กู้เซ่าชิงประหลาดเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็ขยับริมฝีปากพูด “นังหนูของเราเติบใหญ่แล้ว ถ้ามีสักวันที่เขารังแกเ้า ขอเพียงเอ่ยปาก ข้ายังซ่อนกองทัพตระกูลกู้กองหนึ่งไว้นอกเมือง แม้จำนวนคนจะไม่มาก แต่ข้าย่อมไม่ปล่อยให้ใครรังแกเ้าแน่”
หัวใจของซูเฟยซื่อราวกับมีความอบอุ่นกระแสหนึ่งไหลเวียน มีคนปกป้องคุ้มครอง ความรู้สึกที่มีใครมาเกื้อหนุนคือความสุขแบบนี้เอง ก็ต่อให้รู้อยู่เต็มอกว่าไม่อาจเอาชนะอวี้เสวียนจีได้ แต่เพราะความสบายใจนั้น ให้รู้สึกราวกับท่ามกลางฟ้าดินผืนนี้ นางจะทำอะไรก็ย่อมได้ คือความทะนงตนชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ
เพียงแต่วาจาประโยคนี้ของกู้เซ่าชิงคล้ายว่ามีบางอย่างผิดปกติ ไม่คล้ายต่อว่าศัตรู แต่ดูเหมือนกำลังพูดถึงสามีของนางเช่นนั้น
เป็อวี้เสวียนจี? เขาเข้าใจว่าเ้าขันทีนั่นคือคนรักของนางอย่างนั้นหรือ!
ซูเฟยซื่อถึงกับมุมปากกระตุก ค่อยๆ เตือนสติด้วยความปรารถนาดีต่ออีกฝ่ายว่า “อวี้เสวียนจีเป็ขันทีคนหนึ่ง”
“ขันทีแล้วอย่างไร เกรงว่าต่อให้เ้าหลงรักพวกตัดชายเสื้อ[1] เ้าก็พาเข้าบ้านมาได้อยู่ดี” กู้เซ่าชิงกล่าวอย่างสมด้วยเหตุผล
ฟังจนซูเฟยซื่อแทบจะทั้งหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ ทำไมนางถึงไม่เคยรู้ว่ามาก่อนว่า ความคิดของกู้เซ่าชิงเปิดกว้างเช่นนี้?
แต่ด้วยนิสัยของอวี้เสวียนจี หากนางแสวงหาพวกตัดชายเสื้อมาอยู่ข้างกาย ก็กลัวว่าจะเป็เพียงเพิ่มิญญาพยาบาทก็เท่านั้น
เกรงว่ายังไม่ทันได้เข้าประตูก็ถูกฝีมือทรมานผิดมนุษย์มนาของอวี้เสวียนจีทารุณจนกลายเป็ผี ก่อนที่จะรู้ตัวเสียอีก
เมื่อตระหนักแล้วว่าฝีปากของตนคงไม่สามารถเอาชนะกู้เซ่าชิงได้ จึงเปลี่ยนเื่สนทนาทันที “เมื่อครู่เ้าบอกว่าที่นอกเมืองยังซ่อนกองทัพตระกูลกู้กองหนึ่งไว้?”
เมื่อพูดถึงเื่จริงจัง สีหน้ากู้เซ่าชิงพลันเข้มงวดมากขึ้นหลายส่วน “อืม หลังจากที่เ้าเข้าวัง จอมพลกู้กลัวว่าข้าจะไม่มีงานทำ จึงมอบกองทัพเล็กๆ กองหนึ่งให้ข้าไปฝึกอบรมที่นอกเมือง นั่นเป็เหตุให้ข้าสามารถพ้นจากภัยพิบัติได้คราหนึ่งด้วย”
ที่แท้ตระกูลกู้ยังมีกองทหารกองหนึ่งที่รอดชีวิต ได้ยินข่าวนี้ ซูเฟยซื่อก็ตื่นเต้นถึงขนาดต้องกัดริมฝีปาก ปล่อยให้เืสดกบปากสงบสติอารมณ์ “มีจำนวนเท่าไร?”
“เจ็ดพัน” กู้เซ่าชิงแยกเขี้ยวยิงฟัน ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
คิ้วของซูเฟยซื่อกลับขมวดเป็ปม “เจ็ดพัน? ทั้งอาหาร เสื้อผ้า และที่อยู่อาศัย แล้วยังการเคลื่อนไหวของคนมากมายขนาดนั้น เ้าจัดการได้อย่างไร?”
