ไม่จริงน่า?
ฉากรักหวานปานน้ำผึ้งหรือ?
อวิ๋นอี้สบถในใจ
นางอ้าปากด้วยความลำบาก สีหน้ายิ่งดูน่าเหลือเชื่อ หลังจากคิดพิจารณาอยู่นาน นางชี้ตัวเองแล้วชี้ไปที่หรงซิว "เมื่อคืนนี้เรา..."
"นอนด้วยกัน"
"แล้วข้า ..."
“เพลิดเพลินมาก” หรงซิวแสยะยิ้มชั่วร้าย "เ้าร้องเสียงดังมาก"
"......" นางไม่ได้จะถามเื่นี้!
อวิ๋นอี้เกาหัวอย่างหงุดหงิด มองไปที่หรงซิว เมื่อเห็นท่าทีได้ใจของอีกฝ่าย ก็โกรธมาก พูดด้วยดวงตากลมโตว่า "หรงซิว!"
"กระไร?" หรงซิวพูดอย่างเกียจคร้านว่า “เมื่อคืนที่เ้าขอร้องข้า เ้าไม่ได้เรียกข้าเช่นนี้นะ”
เมื่อคืน ทั้งที่รู้ว่านางดื่มเยอะจนภาพตัด ยังพูดถึงเื่นี้ไม่จบเสียที!
อวิ๋นอี้กัดฟัน ดุเขาอย่างโกรธจัด “เมื่อคืนคือเมื่อคืน วันนี้คือวันนี้ อย่าขัดข้า!”
หรงซิวใและโกรธมาก “อวิ๋นอี้ เ้าหมายความว่าอย่างไร?”
“กระไรหมายความว่าอย่างไร?" เมื่อมองดูใบหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเขา อวิ๋นอี้รู้สึกผิดเล็กน้อย
หรงซิวหัวเราะเยือกเย็น ริมฝีปากบางของเขายกขึ้นเขาพูดอย่างเ็าและเย้ยหยันว่า “ครั้งก่อนที่นอนกับข้าก็ไม่ยอมรับ ต้องแสร้งทำเป็ว่าไม่มีกระไรเกิดขึ้น ครานี้ก็เช่นกัน อวิ๋นอี้ เ้าเป็สตรีที่ได้ใครแล้วก็ทำเป็ไม่รู้จักแล้วใช่หรือไม่?”
โถ่โว้ย!
อวิ๋นอี้ได้ฟังก็อึ้ง ไม่ได้สติอยู่นาน
ในห้องเงียบอย่างน่าประหลาด ความกดอากาศถึงกลับเปลี่ยนไปอย่างน่าอึดอัด
ชายหนุ่มที่อยู่บนเตียงเดียวกับนาง หลังจากที่เขาพูดจบด้วยใบหน้าไม่พอใจ เขาก็นั่งตัวตรง ยกผ้าห่มขึ้นแล้วจะเดินออกไป
“อ๊ะ!” อวิ๋นอี้อุทานออกมาโดยไม่ตั้งใจ
ตอนที่นางตื่นขึ้นในตอนแรก จึงเห็นสิ่งที่อยู่หว่างขาของหรงซิว ก็ใกับขนาดของมันทันที อดถอนหายใจไม่ได้ เมื่อนึกถึงเื่ของทั้งสองเมื่อคืน ใบหน้าของนางก็ซีดเซียว
หรงซิวชำเลืองมองนางแล้วก้มลงมองตัวเอง "จะร้องกระไร? ใช้ก็ใช้แล้ว ยังจะสงวนไว้อีกหรือ?"
“......” ไม่มีคำพูดดีๆ จากปากเขา เป็การพูดเสียดสีตรงๆ ทั้งนั้น
อวิ๋นอี้ถูกว่าจนสีหน้าเปลี่ยนไป เมื่อเห็นว่ากำลังจะออกไป ไม่รู้ว่าไปกระตุกเอาตรงที่ใด จึงคว้าตัวเขาไว้ ในตอนที่หรงซิวใ ก็รีบเอาผ้าห่มคลุมส่วนที่มองตรงๆ ไม่ได้ของเขา
“เ้าทำกระไรน่ะ?” หรงซิวจากโกรธเป็หัวเราะ จ้องนางด้วยดวงตาคู่สวย ยิ่งยิ้มก็ยิ่งดูอ่อนโยน ทำให้อวิ๋นอี้ใจอ่อนลง
เมื่อเห็นว่านางไม่ตอบอีก หรงซิวก็ยิ้มราวดอกไม้บาน
อวิ๋นอี้หน้าแดง และกระอักกระอ่วนอยู่นานก่อนจะพูดว่า "ข้า...ฝ่าา ฝ่าาอย่าออกไปแบบล่อนจ้อนสิเพคะ"
"ข้าล่อนจ้อนที่ไหน..." หรงซิวจ้องตา เมื่อพูดได้ครึ่งทาง ก็เม้มปาก “ได้ ข้าจะใส่เสื้อผ้า เ้าปิดตาเร็ว จะได้ไม่ต้องอุจาดตาเ้า!”
