หลังจากเหยียนเจียอวี๋วางสาย แม่บ้านก็เข้ามารับโทรศัพท์ในมือเขาไปวาง ก่อนจะเห็นหนังสือพิมพ์บันเทิงในมือของเขาจึงเผลออ่านหัวข้อข่าวออกมา “ท่านประธานแห่งเฉินตงสุดร้อนแรง ขึ้นไปทำอะไรให้รถสั่น กับสาวงามเจียลี่ถึงหนึ่งชั่วโมง!”
หลังจากอ่านจบแม่บ้านก็ทำหน้าใ น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็ตะกุตะกัก “คุณ...คุณหนู ทำไมถึงอ่านอะไรแบบนี้คะ นี่มันไม่ใช่สิ่งที่คุณหนูควรจะดูนะคะ...”
เหยียนเจียอวี๋เบิกตาโต ชี้ไปที่สองคำบนหนังสือพิมพ์ “แม่นมเฉิน ทำอะไรให้รถสั่น แปลว่าอะไรครับ? เมื่อกี้ผมจะถามเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวแต่สายถูกวางไปก่อน”
แม่นมเฉิน “ก็คือ...มีความหมายว่าบินขึ้นไปค่ะ”
่นี้ข่าวเกี่ยวกับเหยียนจิ่งจื้อมีไม่น้อยเลย แต่ฝ่ายหญิงกลับมีเพียงคนเดียวก็คือติงเจียลี่คนนั้น หลังจากทั้งสองคนมีความสัมพันธ์เป็คนรักก็ทำให้หนุ่มสาวทั้งหลายต่างอิจฉาไปตามๆ กัน แม้แต่ชื่อเสียงของติงเจียลี่เองก็ยังเพิ่มขึ้นไปอีก
มีคนบอกว่านี่คือการสร้างภาพ แต่คนส่วนมากเชื่อว่าเป็ความจริง เพราะว่ามีรูปภาพออกมายืนยันเยอะแยะ ไม่มีเหตุผลดีๆ มาแย้งกับความจริงที่เห็น
โดยเฉพาะเนี่ยเซิงเสี่ยว เธอรู้สึกว่าหน้าแข้งที่อักเสบของเธอจะยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ
ทว่าในตอนที่กำลังท้อใจกับร่างกายตัวเอง เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวก็ดังขึ้นมา ่นี้ไม่ค่อยมีคนอื่นโทรมานอกจากถงซินและก็ถงซิน เดี๋ยวถามเธอว่าหวงเทา่นี้เป็อย่างไรบ้าง เดี๋ยวก็ให้เธอช่วยจับตาดูหน่อย ถ้าเขามีแฟนให้รีบฆ่าเธอทิ้งทันที
เนี่ยเซิงเสี่ยวถูกซักจนเริ่มรำคาญ พอรับสายก็รีบพูดไปทันทีโดยไม่ได้ดูหน้าจอ “เื่ที่จะไปฆ่าแฟนเขาตอนนี้ขาของฉันคงจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ คงทำไม่ได้ รอขาหายเมื่อไหร่จะจัดการแบบไม่ปราณีเลย”
จากนั้นปลายสายก็เงียบไปนานมาก
นานจนเนี่ยเซิงเสี่ยวคิดว่าสายหลุดไปแล้ว จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาดูถึงได้ใจนิญญาแทบจะหลุดออกจากร่าง
“ฉันโทรมาถามว่าเธอจะฆ่ายังไง” เหยียนจิ่งจื้อหัวเราะลั่น
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย นั่น...นั่นไม่ได้พูดถึงนาย”
“เธอยังคิดจะไปฆ่าผู้หญิงคนอื่น?”
เนี่ยเซิงเสี่ยวพูดออกมาอย่างหงุดหงิด “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ นายเองยังมีคนอื่นเลย”
“เสี่ยวเสี่ยว...” จู่ๆ น้ำเสียงของปลายสายก็อ่อนลง
เนี่ยเซิงเสี่ยวขนลุกไปทั้งตัว “เหยียนจิ่งจื้อ นายพูดมาซิว่ารู้สึกผิดกับฉันไหม?”
