9
สายลมพัดพาต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีภายในป่าที่มืดมิด ถึงแม้จะเป็กลางวันแต่ป่าแห่งนี้มันก็ยังมืดและอากาศหนาวเย็น ยังดีที่ว่าเป็่เวลาเช้าสายแดดส่อง ทำให้พอมองเห็นทัศนวิสัยอยู่บ้าง
เหยาเหยาชักกระบี่เหล็กดำออกมาเตรียมความพร้อมเผื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เพราะยิ่งเข้ามาในป่าลึกก็ยิ่งต้องระมัดระวังตัวเป็พิเศษ จะมัวแต่มาดูแผนที่ในระบบตลอดก็คงจะทำอย่างนั้นไม่ได้
ความปลอดภัยต้องมาก่อนเป็อันดับแรก
กึก!
เหยาเหยาได้ยินเสียงบางอย่างเหมือนเสียงกิ่งไม้หัก มันไม่ใช่เสียงที่เกิดจากเหยาเหยาเหยียบกิ่งไม้ ทำให้เหยาเหยาเตรียมตัวตั้งท่ารับพร้อมกับใช้สมาธิและจับดาบให้มั่นคง
(เราได้ยินเสียง ไม่ใช่แค่เสียงกิ่งไม้ แต่มันเป็เสียงของลมหายใจ)
เสียงหายใจที่ทำให้รู้สึกอุ่นและขนหัวลุกนี้ไม่ใช่สัตว์ป่าและสัตว์อสูรขนาดเล็ก แต่มันเป็สัตว์ป่าหรือไม่ก็สัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่ทำให้เหยาเหยารู้สึกอุ่นถึงร่างกายอันบอบบางของเธอ
(เราต้องรีบออกไปจากที่นี่)
ไม่รู้ว่ามันเป็อะไร เหยาเหยาตัดสินใจรีบออกจากป่าแห่งนี้โดยเร็วก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
(เราเดินเข้ามาลึกขนาดเชียวรึ ถ้าอย่างนั้น)
หลังจากที่เธอวิ่งกลับออกมา เหยาเหยาััสิ่งมีชีวิตที่ไล่ตามหลังเธอมา แต่เธอไม่คิดที่จะหันหลังกลับไป เพราะตอนนี้เธอกำลังใช้สมาธิในการใช้เพลงดาบเพื่อเปิดทางออกจากป่ามืดมิดแห่งนี้ให้เร็วที่สุด
“เพลงดาบตัดวายุ”
ฉับ!
เหยาเหยาฟาดฟันกระบี่เหล็กดำออกไปแหวกผ่านอากาศกลายเป็ลมที่มีความคมกริบราวใบมีดออกไป ทำให้ต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้าของเธอถูกตัดขาดออก เมื่อทางเปิดออก เหยาเหยาก็ใช้พลังิญญาเสริมกำลังขาแล้วพุ่งตรงออกมาด้วยความเร็วสูง ทำให้เธอสามารถออกจากภายในป่ามืดมิดมาได้ หลังจากนั้นเธอก็หันหลังกลับไปดูก็พบว่าสิ่งที่ตามหลังเธอมาติดๆนั้นเป็สัตว์อสูร ใช่แล้ว มันก็คือหมูป่าเขี้ยวดาบที่เหยาเหยากำลังตามหาอยู่นั่นเอง
(เกือบไปแล้วไหมล่ะ ถ้าเราไม่รีบหนีออกมาเราคงโดนเขี้ยวดาบหันเป็ชิ้นแน่ แต่ว่า ทำไมตัวมันใหญ่อย่างนี้)
สัตว์อสูรหมูป่าเขี้ยวดาบตัวใหญ่กว่าบ้านหลังเล็กของหลินเสียอีก แล้วนั่นก็ทำให้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมป่าแห่งนี้ถึงได้มืด นั่นเป็เพราะว่าเหยาเหยากำลังเดินอยู่ภายใต้เงาของมันที่ยืนบดบังแสงอรุณรุ่งเช้านั่นเอง
“สมกับเป็สัตว์อสูรระดับสิบ ตัวใหญ่แถมเคลื่อนไหวรวดเร็วอีกด้วย แต่ว่า ข้าคนนี้จะเป็คนจัดการแกเอง”
…
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้