8ปีต่อมา
บริษัท KA
ห้องทำงานท่านประธาน…
เอริ ฐิติมน....
พรึบ
"วันนี้มีนัดทานข้าวกับนักลงทุนรายใหญ่นะคะ.."ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากที่วางเอกสารลงตรงหน้าของ เ้านายของฉัน เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันด้วยใบหน้าที่อิดโรยเพราะเขานั่งทำงานั้แ่เช้าจนตอนนี้ก็จะสี่โมงเย็นแล้ว เขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
"เห้อ...."
"เหนื่อยเหรอไง?"ฉันเอ่ยถามขุนศึกไปพลางยิ้มกริ่มให้เขาอย่างเอ็นดูกับท่าทางที่หงิกงอของเขา
"เหนื่อยครับ...เหนื่อยมาก…วันๆนั่งอยู่แต่ตรงนี้ไม่ได้ลุกออกไปไหนเลย.."
"ยิ้มอะไรครับ...เอริ.."ขุนศึกเอ่ยถามฉันพร้อมกับทำหน้ามุ่ย
"ก็ยิ้มขำขุนไง..."
"ขำขุน?"ขุนศึกว่าพลางชี้นิ้วไปที่ตัวเขาเองพลางทำสีหน้างงๆ
"อืม..."ฉันพยายามกลั้นหัวเราะตอบเขาไป เขาก็มีสีหน้าบึ้งตึงใส่ฉันทันทีที่เห็นว่าฉันแอบหัวเราะกับท่าทางที่เป็เด็กน้อยขี้อ้อนของเขา
พรึบ
"อะไรขุนศึก?"ฉันเอ่ยถามขุนศึกไปอย่างหวาดระแวงกับท่าทางที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่พร้อมจะพุ่งตัวเข้ามาหาฉันของเขาและสายตาเ้าเล่ห์นั่นอีก รอยยิ้มที่มุมปากแบบนี้
"หึๆแม่กวางตัวน้อย"ขุนศึกเอ่ยเสียงทุ้มพลางมองหน้าฉันและร่างกายของฉันด้วยสายตาเ้าเล่ห์
"นี่มันที่ทำงานนะ...ถ้าคนอื่นมาเห็น...มันจะดูไม่ดี.."
"ดูไม่ดีแล้วไง..ขุนไม่แคร์.."ขุนศึกว่าพลางลอยหน้าลอยตาและทำท่าจะวิ่งเข้ามาหาฉัน ฉันก็ยกมือห้ามขุนศึกไว้ซะก่อนแต่มีหรือที่คนดื้อดึงอย่างเขาจะยอมฟังฉันน่ะ
พรึบ
"เอริ..."
"อื้อออ.."ฉันครางเสียงแย้งเขาทันทีที่เขาวิ่งเข้ามาหาฉันอย่างไวและสวมกอดร่างฉันไว้แนบอกเขาแล้วพลางก้มหน้าลงมาหาฉันหมายจะหอมแก้มฉันแต่ฉันกลับเบือนหน้าหนีเขาซะก่อน
"เวลาอยู่ที่ทำงาน..ขุนเป็เ้านายของรินะ.."ฉันพูดบอกขุนศึกไปให้เขาเข้าใจและนึกได้กับจุดยืนของฉันและเขา
"แต่พอเวลาอยู่ที่ห้องของริ...ขุนเป็แฟนริใช่ป่ะ^_^"
"อื้อ.."ฉันยิ้มอย่างเขินอายเมื่อเจอเข้ากับสายตาคมกริบที่หวานหยดย้อยนั้น ใช่ฉันกับเขาเราเป็มากกว่าเ้านายและเลขาและความสัมพันธ์ของเรามันเป็แบบนี้มาหลายปีแล้วล่ะ ั้แ่สมัยเรียนจนตอนนี้เราทั้งคู่ทำงานแล้ว พอเรียนจบขุนศึกก็เข้ามาทำงานแทนคุณแม่ของเขาอย่างเต็มตัวโดยมีฉันเข้ามาทำงานพร้อมๆกับเขาในสถานะเลขาธิการของเขาจนตอนนี้เราทำงานด้วยกันมาห้าปีแล้ว แล้วเราทั้งคู่จึงตัดสินใจไปเปิดบริษัท KAที่มีชื่อย่อมาจากชื่อเล่นของเราทั้งคู่นั้นคือบริษัทห้างสรรพสินค้าและภายในหนึ่งปีธุรกิจของเราทั้งคู่ก็เติบโตเร็วมาก เราช่วยกันขยับขยายอะไรออกไปเยอะแยะและก็ประสบความสำเร็จเหมือนเดิมโดยมีฉันยืนอยู่ข้างๆเขาคอยชื่นชมและซัพพอร์ตความสำเร็จของเขาอยู่ในสถานะลูกจ้างของเขาโดยที่ฉันไม่ได้เปิดเผยตัวตนว่าฉันก็อยู่เื้ัการก่อตั้งบริษัทKAขึ้นมาด้วยเหมือนกัน
"คืนนี้อยากไปนอนกับริจัง...แต่.."
