ย้อนเวลากลับมาเป็แฟนหนุ่มที่ดีแบบ 300%
Chapter 1
/
หลายร้อยปีที่ผ่านมาโลกใบนี้มีวิวัฒนาการหลากหลายเกิดขึ้นกับมนุษย์ และหนึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ABO หรืออีกชื่อที่ผู้คนเรียกกันติดปาก Omegaverse โดยแบ่งออกเป็สามประเภทหลัก ๆ ได้แก่ อัลฟ่า เบต้าและโอเมก้า มีบ้างที่เพศลักษณะพิเศษอย่างอินิกม่าจะโผล่มา แต่ทว่าก็เป็เพียงแค่ส่วนน้อย
ซึ่งโอเมก้าที่ถูกทำพันธะโดยคู่ของตัวเองจะไม่สามารถมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้อื่นได้ต่างจากอัลฟ่าที่ต่อให้มีโอเมก้าเพิ่มอีกเป็โขยงก็ไม่ส่งผลเสียใด ๆ ต่อร่างกาย จึงไม่ใช่เื่แปลกนักที่สังคมแห่งความไม่เท่าเทียมนี้จะเต็มไปด้วยเหล่าจ่าฝูงสันดานไม่รู้จักพอ
และใช่...ครั้งหนึ่งในอดีตเขาเคยเป็เช่นนั้น
ระหว่างทางกลับคอนโดชายวัยกลางคนที่กลับมาเป็ชายหนุ่มอีกครั้งลอบมองเสี้ยวหน้าของคนรักที่เอาแต่นั่งเงียบไม่ยอมพูดจาถึงแม้ว่าเขาจะพยายามชวนคุยสักเท่าไรก็ตาม หากเป็เมื่อก่อนแซคคงเอ่ยขอโทษแบบส่ง ๆ แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายหายเอง เพราะมั่นหน้าว่าต่อให้ทำตัวเฮงซวยแค่ไหน จานินก็ทิ้งเขาไปไม่ได้หรอก
ก็อีกฝ่ายรักกันขนาดนั้น
เทิดทูนกันขนาดนั้น
...แต่แซคดันลืมคิดไปว่าขนาดสับปะรดกระป๋องยังมีวันหมดอายุแล้วนับประสาอะไรกันกับความรัก
“จอดตรงป้ายรถเมล์นี่แหละ เราจะไปห้องพาย” ชื่อที่ไม่ได้ยินมาเนิ่นนานทว่า
แซคกลับจำมันได้อย่างขึ้นใจ พายคือเพื่อนสนิทของคนรักและเขาดูออกว่าอีกฝ่ายคิดไม่ซื่อ แน่นอนว่าทุกคนรู้แต่จานินไม่รู้ เหอะ
‘โคตรแรดเลยว่ะ ทะเลาะกับผัวยังไม่ทันข้ามวันก็วิ่งโร่มาให้ชายอื่นกอด’
‘ไม่ใช่—’
‘เอากันเลยดิกูจะยืนดูแม่งตรงนี้แหละ’
เขาแม่งทำตัวเหมือนหมาบ้าหึงหวงจนเืขึ้นหน้าโดยที่ลืมคิดไปว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสันดานหำเคียวเหมือนตัวเอง—แซคสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามมีเหตุผลมากกว่าแต่ก่อนเพราะไม่อยากให้ทุกอย่างพังครืนั้แ่ยังไม่เริ่ม
“วันหลังค่อยไปได้ไหมครับ วันนี้กลับห้องเราก่อน” นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ในวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงธรรมดาราวกับพูดคุยเื่ดินฟ้าอากาศทั่วไป อาจจะเป็เพราะหลายสิบปีมานี้แซคได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างทั้งวิธีการพูด การเข้าหาหรือแม้กระทั่งการเอ่ยปากปฏิเสธอย่างไรไม่ให้เสียมารยาท
