พูดแล้วก็ลงมือทำ!
เฟิ่งเฉี่ยนใช้ยันต์ล่องหนแผ่นที่สองติดบนร่างกายของตนเอง จากนั้นเดินเข้าไปในถ้ำเมฆาอัคคีอย่างเร่งรีบ
ยันต์ล่องหนมีเวลาพรางตัวเพียงแค่ห้านาที เนื่องจากมีบทเรียนจากครั้งก่อน นางจึงพุ่งเข้าไปด้านในโดยไม่กล้าเสียเวลาอีก!
ขณะที่มู่หรงจื่ออวิ๋นกำลังมองดูการต่อสู้ นางพลันรู้สึกว่ามีบางอย่างลอยผ่านร่างของนางไป เส้นผมบนไหล่ของนางปลิวไสว แต่เมื่อหันไปมองกลับไม่เห็นอะไร นางอดที่จะสั่นสะท้านไม่ได้ สงสัยว่าตนเองเจอผีเข้าแล้ว!
เฟิ่งเฉี่ยนมาถึงปากถ้ำอย่างรวดเร็ว แต่เกิดปัญหาขึ้น เพราะร่างของกิเลนไฟมีขนาดใหญ่ มันปิดปากถ้ำทุกด้านเอาไว้ หากนางคิดจะเข้าไปย่อมต้องเบียดผ่านช่องว่างเล็กๆ นั้น การทำเช่นนั้นเกิดอันตรายแก่นางโดยไม่ต้องสงสัย หากกิเลนไฟขยับตัวเพียงเล็กน้อยมันต้องพบเห็นนางแน่นอน มันคงโจมตีเพื่อปลิดชีพนางแน่
นอกจากทำเช่นนี้แล้วนางไม่มีทางเลือกอื่นอีก!
นางกลั้นลมหายใจแผ่นหลังแนบติดกำแพงถ้ำ เดินเข้าไปในถ้ำอย่างระมัดระวังทีละก้าวๆ
ปากถ้ำเต็มไปด้วยดินโคลนเปียกชุ่ม ทิ้งรอยเท้าตื้นๆ ไว้ตามย่างก้าวของนาง หากเป็คนช่างสังเกตต้องพบพิรุธแน่นอน ทว่าเวลานี้คนทั้งสามที่อยู่นอกถ้ำกำลังมุ่งมั่นทำสิ่งอื่นอยู่ย่อมไม่ได้สังเกต
คนไม่ได้สังเกตเห็น ไม่ได้หมายความว่ากิเลนไฟไม่ได้สังเกตไปด้วย
มันมีสัญชาตญาณที่แม่นยำของสัตว์ เฟิ่งเฉี่ยนเพิ่งจะเข้าใกล้มัน มันก็ได้กลิ่นลมหายใจของมนุษย์ จึงหันขวั่บกลับมา ดวงตาใหญ่ราวกับฆ้องของมันถลึงมองเฟิ่งเฉี่ยนที่อยู่เบื้องหน้า ทำให้นางใเสียจนแทบจะยืนแข็งเป็ท่อนไม้อยู่ที่นั่น ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ
ทำให้หัวใจนางเต้นรัวเร็วขึ้นอีก กิเลนไฟสูดจมูกของมันเพื่อดมกลิ่นบนร่างของนาง มันเข้ามาใกล้ขึ้นเล็กน้อย นางขยับไปด้านหลังเล็กน้อย มันขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก นางก็ถอยหลังออกไปอีก...กระทั่งสุดท้ายนางไม่อาจถอยได้อีกแล้ว แผ่นหลังของนางแนบไปกับกำแพงถ้ำ ได้แต่งอขาค่อยๆ ซุกกายนั่งยองๆ ลงไป
ใบหน้าและลำคอของนางแดงก่ำเพราะการกลั้นลมหายใจ นางทนไม่ไหวอีกแล้ว จึงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แต่เพียงแค่ลมหายใจเล็กๆ เฮือกหนึ่งกลับเปิดโปงนาง จมูกของกิเลนไฟดัง “ครืน” มันส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมา!
เซวียนหยวนเช่อและมู่หรงจิ่งเทียนที่ติดพันอยู่กับการต่อสู้ชะงักงันเพราะเสียงนี้เช่นกัน พวกเขาจึงถอยจากกันโดยพร้อมเพรียง พร้อมกับหันไปมองกิเลนไฟ
หูทั้งสองข้างได้ยินเพียงเสียงหวึ่งๆ เฟิ่งเฉี่ยนรีบปิดหูทั้งสองข้าง ไม่ได้แล้ว หากปล่อยให้เป็เช่นนี้ต่อไปนางต้องถูกกิเลนไฟเขมือบลงท้องแน่นอน!