คำพูดของเขามีหนามแหลมคมและมีพลัง ชวนให้โดนตีมาก
อวิ๋นอี้ไม่อยากจะสนใจเขา ทั้งสองคนในตอนนี้ ไม่เหมาะจะพูดกัน นางพลิกตัวหันหลังให้เขา แล้วพูดอย่างบูดบึ้ง “ใส่เสื้อผ้าก่อนเถิดเพคะ ข้ามีกระไรจะพูด"
"ไม่ต้องพูดหรอก ข้าไม่ถือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกคนร่วมหลับนอนแล้วไม่ยอมรับเสียหน่อย"
"ใส่เสื้อผ้าเถิดเพคะ ข้าจะพูดเื่อื่น" อวิ๋นอี้มุ่ยปาก ในใจยังคิดว่าหรงซิวแสดงไม่หยุด
หลังจากที่ทั้งสองแต่งตัวเสร็จ ก็นั่งหันหน้าเข้าหากัน ใบหน้าของหรงซิวดูไม่ได้ มืดมนจนเกือบจะมีน้ำหยดลงมา อวิ๋นอี้กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก "นั่น..."
"หืม?"
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความเ็า
อวิ๋นอี้ฮึมฮัมเสียงเบาๆ "อย่ามองข้าเช่นนั้น เื่ของเมื่อคืนทำราวกับว่าท่านเสียหายกระนั้นแหละ"
"ก็ข้าเสียหาย" หรงซิวพูดตรงๆ "ข้าไม่ได้้า แต่เ้าเข้ามานัวเนียจะทำ ข้าทำไปรอบหนึ่งเ้าก็ยังมิพอใจ แล้วก็กดตัวทับลงมา ไม่คิดเลยว่าปกติที่เ้าดูตัวเล็กๆ อ่อนแอ ในเวลานั้นกลับคลุ้มคลั่งราวกับเสือ ข้าผลักออกก็ไม่ได้"
"หยุด!" อวิ๋นอี้แอบด่าว่าเขาไร้ยางอาย แต่ไม่อยากทะเลาะ ตอนนี้สิ่งแรกที่ต้องแก้คือความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง
หรงซิวจ้องมองนางด้วยทีท่าสง่างาม พับแขนเสื้อช้าๆ มองอย่างระมัดระวัง และมีรอยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากของเขา
รอยยิ้มของเขาทำให้นางทำตัวไม่ถูก ใบหน้าของนางร้อนผ่าว
อวิ๋นอี้สูดหายใจ พยายามเพิกเฉยต่อสายตาของเขา หยุดแล้วพูด "ข้อตกลงของฝ่าายังใช้ได้หรือไม่?"
“ข้อตกลงกระไร” หรงซิวไม่พอใจ คิดไม่ถึงเื่นั้น
“สิ่งนั้นไงเพคะ!” อวิ๋นอี้กัดฟัน “ข้อตกลงที่ข้าจะตกหลุมรักท่านภายในครึ่งปี!”
หรงซิวอ้าปากด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าของเขาแสดงความดีใจอย่างรวดเร็ว เขาโน้มตัวไปข้างหน้าและคว้ามือนางไว้ ตื้นตันอย่างเหลือเชื่อ "เ้าจะบอกว่าเ้ารักข้าแล้วหรือ?"
เขาจับประเด็นได้ดีเสียจริง
ฝ่ามือของชายหนุ่มใหญ่และอบอุ่น เขาโอบนางไว้ด้วยแรงที่ครอบงำ นางพยายามดิ้นรนหลายครั้งและมองดูเขาอย่างช่วยไม่ได้ "ปล่อย"
"เ้าพูดก่อนสิว่ารักข้าแล้วใช่หรือไม่?"
คำพูดเช่นนี้หญิงสาวจะกล้าพูดออกมาได้อย่างไรเล่า!
อวิ๋นอี้คิดว่าผู้ชายเป็สัตว์ที่ดุร้ายจริงๆ
นางกลอกตาขาว “ปล่อยก่อน”
“ตอบข้าก่อนสิ”
“หรงซิว!”