“...” จานินนิ่งเงียบราวกับคนกำลังใช้ความคิด ทว่าสุดท้ายก็พยักหน้าเพราะรู้ว่าต่อให้ดื้อดึงก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น เผลอ ๆ อาจจะได้ทะเลาะกันใหญ่โตเหมือนครั้งวันวานที่ผ่านมา
มันไม่ใช่ความรู้สึกเหนื่อยใจแต่ทว่าเป็ความเบื่อหน่ายเสียมากกว่า
ภาพที่อีกฝ่ายนอนเปลือยร่างอยู่บนเตียงกับใครสักคน จานินไม่ได้เห็นมันเป็ครั้งแรก เขาเห็นมันจนชิน แต่ก็อดเสียใจไม่ได้ที่คนรักไม่แม้แต่จะคิดปรับปรุงนิสัยทั้ง ๆ ที่เขาใจอ่อนหยิบยื่นโอกาสให้นับครั้งไม่ถ้วน
อา ไม่สิแซคต่างหากที่ให้โอกาสเขา—ให้โอกาสเขากลับไปเป็หมาเชื่อง ๆ ของตัวเองอีกครั้ง
บทสนทนาถูกหยุดเอาไว้เพียงเท่านั้นซึ่งก็นับว่าเป็เื่ดีพราะเขาไม่มีกะจิตกะใจอยากเสวนากับอีกฝ่ายซักเท่าไร—จานินมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาเหม่อลอย อีกเพียงหนึ่งไฟแดงเท่านั้นก็จะถึงคอนโดที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเรียกมันว่ารังรัก...
อีกไม่ถึงเดือนก็จะเข้าปีที่สามที่เราทั้งคู่คบกัน คิดย้อนไปตอนนั้น จานินเป็ฝ่ายบอกชอบก่อนส่วนคนที่ขอเริ่มต้นความสัมพันธ์ดันเป็แซค
่แรกที่คบกันเราทั้งสองร่วมรักอย่างสุดเหวี่ยงราวกับสัตว์เป็ฤดู จนอีกฝ่ายเอ่ยปากขอให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันและจานินก็ตอบตกลงเพราะคิดว่ามันไม่ใช่เื่เสียหายอะไร
ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็ไปได้ด้วยดีแต่ทว่าก็แค่ดูเหมือน
แซคเริ่มติดเพื่อน ไม่ใส่ใจกัน ไม่แม้แต่จะถามไถ่ว่าเขากินข้าวหรือยังเหมือนเมื่อก่อน สำหรับคนอื่นมันอาจจะเป็เื่เล็กน้อย แต่สำหรับคนที่ได้รับมาตลอดอย่างจานินแล้วมันเป็สัญญาณเตือนได้อย่างดีว่าอีกฝ่ายกำลังเปลี่ยนไป—และใช่ เขาคิดถูก
‘นี่อะไร’
‘เธอจะโวยวายทำไมวะ มันไม่ได้มีอะไรเลย’
‘ล้วงกันขนาดนี้ยังบอกว่าไม่มีอะไรอีกเหรอ’
‘น่ารำคาญว่ะจานิน ถ้าเป็แบบนี้ก็ไม่ต้องมาคุยกัน’
นั่นเป็ครั้งแรกที่เขาดูน่ารำคาญในสายตาอีกฝ่าย ก่อนจะมีครั้งที่สอง สาม สี่ และครั้งถัด ๆ ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เรากอดกันทุกวัน
บอกรักกันทุกวัน
เพราะแบบนั้นจานินเลยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหมดรักกันไปั้แ่ตอนไหน
“เธออยากซื้ออะไรที่มินิมาร์ทไหมครับ”
“...” จานินส่ายหน้าเพราะคิดไม่ออกว่าควรจะซื้ออะไรดี
“ไอศกรีมในตู้เหลือกี่แท่งครับ”
“สองมั้ง ถ้าจำไม่ผิด”
