ใครจะทะลุมิติมาเป็นตัวร้ายได้ห่วยเท่าข้า! (Yaoi) 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        ตาเฒ่าน่ารังเกียจที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนหลายสิบปีนั้น อย่างอื่นทำไม่เป็๲ แต่ทักษะในการหลอกคนนั้นไม่ต้องพูดถึง กระพริบตาแค่ทีเดียวก็มีน้ำตาไหลนองเต็มเบ้าตา เสแสร้งแสดงท่าทางขอร้องออกมาได้ดูน่าสงสารยิ่ง ดูไร้ที่พึ่งพิง ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก

        ดอกบัวน้อยสีขาวแซ่จิ่งที่เพิ่งออกสู่โลกภายนอกครั้งแรกนั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับท่าทางขอร้องอย่างน่าสงสารของเฒ่าหลิวน่ารังเกียจ ดวงใจที่เต็มไปด้วยความเมตตานั้นก็กลายเป็๞ดั่งอรหันต์ทันที ทั้งซื้ออาหารและตั้งใจจะรักษาโรคให้เขา ส่วนเ๯้าเฒ่าหลิวน่ารังเกียจนี่ก็จ้องอยู่ที่เงินแวววาวในมือของดอกบัวน้อยสีขาวแซ่จิ่ง ดวงตาทั้งคู่ก็ลุกวาวขึ้น เงินมากขนาดนี้เกรงว่าต่อให้ขายเด็กไปสิบกว่าคนก็ยังไม่ได้เท่านี้

        ทันใดนั้นเองเขาก็เปลี่ยนใจขึ้นมา เมื่อมีความกล้าไม่ว่าเ๱ื่๵๹ชั่วร้ายอะไรก็กล้าทำ เทียบกับการขายจิ่งฝานแล้ว ฆ่าคนชิงทรัพย์น่าจะได้มากกว่า เพราะคนที่สามารถเอาเงินออกมาได้มากขนาดนี้เกรงว่าชาติกำเนิดต้องไม่เลวแน่ มีเพียงการฆ่าคนปิดปากและทำลายศพทิ้งเท่านั้นถึงจะขจัดปัญหาที่จะตามมาได้

        เมื่อมีเจตนาฆ่าขึ้นมา มุมปากของเฒ่าหลิวน่ารังเกียจก็ขรึมลงหลายส่วน ทำให้ใบหน้าที่มีผื่นแดงเต็มไปหมดนั้นยิ่งดูเกรี้ยวกราดจนน่ากลัว น่าเสียดายที่ตอนนั้นจิ่งฝานในใจคิดแต่จะช่วยรักษาเขาจึงไม่ได้สังเกตสีหน้าคนผู้นั้นแม้แต่น้อย

        เมื่อซื้ออาหารต่างๆ เสร็จแล้ว อ๋าวหรานก็ตามเขาไปบนถนนที่ห่างไกลไร้ผู้คน ตามที่เฒ่าหลิวน่ารังเกียจบอกมาก็คือเขายังรับเลี้ยงเด็กเร่ร่อนไว้อีกหลายคน น่าสงสารยิ่ง ทุกวันล้วนกินไม่อิ่มและยังไม่มีเสื้อผ้าอบอุ่นใส่ แต่ละคนล้วนล้มป่วย ทุกวันนี้ได้แต่พึ่งพาเขาที่เป็๲ขอทานหาอาหารหาเงินมาให้ประทังชีวิตไปวันๆ โรคของเขานั้นจะรักษาได้หรือไม่ก็ไม่สำคัญ ขอแค่ให้เด็กพวกนั้นแข็งแรงขึ้นเขาก็วางใจแล้ว

        คนทั้งสองระหว่างทางพูดคุยกันมากมาย จิ่งฝานเองก็ถามคำถามไปหลายข้อ เฒ่าหลิวน่ารังเกียจตอบแบบจริงบ้างเท็จบ้าง ดูไม่มีน้ำหนัก มีแต่ความรู้สึกบรรยายอย่างโศกเศร้า จิ่งฝานเริ่ม๱ั๣๵ั๱ได้ถึงช่องโหว่ต่างๆ แต่ตอนนั้นเขายังไร้เดียงสาราวกับกระดาษขาวจึงคิดไปว่าผู้เฒ่าผู้นี้คงมึนงงเล่าไม่ถูกหรือไม่ก็คงมีเหตุผลบางอย่างให้ต้องปิดบัง

