รูปร่างแบบนั้น หน้าตาแบบนั้นเป็หลิวหย่งพี่ชายคนโตของหลิวเฟินไม่ผิดแน่!
ในความทรงจำของเซี่ยเสี่ยวหลาน ลุงรักและอาทรเธอมากกว่าพ่อแท้ๆอย่างเซี่ยต้าจวิน สตรีสองนางถูกบ้านเซี่ยข่มเหง ในที่สุดก็มีคนออกตัวโต้กลับตระกูลเซี่ยแทนสองแม่ลูกพอััได้ถึงเยื่อใยระหว่างลุงหลานที่หลงเหลืออยู่จากเ้าของร่างเดิมนี้ขอบตาของเซี่ยเสี่ยวหลานร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที
“ลุง ฉันอยู่นี่!”
หลิวหย่งกำลังคว้าตัวแม่เฒ่าเซี่ยเอาไว้ เส้นเืบริเวณลำคอปูดบวมทำท่าทางจะพุ่งเข้าไปทำลายบ้านเซี่ยลงให้ได้ พอได้ยินเสียงเรียกขานแสนอ่อนโยนก็หันมาพบกับหลานสาวผู้น่าสงสาร
เขาปล่อยหญิงชราเซี่ยพร้อมเร่งฝีเท้าเข้ามาหา
“เสี่ยวหลาน หลานกับแม่ไปไหนมา?”
หลิวหย่งเป็ช่างก่อสร้าง ว่างจากงานไร่นาก็จะช่วยคนทำบ้านเรือนเมื่อวานเขากลับจากเขตหลินก็เพิ่งรู้เื่ของเซี่ยเสี่ยวหลานวันนี้เขาจึงรีบมาที่หมู่บ้านต้าเหอ ซื้อน้ำตาลทรายขาวกับบะหมี่แห้งมาฝาก อยากจะกู้หน้าให้สองแม่ลูกเสียหน่อย บ้านเซี่ยรับของเอาไว้ถึงแจ้งหลิวหย่งว่าเซี่ยเสี่ยวหลานกับมารดาย้ายไปอยู่บ้านเก่าริมน้ำแล้วหลิวหย่งตามไปหาที่บ้านได้พบแต่ความว่างเปล่า
หลิวหย่งสงสัยว่าตระกูลเซี่ยจัดการคนเขาจนสิ้นไปแล้วจึงวอแวให้หญิงชราเซี่ยเรียกสองแม่ลูกออกมาอยู่นานสองนาน
คนชนบทมักรับประทานอาหารกันสองมื้อ ตอนเช้า 9-10 โมงหนึ่งมื้อ ตอนบ่าย 3-4 โมงอีกหนึ่งมื้อ บ้านเซี่ยรอจะกินข้าวมื้อบ่ายอยู่แม่เฒ่าเซี่ยจึงมาไล่เขาไป สองคนจึงได้ทะเลาะกันั้แ่ในบ้านจนถึงนอกบ้านปรากฏเป็ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ที่มาที่ไปแล้วจึงรีบอธิบายให้ลุงของตนใจเย็นลง
“ตอนนี้พวกเราอยู่ที่บ้านเก่าริมน้ำ เป็เพราะรีบร้อนย้ายออกไปย่าฉันเลยให้มันเทศมา 20 ชั่งถ้วยโถโอชามอะไรช่างมันก่อน เสื้อผ้ากับที่นอนก็ลืมให้พวกเราเอาไปด้วย พวกเรากำลังจะกลับมาเอาของก็เจอลุงเข้าพอดี”
หลิวหย่งเห็นหลานสาวตัวเป็ๆ ยืนอยู่ตรงหน้า หัวใจที่พุ่งขึ้นมาถึงคอก็ค่อยร่วงลงไปครึ่งหนึ่ง[1] บนศีรษะของเซี่ยเสี่ยวหลานเปลี่ยนจากผ้าพันรอบเป็ผ้าปิดปากแผลชิ้นเล็กดูแล้วไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ทว่าหลิวหย่งก็อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกรอบ “เซี่ยต้าจวินยอมให้คนทั้งบ้านรังแกพวกเธอสองแม่ลูกหรือ?”