“โอเค งั้นเธอรอแซคแป๊บนึงนะ” ดวงตากลมมองคนรักที่กุลีกุจอหยิบกระเป๋าสตางค์ก่อนจะเดินข้ามถนนเพื่อไปยังมินิมาร์ทฝั่งตรงข้ามด้วยความไม่เข้าใจ คนสำอางอย่างแซค ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะเอาใจกันด้วยการลงไปซื้อของให้หรอก อย่างมากก็แค่ยัดกระเป๋าสตางค์ใส่มือแล้วให้เขาลงไปหาซื้อเอง
ดูท่าแล้วจานินน่าจะตบกฝ่ายแรงไปถึงได้สติสตังหดหายขนาดนี้
“รอนานไหมครับ วันนี้คนเยอะมากแอร์ในร้านก็ดันมาเสียอีก”
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที อัลฟ่าหนุ่มก็สาวเท้ายาว ๆ พาตัวเองมานั่งหลังพวงมาลัยด้วยใบหน้าชื้นเหงื่อเพราะบรรยากาศอันอบอ้าวที่เพิ่งเผชิญมาเมื่อครู่
“ทิชชู่” คนที่นั่งรออยู่บนรถเอี่ยวตัวไปด้านหลังก่อนจะหยิบทิชชู่เปียกมายื่นให้สารถีหนุ่มเพื่อเช็ดทำความสะอาดใบหน้าเนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้นานแล้วผื่นจะขึ้นเอา
“ขอบคุณครับ”
“...”
“แซคซื้อแบบถ้วยมาด้วย ไม่รู้ว่าเธอเคยกินไหมแต่อร่อยดีครับ แซคลองแล้ว”
“ไหนเธอเคยบอกว่าไม่ชอบกินไอศกรีม” ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะเมินเฉยแต่ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะหลุดปากถาม เพราะแต่ไหนแต่ไรแซคเอียนของหวานมาตลอด อีกฝ่ายเอียนมันถึงขนาดที่ว่าหากจานินไม่ยอมแปรงฟัน วันนั้นทั้งวันแซคจะไม่ยอมจูบกันอย่างเด็ดขาด
“ก็ตอนนี้ชอบแล้ว”
“แปลก”
“โถ่ ที่รัก คนเรามันก็ต้องเปลี่ยนแปลงกันบ้าง”
แต่เปลี่ยนแปลงในชั่วข้ามคืนนี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?
รถยนต์คันสวยขับมาจอด ณ ที่ประจำใต้คอนโดย่านใจกลางเมือง โดยที่จานินเป็ฝ่ายเดินนำหน้าไปก่อน ไม่ยอมหยุดรอเขาเหมือนเช่นทุกที แต่ทว่าร่างเล็กก็ยังมีน้ำใจกดปุ่มประตูลิฟต์ค้างไว้เพื่อรอชายหนุ่มที่ถือถุงเก็บความเย็นและกำลังก้าวยาว ๆ ตามมา
“ขอบคุณครับ” แซคเอ่ยปากอย่างเคยชินแต่กับจานินแล้วมันไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายขมวดคิ้วมุ่นจดจ้องกันด้วยความสงสัยจนเขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปบีบแก้มนุ่มอย่างนึกมันเขี้ยว
“เจ็บ!”
“มานี่มา เดี๋ยวแซคเป่าให้”
“ไม่ต้อง ไปยืนไกล ๆ เลย” อัลฟ่าหนุ่มทำหูทวนลมซ้ำยังขยับใบหน้าเข้าใกล้ซอกคอขาวที่ส่งกลิ่นฟีโรโมนหอมฟุ้งออกมาจนเขาอดไม่ได้ที่จะสูดดมเสียจนเต็มปอด และในขณะที่แซคกำลังมัวเมากับความหอมหวานอยู่ ๆ ใบหน้าก็ซีดเผือดเมื่อเหตุการณ์บางอย่างผุดขึ้นมาในหัว
‘แซค ทำใจดี ๆ นะมึง’
‘...’
‘จานินเสียแล้วว่ะ เพิ่งเสียเมื่อคืนเลย’
ติ๊ง!