“ไม่”
จู่ๆ เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวก็เข้ามาแย่งโทรศัพท์ไปพร้อมพูดกับปลายสายด้วยรอยยิ้ม “เหยียนจิ่งจื้อ นายพูดมาซิว่าอยากเจอหน้าใช่ไหม?”
อีกฝ่ายตอบกลับมาโดยไม่ลังเล “ใช่”
“ฮ่าๆๆๆ” เหนี่ยวเหนี่ยวกุมท้องหัวเราะกลิ้งไปมาบนเตียง “แม่ไปเดตเถอะ ผมรับรองจะไม่บอกใคร”
เนี่ยเซิงเสี่ยวอายจนอยากจะหยิกเด็กคนนี้ให้ตาย ทางด้านเหยียนจิ่งจื้อเองก็เริ่มจัดการตามที่บอก ลูกชายอยากจะให้พวกเขาเจอหน้ากันขนาดนี้ ถ้าหากเขาไม่ทำอะไรเลยก็คงจะแย่ไปสักหน่อย
“พรุ่งนี้นั่งรถมาที่สะพาน ตรงหัวสะพานจะมีรถมาจอดรออยู่ ทะเบียนรถคือวันครบรอบของพวกเรา” พูดจบเขาก็อยากจะเคาะหัวของเนี่ยเซิงเสี่ยว “เข้าใจไหม?”
ถึงแม้จะอยากจะสบถว่าทำตัวเหมือนพวกสปาย แต่วันครบรอบที่เขาพูดถึงนี่.. เธอถามออกไปอย่างจริงจัง “วันครบรอบของอะไร?” วันครบรอบของพวกเธอเยอะเกินไปแล้ว ตอนที่พวกเขาตัวติดกันเป็ปาท่องโก๋ก็จะยกวันครบรอบนู่นนี่มาเป็ข้ออ้างเพื่อจะหาวิธีมาอยู่ด้วยกัน มีทั้งครบรอบที่คบกัน ครบรอบที่จับมือกัน ครบรอบที่ทะเลาะกัน ครบรอบจูบแรก ที่สำคัญขึ้นมาหน่อยก็มีวันครบรอบแต่งงาน
เหยียนจิ่งจื้อตอบกลับด้วยเสียงต่ำ “ครบรอบที่มีอะไรกันครั้งแรก”
ในวินาทีนั้นเนี่ยเซิงเสี่ยวก็อยากจะด่าเขาด้วยคำหยาบ
“เื่นี้ฉันไม่รู้!” เธอถูกเขาแหย่จนอยากจะร้องไห้ออกมาแล้ว
“หรือว่าเธอเองก็ความจำเสื่อม?” เหยียนจิ่งจื้อถามกลับอย่างไม่รีบร้อน “ถ้าอย่างนั้นฉันจะบรรยายเื่ราววันนั้นให้ฟังแล้วกัน วันนั้นพวกเราไปว่ายน้ำกัน ชุดว่ายน้ำฉันก็เป็คนเลือกให้เธอ….”
เธอรีบผลักเหนี่ยวเหนี่ยวที่เอาหูมาแอบฟังอยู่ข้างโทรศัพท์ออกทันที
“พอ…พอแล้ว ไม่ต้องบรรยายแล้ว ฉันนึกออกแล้ว นึกออกแล้ว” เนี่ยเซิงเสี่ยวรีบตัดบทเขา และคิดว่าถ้ายังไม่รีบตัดบทจะต้องเกิดเื่แน่ๆ ถ้าไม่ใช่เธอที่ถูกจุดไฟขึ้นมาก็เป็ตัวเหยียนจิ่งจื้อเองนั่นแหละ
แม้แต่ป้ายทะเบียนรถ ก็ยัง…ระมัดระวังจริงๆ
หลังจากวางสาย เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวก็มองเนี่ยเซิงเสี่ยวด้วยท่าทางอย่างรู้อยากเห็น “เสี่ยวเสี่ยว เขาพูดอะไรหรือ? พวกแม่ไปว่ายน้ำกันตอนไหน? ทำไมไม่พาผมไปด้วย!”