ย้ายไปอยู่บ้านเก่าริมแม่น้ำอะไรกันบ้านหลังนั้นผุพังเสียสุนัขไม่รับประทาน คนดีๆ อยู่ได้ที่ไหนเซี่ยเสี่ยวหลานกับมารดาถูกไล่ออกไปชัดๆ !
สีหน้าของแม่เฒ่าเซี่ยช่างดูไม่ได้เลย
นางเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานกับมารดาปรากฏตัวขึ้น ยังนึกอยู่ว่าพวกเธออาศัยที่บ้านเก่าหนึ่งคืนคงลำบากลำบนทนไม่ไหวจึงกลับบ้านมาขอความเมตตา
นางจินตนาการเอาไว้ ต่อให้เซี่ยเสี่ยวหลานมาคุกเข่าอ้อนวอนอย่างไรนางก็จะไม่อ่อนข้อยอมรับเด็ดขาดไม่คิดไม่ฝันว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะพูดว่ากลับมาเอาของ ในเมื่อไล่ไปแล้วยังมีอะไรให้เอาไปอีก?
ทว่าหลิวหย่งยังอยู่ ณ ตรงนี้
หลิวหย่งไม่ไร้น้ำยาเหมือนหลิวเฟินเมื่อเขาพูดว่าจะจัดการตระกูลเซี่ยแล้ว นั่นแปลว่าเขากล้าจะทำจริงๆ
สีหน้าของหญิงชราเซี่ยเหยเก “นี่คุณลุง ได้ยินแล้วนะ พวกเธอมีบ้านดีๆ ให้อยู่ดันไม่อยู่ลองทบทวนดูหน่อยสิ มีสะใภ้บ้านไหนปล่อยแม่สามีไว้อีกที่ไม่ใยดี? แม่สามีอย่างฉันก็ดูแลใครไม่ไหวรอต้าจวินกลับมาก็ให้เขาจัดการเองแล้วกัน!”
พวกที่แห่มามุงดูปาหี่ก็มาช่วยแม่เฒ่าเซี่ยพูดแก้ตัวต่างๆ นานา
หลิวเฟินเหมือนดั่งจะพังทลาย รู้สึกตัวหดเหลือเป็ก้อน
หลิวหย่งรู้สึกว่าน้องสาวตนนั้นดูพึ่งพาได้ไม่เท่าหลานสาวเสียแล้วอาจเป็เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานฝ่าฟันเื่วุ่นๆ มา พูดจามีเหตุผลขึ้นมากนัก
“ยุ่งเื่คนอื่นเพราะไม่กลัวบานปลายใช่ไหมเล่า [2] ? นี่มันเป็ธุระของพวกเราสองบ้านทุกท่านให้พื้นที่กับพวกเราด้วยเถอะ ควรกลับไปทำอะไรก็ไปเสียนะ”
หลิวหย่งขับไสเหล่าแม่บ้านปากมากให้พ้นทางเซี่ยเสี่ยวหลานถูกใจท่าทางการรับมือของหลิ่วหย่งเอามากประกอบกับความผูกพันที่มีอยู่ยิ่งทำให้รู้สึกสนิทใจกับหลิวหย่งมากขึ้น
“ลุง รอพ่อฉันกลับมาเขาอาจจะตีฉันตายก็ได้ ลุงว่าทำอย่างไรดี?”
หลิวหย่งเบิกตาโพลง “เขากล้าหรือ!”
ลูกเมียตัวเองยังปกป้องไม่รอด หลิวหย่งสมเพชเซี่ยต้าจวินเหลือเกินทว่าหลิวเฟินนั้นมักแก้ตัวแทนคนตระกูลเซี่ยอยู่เสมอหลิวหย่งผิดหวังที่เหล็กไม่กลายเป็เหล็กกล้า [3] ว่ากันแค่เื่นี้ ขนาดหลิวหย่งเองยังได้ยินข่าวลือแล้ว เซี่ยต้าจวินอยู่หมู่บ้านใกล้เคียงจะไม่รู้จริงหรือ? บ้านเซี่ยลูกชายสามพี่น้อง แต่ละคนกล้ามแขนโตอย่างกับต้นขาสตรีขอแค่ยืนหยัดเพื่อเซี่ยเสี่ยวหลาน ใครหน้าไหนจะกล้าปากมากอีก?