ทำอย่างไรดีนะ
ดวงตาของเฟิ่งเฉี่ยนพลันทอประกายวาบ ขณะที่กิเลนไฟอ้าปากกว้างเพื่อจะตะครุบนาง นางรีบคว้าผงพริกป่นจากลิ้นชักสะสมสาดเข้าไปในโพรงจมูกของกิเลนไฟทันที!
กิเลนไฟเต้นขึ้นมาทันที ร่างมหึมาของมันะโขึ้นะโลงแล้วตกลงมาหนักๆ ส่งให้พื้นดินโดยรอบสั่นะเื
และที่บังเอิญก็คือ การสั่นะเืนี้ถึงกับส่งเฟิ่งเฉี่ยนเข้าไปในถ้ำ
นางกลิ้งตัวไปกับพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปในถ้ำด้วยท่วงท่าคล่องแคล่วปานสายน้ำ ราวกับได้ฝึกทำเช่นนี้มาเป็พันเป็หมื่นรอบแล้ว
ด้านนอกถ้ำ เซวียนหยวนเช่อทั้งสามคนรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งยวดไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น เห็นเพียงกิเลนไฟพ่นไฟอย่างคลุ้มคลั่ง และพุ่งทะยานเข้ามาหาพวกเขา!
มันกำลังโกรธแค้น และนำเพลิงโทสะโกรธแค้นนี้ไปลงกับคนทั้งสาม ด้วยเข้าใจว่าคนที่ลอบทำร้ายมันเป็พวกเดียวกันกับพวกเขา ในเมื่อจับพวกเดียวกันไม่ได้ ก็ได้แต่ระบายโทสะกับพวกเขาแล้ว!
เซวียนหยวนเช่อทั้งสามคนคาดไม่ถึงว่าจะต้องมาแบกหม้อดำลูกหนึ่งแทนผู้อื่น จึงไม่กล้าประมาทได้แต่เตรียมพร้อมตั้งรับ
หลังจากเฟิ่งเฉี่ยนเข้าไปในถ้ำเมฆาอัคคีแล้วพบว่าข้างในมืดสนิท ทว่ากลับมีความร้อนราวเปลวเพลิงสายหนึ่งไหลวนอยู่ในถ้ำ ความร้อนนั้นยิ่งระอุขึ้นทุกที
นางคลำทางไปด้านหน้า ร่างกายของนางร้อนราวกับไฟ เหงื่อไหลปานน้ำฝน
เชื้อไฟจุดิญญาน่าจะอยู่ใกล้ๆ...
นางคาดเดาไม่ผิด ข้างหน้ามีบ่อน้ำบ่อหนึ่ง แสงสว่างนั้นสาดส่องออกมาจากก้นบ่อนั้น
เมื่อนางเดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นเพียงสิ่งของผนึกเทพและมารอยู่ก้นบ่อน้ำ ราวกับกำลังปกปักษ์รักษาเชื้อไฟจุดิญญา เปลวไฟสีน้ำเงินนั้นเคลื่อนไหวไปมาเหมือนกำลังเพรียกหาให้นางเข้าไปหามัน
เฟิ่งเฉี่ยนยินดียิ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็กลัดกลุ้มว่าจะหาวิธีนำเชื้อไฟจุดิญญาออกไปได้อย่างไร
ระหว่างที่กำลังใคร่ครวญอยู่นั้น ผืนน้ำกลับเกิดเสียงดังตุ๋มเห็นหยดน้ำกระจายออกจำนวนมาก ด้านล่างผืนน้ำดูเหมือนจะะเิออก เชื้อไฟจุดิญญาปะทุออกมาเสียงดังตูมทำลายสิ่งที่ปกปักษ์รักษามันอยู่!
ถ้ำเมฆาอัคคีสั่นะเืทั้งถ้ำ
เปลวไฟที่อยู่เบื้องหน้าเฟิ่งเฉี่ยนพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า นางมองอะไรไม่เห็นไปชั่วขณะ
ด้านนอกถ้ำ เซวียนหยวนเช่อทั้งสามคนที่กำลังประมือกับกิเลนไฟพลันหยุดชะงักและหันมามองในถ้ำ
มู่หรงจิ่งเทียนสองพี่น้องสบตากันแล้วพูดขึ้นพร้อมกันว่า “เชื้อไฟจุดิญญา?!”
ทันทีที่พูดจบสองพี่น้องก็พุ่งเข้าไปในถ้ำพร้อมกัน
เซวียนหยวนเช่อหรี่ตาลงทว่ามิได้ตามเข้าไปทันที สายตาของเขาหยุดลงบนรอยเท้าตื้นๆ หลายรอยที่อยู่ด้านนอกถ้ำ
เขาก้มลงพิจารณาขนาดของรอยเท้านั้น นี่ชัดเจนเหลือเกินว่าเป็รอยเท้าของสตรี...