เนี่ยเซิงเสี่ยวอ้าปากค้างไม่รู้จะตอบอย่างไร แถมสมองสมควรตายนี่ก็ยังมีภาพนั้นขึ้นมาในหัว นี่มันเื่บ้าอะไรกัน?
เช้าวันรุ่งขึ้น เนี่ยเซิงเสี่ยวก็เริ่มลองเสื้อผ้า ร่างกายของเหนี่ยวเหนี่ยวฟื้นฟูขึ้นมาไม่น้อยแล้ว อารมณ์ของเธอจึงดีขึ้นตาม แถมยังต้องไปเจอกับเหยียนจิ่งจื้อ อารมณ์ของเธอในตอนนี้เหมือนกับเด็กสาวที่เพิ่งจะมีความรักครั้งแรก
แต่เธอกลับคิดว่าจะใส่เสื้อผ้าอะไรมันกลับเป็เื่แปลกประหลาด เธอเปิดตู้เสื้อผ้าออกมาดูถึงจะพบว่าหลายปีมานี้นอกจากชุดทำงานแล้วก็ไม่มีชุดอะไรอีก
ใส่เสื้อแบบนี้ออกไป มันจะดูแปลกเกินไปหรือเปล่า?
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจออกไปซื้อเสื้อผ้า สิ่งที่เรียกว่าผู้หญิงนั่นคู่กับความงาม แม้จะไม่ได้บ้าคลั่งเหมือนสมัยวัยรุ่นแต่ว่าความนึกคิดก็ยังคงมีอยู่
ถ้าระหว่างทางไปเจอกับศัตรูหัวใจเข้า เช่นนั้นอารมณ์ก็คงไม่ค่อยดีเท่าไรแล้ว
และถ้าหากตอนที่เจอกับศัตรูหัวใจเข้าแล้วยังเจอกับจ้าวหยวนฟางในเวลาเดียวกัน เช่นนั้น…ก็ไม่รู้จะบรรยายอารมณ์ออกมาอย่างไรดีแล้ว
ชุดที่ต้องตาเธอเป็ชุดกระโปรงสีเขียว ในอากาศแบบนี้ใส่คู่กับคาร์ดิแกนสักตัว พอสวมเข้าไปแล้วคงจะทำให้คนเห็นรู้สึกสบายตา ทั้งยังทำให้รู้สึกใจเต้น เนี่ยเซิงเสี่ยวถึงขั้นคิดไปถึงท่าทางของเหยียนจิ่งจื้อตอนที่เห็นตัวเองด้วย
เนี่ยเซิงเสี่ยวพูดกับพนักงานพลางชี้ไปที่ชุดตัวนั้น “ฉันอยากลองตัวนี้ค่ะ”
“ช่วยเอาตัวนั้นมาให้ฉันลองได้ไหมคะ?” จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมาพร้อมกันกับเธอ
เื่นี้ทำให้พนักงานร้านไม่รู้จะทำอย่างไรดี เนี่ยเซิงเสี่ยวหันไปมองผู้หญิงที่มีสไตล์ความชอบเหมือนกับเธอ พอเห็นผู้หญิงคนนั้นก็รู้สึกว่าสายตาการเลือกของเธอนี่ก็เยี่ยมจริงๆ
คนคนนี้คือติงเจียลี่ไม่ใช่หรือ? แม้แต่ผู้ชายที่ชอบ ยังเป็คนคนเดียวกัน นับประสาอะไรกับเสื้อผ้า
บางที่นี้อาจจะดูข่าวเธอกับเหยียนจิ่งจื้อมากเกินไป ดังนั้นถึงแม้ตอนนี้ติงเจียลี่จะใส่หมวกแก๊ปกับแว่นดำเธอก็ยังมองออก