แววตากู้เซ่าชิงหลบเลี่ยงไปบ้าง ลังเลสักครู่ ในที่สุดก็เอ่ยปาก “ชื่อเสียงของกองทัพตระกูลกู้สูงส่งมากในเมืองหลวงตลอดมา ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างจำได้ เพื่อหลบเลี่ยงการถูกผู้คนจดจำได้ ข้าได้แต่จัดให้พวกเขากระจายตัวไปในหุบเขานอกเมืองทำงานฝีมือบ้าง ส่วนที่ไม่ค่อยโผล่หน้าเ่าั้ก็ทำงานหาเงินด้วยกันกับข้ามาเลี้ยงดูทุกคน”
“ดังนั้นเ้าจึงต้องมาต่อสู้แลกชีวิตในสนามประลองเพื่อหาเงินจำนวนมากมาเลี้ยงปากท้องกองทัพตระกูลกู้หรือ? แล้วใบหน้าของเ้า...” เดิมนางคิดว่าใบหน้าของกู้เซ่าชิงถูกทำลายไปในขณะที่ตระกูลกู้ถูกล้มล้าง ทว่าเมื่อสักพักเขากลับบอกว่าขณะที่ตระกูลกู้ถูกล้มล้าง เขากำลังฝึกทหารอยู่นอกเมือง
ในเมื่อไม่ได้ถูกทำลายตอนนั้น แล้วถูกทำลายได้อย่างไรกัน?
ในใจซูเฟยซื่อมีความเป็ไปได้ประการหนึ่งวาบผ่านไป แค่นึกก็ปวดใจจนไม่อาจจะเชื่อได้
“ใบหน้าข้า… เป็ข้าที่ทำลายเอง ในฐานะที่เป็แม่ทัพน้อยตระกูลกู้ ไหนเลยจะยอมให้ทหารออกมาทำงานหาเงิน ส่วนตนเองซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา” กล่าวจบ ดูเหมือนกู้เซ่าชิงก็กลัวว่าซูเฟยซื่อจะกังวลใจ รีบหัวเราะกลบเกลื่อน กล่าวต่อไป “ที่สำคัญงานนี้ทั้งได้เงินและได้ฝึกปรือวิทยายุทธ์อีก ไยมิสุขใจเล่า ยิ่งกว่านั้นด้วยวิทยายุทธ์อันเลิศล้ำของข้า คนเ่าั้ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าโดยสิ้นเชิง”
ใบหน้าของกู้เซ่าชิงเป็เขาทำลายเอง นางไม่สามารถจินตนาการได้จริงๆ ว่าชายหนุ่มเ้าสำอางคนนั้น กระทั่งในสนามรบยังะโเสียงดังว่าอย่าทำร้ายใบหน้าของเขา ต้องเตรียมใจตั้งขนาดไหนถึงได้ยอมลงมือ
ถึงจะมั่นใจอยู่เต็มอกว่า คนในสนามประลองล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่คู่ควร แต่เสือเ่าั้เล่า?
วันนี้ถ้าไม่ใช่อวี้เสวียนจีที่ลงมือ เกรงว่าตอนนี้กู้เซ่าชิงอาจได้เป็ศพร่างหนึ่งไปแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ ซูเฟยซื่ออดไม่ได้ที่จะเกิดความกลัวในภายหลังบ้าง นางรีบคว้ามือของกู้เซ่าชิงไว้ทันที “สัญญากับข้าว่าอย่าได้เสี่ยงอันตรายอีก ข้าเตรียมเงินทองไว้พร้อม เ้าเพียงฝึกทหารดีๆ อย่าทำให้ความหวังที่ท่านพ่อมีต่อเ้ากลายเป็ผิดหวัง”
“ไม่ได้ เ้าอยู่คนเดียวในจวนอัครมหาเสนาบดี ให้ข้าวางใจได้อย่างไร ข้าต้องตามเ้าไป” กู้เซ่าชิงรีบปฏิเสธโดยเร็ว
“แต่กองทัพตระกูลกู้...” ซูเฟยซื่อลังเล ทหารกองหนึ่งจะไร้ผู้นำได้อย่างไร?
“สักพักข้าก็กลับไปบอกข่าวดีเื่ที่เ้ายังมีชีวิตอยู่แก่ทุกคน หลังจากนั้นเลือกไม่กี่คนออกมาช่วยจัดการ เื่กองทัพตระกูลกู้ เ้าวางใจเถิด ยามมีชีวิตอยู่เมื่อก่อนแม่ทัพกู้ดีต่อพวกเขาขนาดนั้น ทุกคนต่างหวังว่าจะมีโอกาสช่วยล้างแค้นแก่ตระกูลกู้ที่ถูกล้มล้างได้”
“ขอบคุณทุกคนแทนข้า บุญคุณอันใหญ่หลวง ข้าย่อมไม่มีวันลืม” ขอบตาซูเฟยซื่อแดงเรื่ออีกครั้ง “ในเมื่อเ้าตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นก็รีบไปเถิด จวนอัครมหาเสนาบดีที่นั่น ข้าจัดการเอง”
ส่งกู้เซ่าชิงไปแล้ว ซูเฟยซื่อก็รอซางจื่อกลับมาอยู่ที่เดิม แต่ไม่คิดว่าซางจื่อจะวิ่งกระหืดกระหอบกลับมา “คุณหนู แย่แล้วเ้าค่ะ ขณะที่บ่าวกลับมาเมื่อครู่ ได้เห็นคุณชายกู้ถูกคนจับไป”
ซูเฟยซื่อขมวดคิ้วลงฉับพลัน “อะไรนะ? ถูกใครจับไปแล้ว?”