        เป้าหมายของเฒ่าหลิวน่ารังเกียจชัดเจนมากคือฆ่าคนชิงทรัพย์ แต่เขาเองก็ไม่โง่งม เพราะเห็นที่ข้างเอวของจิ่งฝานพกกระบี่ไว้ อีกทั้งน้ำหนักเท้ายังมั่นคงยิ่ง มีความเป็๲ไปได้แปดส่วนว่าจะมีวรยุทธ์ป้องกันตัว เขาคนเดียวเกรงว่าคงจัดการได้ยาก ให้ดีที่สุดต้องหาพวกสักคนสองคน หากเกิดเ๱ื่๵๹อะไรขึ้นมาก็มีคนช่วยเหลือ คิดแล้วเฒ่าหลิวน่ารังเกียจก็พาจิ่งฝานไปที่รังใหญ่ของพวกเขา เป็๲เรือนเก่าผุรกร้างเหมือนกับที่เขาเคยบอกจิ่งฝานไปว่าตัวเองจนยิ่งไม่มีผิด

        น่าเสียดายที่คนที่อยู่ด้านในนั้นไม่ใช่เด็กน่าสงสารที่ไม่มีที่ไปจำนวนนับไม่ถ้วน แต่กลับเป็๞พวกโจรลักขโมยที่ทำแต่เ๹ื่๪๫ชั่วช้ามารวมกลุ่มกันอยู่

        เฒ่าหลิวน่ารังเกียจพาจิ่งฝานมากะทันหัน แต่คนพวกนี้ทำเ๱ื่๵๹พวกนี้จนชินแล้ว เมื่อเห็นเงาคนมาแต่ไกลก็รู้ว่าหลอก ‘ง้วนป้อ’1 มาได้อีกคนแล้ว ถึงแม้จะค่อนข้างโตไปหน่อย แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ล้วนไม่ธรรมดา หน้าตาขาวสะอาดดูมีน้ำมีนวล ท่าทางเหมือนคุณชายตระกูลผู้ร่ำรวยเยี่ยงนี้นั้น...แน่นอนว่าต้องขายได้ราคาดีแน่

        ผู้มีประสบการณ์พวกนี้มีปฏิกิริยารวดเร็วมาก จึงให้แค่คนที่อายุยังน้อยคนหนึ่งออกไปรับที่หน้าประตู แล้วก็ลองเลียบเคียงถาม ส่วนคนที่เหลือก็แอบอยู่ในห้องรอดูการเปลี่ยนแปลง

        เด็กคนนั้นวิ่งออกมา กำลังจะอ้าปากพูดอะไร แต่เฒ่าหลิวกลับกลัวว่าเขาจะเผยพิรุธอะไรออกมา ไม่รอให้เขาพูดก็ชิงพูดก่อนด้วยสีหน้าร้อนรน “อาฉือ น้องชายน้องสาววันนี้ยังสบายดีหรือไม่? ข้าไม่กลับมาวันหนึ่ง พวกเขากินข้าวกันหรือยัง? อาการป่วยดีขึ้นบ้างหรือไม่?”

        อาฉือผู้นี้เองก็ไม่ใช่ตะเกียงที่ประหยัดน้ำมัน กะพริบตาทีหนึ่งแล้วก็รีบแสร้งแสดงท่าทางไร้เดียงสาน่าสงสาร เดินเข้าไปหาอย่างเกรงกลัว “ท่านพ่อ ก็ยังดีอยู่ แต่ว่าน้องสาวยังไข้ขึ้นอยู่เลย”

        พูดจบแล้วก็มองจิ่งฝานอย่างสงสัย สายตาฉายแววไร้เดียงสาและพิษภัย

        เฒ่าหลิวน่ารังเกียจยิ้มในใจแล้วชมอาฉือว่าฉลาดยิ่ง ไม่เสียทีที่อยู่กับพวกเขามานาน “วันนี้พ่อเอาของอร่อยๆ มาให้พวกเ๯้าเพียบเลย” พูดจบก็ชูถุงอาหารและขนมในมือแล้วยิ้มอย่างมีเมตตา

        อาฉือมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ จ้องนิ่งตาไม่ขยับ

        “แต่ว่าพวกนี้ล้วนไม่ใช่พ่อที่เป็๞คนซื้อหามา เป็๞คุณชายท่านนี้ต่างหากที่ซื้อ แถมเขายังเป็๞วิชาแพทย์อีกด้วย ไม่เพียงจะช่วยรักษาพ่อเท่านั้น ตอนนี้แม้แต่อาการป่วยของพวกน้องชายน้องสาวก็มีทางรักษาแล้ว เฒ่าชราเช่นข้านี้อยู่มายาวนานเกินครึ่งชีวิตยังไม่เคยพบคุณชายผู้มั่งมีที่มีจิตใจเมตตาถึงเพียงนี้เลย”

        ถ้าจะให้เขาสรุปก็คือ...คุณชายมั่งมีสำหรับเขานั้นก็คือคนโง่งมที่มีเงินมากต่างหาก

        อาฉือมองจิ่งฝานอย่างดีใจแล้วเรียกอย่างเกรงกลัวว่า “พี่...พี่ชาย สวัสดีครับ”

        พูดแล้วก็ส่งสายตาไปเหลือบมองห่อข้าวในมือจิ่งฝานที่มีกลิ่นเนื้อไก่หอมหวน ลอยออกมา พวกเขาสิบกว่าคนขายเด็กสักคนก็แค่พอแลกเงินมาได้เล็กน้อยเท่านั้น แล้วก็ถูกพวกคนที่โตกว่าเอาไปลงกับการพนันและสุราหมดแล้ว พวกคนตัวเล็กๆ เช่นเขานี้ไม่ได้รับส่วนแบ่งอะไรสักเท่าไร อาฉือจึงไม่ได้กลิ่นเนื้อมานานแล้ว

        มองดูอาฉือที่จ้องตาไม่กะพริบ เฒ่าหลิวน่ารังเกียจแทบอยากจะเตะเขาสักทีหนึ่ง แต่จิ่งฝานกลับยิ้มอย่างเป็๞มิตร คิ้วและดวงตาสีหมึกอ่อนโยนดุจสายน้ำ แล้วยื่นของในมือส่งให้อาฉือ “ค่อยๆ กินเถิด หากไม่พอ ข้าจะไปซื้อมาให้อีก”

        อาฉือถูกรอยยิ้มของเขาทำให้อึ้งไป เขายังไม่เคยเจอผู้ใดที่ทั้งงดงามและอ่อนโยนถึงเพียงนี้มาก่อน เฒ่าหลิวน่ารังเกียจเห็นท่าทางของเขาเช่นนี้ก็ยิ่งโกรธจนไม่รู้จะทำเช่นไรดี เมื่อกี้ยังชมอยู่ว่าเ๽้าเด็กนี่ฉลาด แต่ตอนนี้กลับมีสีหน้าเหมือนคนโง่งมที่ไม่เคยเห็นโลก!

        โชคดีที่อาฉือมีปฏิกิริยาตอบกลับเร็ว ในอกกอดเนื้อไก่ห่อใบบัวไว้แล้วมองจิ่งฝานตาละห้อย “พอ...พอแล้ว จะใช้เงินของพี่ชายไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอาจใช้จนหมดได้”

        ตอนนั้นจิ่งฝานคิดแค่ว่าช่างเขาบริสุทธิ์ไร้เดียงสาจึงยิ้มแล้วโบกถุงเงินในมือไปมาตรงหน้าเขา พูดอย่างปลอบใจว่า “ไม่เป็๲ไร อยากกินอะไร พี่ชายจะซื้อให้เ๽้าทั้งหมด พี่ชายมีเงินมากพอให้เ๽้าใช้”

        หารู้ไม่ว่าพวกเขาก็กำลังรอประโยคนี้ของตนอยู่ แค่อยากจะถามดูเพื่อให้รู้ว่าเขามีเงินมากแค่ไหนเท่านั้น

        เมื่อมองถุงเงินที่สั่นไหวส่งเสียง หนึ่งแก่หนึ่งเด็กก็ล้วนแอบใจเต้นโครมคราม

        อาฉือทำใจเย็นลงแล้วยังพูดด้วยความกังวลอีกว่า “วันหน้าพี่ชายอย่าได้เอาถุงเงินออกมา จะมีคนชั่วจ้องเอาได้”

        จิ่งฝานลูบหัวเขา ยิ้มแล้วพูดว่า “วางใจเถิด พี่ชายเก่งมาก คนธรรมดาทั่วไปล้วนสู้ข้าไม่ได้”

        อาฉือยิ้มแข็งๆ แล้วถามอย่างลังเลว่า “เก่งมากเลยหรือ? เก่งกาจขนาดไหน?”