เสียงสัญญาณลิฟต์ดังขึ้นซึ่งเป็จังหวะเดียวกันกับที่สติของเขากลับคืน แซคพยายามปรับสีหน้าให้เป็ปกติอีกทั้งยังกำมือที่สั่นเทาเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น และดูเหมือนว่าจานินจะจับสังเกตได้ อีกฝ่ายเลยเอื้อมมือมาลูบต้นแขนของเขาอย่างแ่เบาด้วยความเป็ห่วง
จานินเป็แบบนี้เสมอ ต่อให้โกรธกันจนแทบไม่อยากมองหน้าแต่ยามมีปัญหาอีกฝ่ายก็พร้อมทิ้งทิฐิทุกอย่างแล้วหันมาโอบกอดเขาเอาไว้เสมอ...
“โอเคไหม”
“โอเคครับ ค...แค่รู้สึกคลื่นไส้นิดหน่อย” เขากล่าว
“เมื่อคืนดื่มเยอะเหรอ”
“อา ประมาณนั้นครับ”
“โอเค ในห้องมียาแก้แฮ้งอยู่เดี๋ยวเราเอาให้”
“ขอบคุณครับ” แซคยิ้มกว้างกับความห่วงใยที่อีกฝ่ายมอบให้กัน ถึงแม้ลึก ๆ จะรู้ว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะความเคยชินก็เถอะ
ขอด่าหน่อยนะ ไอ้แซค ไอ้ควายมีเมียดีเสียยิ่งกว่าแม่พระแต่ไม่มีปัญญารักษาเอาไว้ เหอะ
ทันทีที่ประตูห้องถูกผลักเข้าไปด้านใน ร่างสูงใหญ่ก็ใช้ดวงตาคมกริบของตัวเองมองสำรวจไปรอบ ๆ อีกทั้งยังใช้มือััสิ่งของต่าง ๆ ด้วยความโหยหา...หลังจากที่เลิกรากับจานินได้เกือบหนึ่งปี แซคก็ตัดสินใจขายห้องทิ้งแล้วกลับมาอยู่บ้านเพราะเขาขี้ขลาดเกินกว่าจะทนอยู่ในห้องที่เคยมีความทรงจำมากมายของสองเรา
“ยืนเหม่ออะไรตรงนี้”
“เปล่าครับ”
“...”
“...”
“ไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อน แล้วค่อยมากินข้าวกินยา”
แม้จะอยากกอด อยากนัวเนียให้สมกับความคิดถึงสักแค่ไหน แต่ทว่าคนมีคดีติดตัวเช่นเขาทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากรับคำแล้วปฏิบัติตามอย่างไร้ซึ่งข้อต่อรอง
แซคมองครีมอาบน้ำแบรนด์ดังสลับกับเครื่องประทินผิวราคาแพงที่วางเรียงรายซ้อนกันหลายสิบชิ้นอย่างเลิ่กลั่กเพราะแต่ละยี่ห้อก็ใช่ว่าจะถูก ๆ แล้วไอ้ขวดนี้น่ะยังใช้ได้อยู่เลยจะด่วนทิ้งลงถุงดำทำไมกัน :- (
ร่างสูงบ่นงุ้งงิ้งในลำคออยู่พักใหญ่ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดก๊อกอัดน้ำเข้าไปด้านในขวดจากนั้นก็เขย่าแรง ๆ จนเกิดฟองแล้วนำมาเทราดศีรษะเป็อันว่าเสร็จสิ้น!