"ฟิวกลับมาใช่ไหมล่ะ?"
"แหนะรู้ทัน..."ขุนศึกว่าพลางยิ้มกริ่มให้ฉัน ฟิวที่เราสองคนพูดถึงคือเพื่อนในกลุ่มเดียวกับฉันและขุนศึกมันไปเรียนและทำงานที่ต่างประเทศเป็เดือนๆกว่าจะกลับประเทศไทยทีและที่สำคัญฟิวสนิทกับขุนศึกมากเป็เพื่อนซี้เพื่อนสนิทกันเลยก็ว่าได้ แต่ในหมู่เพื่อนที่ไม่สนิทจะไม่มีใครรู้สถานะที่แท้จริงของฉันกับขุนศึกเลยสักคน แต่เพื่อนที่สนิทของเราสมัยเรียนมหาลัยด้วยกันจะรู้ว่าฉันกับขุนศึกเป็อะไรกัน ซึ่งฉันก็เข้าใจแหละว่าเขาอายที่มีแฟนจนๆแบบฉัน ถึงตอนเรียนพวกเขาจะสงสัยความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเพราะขุนศึกน่ะคาสโนว่าเื่ผู้หญิงอยู่แล้ว และฉันเองก็ไม่ได้เรียกร้องสถานะแฟนจากขุนศึกอยู่แล้ว
พรึบ
"นี่ครับ..."
"อะไรคะ?"ฉันเอ่ยถามขุนศึกไปอย่างสงสัยที่เขายื่นซองจดหมายสีขาวส่งมาให้ฉัน
"ค่าน้ำ..ค่าไฟ...ค่าเสื้อผ้า…และค่าขนมของริคนสวยของขุนครับ^_^"ขุนศึกว่าพลางยิ้มละมุนให้ฉัน ฉันก็ยิ้มบางๆให้เขา และยื่นมือไปรับซองจดหมายที่ด้านในบรรจุเงินสดมาจากมือเขา
พรึบ
"ขอคำขอบคุณเป็การ...เท่านั้น..."ขุนศึกว่าพลางยื่นแก้มป่องๆมาตรงหน้าฉัน ฉันก็ยิ้มให้เขาและยื่นหน้าเข้าไปหมายจะหอมแก้มเขาเพื่อเป็การขอบคุณแต่แล้วขุนศึกก็หันหน้ามาหาฉันเป็จังหวะเดียวกับที่ฉันยื่นหน้าเข้าไปหาเขาพอดี เลยกลายเป็ว่าริมฝีปากของเราสองคนแตะกันเข้าอย่างจัง
พรึบ
และมีเหรอที่ขุนศึกคนเ้าเล่ห์จะปล่อยให้ฉันเป็อิสระ เขาประกบริมฝีปากของฉันทันทีและจัดการดูดดื่มริมฝีปากของฉันอย่างอ้อยอิ่งมือหนาของขุนศึกเริ่มซุนซนลูบไล้ไปตามสีข้างทั้งสองข้างของฉัน ฉันก็ใช่ย่อยจูบตอบเขาและยื่นมือไปลูบไล้เรือนร่างที่สุดแสนจะเพอร์เฟคของเขาผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางของเขาเช่นกัน
"อื้อออ..."เสียงหวานของฉันครวญครางออกมาเมื่อขุนศึกได้ยื่นมือหนาของเขาไปหาความเป็สาวของฉันที่อยู่ภายใต้กระโปรงสั้นๆของฉันเรียบร้อยแล้ว