“เป็คนที่หอคณิกา พวกเขาบอกว่า... คุณชายกู้ไปนอนกับหญิงสาวในหอคณิกาแล้วไม่ได้ให้เงิน จึงต้องจับกุมคุณชายกู้ส่งให้เ้าหน้าที่ทางการเ้าค่ะ” ซางจื่อกระซิบเสียงเบา ทั้งนี้นอนโสเภณีแล้วไม่ให้เงิน นี่เป็เื่น่าอับอาย
ซูเฟยซื่อกลับสั่นศีรษะไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน นี่เป็ไปไม่ได้
เพราะเติบโตมากับกู้เซ่าชิง นางย่อมเข้าใจเขาดี นี่เป็ไปไม่ได้ที่เขาเที่ยวซ่องท่องสถานที่แบบนั้น ก็ต่อให้ไป ก็ย่อมไม่ทำเื่ขายหน้าแบบนั้นเด็ดขาด
ยิ่งกว่านี้ เมื่อครู่กู้เซ่าชิงเพิ่งถูกอวี้เสวียนจีพาออกมาจากสนามประลอง ทั้งได้พูดคุยกับนางมานานขนาดนั้น ไหนเลยจะมีเวลาไปเที่ยวซ่อง
จะมีก็แต่เมื่อครู่เขาเพิ่งแยกจากนางก็ถูกสะกดรอยตาม นี่ไม่ใช่ความบังเอิญแน่ หรือว่าเื่นี้จะมุ่งเป้ามาที่นางโดยตรง?
เห็นซูเฟยซื่อลังเลไม่เอ่ยปาก ซางจื่อก็อดใจร้อนขึ้นมาไม่ได้ “คุณหนู หากคิดช่วยคุณชายกู้ต้องรีบเคลื่อนไหวแล้ว มิฉะนั้นหากเ้าหน้าที่ได้เห็นคุณชายกู้ละก็...”
นางเพิ่งนึกถึงสิ่งที่อวี้เสวียนจีพูดถึงเมื่อตอนอยู่ในสนามประลองได้
กู้เซ่าชิง กองทหารเดิมของตระกูลกู้ ด้วยฐานะที่ละเอียดอ่อนขนาดนี้ ถ้าเจอเ้าหน้าที่แล้ว ต้องทำให้ซ่งหลิงซิวได้ตื่นตระหนกไม่ผิดแน่
ทว่าซางจื่อกลับไม่ได้กังวลถึงความเป็ความตายของกู้เซ่าชิง เพียงแต่รู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างซูเฟยซื่อกับกู้เซ่าชิงไม่ธรรมดา ถ้ากู้เซ่าชิงถูกจับ เกรงว่าจะเดือดร้อนถึงซูเฟยซื่อ
แน่นอนว่านางเข้าใจความหมายในวาจาของซางจื่อ เพียงแต่ไม่รู้ว่าทั้งนี้เป็ใครจะจัดการนาง หากบุ่มบ่ามเข้าไปหอคณิกาแบบนี้ จะติดกับดักของอีกฝ่ายพอดีไหม?
แต่ตอนนี้นอกเหนือจากการไปหอคณิกาตรวจสอบคราหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะไม่มีวิธีอื่นใดแล้ว!
ซูเฟยซื่อกัดฟันกรอด ช่างเถิด ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน ไม่ว่ามาแบบไหนก็สามารถรับมือได้
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็ใคร วัตถุประสงค์เป็อะไร สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ยังเป็การช่วยกู้เซ่าชิงออกมาจากหอคณิกาก่อน
มิฉะนั้นหากได้พบเ้าหน้าที่ปุ๊บ ไม่เพียงแต่กู้เซ่าชิงต้องตาย กระทั่งกองทัพตระกูลกู้ที่เหลือซึ่งซ่อนไว้นอกเมืองเ่าั้ ก็ล้วนตกอยู่ในอันตรายทั้งสิ้น
คิดถึงตรงนี้ ซูเฟยซื่อรีบขึ้นรถม้า “ไป ตรงไปยังหอคณิกา”
“เ้าค่ะ” ซางจื่อรีบขึ้นรถม้า ลงแส้ใส่ม้า ควบตรงไปดุจเหินบิน
รถม้าค่อยๆ หยุดวิ่ง ซางจื่อจึงชี้ไปยังหอคณิกาที่ประดับประดาอย่างวิจิตรสวยงามตรงหน้า กล่าวว่า “คุณหนู บ่าวเห็นกับตาว่าคุณชายกู้ถูกจับเข้ามาที่นี่”
ซูเฟยซื่อเลิกม่านรถม้ามองคราหนึ่ง เพียงเห็นหอเซียงเสวี่ย ตัวอักษรใหญ่สามตัวดุจัเหินหงส์ร่ายรำบนแผ่นป้ายของหอคณิกา
หอเซียงเสวี่ย เป็ไปได้อย่างไร!
ซูเฟยซื่อหน้าซีดด้วยความตื่นตระหนก แทบจะไม่กล้าเชื่อสายตาของตนเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้