แกร๊ก
เสียงปลดล็อกประตูห้องน้ำทำให้จานินที่เพิ่งเทอาหารเสร็จเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะพบว่าร่างสูงใหญ่สวมเพียงบ็อกเซอร์และเสื้อบอลทีมโปรด อีกทั้งยังวางผ้าขนหนูผืนเล็กไว้บนศีรษะที่กำลังเปียกชื้นอย่างชวนขัดตา
“ทำไมไม่เช็ดผมดี ๆ”
“แซคเช็ดพอหมาด ๆ แล้วครับ อีกสักพักก็คงแห้ง”
“เดี๋ยวมีกลิ่นอับก็บ่นอีก”
ทั้ง ๆ ที่พยายามปล่อยเบลอไม่สนใจแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะเดินอ้อมไปกดไหล่คนตัวโตให้นั่งบนเก้าอี้ จากนั้นจึงวางมือลงบนผ้าขนหนูสีขาวสะอาดแล้วออกแรงขยี้เบา ๆ สลับกับใช้ปลายนิ้วสางเพื่อไม่ให้กลุ่มผมนุ่มของคนรักพันกันเป็ก้อน
จานินทำเช่นนั้นอยู่พักใหญ่ ๆ และเมื่อแน่ใจว่าแห้งสนิทแล้วจึงรามือ แต่ทว่าในจังหวะที่กำลังจะโยกย้ายร่างกายไปยังอีกฝั่งของโต๊ะอาหาร บั้นเอวก็ถูกมือหนาของใครบางคนคว้าหมับเอาไว้เสียก่อน
“ขอบคุณครับ” แซคเอ่ยขอบคุณคนรักด้วยน้ำเสียงแ่เบาก่อนจะซบใบหน้าลงบนหน้าท้องนิ่ม อีกทั้งยังใช้สองแขนโอบกอดลำตัวของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าหากเขาผ่อนแรงลงแม้แต่นิดเดียว จานินอาจจะโบยบินจากไปเป็ครั้งที่สอง
“ที่รัก”
“หือ”
“คิดถึงนะ คิดถึงมาก ๆ” แม้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดเื่อะไรแต่ทว่าเขาก็เลือกที่จะวางฝ่ามือลงบนศีรษะแล้วลูบเบา ๆ เป็เชิงปลอบประโลม แซคทำท่าทีเหมือนกับว่าไม่ได้เจอกันนานทั้ง ๆ ที่เมื่อวานเพิ่งมีปากเสียงกันไปหยก ๆ
จะมาไม้ไหนอีกล่ะพ่อคุณ
“ปล่อยได้แล้วจะไปกินข้าว”
“ครับ” ร่างสูงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงอย ๆ ทว่าสุดท้ายก็ยอมผละกายออกห่างแต่โดยดี
แซคมองคนรักที่เดินกลับไปนั่งที่ตัวเองด้วยสายตาละห้อย ยังไม่ทันหายคิดถึงเลย ยัยคนสวยของเขาก็ตีตัวออกห่างเสียแล้ว แต่ไม่เป็ไรขนาดบริษัทที่ดีลยากเย็นแซคยังฮุบกิจการมาได้ แล้วจะนับประสาอะไรกับโอเมก้าที่ชื่อจานิน!
ทันทีที่มื้อเช้าจบลง แซคเป็ฝ่ายรวบจานมาวางซ้อน ๆ กันเพื่อนำไปล้างทำความสะอาด งานบ้านรวมถึงการเตรียมอาหารั้แ่ไหนแต่ไรล้วนเป็หน้าที่ของแซค เพราะจานินไม่ถนัดอะไรพวกนี้เลย ลำพังแค่ต้มมาม่ายังทำเส้นอืดก็คิดดู
อยากรู้จังว่าที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตยังไงให้รอดตายมาได้ตั้งยี่สิบสามปี—แข็งแกร่งมากครับที่รัก
“ค่อยทำก็ได้ เวียนหัวไม่ใช่เหรอ”
“แค่นี้เองครับ อีกอย่างถ้าแช่ทิ้งไว้มันจะเหม็นเปล่า ๆ เธอไม่ชอบนี่”
“ก็แล้วแต่” แม่ตัวดีเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวหรือเรียกอีกอย่างว่ารังขนาดใหญ่ของอีกฝ่าย...แซคจำได้ดีวันที่จานินฮีทต่อหน้ากันเป็ครั้งแรก อีกฝ่ายนั้นยั่วยวนขนาดไหน ห้องกว้างที่ถูกปิดม่านเอาไว้อบอวลไปด้วยกลิ่นฟีโรโมนหอม ๆ เสียจนเขาเผลอสูดดมเข้าไปจนเต็มปอด
บริเวณมุมห้องใกล้ ๆ กับโต๊ะทำงานมีเสื้อผ้าของแซคกองรวมกันโดยมีโอเมก้าร่างเปลือยซุกหน้ากับต้นแขนของตัวเองเพื่อหลีกหนีความอายผิดกับก้นกลมที่แอ่นส่ายรอรับััจากอัลฟ่าอย่างร่านเร้า...
