หลังจากออกมาจากร้านขายเส้นด้าย กู้เจิงก็เข้าไปในร้านภาพวาดต่อ เสิ่นกุ้ยบอกว่าหออ่านหนังสือของนางจะเสร็จเรียบร้อยก่อนเขาแต่งงาน นางก็มีเวลาที่จะจัดเตรียมตกแต่งภายในหอสมุดอยู่หลายวัน
กู้เจิงไม่ได้คิดจะซื้อภาพวาด แต่นางอยากมาดูก่อนว่าภาพวาดในยุคนี้เป็อย่างไร
เสิ่นเยี่ยนเห็นกู้เจิงมองภาพวาดในร้านทีละภาพ แต่ไม่มีภาพไหนเลยที่นางจะหยุดดูนานๆ เขาจึงรู้ว่านางไม่ได้มีใจที่จะซื้อ
“ไม่มีภาพที่พอใจเลยหรือ?” เขาถามหลังออกจากร้าน
“ล้วนพอใจหมดเ้าค่ะ”กู้เจิงรู้สึกพึงพอใจจริงๆ “คิดไม่ถึงว่าข้าจะเข้าใจภาพวาดพวกนี้ได้” ในร้านมีภาพวาดมากมาย ทั้งูเา คน สัตว์ป่า บ้าน และอื่นๆ แม้แต่พวกเทพภูตผีก็มี ส่วนใหญ่จะเป็จำพวกภาพไม้ไผ่ ดอกเบญจมาศ ดอกเหมย กับพวกแมลง หรือขนนก
เสิ่นเยี่ยนยิ้มบางๆ “ถ้าดูภาพวาดไม่เข้าใจ ก็มักจะเป็ภาพที่วาดมั่วๆ หรือแฝงความหมายลึกซึ้ง”
ทั้งสองเดินเล่นไปตามร้านค้าแถวนั้น ั้แ่แต่งงานมาทั้งสองคนมีเวลาน้อยมาก เสิ่นเยี่ยนทำงานั้แ่เช้ายันดึก อย่าว่าแต่อยู่เป็เพื่อนนางเลย ปกติได้พูดคุยกันก็นับว่าน้อยแล้ว
ทั้งสองคนเดินดูของกันจนพอประมาณแล้วถึงพากันกลับบ้านของลุงใหญ่
พอถึงที่หน้าประตูก็ได้ยินเสียงพี่สะใภ้รองกู่ร้องด้วยความเ็ป
“ข้ากับสามีซื้อจี้เงินเล็กๆ มาให้ลูกของพี่สะใภ้รองด้วย” กู้เจิงวางของขวัญลงบนโต๊ะ นางได้ยินเสียงร้องไห้ดังแว่วออกมาจากในห้อง
“คลอดแล้ว คลอดแล้ว” เสียงของหมอตำแยดังขึ้นด้วยความดีใจ “เป็เด็กผู้หญิง ดูท่าทางแข็งแรงเสียจริง”
กู้เจิงมุมปากก็กระตุก เป็เด็กหญิงที่แข็งแรงหรือ?