ปล่อยให้ข่าวลือแพร่ไปทั่ว ทำเอาเกียรติของเซี่ยเสี่ยวหลานเสียหายหญิงสาวดีๆ คนหนึ่งจะไม่ขุ่นเคืองเสียจนเอาตัวเองชนเสาได้อย่างไร?
พอคิดๆ เช่นนี้ ให้อยู่บ้านเซี่ยก็เฟ้นหาทางตายเอาเถอะ
หลิวหย่งเบียดแทรกหญิงชราเซี่ยที่หน้าประตู
“ไป ไปเอาเสื้อผ้าของพวกเธอไปด้วย วันนี้ฉันรับผิดชอบให้พวกเธอเองบ้านโหลยโท่ยนั่นไม่ต้องไปอยู่แล้ว กลับบ้านกับฉันนี่แหละ!”
ย้ายไปอยู่บ้านเก่ากับกลับบ้านแม่นั้นเป็คนละเื่โดยสิ้นเชิง
หลิวเฟินเข่าอ่อนระโหยโรยแรง เซี่ยเสี่ยวหลานกลับร่าเริงเบิกบานไปทั้งร่าง เธอก็ไม่อยากอยู่บ้านลุงนานหรอก แต่เธอสามารถไปทำธุรกิจที่นั่นได้ถ้าพวกชาวบ้านต้าเหอขายไข่ไก่ให้เธอคงพิลึกกึกกือน่าดู
หลิวเฟินไม่กล้าขยับเขยื้อนหลิวหย่งจึงให้เซี่ยเสี่ยวหลานไปเก็บของแทน
เสียงของอาสะใภ้สามเสียดแทงโสตประสาท
“ลุงเสี่ยวหลาน ทำอะไรไม่ไว้หน้ากันบ้างจะแยกบ้านเขาสามคนพ่อแม่ลูกออกให้ได้เชียว? เลี้ยงดูพวกหล่อนสองแม่ลูกไปทั้งชาติได้หรือ? ”
แต่ไหนแต่ไรสะใภ้ที่แต่งเข้าบ้านก็มีแต่ปลอบให้อยู่ไม่ยุให้แยกเท่านั้น
เซี่ยเสี่ยวหลานจะออกไปไหนก็ได้ อย่างไรเสียเธอก็แค่สาวน้อยกระจ้อยร่อยแต่หลิวเฟินเป็วัวแก่ที่ทั้งบ้านต้องเรียกใช้ ไม่อยู่สักวันอาสะใภ้สามก็ต้องทำงานแทนส่วนของหลิวเฟิน คิดแล้วลำเค็ญนัก
หลิวเฟินยิ่งตัวสั่นรุนแรงขึ้น
เธอเองรู้ดีว่าครั้งนี้หลิวหย่งนั้นจริงจัง ในสมองเธอตีกันยุ่งเหยิงไปหมดเดี๋ยวก็รู้สึกว่าถ้าทำตามที่พี่ชายบอก ครอบครัวเธอก็จะแตกแยกเดี๋ยวก็คิดว่าขนาดลุงยังออกหน้าปกป้องเสี่ยวหลานเซี่ยต้าจวินผู้เป็พ่อบังเกิดเกล้ากลับไม่โผล่มา เธอจะคิดไม่ถือโทษเขาจริงหรือ? เธอถือโทษมากต่างหาก! ทว่าเธอขี้ขลาดมานานเกินไป แม้ความแค้นเคืองก็มิกล้าพูดออกมา
เซี่ยเสี่ยวหลานหัวเราะเยือกเย็น “อาสาม ลุงเลี้ยงฉันไปทั้งชาติไม่ไหว แล้วอาเลี้ยงไหวหรือ? วานบอกหงเซี๋ยของอาทีว่าเอาเสื้อผ้าฉันคืนมาได้แล้ว ฉันจะเอาไปด้วย”
อาสะใภ้สามเงียบลงในทันใด