“อวิ๋นเออร์” จู่ๆ เขาก็พูดคำที่ลึกซึ้ง กอดนาง เพราะว่าการกระทำของเขากระโตกกระตากเกินไป ทำให้กาน้ำชาบนโต๊ะถูกกระแทกจนไหลออกมา จนเสื้อผ้าเปียกไปหมด หรงซิวดูเหมือนจะไม่ทันได้สังเกตเพียงแค่กอดนางแน่นขึ้น ริมฝีปากของเขาแนบใบหูของนาง น้ำเสียงของเขาก็พูดว่า “อวิ๋นเออร์ ข้ารู้ ข้ารู้ว่าเ้าไม่มีวันจะทอดทิ้งข้า”
ความรู้สึกของเขารุนแรงจนทำให้นางถลำลงไป
ทั้งสองกอดกันครู่หนึ่ง ร่างกายก็ร้อนเล็กน้อย หนุ่มสาววัยรุ่นไฟติดได้ง่าย หรงซิวได้ลิ้มรสหวานได้กินเนื้อ ได้รู้เื่วิเศษเื่นั้น ในสมองของเขาก็มีแต่นาง
สาวงามอยู่ในอ้อมแขนของตน อดไม่ได้ที่จะกัดนาง
เขากัดเบาๆ จูบลงไปที่แก้มหูคางของนาง จนเปียกไปทั่ว ร้อนแรงและคลุมเครือ ลมหายใจของเขาก็ถูกย้อมไปด้วยความปรารถนา
อวิ๋นอี้ไม่ได้โง่ นางเคยทำมาแล้วหลายครั้ง ทำไมนางจะไม่รู้ว่าเขา้าสิ่งใด แต่ขาทั้งสองของนางปวดและไม่สบาย นางจึงเอื้อมมือออกไประหว่างทั้งสองคนและผลักหน้าอกของเขา
หลังจากถูกผลักสองสามครั้งติดต่อกัน หรงซิวก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของนาง ขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขามอง สายตาเงยขึ้นเล็กน้อย "หืม? มาเถิด? ”
มากระไรเล่า!
เมื่อคืนนางโดนเขาทรมานเกือบตายแล้ว!
อวิ๋นอี้มุ่ยปากแล้วทุบหน้าอกเขา “ไม่มา ข้าหิว อยากทานข้าว”
นอนมาเกือบวันแล้ว หากไม่หิวก็คงจะกินทิพย์ได้แล้ว
หรงซิวพยักหน้าอย่างเข้าใจ มองออกไปนอกหน้าต่าง ถึงได้รู้ว่าเวลาผ่านไปเร็วเพียงใด เขายิ้มและบีบคางนาง แล้วพูดอย่างเอ็นดู “ได้ ทานข้าวกันก่อน อย่างไรเสียเ้ากับข้า ก็ยังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน”
บุรุษผู้เชี่ยวชาญ หยอกล้อนางได้ทุกเวลา!
อวิ๋นอี้จ้องมองเขาอย่างมีเสน่ห์ ซึ่งทำให้หรงซิวยิ้มอย่างร่าเริงยิ่งขึ้น
ด้วยแขนและมือที่ยาวของเขา เขาคล้องนางไว้ในอ้อมแขน กอดนางไว้แล้วพูด "ไปเถิด ทำให้ท้องเ้าอิ่มก่อนแล้วค่อยป้อนให้ร่างกายของเ้า"
หลังจากหมกตัวอยู่ในห้องเป็เวลาหนึ่งวันแล้ว วินาทีที่ประตูถูกผลักออก อวิ๋นอี้รู้สึกเหมือนกับผ่านไปกว่าชาติหนึ่ง
เซียงเหอรออยู่ข้างนอกเพียงไม่กี่ก้าว เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว ก็รีบวิ่งไปทันที เมื่อเห็นองค์ชายและพระชายาสนิทสนมกันมาก ยิ้มแล้วพูดว่า “องค์ชายเพคะ พ่อบ้านได้เตรียมอาหารค่ำแล้วเพคะ ข้าจะนำไป”
หรงซิวตอบรับ เซียงเหอหันกลับอย่างเชื่อฟัง นางแอบยกนิ้วโป้งให้อวิ๋นอี้ อวิ๋นอี้ได้เห็นเข้าก็ถูกฟ้าผ่าจนกรอบนอกนุ่มใน
ในจวนองค์ชายนี้ ทุกคนล้วนลามก!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้