะไม่ปล่อยนางไปอย่างราบรื่นแน่ แล้วไม่ทันไรก็เสียดสีนางแล้ว!
“งั้นมาเริ่มกันเลยเถิดเพคะ” หรงซิวราวกับไม่เข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งของคำนั้น ยังพูดต่อเหมือนมิมีกระไรว่า “แล้วแต่อวิ๋นเออร์เถิด จบพิธีให้เร็ว เ้าจะได้กลับไปพัก”
อวิ๋นอี้แกล้งทำเป็เกาหู “พิธีแรกคือกระไรหรือเพคะ คือให้สนมเคารพนายหญิงหรือ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้