แต่พนักงานมองอยู่นานก็ยังมองไม่ออกว่าคนคนนี้คือติงเจียลี่ผู้โด่งดังคนนั้น! เนี่ยเซิงเสี่ยวเดาะลิ้น เสริมความจริงให้ประโยคที่พูดว่า ท่ามกลางกลุ่มคนมากมาย ทว่าผู้หญิงแค่มองปราดเดียวกลับสามารถหาศัตรูหัวใจของตัวเองพบ ซึ่งไม่แน่ว่าคนอื่นจะมองออก
เธอไม่คิดอยากจะแย่งกับอีกฝ่าย ่นี้การถ่อมตัวคือกฎของเธอและเหยียนจิ่งจื้อ ติงเจียลี่เป็คนอย่างไรเธอก็ยังไม่รู้ เนี่ยเซิงเสี่ยวเอานิ้วที่ชี้เสื้อลงแล้วหมุนตัวเป็การบอกว่าเธอไม่้าแล้ว
“ชุดนี้คงจะเข้ากับเธอมาก” เนี่ยเซิงเสี่ยวเงยหน้าขึ้นก็พบว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคือจ้าวหยวนฟาง ไม่คิดเลยว่านานๆ ครั้งจะออกมาชอปปิง การจะเจอเข้ากับ “คนคุ้นเคย” ก็ว่าน่ามึนงงแล้ว ตอนนี้ยังมาเจอคนที่คุ้นเคยยิ่งกว่าเสียอีก
จ้าวหยวนฟางยิ้มแล้วชี้ไปที่ป้ายร้าน “เซิงเสี่ยวเธอลืมแล้วหรือว่าแบรนด์ litter เป็แบรนด์ที่ฉันสร้างขึ้นมาเองนะ”
เนี่ยเซิงเสี่ยวถึงเข้าใจขึ้นมาทันที ที่แท้ก็มาเจอกับเ้านายที่เข้ามาตรวจร้านนี่เอง
ในตอนนี้เธอถึงเพิ่งจะได้ยินพนักงานโค้งและพูดทักทายจ้าวหยวนฟางด้วยท่าทางเป็ทางการ
และติงเจียลี่ที่ยืนมองด้วยใบหน้ายิ้มๆ ั้แ่ต้นจนจบ เนี่ยเซิงเสี่ยวรู้สึกว่า อาจจะเพราะว่าเมื่อครู่จ้าวหยวนฟางบอกว่ามันเหมาะกับเธอมาก ดังนั้นดาราสาวจึงไม่กล้าหยิบไป เดิมคิดจะบอกว่าเธอไม่เอาแล้วให้ติงเจียลี่หยิบไปเถอะ
แต่จ้าวหยวนฟางกลับเดินเข้าไปพูดขอโทษกับติงเจียลี่ “ขอโทษนะครับคุณผู้หญิง เสื้อตัวนี้คงจะขายไม่ได้แล้ว คืนนี้คุณสามารถเลือกของชิ้นไหนก็ได้ในร้าน ลดราคาให้เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ครับ”
เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์! แม้แต่พนักงานร้านก็อยากจะคุกเข่า แบรนด์ litter ั้แ่ไหนมาก็ไม่เคยจัดกิจกรรมอย่างพวกลดราคามานานหลายปีแล้ว ถึงแม้ราคาจะแพง แต่เพราะว่าการออกแบบใหม่ๆ และคุณภาพดีจึงได้รับความนิยม วันนี้เ้านายเธอเป็อะไรไป?
เนี่ยเซิงเสี่ยวเบิกตากว้าง แต่ติงเจียลี่กลับพูดเชียร์พวกเขา “คุณเนี่ยนี่โชคดีจริงๆ”
ในตอนนั้นเองที่พนักงานร้านรู้สึกว่าเสียงของติงเจียลี่ช่างคุ้นหู พอรวมเข้ากับหน้าตาของเธอ…