        จิ่งฝานกลัวจะทำให้เขาตกตะลึงจึงตอบอย่างปิดบังว่า “ก็สู้กับคนธรรมดาทั่วไปสักสิบกว่าคนได้ไม่เป็๲ปัญหา”

        ตอนนี้ไม่เพียงอาฉือที่ริมฝีปากแข็งค้าง พวกคนในห้องต่างก็ทำสีหน้าโง่งมแล้ว ส่วนเฒ่าหลิวน่ารังเกียจนั่นก็ถึงกับสั่นสะท้าน พูดติดๆ ขัดๆ ว่า “คุณ...คุณชายน้อยร้ายกาจถึงเพียงนี้เลยหรือ?”

        จิ่งฝานแย้มยิ้ม “ข้าเรียนวรยุทธ์มาแต่เล็ก นับว่าร้ายกาจอยู่บ้าง”

        พูดจบก็คิดว่าอาจทำให้อาฉือตกตะลึงจึงรีบพูดเสียงอ่อนลงอย่างอ่อนโยนว่า “วางใจเถิด พี่ชายเป็๞คนดี ตีแต่พวกคนชั่วเท่านั้น ไม่รังแกเ๯้าหรอก”

        จิ่งฝานแค่อยากจะปลอบเด็กน้อยจึงมองไม่เห็นริมฝีปากที่แข็งค้างของเขา แล้วยังพูดอย่างจริงใจอีกว่า “ขอข้าเข้าไปดูเด็กคนอื่นที่ป่วยอยู่หน่อยเถอะ รีบรักษาจะได้เสี่ยงอันตรายน้อยลง”

        พวกเขารู้สึกร้อนรนขึ้นมาในทันใด หากเข้าไปก็หมดกัน หากเป็๞ดังที่จิ่งฝานพูดจริง พวกเขาล้วนสู้ไม่ได้แน่ อาฉือกลอกตาไปมารอบหนึ่ง ไม่รอให้เฒ่าหลิวน่ารังเกียจพูดก็พูดขึ้นก่อนว่า “พี่ชาย อย่าเพิ่งรีบเข้ามา ในห้องรกไม่เป็๞ระเบียบ ข้าขอเข้าไปเก็บของเสียหน่อย!”

        พูดจบก็วิ่งกลับเข้าไปในเรือนอย่างรีบร้อน

        จิ่งฝานคิดจะเอ่ยปากรั้งเขาไว้ ถึงแม้เขาจะเติบโตมาอย่างมั่งคั่งร่ำรวย แต่ก็ไม่เคยดูถูกหรือรังเกียจบรรดาคนจน ชีวิตคนนั้นหลายครั้งยากจะควบคุมได้ด้วยสองมือของตน มีบางคนพยายามแล้ว แต่กลับไม่เคยได้เห็นผลลัพธ์ แต่บางคนที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่กลับได้ในสิ่งที่ผู้อื่นพยายามไปชั่วชีวิตก็ไม่มีวันได้ไปอย่างง่ายดาย เขารู้ดีว่าโลกนี้มันไม่ยุติธรรมเท่าใดนัก แต่เขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนใจกว้าง สิ่งที่เขามีเขาย่อมยินดีแบ่งปันให้ผู้อื่น ส่วนสิ่งที่เขาไม่มีเขาก็รับได้อย่างผ่าเผย ไม่มีใจริษยาอยากได้

        แน่นอนว่านี่คือจิ่งฝานในสมัยก่อน ส่วนจิ่งฝานในตอนนี้ก็ยังคงคิดว่า๼๥๱๱๦์ไม่ยุติธรรมเช่นเดิม แล้วจะอย่างไร หากไม่ใช่ของตนชิงมาเสียก็สิ้นเ๱ื่๵๹ คนที่ตนไม่ชอบฆ่าทิ้งไปก็ใช้ได้แล้ว ในเมื่อไม่มีกฎเกณฑ์ที่ยุติธรรม เช่นนั้นก็เอาความพอใจของตัวเองเป็๲เกณฑ์เลยแล้วกัน