"อื้อ...ขุน...อ๊ะ...ตอนนี้ไม่ได้นะ..ขุนต้องกลับไปแต่งตัวอื้อออ.."ฉันพูดไปพลางครางเสียงกระเส่าด้วยความเสียวไปด้วยเมื่อโดนปลายนิ้วเรียวของขุนศึกลูบไล้ใจกลางความเป็สาวของฉันผ่านจีสตริงตัวจิ๋วเพียงตัวเดียวที่ปกปิดความเป็สาวของฉันอยู่ เพราะชุดกระโปรงที่ฉันใส่มันเป็กระโปรงรัดรูปจะใส่กางเกงชั้นในแบบธรรมดาไม่ได้เพราะมันจะเกิดเป็รอยนูนขึ้นมาจนเห็นได้ชัด
"จริงเหรอ...แต่HEEของริ...มันพร้อมมากเลยนะ...คะ…คนดีของขุน…”ขุนศึกว่าเสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างหูของฉันพลางเป่าลมรดต้นคอของฉันทำให้ฉันสยิวและทำหน้าเหยเกด้วยความเสียวซ่าน
พรึบ
"ขุน!"ฉันเรียกเขาเสียงแข็งเมื่อขุนศึกจับมือของฉันให้ไปจับท่อนเอ็นร้อนของเขาผ่านกางเกงผ้าสแล็คเนื้อดีของเขาและทำสายตาอ้อนวอนให้ฉันััเขา ฉันจึงต้องจำใจลูบไล้มือไปกับท่อนเอ็นของเขาที่ตอนนี้เริ่มขยายลำใหญ่โตขึ้นมาแล้ว มันมีขนาดที่ใหญ่โตเกินมาตรฐานของชายไทย แต่ใครจะเชื่อล่ะว่าฉันกับเขาเราไม่เคยสอดใส่กันเลยสักครั้ง นอนด้วยกันก็จริงแต่เราทั้งคู่ก็ต่างช่วยให้อีกฝ่ายสำเร็จความใคร่เมื่อจบแล้วก็นอนกอดกัน ซึ่งมันเป็แบบนี้มาั้แ่ฉันตกลงเป็แฟนกับเขาแล้วล่ะ
"อมให้หน่อยคะ...ขุนหงี่มากเลย..."ขุนศึกทำสีหน้าเหยเกพร้อมเสียงออดอ้อนฉัน
"นะ...เอรินะ.."
"อื้อ..."ฉันยอมรับคำตื้อจากเขาทำให้ขุนศึกยิ้มกว้างออกมาทันที
พรึบ
"ฟอดดดดฟอดดดด...แฟนใครเนี่ย...น่ารักตลอดเลย^_^"ขุนศึกก้มหน้าลงมาหอมแก้มทั้งสองข้างของฉันพลางเอ่ยบอกฉัน ฉันก็ยิ้มให้เขาและกำลังจะยื่นมือไปปลดเข็มขัดให้ขุนศึกแต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน
ติ๊ดๆๆๆๆ
"ขุน...."
"ครับ?"เสียงทุ้มครางขานรับฉัน
"โทรศัพท์..."ฉันบอกเขาพลางชี้นิ้วไปที่โทรศัพท์เครื่องหรูของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา
"งื้อ...ไม่เอา...ไม่อยากรับ.."
"เผื่อคุณแม่ของขุนโทรมานะ...."