วันนั้นจานินน่ารักมาก
น่ารักจนเขาน็อตใส่อีกฝ่ายแทบทุกครั้งที่ใกล้จะเสร็จสม
คิดเื่ในอดีตพลาง ๆ จานที่กองพะเนินอยู่ก่อนหน้าก็ถูกทำความสะอาดเสร็จสิ้นแล้วเป็ที่เรียบร้อย...่ขายาวก้าวมาหยุดยืนที่หน้าห้องทำงานของคนรักก่อนจะถือวิสาสะทำตัวเสียมารยาทด้วยการผลักประตูเข้าไป แต่ทว่ามันดันถูกล็อกจากข้างในเขาจึงทำได้แค่เคาะประตูแล้วร้องขอให้อีกฝ่ายมาเปิดให้กัน
“นิน เปิดประตูให้แซคหน่อย”
“...”
“ที่รักกกก เปิดประตูให้เค้าหน่อย”
“ไปไกล ๆ เราเหม็นหน้าเธออยู่ยังไม่อยากเห็น”
“กี่โมง”
“กี่โมงอะไร”
“เธอเลิกเหม็นหน้าแซคกี่โมงจะได้ตั้งเวลารอ” ยัยตัวดีไม่ตอบและเขาไม่คิดจะเซ้าซี้ เหอะ ไม่เข้าก็ได้วะแต่นอนแม่งตรงนี้นี่แหละ ถ้าเปิดประตูออกมาแล้วกล้าเดินข้ามหัวเขาก็ลองดู!
แซคหมายมั่นไว้ในใจก่อนจะเดินไปหยิบหมอนอิงบนโซฟามาวางไว้กับพื้นแล้วทิ้งตัวลงนอนโดยหันหน้าเข้าหาประตู แม้จะรู้สึกง่วงงุนสักเพียงใด ทว่าแซคก็ไม่กล้าปิดเปลือกตาลงเพราะกลัวว่าหากตื่นมาอีกครั้งทุกอย่างที่กำลังเผชิญอยู่อาจจะเป็เพียงฝันกลางวันก็ได้ใครจะไปรู้
/
‘มึงจะเอากับใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่คนนี้’ ใจที่ยังไม่ทันประกอบขึ้นมาใหม่ก็แตกสลายอีกครั้งเมื่อพบว่าภายในห้องนอนของสองเรามีบุคคลที่สามร่วมอยู่
อีกฝ่ายสวมชุดคลุมอาบน้ำตัวโปรดของเขา
นั่งลงบนเตียงที่เขาเลือกมันเองกับมือ
‘จานินพูดดี ๆ อย่าหยาบคาย’
‘ทำไม? แค่นี้มึงแสลงหูเหรอ’
‘พูดไม่รู้เื่แล้วจานิน หนูออกไปรอข้างนอกก่อนเดี๋ยวพี่—’
‘ไม่ต้องไป อยู่นี่นี่แหละเดี๋ยวกูไปเอง’ ร่างบางเตรียมจะหมุนกายออกไปนอกห้องแต่ทว่าััอันน่ารังเกียจที่ครั้งหนึ่งจานินเคยคิดว่ามันอบอุ่นกลับรั้งเขาเอาไว้เสียก่อน
‘จะซีเรียสทำไม มันก็แค่เซ็กส์ไหมเพราะสุดท้ายยังไงแซคก็รักเธอแค่คนเดียวปะวะ’
เพียะ!