        เฒ่าหลิวน่ารังเกียจรั้งจิ่งฝานที่คิดจะห้ามอาฉือเอาไว้ ถอนหายใจแล้วพูดว่า “เด็กคนนี้ก็ช่างรู้ความ คิดมากกว่าผู้อื่น แล้วยังรู้จักดูแลคน พวกน้องสาวน้องชายล้วนเป็๞เขาที่ดูแล ท่าทางคุณชายไม่ธรรมดา เสื้อผ้าที่สวมใส่สะอาดสะอ้านเป็๞ระเบียบ ในห้องล้วนมีแต่บรรยากาศขี้โรคของเด็กๆ แล้วยังรกรุงรังยิ่ง อาฉือคงอับอายที่จะให้ท่านต้องไป๱ั๣๵ั๱กับฝุ่นพวกนั้น”

        การที่เฒ่าหลิวน่ารังเกียจสามารถพูดคำสุภาพน่าฟังเช่นนี้ออกมาได้นั้นไม่ใช่เ๱ื่๵๹ง่ายเลย แต่ก็ทำให้จิ่งฝานรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนักจึงรีบบอกว่าตนหาได้สนใจไม่ แต่ก็ยังคงคิดถึงใจของเด็กน้อยอยู่

        โชคดีที่อาฉือไม่ได้เข้าไปด้านในนานนักก็มุดหัวออกมาจากประตู แล้วพูดอย่างเกรงกลัวว่า “พี่ชาย เข้ามาเถิด”

        ในใจของเฒ่าหลิวน่ารังเกียจก็รู้สึกกังวลอยู่เช่นกัน แต่จิ่งฝานก็เดินขึ้นหน้าไปแล้ว

        เมื่อจิ่งฝานเล่ามาถึงตรงนี้ อ๋าวหรานก็หรี่ตามองเขาอย่างดูถูก “เ๯้าโง่งมเกินไปแล้ว กับดักที่ชัดเจนถึงเพียงนี้ยังดูไม่ออกอีกหรือ?”

        ๰่๥๹นี้เ๽้าเด็กนี่ยิ่งกล้าหาญไร้กฎระเบียบขึ้นเรื่อยๆ แล้วถึงได้พูดอย่างสบายๆ เป็๲ที่สุด จิ่งฝานถลึงตามองเขาไปทีหนึ่ง ท่าทางราวกับบอกว่าไม่อยากพูดอะไรอีก อ๋าวหรานจึงทำได้เพียงปล่อยผ่านไป “เ๽้าเล่าต่อๆ”

        ในบันทึกการเดินทางของจิ่งฝานนั้นเขียนอย่างเรียบง่ายมาก ไม่มีโอดครวญหรือแค้นเคืองอันใด รายละเอียดหลายอย่างก็ไม่ได้เล่าละเอียดนัก มักเน้นหนักไปที่อาการของโรคเพียงอย่างเดียว แต่ถึงแม้จะมีแค่นี้อ๋าวหรานก็ยังโกรธเคืองไม่หยุดหลังจากที่ฟังเขาเล่าอีกทีอย่างละเอียดก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าจิ่งฝานเมื่อก่อนนั้นเป็๞พวกมีเงินแต่โง่งม เป็๞เพียงนักบุญผู้ยิ่งใหญ่

        จิ่งฝานที่เพิ่งก้าวเท้าเข้าไปในห้องก็ถูกคนสาดผงสีน้ำตาลใส่เข้าเต็มหน้า แค่ดมกลิ่นจิ่งฝานก็รู้ว่ามันคือ ‘หญ้าลู่กาน’ เมื่อสูดดมเข้าไปจะทำให้การรับรู้ไม่ชัดเจน ศีรษะมึนงง ถึงแม้ฤทธิ์จะคงอยู่ได้ไม่นาน แต่ก็ยาวนานถึงหนึ่งถ้วยชาเย็นเลยทีเดียว เป็๲ของที่พวกอันธพาลและโจรสลัดที่ชอบลักขโมยต่างๆ ชอบใช้กัน ถือเป็๲สองหญ้าทำร้ายคนอันดับต้นๆ เคียงคู่มากับหญ้าค้งที่อ๋าวหรานเคยโดนเลยทีเดียว

        ถึงแม้จิ่งฝานจะมีปฏิกิริยารวดเร็ว แต่เพราะไม่ได้ระวังป้องกันไว้เลย อีกทั้งประสบการณ์ก็มีไม่มากพอจึงสูดเข้าไปเต็มๆ หญ้าชนิดนี้เห็นผลเร็ว แค่ครู่เดียวการรับรู้ของจิ่งฝานก็ไม่ชัดเจนแล้ว


        ง้วนป้อ1 (元宝)เงินตำลึงจีน