ไม่นานประตูห้องก็เปิดออก ป้าใหญ่อุ้มหลานสาวที่เพิ่งคลอดออกมา ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มปลาบปลื้ม
ตงเถียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขามองไปยังลูกสาวคนรองของเขา สีหน้าเขาดูผิดหวังเล็กน้อยเพราะไม่ได้บุตรชาย แต่แล้วเขาก็ยิ้มและมองเด็กน้อยที่เพิ่งเกิดพร้อมเอ่ยว่า “เป็ลูกสาวก็ดี”
ทุกคนต่างรุมเข้ามาดูเด็ก แม้ว่าเด็กคนนี้จะเป็เด็กผู้หญิง แต่ก็ร่างกายแข็งแรง ดูเหมือนว่าพอโตขึ้นจะเป็หญิงสาวที่มีพละกำลังมาก
“ท่านแม่ ข้าจะเข้าไปดูภรรยานะขอรับ” เสิ่นตงเถียนบอกก่อนจะขอเข้าไปในห้อง
“ห้องคลอดยังเก็บไม่เสร็จ” ป้าใหญ่ขวางลูกชายคนรองไว้ “รอก่อน”
“นางเป็ภรรยาของข้า ไม่มีอะไรที่ไม่น่าดูหรอกขอรับ” เขาเป็ห่วงภรรยามาก
“เ้าเด็กคนนี้ ต่อให้เ้าคิดเช่นนี้ แต่ภรรยาของเ้าก็ไม่มีทางยอมให้เ้าเห็นฉากสกปรกหรอก” ป้าใหญ่กลอกตามองลูกชายคนรอง
กู้เจิงทำหน้าไม่เข้าใจ ทำไมตอนที่สตรีคลอดลูก ผู้ชายถึงเข้าห้องคลอดไม่ได้ นางรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับสตรีจริงๆ เวลาสตรีคลอดลูกถือว่าขาเข้าประตูผีไปแล้วข้างหนึ่ง แม้แต่สตรียังรู้สึกว่าที่นั่นเป็ที่ที่ไม่สะอาด เลยไม่อนุญาตให้ผู้ชายเข้าไปดูน่ะหรือ?
แต่นางคิดว่าป้าใหญ่ไม่ใช่คนแบบนั้น นางจึงแอบดึงแม่สามีมาถาม “ท่านแม่ ทำไมถึงไม่ให้ผู้ชายเข้าไปในห้องคลอดหรือเ้าคะ?”
นายหญิงเสิ่นหน้าแดงเล็กน้อย ตอบเสียงเบาว่า “เวลาผู้หญิงคลอดลูก แล้วเบ่งแรงเกินไปปัสสาวะและอุจจาระจะออกมาพร้อมกับลูก สถานการณ์แบบนี้จะให้ผู้ชายเห็นได้ยังไงกัน?”
กู้เจิง “...” เื่จริงหรือเนี่ย?
“เด็กน้อยหนักมาก ยังไงก็น่าจะหนักสักเจ็ดแปดจิน* ได้กระมัง?” ป้ารองอุ้มหลานไว้ในอ้อมแขน นางมองเด็กน้อยที่กำลังหลับใหลอยู่ในอ้อมแขน “ทำให้แม่เ้าทรมานมากทีเดียว”
(*เป็หน่วยน้ำหนักของจีน 1 จิน เท่ากับ 500 กรัม)
“เด็กคนนี้หน้าตาเหมือนแม่ของนางมาก” นายหญิงเสิ่นเอ่ย
นายท่านเสิ่นกล่าวเสริมว่า “วันนี้เป็วันเซ่นไหว้เทพเ้าแห่งโชคลาภ เด็กคนนี้เกิดมาใน่เวลาที่ดีจริงๆ วันหน้าจะต้องร่ำรวยมั่งคั่งอย่างแน่นอน”
ทุกคนต่างมีความสุขกับคำกล่าวนี้
ในสมองของกู้เจิงมีแต่คำพูดที่แม่สามีพูดกับนางเมื่อครู่อยู่ตลอดเวลา นางมองเสิ่นเยี่ยนเป็ครั้งคราว พลางคิดว่าหากนางคลอดลูกออกมาพร้อมกับปัสสาวะและคราบอุจจาระ ต่อให้ตีให้ตายนางก็ไม่ยอมให้เขาเข้ามาเห็นแน่