ดวงตาคมเบิกกว้างเมื่อฝ่ามือของคนรักฟาดลงบนแก้มซ้ายอย่างรุนแรงจนเขาหน้าหันไปตามแรงตบ แซคนิ่งอึ้งด้วยความใพราะต่อให้เราทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหนก็ไม่มีเลยสักครั้งที่จานินจะลงไม้ลงมือกับเขา...แบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยหรือ
‘พอแค่นี้เหอะแซค’
‘...’
‘เราไม่อยากมีเธออยู่ในชีวิตแล้วว่ะ’
เราไม่อยากมีเธอ
...อยู่ในชีวิตแล้วว่ะ
เฮือก!
ร่างสูงที่เผลอหลับไปั้แ่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้เบิกตาโพลงด้วยความใก่อนจะลุกขึ้นเดินอย่างกระวนกระวายเพื่อตามหาใครบางคนที่ควรจะอยู่ในห้อง
แซคเอื้อมมืออันสั่นเทาผลักประตู ก่อนจะพบว่ามันไม่ได้ล็อกเอาไว้และด้านในมีเพียงความว่างเปล่าไร้ซึ่งร่องรอยของคนรัก...จานินหายไปไหน
ปลายนิ้วชี้กดเปิดลิฟต์ซ้ำ ๆ แต่ทว่าก็ไม่เป็ผล จนคนที่ร้อนรนอยู่เป็ทุนเดิมก้าวยาว ๆ ไปยังบันไดหนีไฟด้วยสภาพน้ำตานองหน้า แทบดูไม่ได้—สิ่งที่เกิดขึ้นในฝันมันน่ากลัวเพราะนั่นเป็ครั้งสุดท้ายที่เขารับรู้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายหาใช่ร่างกายที่ไร้ิญญา
สองปีที่ไม่แม้แต่จะได้พบหน้า ใครมันจะไปคิดว่าการเจอกันอีกครั้งเขาจะอยู่ในฐานะผู้ร่วมไว้ทุกข์และจานินเป็เ้าภาพ...เป็เ้าภาพในงานพิธีฌาปนกิจของตัวเอง
แซคจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกครั้งเป็อันขาด
ถ้าการย้อนเวลากลับมาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ เขานี่แหละจะเป็ฝ่ายตายแทนจานินเอง
“ขอโทษนะครับเห็นคนที่สวมเสื้อยืดสีขาวเดินลงมาแถวนี้บ้างไหม”
“อา ไม่เห็นนะคะ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า” เมื่อได้รับคำตอบกลับมาเป็การปฏิเสธ อัลฟ่าตัวโตก็เดินสะเปะสะปะกวาดสายตามองหาคนรักไปทั่วบริเวณด้วยสภาพเท้าเปลือยเปล่า ผมเผ้าฟูฟ่องไม่ต่างจากคนวิกลจริต
มือหนายกขึ้นปาดน้ำตาปอย ๆ ก่อนจะเห็นเรือนร่างอันคุ้นเคยซึ่งสวมเสื้อยืดสีขาวอยู่อีกฝั่งของถนน ไม่รอช้า แซครีบวิ่งข้ามถนนไปอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าจะตามอีกฝ่ายไม่ทัน ซึ่งในจังหวะเดียวกันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแตรรถที่ถูกบีบในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกลสลับกับเสียงกรีดร้องของผู้คนบริเวณนั้น...
โครม
เวร ยังไม่ทันได้แก้ไขอะไรพระเ้าก็จะให้กูตายห่าอีกแล้วเหรอ?
Tbc
เอาเนื้อหารูปแบบรีไรท์มาลงให้อ่านกันค่ะ เหมือนไฟล์มีปัญหาเพราะมีตกหล่นบางคำ
อ่านซ้ำจะดีมากแต่ถ้าไม่อ่านซ้ำก็ไม่มีปัญหาค้าบ
คอมเมนท์, #ย้อนเวลากลับมาเป็แฟนหนุ่มที่ดีแบบสามร้อยปซ หรือ #แซคจานิน
ทวิต https://twitter.com/eveningdaisy40
ไปแล้วน้า บะบุ้ยย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้