ตอนนี้ตระกูลเซี่ยไม่มีผู้ชายรับหน้า ทั้งบ้านจึงไม่มีใครเผด็จการเกินหลิวหย่งแล้วลมใต้เท้า [4] พาเธอรุดเข้าห้องตัวเองรองเท้าข้างเตียงไม่ใช่ของเธอ นี่แค่คืนเดียวเท่านั้นเซี่ยหงเซี๋ยก็อดรนทนย้ายเข้ามาไม่ได้เสียแล้วหีบไม้บนเตียงคือสมบัติทั้งหมดของเซี่ยเสี่ยวหลาน ด้านนอกผนึกด้วยกลอนเหล็ก ส่วนกุญแจนั้นแขวนอยู่ที่คอของเธอไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสนำมันไปด้วย
เซี่ยเสี่ยวหลานใช้แรงยกหีบออกมา
หลิวเฟินไม่กล้าแยกตัวไปเก็บสัมภาระของตนความกดขี่นานหลายปีดีดักของแม่เฒ่าเซี่ยซึมลึกเข้ากระดูกดำ
หลิวหย่งไม่ได้แซ่เซี่ย หากเขาเข้าบ้านไปเวนของคืนแล้ววิสัยของเื่นี้จะเปลี่ยนแปลงทันที
แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกล้าน่ะสิปล่อยให้หญิงชราเซี่ยหน้าดำอย่างกับก้นหม้อ[5] ส่วนตัวเธอรีบไปเก็บเสื้อผ้าของหลิวเฟินให้แทน หลิวเฟินมีเสื้อผ้ารวมแล้วไม่กี่ชุดล้วนแต่ขาดรุ่งริ่งทั้งนั้น หลิวหย่งเห็นแล้วถึงกับต้องขมวดคิ้ว
“ลุงจ๊ะ พวกเรายังมีของกินอยู่ที่บ้านเก่าด้วยน่ะ”
ฝ่ามือใหญ่ของหลิวหย่งโบกไปมา
“เอาไปหมดนั่นแหละ วันนี้ฉันขี่จักรยานมา”
ใช่แล้ว จักรยาน 28 นิ้ว [6] ใหม่เอี่ยมอ่องจอดไว้ข้างผนังจะซื้อจักรยานแบบนี้อย่างไรเสียก็ต้องใช้สัก 200 กว่าหยวน หลิวหย่งเป็นายช่างก่อสร้าง ทำงาน 1 วันได้ค่าแรง 2 หยวน เซี่ยเสี่ยวหลานครุ่นคิด ลุงของเธอมั่งคั่งแล้วหรือ?
เชิงอรรถ
[1]心提到嗓子眼儿 หัวใจพุ่งถึงคอ เปรียบเทียบว่ากำลังกังวลหรือกลัวมาก
[2]看热闹不嫌事大 ยุ่งเื่คนอื่นเพราะไม่กลัวบานปลาย หมายถึงผู้คนที่ชอบยุ่งเื่คนอื่น ไม่เพียงแต่ยุ่งเอาบันเทิงเท่านั้นแต่มักทำเื่ราวให้บานปลายไปอีก เนื่องจากคิดว่าไม่ใช่เื่ของตัวเอง
[3]恨铁不成钢 ผิดหวังที่เหล็กไม่กลายเป็เหล็กกล้า หมายถึง ผิดหวังที่ผู้อื่นไม่พัฒนาไปตามที่ตน้าในที่นี้คือหลิวหย่งผิดหวังที่หลิวเฟินอ่อนแอไม่สู้คนบ้านเซี่ยจนเกินไป
[4]脚下生风 ลมใต้เท้า หมายถึง เดินอย่างว่องไว
[5]脸黑的像锅底 หน้าดำอย่างกับก้นหม้อเปรียบเปรยว่าสีหน้าดูไม่ได้ ในที่นี้คือโกรธมาก
[6]28 杠自行车 จักรยาน 28 นิ้ว คือจักรยานรุ่นที่นิยมใช้กันแพร่หลายในยุคนั้นเนื่องจากเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อมีขนาดประมาณ 28 นิ้ว คนจึงเรียกตามขนาดล้อ