“เป็อะไรหรือ?” เสิ่นเยี่ยนแอบเห็นว่ากู้เจิงเอาแต่เหลือบมองเขาอยู่ตลอดเวลา
“เปล่าเ้าค่ะ” กู้เจิงรู้สึกกลัดกลุ้มเหลือเกิน
หลังจากทำความสะอาดห้องคลอดแล้ว เหล่าสตรีก็พากันเข้าไปดูแม่เด็ก แม้พี่สะใภ้รองจะดูอ่อนเพลีย แต่นางก็ยังพออุ้มลูกไหวอยู่
ทุกคนต่างเอ่ยแสดงความยินดี กู้เจิงมอบจี้เงินที่ซื้อมาให้แก่พี่สะใภ้รอง
“นี่สียเงินไปเท่าไหร่กันเนี่ย” เหอซื่อถือจี้เงินที่มีน้ำหนักไว้ในมือ นางรู้ว่าเป็ของมีราคาจึงรู้สึกไม่สบายใจ
เสิ่นตงเถียนยิ้ม “นางให้เ้า เ้าก็รับไว้เถอะ เ้าคิดว่าตอนน้องสะใภ้คลอดลูก พวกเราจะไม่ต้องคืนหรือ? แถมยังต้องเพิ่มอีกเท่าตัวด้วย”
กู้เจิง “...” พูดได้ถูก
นายหญิงเสิ่นกับเหล่าท่านป้าพากันหัวเราะขำ
เนื่องจากมีเด็กเกิดในคืนนี้ ทุกคนจึงอยู่สนทนากันที่บ้านของป้าใหญ่จนดึกดื่น พวกเขายังให้เสิ่นเยี่ยนตั้งชื่อให้เด็กน้อยอีกด้วย เสิ่นเยี่ยนคิดว่าคืนนี้เป็วันต้อนรับเทพเ้าแห่งโชคลาภ จึงเขียนตัวอักษรสามตัวลงบนกระดาษว่า ‘เสิ่นหยินฮวา’
คืนนี้เป็คืนขอพรเทพเ้าแห่งโชคลาภ แต่คนตระกูลเสิ่นกลับไม่ได้รออัญเชิญเทพเ้า ดังนั้นทุกคนจึงได้เข้านอนเร็ว
กลางดึก กู้เจิงถูกเสียงประทัดและดอกไม้ไฟปลุกให้ตื่น นางเงยหน้ามองหน้าต่างอย่างสะลึมสะลือ “ดูท่าคนที่รออัญเชิญเทพแห่งโชคลาภจะมีเยอะมากนะเ้าคะ”
“ผู้นำตระกูลกำลังอัญเชิญอยู่ และยังมีคนตระกูลเสิ่นคนอื่นที่ทำการค้าอยู่อีกมากที่กำลังอัญเชิญเทพเ้าแห่งโชคลาภ" เสิ่นเยี่ยนเอาผ้าคลุมมาห่อไหล่ให้กู้เจิงไว้เพื่อจะได้ไม่หนาว “คนตระกูลอื่นๆ ก็เช่นกัน”
“ก็แค่เป็การหาที่พึ่งทางใจเท่านั้น การหาเงินจะมีทางลัดได้ยังไง” กู้เจิงเอ่ย เห็นเสิ่นเยี่ยนเลิกคิ้วมองนาง ก็พูดอย่างเขินอายว่า “แต่ถ้ามีทางลัดในการหาเงินเราก็ต้องเลือกนะเ้าคะ”
เสิ่นเยี่ยน “...”
วันที่หก เป็วันเซ่นไหว้บรรพบุรุษ
กู้เจิงถูกชุนหงปลุกั้แ่เช้าตรู่ คนตระกูลเสิ่นสวมเสื้อผ้าสีเข้มสะอาดสะอ้าน
ศาลบรรพชนของสกุลเสิ่นอยู่ตรงกลางของสองตรอกใหญ่ ตอนที่กู้เจิงและคนอื่นๆ มาถึง ในศาลบรรพชนก็มีคนตระกูลเสิ่นนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันแล้ว หลังจากที่ทุกคนทักทายกันแล้วก็มีการจัดลำดับตามรุ่น
ครอบครัวของพวกนางได้อยู่ในตำแหน่งกลางๆ ในศาลบรรพชนบนพื้นเต็มไปด้วยเบาะสำหรับให้คนคุกเข่า
“ท่านพี่ คนตระกูลเสิ่นเยอะมากจริงๆ เ้าค่ะ” กู้เจิงอุทานออกมา “น่าจะมีคนสักหนึ่งถึงสองร้อยคนได้กระมัง?”
“พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษในวันนี้ ไม่เพียงแต่มีคนตระกูลเสิ่นที่อยู่เมืองนี้เท่านั้น แต่ยังมีคนตระกูลเสิ่นที่เดินทางมาจากที่อื่นด้วย ดังนั้นคนจึงค่อนข้างเยอะ”
กู้เจิงพยักหน้ารับฟัง
“คุณหนู ดูทางนั้นสิเ้าคะ” ชุนหงกระตุกแขนเสื้อของกู้เจิงเบาๆ เป็สัญญาณให้นางมองไปทางซ้าย
กู้เจิงมองตามไป นางเห็นเสิ่นมู่ชิง เขาสวมชุดสีเข้มดูผอมสูงอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนหนุ่มสาวของตระกูลเสิ่น ใบหน้าของเขาเ็าแข็งกระด้างราวกับสลักออกมาจากภาพวาด
เขากำลังมองนางอยู่เช่นกัน
กู้เจิงใจเต้น เขามองนางทำไมกัน?
“เป็อะไรหรือ?” เสิ่นเยี่ยนสังเกตเห็นว่าภรรยาเขยิบเข้าใกล้ เขาจึงถอนสายตากลับมามองนาง
“ข้าขอยืนอีกฝั่งได้ไหมเ้าคะ?” กู้เจิงอยากจะยืนอีกทางเพื่อไม่ให้เสิ่นมู่ชิงมองเห็นตนเอง
“เกรงว่าจะไม่เหมาะสม” ในพิธีเซ่นไหว้ ชายจะต้องอยู่ซ้ายส่วนผู้หญิงต้องอยู่ด้านขวา เมื่อถึงเวลาต้องคารวะก็จะเดินเรียงกันเป็แถวไป พิธีการล้วนเป็เช่นนี้
“งั้นก็ช่างเถอะเ้าค่ะ” กู้เจิงไม่สนใจแล้ว บุรุษผู้นั้นอยากมองนางก็มองไปเถอะ
เสิ่นเยี่ยนยิ้มบางๆ
แต่ในตอนนั้นเอง สีหน้าของกู้เจิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะเสิ่นมู่ชิงเดินเข้ามาทางนาง เขาเม้มปากแน่น เมื่อเดินผ่านมาทางนาง ขณะที่เดินสายตาก็มองมาที่นางตลอด
เสิ่นเยี่ยนก็เห็นเสิ่นมู่ชิงเช่นกัน เขาขมวดคิ้วกับการที่เสิ่นมู่ชิงดูจะให้ความสนใจกับภรรยาของเขาจนเกินพอดี
สีหน้าของกู้เจิงยังคงเป็ปกติ แต่ในใจของนางกลับสบถคำหยาบคาย ท่าทางของเสิ่นมู่ชิงบ่งบอกว่า้าหาเื่นางอย่างแน่นอน
“เสิ่นเยี่ยน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เสิ่นมู่ชิงเดินเข้าไปใกล้กู้เจิง แต่สายตาเขากลับเบนไปหาเสิ่นเยี่ยน
“ไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้วจริงๆ” เสิ่นเยี่ยนตอบเสียงเรียบ
“ข้าได้ยินมาว่าการสอบรับราชการของเ้าเมื่อปีที่แล้วได้อันดับที่ห้า ขอแสดงความยินดีด้วย”
“เ้าเองก็เป็ทั่นฮวาที่ฝ่าาทรงชื่นชม ยินดีด้วยเช่นกัน”
“เ้าสามารถเข้าทำงานเป็ผู้ช่วยในสำนักราชเลขาได้ ดูท่าจวนกู้ป๋อเจวี๋ยจะให้ความช่วยเหลือเ้าไว้มากทีเดียว” มุมปากของเสิ่นมู่ชิงโค้งขึ้นเป็รอยยิ้มหยัน