คิ้วของเขาขมวดมุ่น ขณะกำลังใช้ความคิด
พลันมีเสียงฝีเท้าล้มลุกคลุกคลานดังออกมาจากในถ้ำ เขาเงยหน้าขึ้นมองไม่เห็นใครทว่ากลับมีรอยเท้าเพิ่มขึ้นทีละรอยๆ
ดวงตาของเขาหรี่ลง ฝ่ามือใหญ่โตนั้นกวาดออกไปถึงกับคว้าสิ่งของได้อย่างหนึ่ง เป็ร่างนุ่มนิ่มเต็มไม้เต็มมือ!
“ผู้ใดกัน”
เขาถามเสียงต่ำ สิ่งของนั้นดิ้นรนต่อสู้ด้วยคิดจะหนี แต่ถูกเขาจับเอาไว้อย่างแ่า
“อ๊ะ ปล่อยมือนะ! เจ็บ!”
เสียงของสตรีดังเข้ามาในโสตประสาท เขาขมวดคิ้วแน่นด้วยจำเสียงนั้นได้
เขาปล่อยมือและรู้สึกราวกับมีสายลมวูบพัดผ่านจอนผมของเขาไป จากนั้นก็เห็นคนๆ หนึ่งสวมเสื้อคลุมวิ่งไปข้างหน้า และล้มลงไปบนพื้น
คนผู้นั้นหันมาถลึงตาใส่เขาด้วยโทสะ “ใครบอกให้ท่านปล่อยมือ ท่านคิดจะสลัดข้าให้ล้มลงไปตายหรือไร”
สตรีที่กล้าถลึงตาและขึ้นเสียงกับเขาบนโลกนี้ นอกจากเฟิ่งเฉี่ยนแล้ว คงไม่มีคนที่สองอีกแล้ว!
ถูกต้อง ผู้ที่ขโมยเชื้อไฟจุดิญญาและกำลังรีบเร่งหนีไปจากถ้ำเมฆาอัคคีก็คือนาง เฟิ่งเฉี่ยน!
คิ้วกระบี่ของเซวียนหยวนเช่อเลิกขึ้นเล็กน้อย เขาถลึงตาใส่นางจนเฟิ่งเฉี่ยนรู้สึกร้อนตัว
“แหะๆ ดูเหมือนข้าเป็ฝ่ายให้ท่านปล่อยมือ ท่านอย่าได้ถือสาเลย”
เสียงกิเลนไฟร้องคำรามดังออกมาจากในถ้ำ มู่หรงจิ่งเทียนสองพี่น้องเหินกายออกมาจากภายในถ้ำ
เห็นเฟิ่งเฉี่ยนที่ฟุบร่างอยู่บนพื้น บนร่างของนางยังสวมเสื้อคลุมหนังจิ้งจอกของตนอยู่ มู่หรงจิ่งเทียนยื่นแขนออกไปอุ้มนางขึ้นมาจากบนพื้นแล้วพานางวิ่งออกไปด้านนอก
“เ้ามาได้อย่างไร ไม่รู้หรือว่าที่นี่อันตรายมาก” เขาตำหนิเสียงต่ำ
เฟิ่งเฉี่ยนยังไม่ได้สติกลับมาก็ถูกเขาลากให้ออกวิ่งเสียแล้ว นางมีสีหน้างงงวย “ท่านทำอะไรของท่าน ปล่อยข้านะ!”
นางคิดจะดิ้นรนให้หลุดจากมือของเขา มู่หรงจิ่งเทียนกลับกุมข้อมือของนางเอาไว้แน่น และวิ่งเร็วขึ้นอีก
“หุบปาก! หากยังเอะอะโวยวายอีกข้าจะโยนเ้าให้เป็อาหารกลางวันของกิเลนไฟ!”
เห็นเงาร่างของคนทั้งสองที่จากไปอย่างรวดเร็ว เซวียนหยวนเช่อขมวดคิ้วแน่น ความสงสัยมีมากขึ้นอีกเท่าตัวแต่ไม่ทันได้คิดกิเลนไฟก็ออกมาถึงปากถ้ำแล้ว
มู่หรงจื่ออวิ๋นร้องะโ “อาเช่อ รีบไป!”
คนทั้งสองหลบหนีออกจากถ้ำเมฆาอัคคีพร้อมกัน
เฟิ่งเฉี่ยนถูกมู่หรงจิ่งเทียนลากตัวไปด้วยจึงวิ่งออกมาได้ไกลยิ่ง กระทั่งไม่ได้ยินเสียงกิเลนไฟอีกเขาจึงหยุดลง แววตาคมปลาบของเขามองนางอย่างประเมินและถามนาง “เหตุใดเ้าจึงมาปรากฏตัวที่ถ้ำเมฆาอัคคี”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้