ติ๊ดดดดดด
"โทรศัพท์ริ...?"ฉันเอ่ยบอกขุนศึกไปทันทีที่สายโทรศัพท์ของเขาหลุดไปแล้วแต่ของฉันกลับดังต่อขึ้นมาแทน ขุนศึกทำหน้าเบะนิดหน่อยตามสไตล์หนุ่มขี้อ้อน ฉันจึงผละออกจากเขาไปหยิบโทรศัพท์ของฉันบนโต๊ะทำงานของขุนศึกมาดูว่าใครโทรมา ก็พบว่าเป็เบอร์ของคุณหญิงนฤมิตรแม่ของขุนศึกจริงๆด้วย
"สวัสดีค่ะ...คุณหญิง..."ฉันไม่รอช้ารับกดรับสายของคุณหญิงนฤมิตรทันที
(กว่าจะรับได้...ไม่ทราบว่าลูกชายฉันอยู่ไหน?)เสียงเรียบๆแต่ฟังดูเ็าและห่างเหินของท่านทำให้ฉันน้ำตาแทบใ ก่อนจะหันไปมองโครงหน้าหล่อของขุนศึกที่กำลังกอดเอวฉันอยู่จากทางด้านหลังพลางเอาใบหน้าหล่อซุกไซ้ซอกคอของฉันไปด้วย
"ท่านประธานกำลังเข้าห้องน้ำอยู่นะคะ...ไม่ทราบว่าคุณหญิงมีเื่อะไรให้ดิฉันเรียนท่านให้ไหมคะ?"
(มีสิ...ถ้าไม่มีฉันจะโทรหาเธอทำไม!)
"ค่ะ...ขอโทษค่ะ.."
พรึบ
ฉันใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่จับมือขุนศึกให้ถอยห่างออกไปจากหน้าอกของฉันที่ตอนนี้เขาได้จัดการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของฉันไปสี่เม็ดบนแล้ว
(บอกขุนศึกว่าวันนี้ให้กลับบ้าน...ฉันมีคนพิเศษอยากให้เขาเจอ...)
"ค่ะ...แล้วดิฉัน"ฉันเม้มริมฝีปากเป็เส้นตรงทันทีที่ยังพูดไม่ทันจบประโยคสายของคุณหญิงนฤมิตรก็ถูกตัดวางไปซะก่อน
พรึบ
"ทำไมทำหน้าอย่างงั้นคะ...ที่รักของขุน...ฟอดดด"ขุนศึกเอ่ยถามฉันหลังจากที่เขาโอบกอดร่างฉันแน่นและเขาก็เอาปลายคางมาวางเกยไว้ที่ไหล่ของฉันพลางสูดดมกลิ่นซอกคอของฉัน
"วันนี้...คุณแม่ของขุนให้ขุนกลับบ้าน..."
"แล้ว?"ขุนศึกถามกลับอย่างไม่ใส่อะไรเพราะปกติเขาจะไปนอนที่คอนโดเขาหรือไม่ก็คอนโดของฉัน
"ท่านมีคนพิเศษอยากให้ขุนเจอ..."
"ใครอ่ะ?"ขุนศึกเอ่ยถามฉันแต่เขาก็ยังไม่เลิกลวนลามฉัน
"ไม่รู้สิ...แต่ขุนน่าจะไปนะ..."
"งั้นริก็ไปด้วยกันสิ..."
"ดูเหมือนคุณแม่ของขุนคงไม่อยากให้ริไปสักเท่าไหร่..."
"ไม่เอาน่า...อย่าคิดมาก...บอกว่าไปหาคุณป้าของริก็ได้หนิ..."ขุนศึกว่าพลางออกความคิดให้ฉันโกหกคุณแม่ของเขาไป ที่จริงคุณป้าของฉันก็ทำงานเป็แม่บ้านอยู่ที่คฤหาสน์ของคุณแม่ของขุนศึกนี้แหละ
"อืม...ฉันก็คิดถึงคุณป้าอยู่เหมือนกัน...ั้แ่ทำงานก็ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านเลย..."
"เพราะไม่มีเวลา...กลางวันทำงานให้ขุน...กลางคืนก็ปรนนิบัติเื่บนเตียงให้ขุนใช่ไหมคะ..?"ขุนศึกเอ่ยถามฉันพลางทำสีหน้าเ้าเล่ห์ใส่ฉัน
"พูดจาหยาบคายน่ะ...ขุน.."
"ไปแต่งตัวได้แล้ว...ริเตรียมเสื้อผ้ามาให้ขุนแล้ว..."
"ครับผม…คุณเลขาคนสวย^_^"ขุนศึกว่าพลางทำหน้าล้อเลียนฉันก่อนที่เขาจะโดนฉันผลักร่างเขาให้ออกไปจากร่างฉันและจัดการให้เขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะไปทานข้าวกับหุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัทเราในเย็นวันนี้ โดยที่มีฉันไปด้วย….ในสถานะเลขาของเขา